ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 901 เป้าหมาย
ตอนที่ 901 เป้าหมาย
ตกค่ำ เซียวเหวินอวี๋เสด็จมาตระกูลเซี่ยพร้อมด้วยฮองเฮา พี่น้องตระกูลเซี่ยเห็นฉินเจามู่ก็พลันเปล่งประกายสีหน้าเยียบเย็น เซี่ยเหวินเหยามองเซียวเหวินอวี๋อย่างไม่พอใจ เอ่ยขึ้นว่า “ฝ่าบาท ทรงให้เขามาตระกูลเซี่ยทำไมกัน น่าสะอิดสะเอียน ให้เขาไสหัวไป”
เซี่ยเหวินเซ่าเอ่ยต่อทันที “ฝ่าบาท ทรงมีราชโองการให้พวกเขาหย่ากันเถอะ วันหน้าหลิงหลงอยู่กับข้า”
อู่เป่าได้ฟังก็ถลึงตาใส่พี่สามไม่พอใจ “เหตุใดไปอยู่กับพี่สาม นางเป็นฝาแฝดข้า ตามหลักก็ควรไปอยู่กับข้า ภรรยาข้าจะคลอดแล้ว บุตรที่คลอดมาข้าตัดสินใจจะให้ลงชื่อเป็นบุตรนาง วันหน้าดูแลนางในบั้นปลายชีวิต”
ฉินเจามู่สีหน้าซีดเผือด เขานับว่าได้รู้จักจิตใจปกป้องของบรรดาพี่ชายหลิงหลงแล้ว พวกเขายังไม่ได้หย่ากัน พวกเขาก็คิดกันแล้วว่าวันหน้าหลิงหลงจะไปอยู่กับผู้ใด
ฉินเจามู่เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “พี่ใหญ่ พี่สาม พี่ห้า ข้า…”
เขากล่าวไม่ทันจบ เซี่ยเหวินเหยาและเซี่ยเหวินเซ่าพลันเปลี่ยนสีหน้า หันขวับไปมองเขา “ผู้ใดเป็นพี่ชายเจ้า พวกเราไม่กล้าเป็นพี่ชายใต้เท้าฉินหรอก”
“ตระกูลฉินเจ้าร้ายกาจจริงนะ กล้าทำให้น้องสาวเราต้องทนกล้ำกลืน เจ้ามันตัวอันใดกัน”
อู่เป่าก้าวไปถึงข้างกายฉินเจามู่ กล่าวด้วยสีหน้าเยียบเย็นว่า “ไม่ต้องเอ่ยอันใดอีกแล้ว หย่ากันแต่โดยดี อย่าได้ก่อเรื่องให้คนอื่นหัวเราะเยาะอีก แน่นอนว่าใต้เท้าฉินไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง ตระกูลเซี่ยพวกเราไม่หาเรื่องท่านเพราะเรื่องนี้เป็นแน่”
ไม่หาเรื่องสิแปลก รอดูเถอะ
แต่สีหน้าอู่เป่าไม่แสดงออกแม้สักนิด
ฉินเจามู่ไม่สนใจความนัยในวาจาของพี่ชายภรรยาผู้นี้ เขาร้อนใจเอ่ยขึ้นว่า “พี่ห้า ข้าอยากขอพบหลิงหลงสักครั้ง”
ครั้งนี้พี่น้องตระกูลเซี่ยพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้ พวกเราไม่ให้เจ้าได้พบหลิงหลงแน่”
ฉินเจามู่หน้ามืดวิงเวียน เขาหันหน้าไปมองเซียวเหวินอวี๋
เซียวเหวินอวี๋แค่นเสียงฮึเยียบเย็น “สมน้ำหน้า”
เขากล่าวจบ ก็มองไปยังพวกเซี่ยเหวินเหยา “น้องหลิงหลงล่ะ ข้าไปดูนางหน่อย”
“อยู่เรือนนาง พวกพี่สะใภ้กำลังเป็นเพื่อนคุยกับนางอยู่”
ฮองเฮาหวังเมิ่งเหยารีบยิ้มกล่าวว่า “ข้าไปเป็นเพื่อนคุยกับน้องหลิงหลงด้วย”
เซียวเหวินอวี๋รีบตามไป “ข้าไปดูน้องหลิงหลงเหมือนกัน”
พวกเซี่ยเหวินเหยาและเซี่ยเหวินเซ่าเดินตามกันออกไป ฉินเจามู่ตามหลังทุกคนไปอย่างระมัดระวัง เขาแอบภาวนาในใจ ไม่เห็นข้าๆ ข้าก็จะได้พบกับหลิงหลงแล้ว
น่าเสียดายเขาเพิ่งคิดจบ อู่เป่าด้านหน้าค่อยๆ หันมาเรียกคนรับใช้ “พาใต้เท้าฉินออกไปส่ง”
ฉินเจามู่ตัวแข็งทื่อ บ่าวรับใช้เข้ามาเชิญเขา “ใต้เท้าฉิน เชิญขอรับ”
ฉินเจามู่มองไปด้านหน้า “ฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋ไม่สนใจเขา ฉินเจามู่ถูกคนขับไล่ออกไป
เซียวเหวินอวี๋คิดไปดูน้องสาว ไปถามความคิดเห็นหลิงหลงว่าคิดเยี่ยงไร คนผู้นี้ยังต้องการอีกหรือไม่ หากต้องการก็มีวิธีจัดการในแบบต้องการ หากไม่ต้องการก็มีวิธีจัดการในแบบไม่ต้องการ
เรือนหลิงหลง เซี่ยหลิงหลงกำลังคุยเล่นกับบรรดาพี่สะใภ้และหลานสาวตัวน้อย
หนิวไหน่ กั่วต้ง ปู้ติงติดตามเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวจากเมืองหลวงไปเมืองหนิงโจวแล้ว
