ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 880 อนุญาตตามประสงค์
ตอนที่ 880 อนุญาตตามประสงค์
ฮองเฮาบงการคนให้ทำร้ายทายาทฮ่องเต้ ตามกฎเป็นความผิดโทษมหันต์ ตระกูลเผยต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย
เซียวเหวินอวี๋สั่งการองครักษ์เชิญเผยโส่วฝู่เข้า
พอเผยโส่วฝู่มาถึง ฮองเฮาก็ดิ้นรนส่งเสียงร้องขึ้น “ท่านปู่ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ได้บงการข้าหลวงหยวนวางยาพิษพระสนมซูเฟย ข้าหลวงหยวนทำเรื่องนี้เพียงคนเดียว”
เผยโส่วฝู่พอได้ฟังก็รู้ว่าหลานสาวตนจบสิ้นแล้ว ในฐานะฮองเฮา แม้ว่าบงการข้าหลวงหยวน ทำเช่นนี้ ก็ควรยอมรับความผิดเปิดเผย ปกป้องบ่าวตน เช่นนี้จึงจะทำให้ฝ่าบาทมองนางดีขึ้น และยังได้ใจภักดีของบ่าว ปรากฏว่า เพราะนางกลัว ถึงกับโยนภาระทั้งหมดไปที่ข้าหลวงหยวน
นางเช่นนี้อย่าว่าแต่ฝ่าบาท แม้แต่เขาเองก็ดูแคลน
เผยโส่วฝู่มองฮองเฮาอย่างผิดหวัง แม้ฮองเฮาไม่ยอมรับ ขอเพียงฝ่าบาทมั่นใจแล้ว เจ้าจะรับหรือไม่ก็ล้วนมีความผิด
เผยโส่วฝู่หันไปมองฮ่องเต้หนุ่มก่อนจะคุกเข่าลงทันที “กระหม่อมอบรมไม่ดี จึงทำให้ฮองเฮาทำความผิดมหันต์เพียงนี้ กระหม่อมขอฝ่าบาทโปรดลงอาญาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเหวินอวี๋มองเผยโส่วฝู่ ด้วยแววตาเยียบเย็นเป็นนานจึงได้เอ่ยขึ้นว่า “เรื่องที่ฮองเฮาทำไม่เกี่ยวข้อง กับตระกูลเผย ตระกูลเผยในฐานะขุนนางผู้มีความชอบแห่งแคว้นต้าโจวไม่ควรต้องรับโทษนี้ไปกับฮองเฮา อีกสักครู่เราจะประกาศต่อใต้หล้าว่า เรื่องฮองเฮาปองร้ายทายาทราชวงศ์ และจะบอกกับทุกคนว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเผย”
คำพูดเซียวเหวินอวี๋ทำให้สีหน้าเผยโส่วฝู่ขาวราวกระดาษ ฮ่องเต้ประกาศต่อใต้หล้าเช่นนี้ ผู้คนใต้หล้าก็คงได้ตำหนิว่าตระกูลเผยเขาอบรมหลานสาวไม่เข้มงวด จึงทำให้หลานสาวทำความผิดมหันต์เช่นนี้ ถึงตอนนั้น ฝ่าบาทบอกว่าตระกูลเผยไร้ความผิด แต่ปากของประชาใต้หล้าก็คงไม่ยกเว้นตระกูลเผย ชื่อเสียงตระกูลเผยเขาหมดสิ้นแล้ว
เผยโส่วฝู่ครุ่นคิดแล้วก็โขกศีรษะเต็มแรงไปพลางทูลขอร้องอย่างน่าสงสารไปว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องทูลขอร้อง ขอฝ่าบาทโปรดอนุญาตความปรารถนานี้ของกระหม่อมด้วย”
เซียวเหวินอวี๋มองเขากล่าวว่า “ว่ามา”
