ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 891 เยาะเย้ยดูแคลน
ตอนที่ 891 เยาะเย้ยดูแคลน
เซียวเหวินอวี๋กับลู่เจียวรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายสังหารในความมืด ทั้งสองคนขยับตัวพร้อมกัน
ลู่เจียวตรงเข้าในห้องด้านในของเซียวเหวินอวี๋ ยื่นมือไปดึงเขาไว้ ก่อนทั้งสองคนจะกระโดดออกนอกห้องไป นอกหน้าต่างมีองครักษ์รูปร่างใกล้เคียงกับเซียวเหวินอวี๋สวมชุดขาวเข้ามานอนบนเตียง
แผนการพวกเขาคืนนี้ก็คือแสร้งทำเป็นหลงกลอุบาย แต่แม่ทัพเฟิงกับลู่เจียวไม่เห็นด้วยที่จะให้เซียวเหวินอวี๋เสี่ยงอันตราย ดังนั้นทุกคนหารือแผนการกันว่าจะให้เซียวเหวินอวี๋พักในห้องก่อน รอให้มือสังหารมาลอบสังหารก็จะให้องครักษ์รูปร่างใกล้เคียงกับเซียวเหวินอวี๋มานอนแทน จากนั้นก็องครักษ์ก็แสร้งทำเป็นโดนแทงตาย
ขอเพียงข่าวเซียวเหวินอวี๋ถูกแทงแพร่ออกไปถึงเมืองสิ่วเฉิง จ้าวกั๋วกงต้องมีราชโองการสั่งให้ยึดเมืองติ้ง เฉิงกลับคืนมา
ตอนนี้มือสังหารมาแล้ว เซียวเหวินอวี๋รีบพาลู่เจียวกระโดดออกไปด้านนอก องครักษ์กระโดดเข้ามาแทนที่เขา
สองคนแม่ลูกออกจากห้องมาได้ก็รีบหาที่หลบ
ในห้องมีเสียงสังหารดังขึ้นรวดเร็ว พร้อมกับมีเสียงดังออกมาว่า “ไม่ได้การแล้ว มีคนลอบสังหารฝ่าบาท เร็ว อารักขาฝ่าบาท”
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท ทรงเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ได้การแล้ว ฝ่าบาทโดนแทงบาดเจ็บ รีบตามหมอหลวงมาเร็ว”
“รีบตามหมอหลวง”
ท้องฟ้าเริ่มสว่างรำไร ทั้งเมืองติ้งเฉิงก็ได้ข่าวว่าเมื่อคืนฝ่าบาทถูกมือสังหารลอบสังหารสิ้นพระชนม์แล้ว
พริบตาในเมืองติ้งเฉิงก็มีแต่เสียงโศกาอาดูร ตามถนนใหญ่ตรอกซอกซอยมีเสียงร่ำไห้ดังระงมไปทั่ว
แต่ละบ้านล้วนประดับผ้าขาวด้วยตนเอง บรรยากาศไว้ทุกข์เต็มทั่วเมือง
เมืองสิ่วเฉิง สองพ่อลูกตระกูลจ้าวได้ข่าวก็มีสีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ ครั้งนี้ราบรื่นเกินไปจริงๆ
“ฝ่าบาท เป็นเรื่องน่าดีใจยิ่งนัก ในที่สุดเจ้าโจรตระกูลเซียวก็ถูกสังหารแล้ว ฝ่าบาท พวกเรารีบบุกโจมตีเมืองติ้งเฉิง ยึดเมืองติ้งเฉิง จากนั้นก็ถือโอกาสที่อีกฝ่ายกำลังใจตกต่ำ ยึดเมืองอื่นๆ รอให้ทางเมืองหลวงได้ข่าวนี้ พวกเราก็ยึดมาได้หลายเมืองแล้ว”
“ใช่ สวรรค์ปกปักพวกเราแล้ว”
ตอนแรกจ้าวเหลยแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่จากนั้นก็ตื่นเต้นหันไปมองบิดาตนเอง “บิดา รีบมีราชโองการเถอะ ยึดแผ่นดินแคว้นต้าโจวได้ครึ่งหนึ่งเมื่อใด พวกเราก็จะเจรจาหารือกับฮ่องเต้พระองค์ใหม่แคว้นต้าโจว ไม่แน่ยังอาจช่วยพวกท่านแม่กลับมาได้”
จ้าวกั๋วกงกลับมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย นิ่งไปเป็นนาน
ทุกคนเงยหน้ามองเขา “ฝ่าบาท มีอันใดหรือ”
