ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 899 ไม่สบายใจ
ตอนที่ 899 ไม่สบายใจ
นางกล่าวจบก็ยกมือโบก ฉินเจามู่แข็งทื่อราวกับก้อนหิน เขาคิดไม่ถึงว่าเซี่ยหลิงหลงไม่ใช่ไม่อาจตั้งครรภ์ แต่ถึงกับเพราะไม่อยากตั้งครรภ์
ในเวลานี้ฉินเจามู่คิดถึงมารดาเซี่ยหลิงหลงผู้นั้น นางเป็นหมอเทวดาเลื่องชื่อ จะรักษาบุตรสาวไม่ได้ได้อย่างไร
อีกอย่างเซี่ยหลิงหลงเองก็มีวิชาการแพทย์ดีมาก นางตั้งสำนักยาหลวงที่ฉางหนิง เป็นที่รักใคร่ของชาวฉางหนิงอย่างมาก นางเช่นนี้จะตั้งครรภ์ไม่ได้ได้อย่างไรกัน
เขาทำพลาดไปเองหรือ เขาเกือบมีบุตรของพวกเขาสองคนแล้ว ปรากฏกลับถูกเขาทำลายลงด้วยมือตนเอง
ในเวลานี้ ในใจฉินเจามู่รู้สึกผิดอย่างที่สุด เลือดลมตีขึ้น ปวดศีรษะหน้ามืด ยามจะก้าวเท้า เท้าก็หนักราวกับพันชั่ง
อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาก็จะมีบุตรของเขาดับนางแล้ว มีมารดาเช่นหลิงหลงอบรมบุตรเขา บุตรเขาก็จะยอดเยี่ยมเหมือนบรรดาลุงของพวกเขา ทุกอย่างล้วนถูกทำลายลงด้วยมือของเขาเอง
ในที่สุดฉินเจามู่ก็ทนรับต่อไปไม่ไหว หน้ามืดเป็นลมหมดสติไปทันที
เหวินจู๋กับเสวี่ยจู๋อดส่งเสียงเรียกไม่ได้ “คุณหนู ท่านเขยสลบไปแล้ว”
เซี่ยหลิงหลงได้ยินเสียงเรียกด้านนอก ก็ลุกขึ้นเดินออกไป นางรีบเข้าไปประคองฉินเจามู่ ตรวจดูทีหนึ่ง สุดท้ายแน่ใจว่าเขาไม่เป็นอันใด เพียงแต่เลือดลมตีกลับจนสลบไปเท่านั้น
เซี่ยหลิงหลงลุกขึ้นบอกให้ลูกน้องที่มากับฉินเจามู่ “พาใต้เท้าพวกเจ้ากลับไป”
หานซานลูกน้องฉินเจามู่อดเอ่ยอย่างระมัดระวังไม่ได้ “ฮูหยิน ให้อภัยใต้เท้าเถอะนะ ใต้เท้าสำนึกผิดแล้ว”
เซี่ยหลิงหลงยิ้มมองหานซาน “เขาสำนึกแล้ว ข้าก็ต้องกลืนความกล้ำกลืนที่ข้าเคยได้รับมาหรือ”
โดยเฉพาะสุดท้าย แม้แต่เรื่องรับอนุก็เห็นด้วย เป็นสิ่งที่ทำให้นางไม่มีทางยอมรับได้
“พาเขากลับไปเถอะ”
กล่าวจบนางก็หันหลังเข้าห้องไป ไม่มองนายบ่าวด้านหลังแม้สักนิด
หานซานรู้สึกแตกตื่นตกใจไม่อาจบรรยาย ดูท่าทางฮูหยินคิดหย่าจริงๆ แล้ว แต่ใต้เท้ารักฮูหยินมา หากเข้าเมืองหลวงไปแล้ว เกรงว่าก็คงต้องหย่า ใต้เท้าจะทำเช่นไร
หานซานคิดถึงเรื่องนี้ก็อดคับแค้นใจฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ น้องสาวลูกพี่ลูกน้องอันใด เมื่อก่อนเอาแต่จ้องมองใต้เท้า แต่งงานออกเรือนไปแล้วก็ยังไม่ยอมปล่อยใต้เท้า ยังจะมาทำร้ายใต้เท้าอีก
จากนี้ไปฉินเจามู่คิดอยากพบเซี่ยหลิงหลงก็คงไม่ได้แล้ว
หากกล่าวว่าเดิมเขายังคิดว่าเซี่ยหลิงหลงโมโห คิดให้เขาขอโทษและรับรองว่าวันหน้าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้อีก แต่ตอนนี้เขานับว่าเข้าใจแล้วว่าเซี่ยหลิงหลงคิดหย่าจากเขาจริงๆ และท่าทีเด็ดเดี่ยวมาก
