ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 879 รังเกียจเดียดฉันท์
ตอนที่ 879 รังเกียจเดียดฉันท์
ข้าหลวงหยวนโขกศีรษะให้ฮองเฮาทันที จากนั้นก็ถูกจับกุมตัวไป
ฮองเฮาด้านหลังหวาดกลัวอย่างมาก นางเรียกนางกำนัลคนสนิทมา นางเป็นคนสนิทที่นางนำมาจากตระกูลเผย
“ไป รีบนำจดหมายข้า ออกจากวังหลวงไปตระกูลเผยขอความช่วยเหลือ”
ท่านปู่นางเป็นโส่วฝู่สำนักมนตรีแคว้นต้าโจว เชื่อว่าเขาจะมีหนทางช่วยเหลือนาง
นางกำนัลคนสนิทย่อมไม่อยากให้ฮองเฮาเกิดเรื่อง หากฮองเฮาเกิดเรื่อง พวกนางที่เป็นบ่าวรับใช้ย่อมต้องมีแต่ตายสถานเดียว ดังนั้นนางรีบรับคำนำจดหมายฮองเฮาออกจากวังหลวง
นางกำนัลออกจากวังหลวงมาก็ไม่มีผู้ใดขัดขวาง เพราะนางเป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาและยังมีตราประทับจากฮองเฮา ออกจากวังหลวงไปซื้อสิ่งใดก็เป็นเรื่องปกติ
นางกำนัลออกจากวังมาได้ก็ตรงไปตระกูลเผย
แม้เผยโส่วฝู่เป็นโส่วฝู่ในสำนักมนตรี แต่เพราะอายุมากแล้ว ความคิดก็แปลกประหลาดอยู่สักหน่อย กฎระเบียบใหม่ที่ฝ่าบาททรงผลักดันออกมาหลายอย่าง เผยโส่วฝู่ล้วนไม่เห็นด้วย ตัวอย่างเช่น ให้หญิงหม้ายแต่งงานใหม่ได้ หรือว่ายกเว้นภาษีชายที่แต่งกับนาง หรือเรื่องตลาดการค้า
เผยโส่วฝู่รู้สึกว่าตลาดการค้าอันตรายอยู่สักหน่อย หากพวกที่คิดไม่ดีต่อแผ่นดินพวกนั้นถือโอกาสเข้ามาก่อเหตุในแคว้นต้าโจวเล่า
เผยโส่วฝู่แสดงความคิดเห็นคัดค้าน น่าเสียดายไร้ประโยชน์
ฮ่องเต้ไม่เพียงแต่ไม่ฟังเขา สุดท้ายยังไม่ทรงให้ความสำคัญต่อเขา เขาเป็นโส่วฝู่ในสำนักมนตรี แต่ความจริงก็เหมือนไร้ตัวตน เรื่องต่างๆ ในสำนักมนตรีส่วนใหญ่ดูแลจัดการโดยรองโส่วฝู่ใต้เท้าเซี่ย
ดังนั้นตอนนี้เผยโส่วฝู่ว่างมาก แทบจะเรียกได้ว่าเกษียณ กลับจวนแต่เช้าทุกวัน
ตอนนางกำนัลมา เผยโส่วฝู่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในจวน ได้ยินว่าฮองเฮาส่งคนออกจากวังหลวงมาขอพบเขา
เผยโส่วฝู่ก็วางอุปกรณ์รดน้ำต้นไม้ในมือ นำคนเดินออกไป
นางกำนัลพอเห็นเผยโส่วฝู่กับโส่วฝู่ฮูหยิน ก็รีบปรี่ลงคุกเข่าทันที
“ใต้เท้า ช่วยฮองเฮาด้วยเจ้าค่ะ”
เผยโส่วฝู่กับฮูหยินผู้เฒ่าเผยอึ้งไปทันที คนตระกูลเผยที่ออกมาก็พากันอึ้งไปทันที
เผยโส่วฝู่ถามเสียงเข้มว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
“เรียนใต้เท้า เพราะฮองเฮาให้กำเนิดองค์หญิงใหญ่ จึงได้บงการให้ข้าหลวงหยวนวางยาพิษพระสนมซูเฟย ปรากฏถูกพบเข้าแล้ว ฝ่าบาทรับสั่งให้สืบ สืบได้ความว่าข้าหลวงหยวนวางยาพิษ ฮองเฮาเป็นห่วงว่าตนเองจะพลอยติดร่างแหไปด้วย ดังนั้นจึงให้บ่าวออกจากวังหลวงมาขอให้ใต้เท้าช่วยชีวิตนางด้วยเจ้าค่ะ”