“พวกเจ้าไม่รู้สึกว่าโจรแซ่เซียวตายง่ายไปสักหน่อยหรือ คนผู้นี้อุบายล้ำลึกมาก เมื่อคืนมือสังหารสังหารเขาได้ง่ายดายเพียงนี้หรือ”
จ้าวปินรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสงสัย สีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
ทุกคนได้ฟังเขาก็ไม่กล้าเอ่ยอันใด เป็นนานกว่าจะเอ่ยขึ้นว่า “เช่นนั้นพวกเราส่งคนไปเมืองติ้งเฉิงสืบข่าวก่อนดีหรือไม่”
จ้าวปินพยักหน้า จัดการส่งคนไปติดต่อกับคนที่ทิ้งไว้ในเมืองติ้งเฉิง ไปดูที่ทำการด้วยตนเองว่า โจรชั่วเซียวเหวินอวี๋ตายจริงหรือไม่
“ฝ่าบาท กระหม่อมจะรีบส่งคนไปสืบข่าว”
พวกจ้าวปินนิ่งไม่ขยับ
ทางเมืองติ้งเฉิง ทุกคนได้แต่แสร้งเล่นละคร ไม่เพียงแต่ตั้งโถงตั้งศพ แต่ยังมีโลงศพ พวกแม่ทัพเฟิงตัดสินใจส่งพระศพฝ่าบาทกลับเมืองหลวง
จ้าวปินได้ข่าวนี้มาก็ยังคงไม่อาจแน่ใจได้ รอจนผ่านไปสามวัน ก็ยังไม่มีคำสั่งเข้ายึดเมืองติ้งเฉิงกลับคืนมา
จ้าวเหลยและลูกน้องคนสนิทหลายคนต่างร้อนใจ “ฝ่าบาท คืนนี้พวกเฟิงเหยาจะแอบส่งศพเซียวเหวิน อวี๋กลับเมืองหลวง หากพวกเราไม่ถือโอกาสนี้ยึดเมืองติ้งเฉิงกลับคืนมา รอทางเมืองหลวงได้ข่าวว่าฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ เซี่ยโส่วฝู่ย่อมต้องดำเนินการหาผู้ขึ้นครองราชย์ ถึงตอนนั้นพวกเราก็เสียโอกาสแล้ว”
“ใช่ ฝ่าบาท มีราชโองการยึดเมืองติ้งเฉิงคืนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเราได้สืบข่าวมาหลายรอบแล้ว ฮ่องเต้ชั่วถูกมือสังหารลอบสังหารไปแล้วจริงๆ”
“ที่เขาถูกสังหาร บางทีอาจเพราะเขาชะล่าใจเกินไป คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะโต้กลับเร็วเช่นนี้ และไม่คิดว่าพวกเราทิ้งคนรอปฏิบัติการไว้ในเมืองติ้งเฉิง”
“ฝ่าบาท มีราชโองการเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
จ้าวปินมองคนที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น ในใจก็รู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ยังคงเป็นห่วงว่าจะมีกับดักที่เมืองติ้งเฉิง ดังนั้นจึงมีคำสั่งลงไปให้ขุนพลจ้าวเหลยผู้เป็นบุตรชายโจมตีเมืองติ้งเฉิงยามเที่ยงคืน ให้ยึดเมืองติ้งเฉิงได้ในคราเดียว
จ้าวเหลยดีใจยิ่งนัก รีบออกไปนำทัพหมื่นนายซุ่มอยู่นอกเมืองติ้งเฉิง ขอเพียงในเมืองเปิดประตูนำศพเซียวเหวินอวี๋ออกจากเมือง พวกเขาก็จะเข้าโจมตีทางประตูเหนือชิงเมืองติ้งเฉิงกลับคืนมา
คืนนี้เป็นคืนไร้ดาวและจันทรา ท้องฟ้ามืดสนิท ทั่วผืนฟ้าและปฐพีมืดมิด ราวกับสัตว์ประหลาดสีดำได้กลืนกินจิตใจผู้คน แต่พวกจ้าวเหลยกลับตื่นเต้นดีใจ คืนนี้พวกเขาก็จะยึดเมืองติ้งเฉิงกลับคืนมาได้แล้ว
ทุกคนดักซุ่มอยู่นอกประตูทางทิศเหนือ รอข่าวจากสายสืบ ขอเพียงขบวนศพเซียวเหวินอวี๋เคลื่อนออกจากประตูทิศใต้ พวกเขาก็จะโจมตีประตูทิศเหนือ การป้องกันประตูทิศเหนือยามนี้ย่อมอ่อนแอ
