ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 897 ไม่เหมือน
ตอนที่ 897 ไม่เหมือน
ฉินเจามู่ตั้งสติ ก้าวขึ้นฝั่งสั่งลูกน้องรีบไปหาเรือ ไม่ว่าไล่ตามหลิงหลงทันหรือไม่ เขาก็ต้องตามนางเข้าเมืองหลวง ไม่เช่นนั้นหลิงหลงคงไม่กลับมา
“ไปเช่าเรือใหญ่ รีบไป”
“ขอรับ ใต้เท้า”
ฉินเจามู่ขึ้นฝั่งไปรอ นายผู้เฒ่าฉินกับฮูหยินผู้เฒ่าฉินรีบตามมาทันที นายผู้เฒ่ามาถึงก็ถามอย่างร้อนใจ “สะใภ้ล่ะ นางล่ะ”
ฉินเจามู่ตอบเสียงเข้ม “นางไปแล้ว”
นายผู้เฒ่าตกใจ ถามอย่างร้อนใจ “ตอนนี้ทำอย่างไรดี”
ฉินเจามู่ไม่เอ่ยอันใด เงยหน้ามองไปยังมารดาตนเอง นี่คือหญิงบ้านนอก มีหน้ามีตาได้เพราะบุตรชาย ความจริงหลิงหลงตอนมาตระกูลฉินแรกๆ ดีกับนางมาก ให้ความเคารพนางมาก แต่ไม่นาน นางถึงขั้นมั่นใจในตนเองขึ้นมา เห็นอยู่ว่าไม่ถนัดปกครองดูแลจวน แต่กลับลุกขึ้นมาชิงอำนาจลูกสะใภ้
เซี่ยหลิงหลงเองก็ดีใจที่จะได้อยู่ว่าง จึงมอบงานในจวนให้นางดูแล จากนั้นพอหลิงหลงไม่อาจตั้งครรภ์ นางก็เริ่มหาเรื่องสะใภ้ขึ้นมา
ส่วนเขาทำอันใด เพียงแต่คิดว่ามารดาอายุมากแล้ว ให้หลิงหลงอดทนสักหน่อย แต่เขากลับลืมไปว่าในฐานะบุตรีโส่วฝู่ น้องสาวฝ่าบาท นางจำเป็นต้องอดทนกับมารดาเขาหรือ แต่เล็กจนโตนางไม่เคยต้องอดทน แม้เป็นมารดาเขาก็ตาม มองจากบางมุมแล้ว นางยังเป็นถึงท่านหญิง มารดาเขาต้องให้ความเคารพนางด้วยซ้ำไป
หากมารดาเป็นฮูหยินที่ได้รับการอบรมมาดี นางกับหลิงหลงน่าจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาก น่าเสียดายนางเป็นหญิงบ้านนอกกิริยาหยาบ ไม่รู้หนังสือ ยังคิดว่าตนเองเก่งกาจ
ฉินเจามู่ยิ่งคิดก็ยิ่งคับแค้นใจหนักขึ้น แต่เขาไม่ได้เอ่ยอันใด คนที่ควรตำหนิก็คือเขาเอง ไม่ควรตำหนิมารดาเขา
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินกลับถูกสายตาฉินเจามู่ทำเอาตกใจ สายตาบุตรชายน่ากลัวจริงๆ เขาคงไม่ได้โมโหมากจนให้คนลงมือกับนางกระมัง
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินกำลังคิดอยู่ ฉินเจามู่ก็เอ่ยขึ้นว่า “หากหลิงหลงกลับมา ข้าไม่อยากให้วันหน้ามีผู้ใดทำให้นางไม่พอใจอีก ผู้ใดก็ไม่ได้ วันหน้านางก็คือนายหญิงปกครองตระกูลฉิน หากผู้ใดทำให้นางไม่พอใจก็กลับไปบ้านเดิมที่บ้านนอกเสีย”
บ้านตระกูลฉินเป็นบ้านเขากับนาง
นายผู้เฒ่าฉินได้ฟังก็รีบพยักหน้าเห็นด้วย ฮูหยินผู้เฒ่าฉินอ้าปากคิดเอ่ย แต่พอเห็นรัศมีเย็นเยียบของฉินเจามู่ ก็ไม่กล้าเอ่ย
น้องชายกับน้องสาวสามีไหนเลยจะกล่าเอ่ยอันใด
ที่นี่คนตระกูลฉินกำลังพูดจา เซี่ยหลิงหลงเดินทางออกจากท่าเรือไปได้ไม่ไกลนัก กำลังคุยกับหลิ่วฝู
“คุณหนู ท่านตัดสินใจหย่ากับท่านเขยจริงหรือเจ้าคะ”