เผยโส่วฝู่น้ำเสียงหนักแน่น กล่าวว่า “ขอฝ่าบาทเห็นแก่ความภักดีของกระหม่อมที่จงรักภักดีต่อราชสำนัก ปล่อยฮองเฮาไปสักครั้ง กระหม่อมขอยอมลาออกจากราชการกลับบ้านเกิดพ่ะย่ะค่ะ”
ความหมายในวาจาเผยโส่วฝู่นี้ก็คือเขายอมสละตำแหน่งโส่วฝู่เพื่อปกป้องฮองเฮา
เขาอายุมากแล้ว อ้างว่าไร้แรงกำลังจึงขอลาออกจากราชการ คนข้างนอกก็จะคิดไม่ถึงว่าตระกูลเผยเกิดเรื่อง
ขอเพียงรักษาฮองเฮาไว้ได้ก็พอ อย่าทำให้ตระกูลเผยสุดท้ายต้องเสียหน้าหมดสิ้น
ในพระตำหนัก เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังเผยโส่วฝู่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยไตร่ตรอง
แม้ว่าฮองเฮาวางยาพระสนมซูเฟย ปองร้ายทายาทราชวงศ์ ประเด็นก็คือตอนนี้พระสนมซูเฟยและบุตรในครรภ์นางก็ไม่ได้เป็นอันใด หากเขามีราชโองการประกาศความผิดฮองเฮาไปทั่วหล้า
อาจมีคนเชื่อ แต่ก็อาจมีคนไม่เชื่อ ไม่แน่ว่าจะคิดว่าเขาคิดจัดการตระกูลเผย ดังนั้นจึงลงดาบที่ฮองเฮา
หากเป็นเช่นนี้ เขาก็จะเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกอย่างแม้คนเชื่อว่าฮองเฮาทำผิด แต่พระสนมซูเฟยกับบุตรก็ไม่เป็นอันใด เขาลงโทษฮองเฮาเช่นนี้ คนเขาก็จะว่าเขาทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ หากเผยโส่วฝู่เกิดเรื่องไม่คาดคิดอันใดอีก สุดท้ายผู้อื่นก็จะว่าเขาผิด
กลับกัน หากอาศัยเรื่องฮองเฮาทำให้เผยโส่วฝู่ลาออก เป็นผลดีต่อเขามากกว่า
เพียงแต่เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมต่อพระสนมซูเฟย
เซียวเหวินอวี๋คิดแล้วก็ตำหนิตนเอง หันไปมองพระสนมซูเฟยทีหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองเผยโส่วฝู่ กล่าวว่า “เผยโส่วฝู่เป็นขุนนางมีความดีความชอบในแคว้นต้าโจว ในเมื่อโส่วฝู่ขอร้อง เราก็จะปล่อยฮองเฮาไปสักครั้ง”
เผยโส่วฝู่ได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ ในใจก็โล่งอก พร้อมกับมั่นใจได้เรื่องหนึ่ง ก็คืออย่าเห็นว่าฝ่าบาทอายุน้อย แต่ในความเป็นจริงทรงพระปรีชายิ่ง ฮ่องเต้เช่นนี้ไยต้องกังวลว่าแคว้นต้าโจววันหน้าจะไม่รุ่งเรือง แต่น่าเสียดายเขาไม่อาจทำเพื่อแคว้นต้าโจวอีกแล้ว
“กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา”
เผยโส่วฝู่คุกเข่าลงต่ำสุด จากนั้นก็หันไปมองฮองเฮา
ฮองเฮาได้ยินเซียวเหวินอวี๋ปล่อยนางไป ก็โล่งอกอย่างเห็นได้ชัด
เผยโส่วฝู่เห็นหลานสาวเช่นนี้ก็อดถอนหายใจไม่ได้ มองโลกแคบเหลือเกิน