เผยโส่วฝู่ได้ยินข่าวนี้ก็ทนรับความสะเทือนใจไม่ไหว หน้ามืดล้มลงทันที ฮูหยินผู้เฒ่าเผยตกใจส่งเสียงเรียกดัง “นายท่าน นายท่านเป็นอันใดไป”
“พวกเจ้า รีบเข้ามานี่เร็ว”
ตระกูลเผยชุลมุนวุ่นวายกันไปหมด แต่เผยโส่วฝู่ก็ฟื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พอฟื้นก็ส่งเสียงดังว่า “สวรรค์ ต้องการทำลายตระกูลเผยข้าหรือ ตระกูลเผยข้าถึงกับถูกเจ้าเลือดชั่วนี่ทำลายแล้ว”
เผยโส่วฝู่กล่าวจบหันไปมองภรรยาตน ตำหนินางว่า “เจ้าอบรมนางอย่างไรกัน”
ในใจฮูหยินผู้เฒ่าเผยนึกเสียใจภายหลังอย่างมาก นางผิดไปแล้ว ไม่ควรสอนเล่ห์เหลี่ยมเรือนหลังให้เผยอวี่ ฝ่าบาททรงปรีชาเช่นนั้น เผยอวี่ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของฝ่าบาทได้ หากนางอยู่เป็นฮองเฮาอย่างสงบเสงี่ยมไป ก็คงไม่ถึงกับก่อเรื่องหายนะเช่นนี้
“ล้วนเป็นความผิดของข้าเอง”
ฮูหยินผู้เฒ่าเผยร่ำไห้ออกมาทันที
เผยโส่วฝู่เห็นภรรยาตนเองเช่นนี้ก็เอ่ยตำหนิไม่ออก
สุดท้ายเขามองทุกคนข้างกาย นอกจากบิดามารดาเผยอวี่ ยังมีบ้านสองบ้านสาม คนเหล่านี้ได้ยินว่าฮองเฮาถึงกับก่อภัยหายนะให้ตระกูลเผย แต่ละคนสีหน้าโมโหอย่างมาก
เผยโส่วฝู่เห็นสภาพเช่นนี้ก็รู้ว่าตระกูลเผยคงได้แตกสลายเพราะเรื่องนี้ อีกอย่างหากจัดการเรื่องฮองเฮานี้ได้ไม่ดี ตระกูลเผยก็คงต้องพลอยติดร่างแหไปด้วย
เผยโส่วฝู่ในฐานะโส่วฝู่ ความสามารถจัดการย่อมดี ดังนั้นจึงตัดสินใจเรื่องหนึ่งทันที สั่งการเสียงเข้ม “เตรียมรถม้า ข้าจะเข้าวังไปขอรับอาญาจากฝ่าบาท”
พร้อมกับลาออกจากตำแหน่งโส่วฝู่สำนักมนตรี เพื่อขอให้ฮองเฮาอย่าได้เสื่อมเสียเกียรติ ขอฝ่าบาทอย่าได้ประกาศเรื่องที่ฮองเฮากระทำนี้ออกไป ไม่เช่นนั้นหน้าตาและเกียรติตระกูลเผยก็คงหมดสิ้นแล้ว
ในวัง เซียวเหวินอวี๋กำลังให้คนสอบสวนข้าหลวงหยวน ข้าหลวงหยวนไม่ได้บอกว่าฮองเฮาบงการ ยืนยันว่าเรื่องนี้นางทำเองคนเดียว
“ฝ่าบาท ล้วนเป็นความคิดของหม่อมฉัน หม่อมฉันรู้วิชาแพทย์ มองออกว่าในครรภ์พระสนมซูเฟยเป็นชาย เป็นองค์ชาย ฮองเฮาสูญเสียเลือดมากไปทำให้ไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก หม่อมฉันจึงได้คิดแย่งชิงโอรสจากพระสนมซูเฟยมาให้ฮองเฮา ดังนั้นจึงได้วางยาพระสนมซูเฟยเพคะ”
“ฝ่าบาท หม่อมฉันสมควรตาย หม่อมฉันขอรับโทษตายเพคะ”
กล่าวจบนางก็คิดโขกเสาตาย แต่โจวโย่วจิ่นขวางนางไว้
โจวโย่วจิ่นติดตามเรียนยุทธ์มากับเซียวเหวินอวี๋ เขาเป็นวิทยายุทธ์ พอเห็นข้าหลวงหยวนคิดฆ่าตัวตายก็ย่อมเข้าขวางนางได้ทัน