หลิ่วฝูเป็นบ่าวที่ลู่เจียวให้มารับใช้เซี่ยหลิงหลง เซี่ยหลิงหลงแต่งออกไป นางกับท่านพี่นางก็ตามเซี่ยหลิงหลงมาฉางหนิงด้วย ยามนี้จึงติดตามเซี่ยหลิงหลงกลับเมืองหลวงด้วยกัน
เริ่มแรกคุณหนูพาพวกนางกลับเมืองหลวง พวกนางรู้สึกว่าสะใจและดีใจมาก แต่ตอนนี้พอคิดถึงว่าคุณหนูจะหย่ากับท่านเขย หลิ่วฝูก็เริ่มไม่สบายใจ
ความจริงท่านเขยดีกับคุณหนูมาก รักคุณหนูมาก มีแค่ยามเผชิญเรื่องฮูหยินผู้เฒ่าฉินเท่านั้นที่จะแยกแยะไม่ได้ มักจะเอาแต่ให้คุณหนูนางยอมเสียเปรียบ ตอนนี้ถึงกับยอมตกลงให้น้องสาวเขามาอาศัยชื่ออนุเขาเพื่ออยู่ตระกูลฉินต่อไป หากเป็นเช่นนี้ต่อไปวันหน้าก็จะยิ่งเลวร้ายลง
แน่นอนว่านอกจากเรื่องเหล่านี้แล้ว เรื่องอื่นๆ เขาก็ดีจนไม่อาจบรรยาย หน้าตาดี ดีกับคุณหนูมาก รู้ว่าคุณหนูชอบกินเต้าฮวยร้านหลี่จี้ ขากลับจวนก็มักจะเดินทางอ้อมไปซื้อกลับมาให้คุณหนู พาคุณหนูออกไปเที่ยวทุกสองสามวัน สรุปหากไม่ใช่เรื่องที่ท่านเขยแยกแยะไม่ได้ เขาก็ดีมากจริงๆ
เซี่ยหลิงหลงได้ฟังหลิ่วฝูก็เลิกคิ้วกล่าวว่า “จะว่าไป ข้าก็แค่ต้องการจัดระเบียบพวกเขา หากจัดระเบียบได้ดี ก็ไม่หย่า หากไม่ได้ก็หย่า”
สรุป นางไม่มีทางยอมฝืนทนกล้ำกลืนเพื่อผู้ใด บิดามารดาเลี้ยงดูนางอย่างดีมาจนเติบใหญ่ เพราะตอนเด็กมารดาเข้มงวดกับนาง ตอนนี้ยังเอาแต่ตำหนิตนเอง หากพวกเขารู้ว่านางอยู่ตระกูลฉินต้องทนกล้ำกลืนก็คงปวดใจอย่างที่สุด
ดังนั้นเพื่อคนที่รักนาง นางต้องมีชีวิตที่ดีสักหน่อย มีเพียงนางมีชีวิตที่เบิกบานใจ มีความสุข พวกเขาจึงจะเบิกบานใจได้แท้จริง
หลิ่วฝูได้ฟังเซี่ยหลิงหลงก็รับคำกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าท่านเขยน่าจะได้รับบทเรียนแล้ว วันหน้าไม่กล้าให้สตรีใดมาอาศัยชื่อว่าเป็นอนุเขาอีกแล้ว เชอะ ตระกูลเซี่ยเราไม่มีเรื่องรับอนุใดมาก่อน ท่านเขยช่างกล้านัก”
เอ่ยถึงเรื่องนี้หลิ่วฝูก็โมโหอีกแล้ว มองเซี่ยหลิงหลงกล่าวว่า “คุณหนู ท่านจะต้องทำให้ท่านเขยจดจำเรื่องนี้ไว้ให้นานๆ อย่าได้ปล่อยไปง่ายๆ อย่างเด็ดขาด ต้องให้เขาได้ลิ้มรสความทุกข์ วันหน้าคิดขึ้นมาจะได้นึกกลัว”
เซี่ยหลิงหลงได้ยินหลิ่วฝูก็อดขำไม่ได้ “ได้ ทำตามเจ้าว่า”
ความจริงเซี่ยหลิงหลงก็ไม่ได้โมโหเซี่ยซวงที่จะอาศัยชื่ออนุฉินเจามู่จริงๆ หากนางเอ่ยคัดค้าน ฉินเจามู่ก็คงไม่ยอมให้เซี่ยซวงอาศัยชื่อว่าเป็นอนุฉินเจามู่
นางโมโหที่เขามักเอาแต่ให้นางอดทน บางทียืนในมุมหนึ่ง นางในฐานะสะใภ้ตระกูลฉิน ท่านแม่เขาก็คือท่านแม่เขา นางในฐานะผู้น้อยก็ควรยอมอดทนต่อมารดาเขา แต่ขอโทษ นางทำไม่ได้ นางเป็นที่รักของบิดามารดาจนเติบใหญ่ ปรากฏมาถึงบ้านสามีถึงกับต้องอยู่อย่างกล้ำกลืนฝืนทนเพราะแม่สามี ถือสิทธิ์อันใดกัน