เรื่องนี้ทำให้ฉินเจามู่สะเทือนใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมลงไปเป็นกอง ตอนนี้ที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็คือฝ่าบาทรู้เรื่องนี้ หากฝ่าบาทรู้ย่อมต้องมีราชโองการให้เซี่ยหลิงหลงหย่ากับเขา หากฝ่าบาทมีราชโองการให้หย่า เซี่ยหลิงหลงกับเขาก็ไม่มีทางจะได้อยู่ร่วมกันอีกแล้ว
พอคิดถึงเรื่องนี้ ฉินเจามู่ก็รู้สึกว่าชีวิตตนเองมืดมิดแล้ว
ยี่สิบปีที่ผ่านมา เขาพยายามมาโดยตลอดเพื่อตระกูลฉิน ชีวิตเขาว่างเปล่าไร้สีสัน สีสันในชีวิตเขาก็คือสีสันที่เซี่ยหลิงหลงมอบให้ แต่ตอนนี้นางจะยึดกลับคืนไปแล้ว
เรือใหญ่สองลำแล่นตามกันเข้าเมืองหลวง พอเทียบท่า เดิมฉินเจามู่คิดถือโอกาสสุดท้ายนี้ขอให้เซี่ยหลิงหลงให้โอกาสเขาสักครั้ง
ปรากฏเขาไม่ทันได้ลงเรือก็เห็นที่ท่าเรือมีคนมารอรับเซี่ยหลิงหลง แม้แต่แรงจะลงเรือก็ไม่มี
พี่ใหญ่ พี่สามและพี่ห้าของหลิงหลงมากันครบ นำคนมารอรับอีกหนึ่งขบวน
ฉินเจามู่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากเขาลงจากเรือไปตอนนั้น อีกฝ่ายคงได้จับเขาลอกหนังทิ้งเป็นแน่
แต่เขาไม่กลัวถูกพวกเขาลอกหนัง เขากลัวแค่พวกเขาจะจับเขาหย่ากับเซี่ยหลิงหลง ดังนั้นเขาไม่กล้าออกไป
ณ ท่าเรือ เซี่ยเหวินเหยา เซี่ยเหวินเซ่ากับเซี่ยอู่เป่า ต่างกำลังรอเซี่ยหลิงหลง
เซี่ยหลิงหลงลงจากเรือ ทุกคนก็เข้ามารอรับ พวกเขาได้ข่าว รู้ว่าน้องสาวโดนบ้านสามีรังแก ดังนั้นพี่ชายทุกคนต่างนัดกันมารอรับนางด้วยกัน
“น้องพี่ เจ้าผอมลงหรือ”
“ฉินเจามู่สมควรตาย ดีที่สุดอย่าให้ข้าเห็นเขา ถ้าเห็นเขา ข้าจะฟาดเขาให้ตาย”
อู่เป่าสีหน้าเคร่งเครียด “คนผู้นี้ไม่เอาก็ดี น้องพี่ วันหน้าไม่ต้องไปฉางหนิงแล้ว”
ตอนนี้ฮู่เป่าเป็นนายกองสำนักฮั่นหลินย่วน มีบารมีขุนนางอยู่บ้าง เห็นน้องสาวฝาแฝดผอมลงก็โมโหไม่อาจบรรยาย
เซี่ยหลิงหลงได้รับความรักจากคนตระกูลเซี่ยมาตลอด แต่ต้องไปทนรองรับอารมณ์ผู้อื่นที่บ้านสามี นางย่อมต้องผ่ายผอมลง แต่ยังคงมีชีวิตชีวาดีมาก โดยเฉพาะยามได้เห็นพี่ชายห่วงใยนาง นางอดหัวเราะไม่ได้
“พี่ใหญ่ พี่สาม พี่ห้า ไม่ได้มากมายเช่นนั้น พวกพี่อย่าได้โมโหไป”
นางกลับเมืองหลวงก็เพื่อให้บรรดาพี่ชายช่วยนางออกหน้า หากนางมีเรื่องไม่พูด วันหน้าบรรดาพี่ชายรู้ ต้องตำหนินางแน่ และก็คงคิดว่าพวกนางพี่น้องห่างเหินกันแล้ว ดังนั้นครั้งนี้นางจึงได้กลับเมืองหลวงอย่างเปิดเผย ประการแรก เพื่อให้ฉินเจามู่รู้ว่าบุตรีตระกูลเซี่ยไม่อาจรังแกกันได้ง่ายๆ ประการที่สอง ให้บรรดาพี่ชายได้มีโอกาสแสดงความสามารถ รู้ว่าน้องสาวยังคงไม่เหินห่างจากพวกเขา โดนรังแกก็ยังมาหาพวกเขา
เซี่ยเหวินเหยามองเซี่ยหลิงหลง “กลับมาก็ดีแล้ว พี่ใหญ่ไม่ปล่อยให้เจ้าต้องโดนรังแกฝ่ายเดียวแน่ ตระกูลฉินมันตัวอันใด ถึงกับกล้าให้เจ้าต้องทนรองรับอารมณ์คนตระกูลพวกเขา แต่งเจ้าไปนับว่าควรจุดธูปบูชาขอบคุณบรรพชนแล้ว ปรากฏยังไม่รู้จักทะนุถนอม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ให้เขาโดนเสียบ้าง”