แม้ตอนนี้ฮ่องเต้ไม่ได้ลงอาญานาง แต่วันหน้านางยังจะมีวันที่ดีอีกหรือ ทำให้ฮ่องเต้ทรงรังเกียจ ชีวิตในวังของนางก็ไม่ต่างอันใดกับความว่างเปล่า ไม่อาจมีชีวิตที่ดีอีกแล้ว
วันหน้าเขาก็ไม่อาจช่วยนางได้แล้ว ขอเพียงนางรักษาตัวให้ดี อย่าได้ทำให้ตระกูลเผยต้องเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้คนก็พอ
เผยโส่วฝู่ครุ่นคิดแล้วก็มองไปยังฮองเฮา กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ฮองเฮาวันหน้าดูแลตนเองให้ดี ทุกอย่างคิดให้มากก่อนทำ”
เผยโส่วฝู่กล่าวจบก็จากไป แต่ฝีเท้าไม่มั่นคงอย่างไม่อาจบรรยาย ดูราวกับแก่ชราลงไปมาก
ในตำหนัก เซียวเหวินอวี๋รอเผยโส่วฝู่ไปแล้ว ก็มองฮองเฮาอย่างรังเกียจทีหนึ่ง มีคำสั่งว่า “ส่งฮองเฮากลับตำหนักคุนหนิงกง หากไม่มีรับสั่งห้ามก้าวออกจากตำหนักคุนหนิงกง”
ฮองเฮาตกใจ หันหน้าไปมองเซียวเหวินอวี๋ เห็นเซียวเหวินอวี๋มีแต่แววตารังเกียจ ฮองเฮารู้สึกอัดแน่นในใจ นางอดส่งเสียงเรียกอย่างกังวลไม่ได้ “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้บงการข้าหลวงหยวน ……”
ฮองเฮาไม่ได้เอ่ยอันใดอีก โจวโย่วจิ่นเดินเข้ามา “ฮองเฮา เชิญพ่ะย่ะค่ะ อย่าให้บ่าวต้องลงมือ”
ฮองเฮามองโจวโย่วจิ่นด้วยสีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าเป็นแค่บ่าว กล้ากล่าวกับข้าเยี่ยงนี้หรือ”
โจวโย่วจิ่นขี้เกียจจะสนใจหญิงผู้นี้ ตอนนี้นางแค่มีตำแหน่งฮองเฮาเท่านั้น แม้ยังเป็นฮองเฮา แต่ก็เพียงชื่อ ถึงตอนนี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือ
โจวโย่วจิ่นโบกมือ ขันทีก้าวเข้ามาลากฮองเฮาออกไป
ในที่สุดฮองเฮาก็โมโหหมดสติ
เซียวเหวินอวี๋มีราชโองการสั่งให้คนนำข้าหลวงหยวนและขันทีนางกำนัลที่เกี่ยวข้องกับการวางยาพิษทายาทราชวงศ์ทั้งหมดออกไปโบยจนตาย
สุดท้ายในตำหนักเฉาหยางกงเหลือเพียงเซียวเหวินอวี๋ พระสนมซูเฟย ลู่เจียว
ก่อนหน้านี้ลู่เจียวให้พระสนมซูเฟยกินยาถอนพิษ ยามนี้เรื่องจบลงแล้วก็ลุกขึ้นขอตัวกลับ
เซียวเหวินอวี๋รอจนลู่เจียวออกไปแล้ว ก็เดินไปข้างพระสนมซูเฟยหวังเมิ่งเหยา ยื่นมือไปดึงมือนางมาเอ่ยว่า “เมิ่งเหยา ครั้งนี้ลำบากเจ้าแล้ว”
หวังเมิ่งเหยาไมได้รู้สึกว่าตนเองลำบาก ฝ่าบาทพยายามปกป้องนางกับลูกแล้ว นางเข้าใจเขาดี ในฐานะฮ่องเต้แคว้นต้าโจว บางครั้งก็ไม่อาจทำตามอำเภอใจได้ ทำอันใดก็จะส่งผลกระทบไปหลายด้าน เรื่องพวกนี้นางพอเข้าใจ
หวังเมิ่งเหยายื่นมือขึ้นปิดปากเซียวเหวินอวี๋ “ฝ่าบาททำเพื่อหม่อมฉันกับลูกมากพอแล้ว หม่อมฉันเข้าใจว่าฝ่าบาทเองก็ไม่ได้ง่ายนัก”
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังหวังเมิ่งเหยาก็อดยิ้มไม่ได้ยื่นมือไปโอบหวังเมิ่งเหยาเข้าสู่อ้อมกอด
“เจ้าวางใจ ช้าเร็วสักวันหนึ่ง เราจะทวงความยุติธรรมคืนมาให้เจ้า”
หวังเมิ่งเหยายิ้มอิงแอบในอ้อมกอดเซียวเหวินอวี๋ “ฝ่าบาททำเพื่อพวกเราสองแม่ลูก หม่อมฉันรู้สึกขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”
ในฐานะฮ่องเต้แคว้นต้าโจว เซียวเหวินอวี๋มอบให้นางมากแล้ว อย่าว่าแต่เขาเป็นฮ่องเต้ แม้แต่ขุนนางนอกวัง หลายคนก็มีสามภรรยาเอกสี่อนุกันทั้งนั้น กับภรรยาก็แค่เคารพมิได้ชอบ ฮ่องเต้ทำได้ไม่ด้อยไปกว่าผู้อื่นแล้ว
โดยเฉพาะตอนนางตั้งครรภ์ เซียวเหวินอวี๋มักมาเยี่ยมนาง ห่วงใยนาง ถามว่านางอยากกินอันใด ชอบอันใด ปกติยังมาสอนหนังสือลูกในท้องนาง ยังสื่อสารกับลูกในท้องนาง ยามนี้เขาไม่ใช่ฮ่องเต้ เป็นเพียงแค่บิดาที่ห่วงใยบุตร
ตั้งแต่หวังเมิ่งเหยาตั้งครรภ์ ความผูกพันกับเซียวเหวินอวี๋ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขาคล้ายว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตนาง
เซียวเหวินอวี๋ได้ยินหวังเมิ่งเหยาเอ่ยเช่นนี้ก็อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก มีคนเข้าใจเขาสักคน ไม่เลวจริงๆ
เซียวเหวินอวี๋พลันเข้าใจแล้วว่าท่านแม่ให้พวกเขาแต่ภรรยาเพียงคนเดียวเพื่ออันใด เขาก้มหน้ามองหวังเมิ่งเหยาในอ้อมกอด ความจริงหวังเมิ่งเหยารูปโฉมไม่นับว่างามสุดยอด มีสาวงามในวังงามกว่านางไม่น้อย แต่นางไม่ถือสาเรื่องอันใด เข้าใจผู้อื่นและยังจิตใจดี ดีกับบุตรมาก ยังเข้าใจและให้อภัยเขา แต่ไรมาไม่เคยเพราะการกระทำไม่เหมาะสมของเขาแล้วจะนึกโทษเขา ทำให้เซียวเหวินอวี๋อดเข้าใกล้นางอย่างไม่รู้ตัวไม่ได้
เซียวเหวินอวี๋พลันเกิดความรู้สึกวู่วามอย่างหนึ่งขึ้นมา รอให้แผ่นดินแคว้นต้าโจวมั่นคง เขาก็จะมีนางเพียงคนเดียว เรื่องนี้น่าจะไม่เลวอย่างมาก
เซียวเหวินอวี๋ครุ่นคิดแล้วก็อดเขยิบเข้าไปใกล้ไม่ได้ กระซิบริมใบหูเมิ่งเหยา “เมิ่งเหยา เจ้ากับลูกวางใจ เราจะปฏิบัติต่อเจ้าและลูกของเราอย่างดี อีกอย่างนอกจากฮองเฮา เราไม่ได้แตะต้องพระสนมใด”