ที่นางทำได้ก็คือ หากแม่สามีรู้เหตุผล นางให้ความเคารพอีกฝ่าย ทั้งคู่ให้ความเคารพกันและกัน
เรื่องนี้ของฉินเจามู่ทำให้นางผิดหวังมาก เขาเพียงแต่คิดว่าตนเองเป็นผู้น้อยก็ลืมไปว่านางเป็นบุตรีที่ตระกูลเซี่ยเลี้ยงดูอย่างดีแต่เล็ก
นางจดจำได้เสมอว่าท่านแม่นางบอกว่า พวกเขาพยายามเช่นนี้ก็เพื่อให้นางมีชีวิตที่เบิกบานใจ หากไม่ได้ก็กลับบ้าน ไปใช้ชีวิตให้เบิกบานใจ
ดังนั้นฉินเจามู่ เจ้าอย่าได้ทำให้ข้าผิดหวัง หากทำให้ข้าผิดหวัง พวกเราก็คงต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันแล้ว
สิบวันถัดมา เรือใหญ่ฉินเจามู่ก็ไล่ตามเรือใหญ่เซี่ยหลิงหลงทัน แต่ยามนี้ห่างจากเมืองหลวงไม่ไกลแล้ว
ฉางหนิงไม่นับว่าไกลจากเมืองหลวงนัก ขอเพียงเดินทางครึ่งเดือนก็จะถึงเมืองหลวง
เซี่ยหลิงหลงไม่อยากพบกับฉินเจามู่เร็วเกินไป ดังนั้นจึงสั่งการให้คนเรือเร่งเดินทางแม้ยามค่ำคืน เพราะนางมีป้ายคำสั่ง ทหารลาดตระเวนเห็นป้ายคำสั่งนางก็ไม่กล้าล่วงเกิน รีบปล่อยเรือพวกนางผ่านไป ทำให้เรือฉินเจามู่เสียเวลาไปสิบกว่าวันจึงจะไล่ตามเรือใหญ่เซี่ยหลิงหลงทัน
คืนนี้ เรือใหญ่จอดอยู่ที่ท่าเรือยงโจว เรือฉินเจามู่เทียบท่าไม่ไกลนักพอดี
เขานำคนมาพบเซี่ยหลิงหลง เซี่ยหลิงหลงไม่ได้ปฏิเสธ สั่งการให้คนไปพาเขาขึ้นเรือ
สองสามีภรรยาพบหน้ากัน พอสบตากันแล้ว เซี่ยหลิงหลงกลับมีท่าทางเย็นชาอย่างที่สุด ในใจฉินเจามู่ปวดใจไม่อาจบรรยาย แววตาดำขลับจ้องมองเซี่ยหลิงหลง
“หลิงหลง ทุกอย่างเป็นความผิดข้าเอง เจ้าอย่าได้โมโหได้หรือไม่”
เซี่ยหลิงหลงเงยหน้ามองฉินเจามู่ ใต้เท้าฉินที่แต่ไรมามีภาพลักษณ์สะอาดสอ้านเรียบร้อย ยามนี้กลับเสื้อผ้ายับย่น สีหน้าเต็มไปด้วยความอิดโรย ท่าทางน่าสงสารยิ่ง
แต่เซี่ยหลิงหลงไม่อาจให้อภัยเขาเพราะภาพนี้ หากนางไม่สั่งสอนเขาให้หนักสักครั้ง เขาก็จะไม่จดจำ ผู้ชายไม่อาจดีกับเขามากเกินไป ดีเกินไปทำให้เขาลืมจุดยืนตนเอง
เซี่ยหลิงหลงคิดไปก็กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบไปว่า “ใต้เท้าฉิน ข้าไม่ได้โมโห เพียงแต่จุดยืนต่างกันเท่านั้น ท่านต้องการแต่งกับภรรยาที่จะช่วยท่านแสดงความกตัญญูบิดามารดา ส่วนข้า ไม่อาจเป็นภรรยาเช่นนี้ได้ ข้าเป็นบุตรีที่ตระกูลเซี่ยเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ แต่เล็กจนโตท่านพ่อข้าก็รักข้ามาก สอนข้าให้เรียกร้องจากผู้ชายสูงมาก เช่นว่าเขาจะต้องเอาอกเอาใจข้า ไม่ให้ข้าทำในสิ่งที่ข้าไม่พึงใจ ไม่ทำให้ข้าไม่เบิกบานใจ ไม่อาจให้ข้าต้องอดทน แต่เห็นชัดว่าท่านไม่ใช่คนเช่นนี้”
กล่าวตามตรงวาจาเซี่ยหลิงหลงเหมือนเปลี่ยนโลกทัศน์การมองโลกของฉินเจามู่ เขาไม่เคยได้ยินวาจาเช่นนี้ พอได้ฟังเซี่ยหลิงหลงก็ตกใจไร้ปฏิกิริยา