ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 896 ไล่ตาม
ตอนที่ 896 ไล่ตาม
นอกประตู นายผู้เฒ่าฉินกับฮูหยินผู้เฒ่าฉินรีบพาคนเข้ามา ด้านหลังพวกเขายังมีน้องชายกับน้องสาวสามีตามมาด้วย รั้งท้ายด้วยเซี่ยซวง พอทุกคนเข้าประตูมา ก็เห็นฉินเจามู่สีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ ยืนไร้สติอยู่ในห้อง คล้ายว่ากลายเป็นท่อนไปเสียแล้ว
แม้ว่าตระกูลฉินตกต่ำลงแล้ว แต่ฉินเจามู่เฉลียวฉลาดไม่ธรรมดามาตั้งแต่เล็ก กอปรกับหน้าตาดี แต่ไรมาล้วนมาตรฐานสูง สตรีทั่วไปไม่เข้าตาเขา
ทำให้หลายปีมานี้เขายังไม่ได้หมั้นหมาย
ตั้งแต่แต่งเซี่ยหลิงหลงมา คนตระกูลฉินต่างมองออกว่า ไม่เพียงแต่เพราะฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ แต่ฉินเจามู่เองก็ชอบเซี่ยหลิงหลง ตอนนี้เซี่ยหลิงหลงไปแล้ว ฉินเจามู่คล้ายกลายเป็นน้ำค้างแข็งไร้ความรู้สึกไปแล้ว
นายผู้เฒ่าฉินกับฮูหยินผู้เฒ่าฉินเห็นแล้วก็ปวดใจยิ่งนัก นายผู้เฒ่าอดหันกลับไปตำหนิฮูหยินผู้เฒ่าฉินไม่ได้ “เจ้าจะทำร้ายบุตรชายตนเองไม่ยอมเลิกราอย่างนั้นหรือ”
น้องชายกับน้องสาวสามีเองก็โมโหถลึงตาใส่มารดาตนเอง
เซี่ยหลิงหลงชาติกำเนิดสูงส่งร่ำรวย ปกติเป็นคนใจกว้าง นางใจกว้างกับน้องชายและน้องสาวสามีมาก น้องชายและน้องสาวสามีก็ชอบนางมาก ตอนนี้พี่สะใภ้ถูกท่านแม่ทำโมโหหนีไปแล้ว ทั้งสองคนต่างก็โมโหมาก
เซี่ยซวงอยู่ด้านหลังกลุ่มคน ยามนี้กำลังดีใจมาก คิดไปเองว่าโอกาสของตนมาถึงแล้ว นางรีบก้าวเข้ามาพร้อมกับเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “พี่เจามู่ พี่สะใภ้โมโหมากเกินไปสักหน่อยแล้ว ท่านอาเพียงแค่เอ่ยเสนอกับนาง นางก็โมโหจากไป นางคิดเหยียบศีรษะตระกูลฉินเรา พี่เจามู่อย่าได้หลงกลนางอย่างเด็ดขาด นางอยากกลับบ้านก็ให้นางกลับไป พวกเราไม่ไปรับ ดูสิว่านางจะกลับมาอย่างไร”
พอฮูหยินผู้เฒ่าฉินได้ฟังเซี่ยซวง ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล อ้าปากคิดเอ่ยตอบรับ แต่พอเงยหน้าเห็นแววตาเย็นเยียบราวกับกระบี่เหมันต์ของบุตรชายก็ตกใจกลัว ไม่กล้าเอ่ยอันใด
ฉินเจามู่มีความคิดเป็นของตนเองมาตั้งแต่เล็ก แม้ให้ความเคารพนางผู้เป็นมารดามาก แต่ไม่ค่อยสนิทกับนางสักเท่าไร
แต่ไรมาเรื่องของเขานางไม่กล้าออกความเห็น หากกล้าออกความเห็นก็คงให้เขาแต่งหลานสาวตนเองไปแล้ว