เซียวเหวินอวี๋มองข้าหลวงหยวนที่โดนลงทัณฑ์ก็ยังไม่ยอมรับสารภาพ แค่นยิ้มเอ่ยน้ำเสียงเยียบเย็น “ไปเชิญฮองเฮามา”
โจวโย่วจิ่นนำคนไปเชิญฮองเฮามา
ฮองเฮาเพิ่งจะให้กำเนิดองค์หญิงได้เพียงสามวัน ตกพระโลหิตหนัก ร่างกายอ่อนแออย่างมาก เดินเหินไม่ถนัด ได้แต่ให้นางกำนัลประคองมา
นางมาถึงก็คุกเข่าทันที “ถวายบังคมฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋มองลงมาที่ฮองเฮา “เจ้าบงการข้าหลวงหยวนให้วางยาพระสนมซูเฟยใช่หรือไม่”
ฮองเฮาเงยหน้ามองไปยังพระสนมซูเฟย พบว่าพระสนมซูเฟยถึงกับไม่เป็นอันใดสักนิด ในใจฮองเฮาคับแค้นใจอย่างไม่อาจบรรยาย แต่กลับไม่กล้าแสดงออก นางไม่กล้ายอมรับเรื่องนี้ รีบโขกศีรษะไปกล่าวไปว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้บงการข้าหลวงหยวนวางยาพระสนมซูเฟย พระสนมซูเฟยตั้งครรภ์โอรสฝ่าบาท ตามหลักควรเรียกหม่อมฉันเสด็จแม่ หม่อมฉันจะวางยาเขาได้อย่างไรเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋มองท่าทางเสแสร้งของฮองเฮาก็มีสีหน้ารังเกียจอย่างที่สุด หากฮองเฮายอมรับว่าตนเองบงการข้าหลวงหยวนวางยาพิษพระสนมซูเฟย เขายังมองว่านางกล้าหาญ แต่ตอนนี้เห็นสีหน้าท่าทางนางเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียน
เซียวเหวินอวี๋ไม่คิดสนใจฮองเฮาอีก มองไปยังข้าหลวงหยวน “เจ้านายเช่นนี้ เจ้ายังคิดปกป้องอีกหรือ”
ข้าหลวงหยวนได้ยินฮองเฮาผลักเรื่องทั้งหมดมาให้ตน ในใจนางก็รู้สึกสลดใจ แต่นางก็ยังคงไม่สารภาพว่าเป็นฮองเฮา
เซียวเหวินอวี๋โมโหสั่งโจวโย่วจิ่นให้นำตัวข้าหลวงหยวนออกไปโบย และยังสั่งให้นำตัวฮองเฮาออกไปดู
เขาอยากดูว่าฮองเฮาเห็นข้าหลวงหยวนโดนโบย จะยังคงเลือดเย็นไม่ยอมสารภาพอันใดอีกหรือไม่
ฮองเฮาเห็นข้าหลวงหยวนโดนโบย ก็สะเทือนใจจนเป็นลมหมดสติไป แต่พอฟื้นขึ้นมาก็ยังคงไม่สารภาพว่าตนเองเป็นคนบงการข้าหลวงหยวน
เรื่องนี้ทำให้เซียวเหวินอวี๋รู้สึกว่าข้าหลวงหยวนไม่ควรดีกับนางเช่นนี้ พร้อมกับรู้สึกว่าฮองเฮาไม่เพียงแต่เสแสร้ง แต่ยังเลือดเย็นแล้งน้ำใจ
เซียวเหวินอวี๋เตรียมสั่งให้คนนำตัวข้าหลวงหยวนออกไปลงทัณฑ์หนัก แต่ไรมายังไม่มีผู้ใดในวังทนการลงทัณฑ์ได้สักคน เขาอยากดูว่าปากข้าหลวงหยวนจะแข็งเพียงใด
เพียงแต่เซียวเหวินอวี๋ยังไม่ทันสั่งการ นอกประตูองครักษ์ก็เข้ามารายงาน “เผยโส่วฝู่ขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋ได้ยินองครักษ์รายงานก็ชะงักไป ก่อนหน้านี้ฮองเฮาให้คนส่งจดหมายไปตระกูลเผย มีคนมารายงานโจวโย่วจิ่น และโจวโย่วจิ่นก็รายงานเขา เขาไม่ได้ห้าม
เขากำลังรอตระกูลเผย อยากดูว่าตระกูลเผยจะจัดการอย่างไร