พี่สามพยักหน้าเห็นด้วย “น้องสาวเราอยู่ตระกูลฉินไม่เบิกบานใจก็กลับบ้าน หย่ากับฉินเจามู่ก็แล้วกัน ”
อู่เป่าขมวดคิ้วเอ่ยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “แค่หย่าง่ายเกินไป จะต้องให้เจ้าคนแซ่ฉินชั่วชีวิตนี้อยู่ฉางหนิงไปก็แล้วกัน”
เซี่ยหลิงหลงอดหันไปมองอู่เป่าไม่ได้ พี่ห้ายังคงเหี้ยมดังเดิม
อู่เป่ามองน้องสาวกล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “น้องพี่ รอไว้เจ้าหย่าแล้ว ก็ไปอยู่กับพี่ห้า พี่สะใภ้ห้าเจ้าตั้งครรภ์ ตอนนี้จะคลอดแล้ว หากเจ้าชอบก็ยกให้เป็นบุตรในนามของเจ้า วันหน้าเจ้าอยู่กับพี่ห้า”
ต้าเป่าไม่พอใจเอ่ยว่า “น้องห้า หลิงหลงควรอยู่กับพี่ใหญ่ จะไปอยู่กับน้องห้าได้อย่างไร”
ซานเป่าเอ่ยว่า “น้องชอบวิชาการแพทย์พอดีเหมือนกับข้า วันหน้าพวกเราพี่น้องอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกันพอดี”
เซี่ยหลิงหลงมองพี่ชายทุกคนพลางแอบครุ่นคิด ครั้งนี้นางเล่นใหญ่เกินไปหรือไม่ ความจริงนางก็แค่คิดสั่งสอนฉินเจามู่ให้หนักสักครั้งเท่านั้น ไม่ได้คิดจะหย่าจริงๆ แม้ตระกูลฉินไม่ดี แต่อย่างไรก็ไม่ใช่พวกจิตใจชั่วร้ายดังหมาป่า หญิงที่หย่าจะมีชื่อเสียงไม่ดี หากตระกูลเซี่ยมีบุตรสาวหย่าร้าง ย่อมต้องทำให้พวกเขาแปดเปื้อน ดังนั้นนางไม่ได้คิดหย่าจริงๆ
เซี่ยหลิงหลงกำลังคิดอยู่ ต้าเป่าโบกมือเอ่ยขึ้นว่า “พวกพี่สะใภ้เจ้าเก็บกวาดเรือนเดิมของเจ้าไว้รอรับแล้ว ที่บ้านเตรียมของที่เจ้าชอบกินไว้รอแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”
เซี่ยหลิงหลงไม่ได้ปฏิเสธ ตามรถม้าตระกูลเซี่ยที่มารับเดินทางกลับบ้านตระกูลเซี่ยไป
สีหน้าฉินเจามู่ราวกับไร้ชีวิต รอพวกเซี่ยหลิงหลงไปกันแล้ว เขาก็รีบลงจากเรือ หานซานข้างๆ มองใต้เท้าตนเองอย่างเป็นห่วง
“ใต้เท้า ตอนนี้พวกเราจะไปจวนตระกูลเซี่ยหรือขอรับ”
เขาเป็นห่วงว่าหากใต้เท้าไปตระกูลเซี่ยจะโดนลงไม้ลงมือ ใต้เท้าพวกนั้นดูไม่พอใจมาก
หานซานคิดถึงเรื่องนี้ก็โมโหตำหนิฮูหยินผู้เฒ่า ไม่มีอันใด อยู่ดีๆ มาก่อเรื่องพวกนี้ทำไมกัน นี่ไม่ใช่ทำร้ายบุตรชายตนเองหรือ
ฉินเจามู่ฝีเท้าอ่อนแรง เอ่ยขึ้นว่า “พวกเราเข้าวัง ไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท”
ตอนนี้มีเพียงขอให้ฝ่าบาททรงยับยั้งเรื่องนี้แล้ว แม้ว่าฝ่าบาทอาจจะไม่ทรงยับยั้ง แต่ความคิดที่เขาคิดได้ตอนนี้มีเพียงไปขอร้องฝ่าบาทอย่าได้ทรงมีราชโองการให้พวกเขาหย่ากัน ขอเพียงฝ่าบาทไม่มีราชโองการ เขาก็ค่อยหาโอกาสรั้งใจหลิงหลงคืนมา
หานซานจะกล่าวอันใดได้ ได้แต่ตามฉินเจามู่ไปขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท