ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 882 แผนการ
ตอนที่ 882 แผนการ
เซียวเหวินอวี๋ชะงักไปครู่หนึ่งก็ยังคงอุ้มองค์หญิงใหญ่เดินต่อไป
“เมิ่งเหยา เจ้าช่วยเราเลี้ยงดูองค์หญิงใหญ่ไปด้วยได้หรือไม่”
แม้ว่าพระสนมซูเฟยคลอดก่อนกำหนด แต่ยามนี้กำลังวังชาไม่เลว ยามนี้กำลังอุ้มฉีหลินน้อยป้อนนม พอเห็นเซียวเหวินอวี๋อุ้มองค์หญิงใหญ่เข้ามา นางก็เขินรีบปลดเสื้อตัวในลง หันหน้าไปมองเซียวเหวินอวี๋
ได้ยินเซียวเหวินอวี๋บอกว่าจะมอบองค์หญิงใหญ่ให้นางเลี้ยงดู หวังเมิ่งเหยาก็นิ่งอึ้งไปทันที กล่าวตามตรงนางยินยอมเลี้ยงดูองค์หญิงใหญ่ ก็แค่ปกติมีบุตรีเพิ่มมาอีกหนึ่ง นางดีใจมาก
แต่องค์หญิงใหญ่เป็นพระธิดาฮองเฮา องค์หญิงใหญ่สายเลือดสายตรง ไม่ให้ฮองเฮาทรงเลี้ยงดู แต่มาให้นางเลี้ยงดู เกิดเรื่องอันใดขึ้น
เซียวเหวินอวี๋เห็นพระสนมซูเฟยเงียบก็คิดว่านางไม่ยินยอมเลี้ยงดู เขาเองก็ไม่อยากทำให้พระสนมซูเฟยลำบากใจ เอ่ยขึ้นว่า “หากเจ้าไม่ยินดี เราก็จะมอบองค์หญิงใหญ่ให้ผู้อื่น”
พระสนมซูเฟยได้สติรีบเอ่ยว่า“จะไม่ยินดีได้อย่างไรเพคะ ก็แค่มีองค์หญิงเพิ่มมาอีกหนึ่ง ข้าดีใจมาก เพียงแต่นี่เป็นพระธิดาฮองเฮา ฮองเฮาจะยอมให้หม่อมฉันเลี้ยงดูหรือเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋ได้ยินพระสนมซูเฟยเอ่ยถึงฮองเฮา แววตาก็ฉายแววรังเกียจชัดเจน กล่าวว่า “อย่าเอ่ยถึงหญิงผู้นั้น แม้แต่บุตรีแท้ๆ นางเองยังไม่สนใจ เราไม่รู้จริงๆ ว่าตระกูลเผยอบรมนางเช่นนี้มาได้อย่างไร”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวจบก็เดินไปข้างกายพระสนมซูเฟย ส่งองค์หญิงใหญ่ให้พระสนมซูเฟย “เจ้าดูองค์หญิงใหญ่เป็นอย่างไรไปแล้ว”
พระสนมซูเฟยมองทารกในอ้อมกอดเขาทีหนึ่งก็ตกใจ องค์หญิงใหญ่ผอมกว่าตอนประสูติใหม่มาก ลมหายใจอ่อนแรง ดูแล้วไม่ค่อยดีอย่างมากจริงๆ
พระสนมซูเฟยเห็นก็นึกสงสารทันที รีบวางบุตรชายตนลง ยื่นมือไปอุ้มองค์หญิงใหญ่ “เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้”
“ฮองเฮาไม่ถามไถ่ ปล่อยให้บรรดาบ่าวดูแล พวกนางจะสนใจหรือ ทารกเพิ่งจะคลอดไม่ดูแลให้ดี ก็เลยเป็นเช่นนี้อย่างไรเล่า”
พระสนมซูเฟยสงสารองค์หญิงใหญ่มาก ลูบแก้มน้อยของนางกล่าวว่า “เช่นนั้นก็เอาไว้ให้ข้าเลี้ยงร่วมกันก็ได้”
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังพระสนมซูเฟย มองสีหน้านางไม่ได้ถือสา มีแต่ความสงสารองค์หญิงใหญ่ เซียว เหวินอวี๋ก็โล่งอก มองหวังเมิ่งเหยากล่าวว่า “เมิ่งเหยา เจ้าช่างดีจริง”
กล่าวจบก็หันหลังจากไป เขาช้าเร็วต้องมอบสิ่งที่เมิ่งเหยาควรได้ให้นาง
หวังเมิ่งเหยาเองก็ไม่ได้คิดมากกับคำพูดเซียวเหวินอวี๋ ก้มหน้าป้อนนมองค์หญิงใหญ่
บรรดาสตรีในวังหลังไม่นานก็รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ที่ฮองเฮาให้กำเนิดถูกอุ้มไปให้พระสนมซูเฟยเลี้ยงดู พระสนมซูเฟยยามนี้เลี้ยงลูกถึงสองคน
บรรดาสตรีในวังต่างอิจฉาไม่อาจบรรยาย แต่อย่างมากก็แค่คิดแย่งกันเป็นที่โปรดปรานจะได้มีโอรสธิดาบ้าง
เพียงแต่ฝ่าบาทไม่ค่อยเสด็จวังหลัง ทำให้พวกนางกลัดกลุ้มมาก
ในใจจ้าวกุ้ยเหรินเต็มไปด้วยความระแวงสงสัย แม้ฝ่าบาทไม่ทรงชอบเสด็จวังหลัง แต่ก่อนหน้านี้โปรดปรานนางมาตลอด ต่อมาแม้ว่าลดตำแหน่งนาง แต่ก็มักมาตำหนักนาง เหตุใดนางไม่ตั้งครรภ์ ก่อนเข้าวังที่บ้านก็เคยตรวจให้นาง ก็ว่าร่างกายนางปกติดีไม่เป็นอันใด
จ้าวกุ้ยเหรินคิดถึงหญิงตระกูลจ้าวก่อนหน้านี้ที่แต่งเข้าวังมา คล้ายว่าถูกไท่ซั่งหวงวางยาคุมกำเนิด
นางจะถูกฝ่าบาทวางยาคุมกำเนิดหรือไม่ ดังนั้นนานเพียงนี้จึงยังไม่ตั้งครรภ์
จ้าวกุ้ยเหรินตกใจ แอบส่งเทียบออกไปตระกูลจ้าว
คนตระกูลจ้าวได้ข่าวก็เริ่มสงสัย ตระกูลจ้าวรีบบอกให้คนของตนในวังไปตำหนักจ้าวกุ้ยเหริน แอบตรวจร่างกายจ้าวกุ้ยเหริน ดูว่าจ้าวกุ้ยเหรินถูกฝ่าบาทวางยาหรือไม่
หลังจากตรวจก็พบว่าจ้าวกุ้ยเหรินไม่ได้ถูกวางยาอันใด เช่นนั้นเหตุใดจ้าวกุ้ยเหรินไม่ตั้งครรภ์ หญิงได้วัยเช่นนี้ สุขภาพก็แข็งแรง ไม่ว่าอย่างไรก็ควรตั้งครรภ์ได้แล้ว
หากจะบอกว่าฝ่าบาทไม่สามารถ แต่ฝ่าบาทก็มีองค์หญิงใหญ่กับองค์ชายใหญ่มาแล้วถึงสองพระองค์ แสดงให้เห็นว่าฝ่าบาทไม่มีปัญหาพระวรกาย
ณ ตระกูลจ้าว ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวและบุตรชายสองคนนั่งหารือเรื่องสำคัญกันอยู่ในห้องโถง
บุตรชายใหญ่เงยหน้ามองไปยังมารดาตนด้วยสีหน้าสงสัย “ท่านแม่ ดูท่าบุตรีข้าถูกฝ่าบาทวางยาแล้ว มารดาเลี้ยงฝ่าบาทเป็นหมอเทวดามีชื่อแห่งแคว้นต้าโจว ในมือนางย่อมต้องมียามากมายที่คนอื่นไม่รู้ นางคิดจะวางยาผู้ใด หมอทั่วไปย่อมตรวจไม่พบ”
บุตรชายเล็กอีกคนก็เอ่ยว่า “ท่านแม่ ดำเนินการตามแผนการท่านพ่อก่อนหน้านี้เถอะ”
ตั้งแต่ไทฮองไทเฮาออกจากวังมาอยู่ตำหนักนอกวัง ตระกูลจ้าวก็สงสัยว่าฝ่าบาทคิดกำจัดตระกูลจ้าว แต่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่รับหญิงตระกูลจ้าวเข้าวัง พวกเขาจึงแอบคิดว่าฮ่องเต้พระองค์ใหม่ไม่ถือสาตระกูลจ้าว แต่ตอนนี้ดูท่า ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ไหนเลยไม่ถือสาตระกูลจ้าว เห็นชัดว่ายื้อเวลา รับหญิงตระกูลจ้าวก็เพื่อรอเวลาให้ตระกูลจ้าวพวกเขาพลาดเอง
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวมองไปยังบุตรชายและสะใภ้ทั้งสามคู่
ก่อนหน้านี้ท่านกั๋วกงสั่งการให้บุตรชายคนโตกลับเมืองหลวงมาจัดการวางแผนที่ตระกูลจ้าว ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวไม่เห็นด้วย เหตุเพราะนางกลัวแผนการล้มเหลว ตระกูลจ้าวก็จะเป็นโจรกบฏ นางคิดแล้วก็รู้สึกกลัว ดังนั้นจึงสกัดบุตรชายคนโตตนเองเอาไว้
แต่ตอนนี้นางรั้งพวกเขาไม่อยู่แล้ว
“พวกเจ้าแน่ใจว่าจะทำเช่นนี้หรือ หากทำไม่สำเร็จ พวกเราตระกูลจ้าวก็จะมีโทษอาญามหันต์ ถึงตอนนั้นคงได้ตายไร้ที่ฝัง”
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวกล่าวจนสุดท้ายก็ปากสั่นฟันกระทบกัน
บุตรชายคนโตเห็นนางก็ถอนหายใจหนักหน่วง มารดาตนเองไม่เอาไหนจริงๆ ไม่เหมือนฮูหยินหลี่อนุบิดาเขา อุบายในใจแยบยล และยังออกอุบายมากมายให้บิดาเขา ส่วนมารดาเขา ไม่เพียงแต่ไร้อุบาย ยังขี้ขลาด
หากไม่ใช่นางขี้ขลาด ตระกูลจ้าวไหนเลยจะต้องรอมาลงมือในตอนนี้ พวกเขาเสียโอกาสที่ดีที่สุดไปแล้ว
“ท่านแม่ ท่านยังมองไม่ออกอีกหรือ แม้พวกเราไม่ดำเนินการตามแผน ฮ่องเต้ก็ไม่ปล่อยพวกเราไป ถึงตอนนั้นพวกเราก็มีแต่ตายสถานเดียว ท่านแม่อยากให้พวกเราตายกันหรือ”
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวเงยหน้ามองไปยังบุตรชายคนโตของตน บุตรชายตนผู้นี้ติดตามท่านกั๋วกงเฝ้าประจำด่านชายแดน กลิ่นอายสังหารรอบกายรุนแรง
“ลูกแม่ ทันทีที่พวกเราลงมือ หากไม่สำเร็จ ก็จะพ่ายแพ้หมดกระดาน”
“ข้าเตรียมการไว้พร้อมสรรพแล้ว ไม่เกิดเรื่องผิดพลาดอย่างแน่นอน”
บุตรชายคนโตกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวนิ่งไปเป็นนานก่อนจะค่อยๆ เอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าก็ลงมือเถอะ”
กล่าวจบก็หมดแรง เหตุใดตระกูลจ้าวจึงได้เดินมาถึงก้าวนี้ ไม่สามารถทำหน้าที่ขุนพลทหารไปอย่างสงบสุขหรือ
จ้าวเจี่ยนได้ฟังฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวก็รีบมองไปยังน้องชายทั้งสอง “พวกเจ้าสองคนไม่มีความเห็นกระมัง หากไม่มีความเห็นใด ข้าก็จะไปจัดการแล้ว”
บุตรชายรองท่าทางลังเล มองไปยังพี่ชายตน เอ่ยขึ้นว่า“เรื่องนี้ต้องบอกท่านย่าสักคำไหม”
บุตรชายรองเอ่ยถึงท่านย่าก็คือไทฮองไทเฮาที่พำนักอยู่ตำหนักนอกวัง
จ้าวเจี่ยนได้ฟังแค่นเสียงฮึเยียบเย็นกล่าวว่า “ตอนนี้ท่านย่าเอาตัวยังไม่รอด บอกนางไปทำไมกัน รอพวกเราทำสำเร็จ ตอนนั้นค่อยรับนางกลับเข้าวังก็พอ เชื่อว่านางจะไม่ตำหนิพวกเรา”
บุตรชายรองยังคิดเอ่ยต่อ แต่เห็นจ้าวเจี่ยนท่าทางดึงดัน สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ย ได้แต่หลับตาตกลง “เช่นนั้นก็ดำเนินตามแผนการ”