ยามโฉ่วสามเค่อ สายสืบกลับมารายงาน “ขุนพลทหาร ประตูทิศใต้เปิดแล้ว คนนับร้อยนำพระศพออกจากเมืองไปเงียบๆ พวกเรารีบโจมตีประตูเมืองทิศเหนือกันเถอะ”
จ้าวเหลยได้ข่าวก็ไม่คิดสงสัยอีกว่าเซียวเหวินอวี๋ตายแล้วหรือไม่ รีบโบกมือออกคำสั่งลูกน้อง “โจมตีประตูเมืองทิศเหนือ”
เงาร่างมากมายบุกเข้าไป แต่ละคนคล้ายดังฉีดเลือดไก่มา พวกเขาจะได้ยึดเมืองติ้งเฉิงกลับคืนมาแล้ว
ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางถอยแล้ว ได้แต่หวังว่าฝ่าบาทจะยึดแผ่นดินแคว้นต้าโจวมาได้ พวกเขาก็จะได้เป็นขุนนางผู้สร้างความชอบ
“บุก ยึดเมืองติ้งเฉิงกลับคืนมา”
“บุกเข้าไป ช่วยฝ่าบาทยึดเมืองติ้งเฉิงกลับคืนมา”
การป้องกันประตูเมืองทิศเหนืออ่อนแอดังคาด ไม่นานก็ถูกพวกจ้าวเหลยและลูกน้องยึดไว้ได้ ทุกคนบุกเข้าไปในเมือง
เพียงแต่พวกเขาเพิ่งก้าวเท้าแรกเข้าไป ก็มีคนล้อมพวกเขาไว้ พวกเขาถูกขนาบหน้าหลัง
จ้าวเหลยและลูกน้องเขาเข้าใจทันทีว่า พวกเขาถูกซุ่มโจมตีแล้ว
“ไม่ได้การแล้ว พวกมันซุ่มโจมตี พวกเรารีบถอยเร็ว”
น่าเสียดายคนที่ล้อมเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่อาจถอยกลับออกไปได้
เมืองสิ่วเฉิง จ้าวกั๋วกงกำลังรอข่าวจ้าวเหลยบุกตีเมือง ปรากฏกลับได้ยินลูกน้องรายงาน “ฝ่าบาท ไม่ได้การแล้ว มีคนบุกโจมตีเมืองสิ่วเฉิง”
มีคนเข้ามารายงานอีกว่า “ฝ่าบาท ไม่ได้การแล้ว ทหารเราที่ไปตีเมืองทางนั้นถูกซุ่มโจมตี ถอยกลับมาก็ไม่ได้แล้ว”
สีหน้าจ้าวปินพลันดำทะมึน หากจ้าวเหลยถอยกลับมาไม่ได้ ทหารเมืองสิ่วเฉิงก็จะตกอยู่ในอันตราย
พวกเขาตกหลุมอุบายชั่วของเจ้าโจรชั่วเซียวเหวินอวี๋แล้ว
จ้าวปินโมโหฟาดโต๊ะน้ำชาด้านข้างพังครืน ดวงตาแดงก่ำ แต่ยามนี้เขาไม่อาจสนใจอันใดได้อีก จะต้องรักษาเมืองสิ่วเฉิงไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นเขาคงตายไร้ที่ฝัง
“ออกไปดูกัน”
จ้าวปินกล่าวจบ ก็มีคำสั่งลงไปว่า “รีบนำราษฎรเมืองสิ่วเฉิงมา หากขัดขืนฆ่าได้ทันที”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
มีคนรีบออกไปดำเนินการเรื่องนี้
จ้าวปินนำคนตรงไปยังประตูตะวันตกของเมืองติ้งเฉิง หน้าประตูตะวันตกมีเสียงสังหารกันไม่หยุด มีคนกระแทกประตู มีคนส่งเสียงตะโกนสังหารไปทั่ว
จ้าวปินได้ยินเสียงก็รู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น
เขานำคนขึ้นไปบนกำแพงเมืองประตูตะวันตก เงยหน้ามองออกไปด้านนอกทีหนึ่ง เห็นเซียวเหวินอวี๋ที่นั่งอยู่บนหลังม้าสูงในชุดเกราะสีขาว เซียวเหวินอวี๋เห็นเขาก็โบกมือ สีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แสดงท่าทางเชือดคอหยอกใส่เขา
การทำเช่นนั้นถือเป็นการเยาะเย้ยดูแคลนอย่างที่สุด จ้าวปินรู้สึกเพียงแค่โลหิตฉีดพุ่งขึ้นศีรษะ สมองอื้ออึง ทว่าแววตากลับมีเปลวไฟปะทุ