ฉินเจามู่หันไปมองเซี่ยซวง เขาไม่ตำหนิเซี่ยซวง พูดไปพูดมาก็เป็นเพราะเขาเองที่ทำให้หลิงหลงผิดหวัง ไม่เพียงเพราะเซี่ยซวง ท่านแม่เขาเป็นคนเช่นไร เขาไม่รู้หรือ เขาแค่อยากจะดำรงความกตัญญูจนหลงลืมไปว่าหลิงหลงได้รับการดูแลเอาใจมาแต่เล็กจนโต เคยต้องเสียเปรียบผู้ใดเมื่อไรกัน
ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของเขาเอง
ฉินเจามู่รู้ว่าตนเองผิดไปแล้ว แต่เขาเห็นเซี่ยซวงพูดเช่นนี้ก็รู้สึกรังเกียจอย่างมาก
เขามองนางด้วยสีหน้าเย็นเยียบ ตวาดดุดันว่า “ไสหัวไป วันหน้าไปให้ห่างจากข้า หากให้ข้าเห็นเจ้าเข้าใกล้ข้า อย่าตำหนิที่ข้าจะให้คนไล่เจ้าออกไป”
เซี่ยซวงนิ่งอึ้งไปทันที นางไม่เคยได้เห็นแววตาพี่ชายราวกับน้ำค้างเหมันต์คมกริบเช่นนี้มาก่อน ความไร้น้ำใจเย็นชาของเขาเช่นนี้ ไม่ไว้หน้านางแม้แต่น้อย
“พี่เจามู่”
เซี่ยซวงกลัวจนแตกตื่นตกใจเอ่ยเรียกซ้ำ ฉินเจามู่เอ่ยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “ในฐานะหญิงหม้าย ไม่อยู่บ้านสามีดีๆ แต่แล่นมากระโดดโลดเต้นบ้านผู้อื่น ไม่รู้จักยางอาย พวกเจ้า มาพานางส่งกลับไป วันหน้าไม่อนุญาตให้เข้าจวนตระกูลฉินข้าอีก”
ฉินเจามู่กล่าวจบก็ไม่คิดสนใจเรื่องเหล่านี้อีก ตอนนี้เขาคิดเพียงแค่ไปรั้งเซี่ยหลิงหลงไว้
บางทีคนตระกูลฉินคิดว่าเซี่ยหลิงหลงไม่ได้เป็นที่โปรดปราน แต่ในความเป็นจริงในฐานะสามีนาง เขารู้ดี
นางเป็นบุตรีคนเล็กสุดของเซี่ยโส่วฝู่กับฮูหยินโจวกั๋ว มีพี่ชายหลายคนคอยตามใจ หากพวกเขารู้ว่าตอนอยู่ตระกูลฉิน นางโดนรังแก ก็อาจกลืนกินตระกูลฉินเขาทิ้งก็เป็นได้
ฉินเจามู่ไม่กลัวพวกเขากลืนกินตระกูลฉิน เขากลัวพวกเขาขัดขวางไม่ให้เข้าใกล้เซี่ยหลิงหลงมากกว่า
ฉินเจามู่ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว รีบก้าวเท้าเดินไปทันที ทุกคนด้านหลังมองตามหลังเขาที่จากไปด้วยอาการไร้สติ แต่ละคนล้วนปวดใจ
ตระกูลฉินมีบุตรชายมากพรสวรรค์เช่นนี้ ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เขา ฉินเจามู่ดีกับพวกเขามาก แต่ตอนนี้พวกเขากลับทำให้เขาต้องเป็นเช่นนี้
นายผู้เฒ่าฉินโมโหมาก หันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าฉินตวาดว่า “หากสะใภ้หย่ากับบุตรชายเราจริง ข้าก็จะหย่าเจ้า เจ้าไม่ต้องอยู่ตระกูลฉินอีกต่อไปแล้ว เจ้าเป็นคนบาปของตระกูลฉินข้า”
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินนิ่งอึ้งไปทันที หย่านาง… หย่านาง?
เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร นางเพียงแค่ทำให้สะใภ้นางลำบากใจบ้างเท่านั้น นางไม่ได้ทรมานอีกฝ่ายแม้แต่น้อย แม่สามีอื่นล้วนทรมานสะใภ้ นางไม่ได้ทำเช่นนั้น ปรากฏว่าเรื่องเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร
นาง? ฮูหยินผู้เฒ่าฉินคิดอยากร้องไห้ นายผู้เฒ่าฉินกลับตวาดดังว่า “ยังไม่รีบตามไปรั้งสะใภ้ไว้ แล้วไปขอขมาสะใภ้อีก”
นายผู้เฒ่าฉินนึกเสียใจภายหลังอย่างมากที่แต่งฮูหยินที่ไม่เอาไหนเช่นนี้มาได้ แม้แต่บุตรชายบุตรสาวคนเล็กนางเองก็ไม่ได้เรื่อง มีเพียงเจามู่ที่ได้รับการถ่ายทอดสายเลือดตระกูลฉิน แต่เล็กก็เฉลียวฉลาดไม่ธรรมดา นำพาตระกูลฉินฟื้นคืน ยังแต่งกับภรรยาที่เป็นน้องสาวฝ่าบาท
ควรรู้ว่าสะใภ้เช่นนี้มีค่าดังทองคำ ขอเพียงเจามู่มีภรรยาผู้นี้ วันหน้าตระกูลฉินก็จะก้าวขึ้นไป ปรากฏว่านางถึงกับทำให้บุตรชายกับสะใภ้แตกหักกัน
นายผู้เฒ่าเสียใจอย่างมาก แต่เขาจะทำอันใดได้ บรรพชนตระกูลฉินรุ่นปู่ทำความผิดถูกลงโทษมาฉางหนิง มาถึงรุ่นพวกเขา แม้แต่ข้าวก็ไม่พอกิน เขาจึงได้แต่แต่งหญิงบ้านนอกเช่นนี้มาเป็นภรรยา
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินเองไม่กล้าเอ่ยอันใด ยามนี้สมองสับสนไปหมด ได้แต่ตามนายผู้เฒ่าออกไป
ฉินเจามู่ขี่ม้าเร่งตามไปท่าเรือ หวังว่าจะห้ามเซี่ยหลิงหลงได้ทัน
ฉางหนิงมีเส้นทางน้ำไปถึงเมืองหลวง หากไม่เหนือความคาดหมายเซี่ยหลิงหลงน่าจะเข้าเมืองหลวงทางเรือ ดังนั้นฉินเจามู่คิดไปขวางนาง แต่เขารู้สึกว่าที่ท่าเรือไม่มีทางมีเรือจอดรอ หลิงหลงจะต้องยังไม่ไป
น่าเสียดายเขาเดาผิด เซี่ยหลิงหลงไม่เสียดายเงินทอง ใช้เงินก้อนใหญ่เช่าเรือลำใหญ่
ยามนี้ทุกคนขนของขึ้นเรือใหญ่กำลังจะออกเดินทาง ฉินเจามู่มาถึงฝั่ง เรือก็ออกไปได้ระยะทางหนึ่งแล้ว เซี่ยหลิงหลงสวมเสื้อคลุมกันลมสีม่วงอ่อนลายเมฆายืนอยู่หัวเรือ ร่างนางอรชรท่วงท่าอ่อนหวาน ยืนนิ่งสงบอยู่หัวเรือคล้ายดังภาพวาดงดงามภาพหนึ่ง
ฉินเจามู่เห็นนาง แววตาก็อดส่องประกายร้อนใจไม่ได้ ตะโกนเรียกเสียงดัง “หลิงหลง อย่าไป เจ้ารีบกลับมา มีอันใดพวกเราคุยกันดีๆ”
เซี่ยหลิงหลงได้ยินเสียงฉินเจามู่ก็หันมามองเขา น่าเสียดายนางไม่ได้ตอบเขา แต่ค่อยๆ กระชับเสื้อคลุมกันลมด้วยท่วงท่างามสง่า หันหลังกลับเข้าไปในห้องเรือ คล้ายไม่เห็นฉินเจามู่
ฉินเจามู่เห็นนางตัดสินใจจากไปแล้ว ในใจก็คล้ายดังถูกกรีดด้วยของมีคม ปวดใจแทบสิ้นลมหายใจ
เขาร้อนใจวิ่งเข้าไปใกล้เรือที่สุด วิ่งไปก็ตะโกนไปว่า “ข้าต้องการเรือ ข้าจะลงเรือ”
ที่ท่าเรือมีคนไม่น้อยจำใต้เท้าจือฝู่ได้ ไหนเลยจะกล้าห้าม แต่ยามนี้เรือที่ท่าเรือล้วนเป็นเรือเล็ก ไม่มีทางไล่ตามเรือใหญ่ของเซี่ยหลิงหลงทัน
ฉินเจามู่ขึ้นเรือจึงได้พบปัญหานี้ เขานิ่งเงียบทันที คล้ายถูกผู้ใดบีบคอเอาไว้ ใบหน้านิ่งสุขุมดังปกติกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายดำทะมึน ลูกน้องด้านหลังไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยอันใด
อย่าเห็นว่าใต้เท้าจือฝู่ปกติพูดจาง่าย ท่าทางสุขุมอ่อนโยน แต่ในความเป็นจริงลูกน้องล้วนรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่พูดด้วยได้ง่าย และไม่ค่อยชอบเข้าใกล้สนิทสนมกับผู้ใด เขาตอนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