ที่บ้านตอนนี้เหลือแค่เสี่ยวเฉิงจื่อบุตรสาวคนเล็กของหูหลิงเสวี่ย เสี่ยวเฉิงจื่อหน้าตาน่ารักมาก มีความคล้ายกับเซี่ยหลิงหลงอยู่หลายส่วน ดังนั้นเซี่ยหลิงหลงเห็นแล้วก็ชอบหลานสาวตัวน้อยคนนี้อย่างมาก หลานสาวเองก็ชอบท่านอา เอ่ยเรียกท่านอาอย่างนั้นท่านอาอย่างนี้ เบิกบานใจไม่อาจบรรยาย
หูหลิงเสวี่ย ซือหว่านอิ๋ง หลู่หนิงเห็นนางเบิกบานใจ ในใจก็โล่งอก น้องสาวกลับมาเมืองหลวง บอกว่าจะหย่า พวกนางยังเป็นห่วงว่านางจะไม่เบิกบานใจ ไม่กล้าพูดจาเหลวไหล ตอนนี้ดูท่าหลิงหลงไม่ได้เป็นอันใด
เซี่ยหลิงหลงเงยหน้ามองบรรดาพี่สะใภ้ที่พากันโล่งอก ก็อดหัวเราะขำไม่ได้ “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้สาม พี่สะใภ้ห้า ข้าไม่เป็นอันใด พวกท่านอย่าเอาแต่ระมัดกลัวพูดกลัวจะทำให้ข้าเสียใจเช่นนี้”
พวกหูหลิงเสวี่ยได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ก็โล่งอก เอ่ยถามนางอย่างห่วงใยทันที “เจ้าจะหย่ากับน้องเขยจริงหรือ”
พวกหูหลิงเสวี่ยและซือหว่านอิ๋งได้ฟังเรื่องที่เซี่ยหลิงหลงประสบมาในตระกูลฉิน แต่ละคนล้วนโมโหมาก เพราะนางเฒ่าตระกูลฉินถึงกับคิดยัดเยียดหลานสาวหม้ายตนเองมาไว้ข้างกายสะใภ้ คนพรรค์ใดกัน
น้องเขยก็ช่างเลอะเลือน ถึงกับเห็นด้วย มิน่าน้องสาวต้องการหย่า น้องสาวพวกนางถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม จะต้องมาทนรองรับอารมณ์นางเฒ่านี้หรือ
หูหลิงเสวี่ยครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยว่า “หากเจ้าคิดหย่าก็หย่า พวกเราตระกูลเซี่ยไม่กลัวคนนินทา”
ซือหว่านอิ๋งกับหลู่หนิงเองก็พยักหน้า ไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย
ซือหว่านอิ๋งเป็นบุตรีเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพเมืองหนิงโจว หลู่หนิงเป็นบุตรีขุนนางระดับห้า พวกนางไม่ค่อยสนใจชื่อเสียงมากสักเท่าไร ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ดีอันใด และพวกนางรู้สึกว่าแม่สามีตนไม่อาจยอมรับให้บุตรชายรับอนุ หลิงหลงแต่งไปตระกูลอื่นก็ไม่ได้เช่นกัน
หูหลิงเสวี่ยรู้มากกว่าซือหว่านอิ๋งและหลู่หนิงเล็กน้อย ก่อนหลิงหลงแต่งงาน บิดาสามีนางไปถามน้องเขยด้วยตนเอง ว่าชีวิตนี้ไม่ว่ายากดีมีจน ก็จะไม่รับอนุให้น้องหลิงหลงต้องเจ็บช้ำ ใต้เท้าฉินรับปากแล้ว ปรากฏถึงกับเป็นเช่นนี้ วาจาไร้ความน่าเชื่อถือเสียจริง
ในห้องสตรีหลายคนกำลังสนทนากัน นอกห้องก็มีเสียงแหลมของขันทีดังขึ้น “ฝ่าบาทเสด็จ ฮองเฮาเสด็จ”
พวกหูหลิงเสวี่ยรีบลุกขึ้น เซี่ยหลิงหลงเองก็ยืนขึ้นตามพวกนาง
นอกประตู เซียวเหวินอวี๋กับฮองเฮาหวังเมิ่งเหยารีบเดินเข้ามา พอเข้ามาก็ไม่รอให้ทุกคนคำนับ เดินไปถึงหน้าเซี่ยหลิงหลง ดึงมือนางมากุมพร้อมกับถามอย่างห่วงใยว่า “หลิงหลง เจ้าไม่เป็นอันใดกระมัง”
เซี่ยหลิงหลงยิ้มพลางส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นอันใด เสด็จพี่กับฮองเฮาไม่ต้องเป็นห่วง”
เซียวเหวินอวี๋มองประเมินดูแล้วก็พบว่าเซี่ยหลิงหลงผ่ายผอมลงไม่น้อย พลางครุ่นคิดว่านางแต่งไปตระกูลฉินคนเดียว ทางนั้นไม่มีญาติแม้แต่คนเดียว และยังต้องมาทนรองรับอารมณ์คนตระกูลฉิน มิน่าจึงผ่ายผอมลงเช่นนี้
หากว่าก่อนหน้านี้เซียวเหวินอวี๋ยังคิดถามเซี่ยหลิงหลงจะหย่าหรือไม่ ครั้งนี้ไม่ต้องถามแล้ว กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นทันที “อีกสักครู่เราจะมีราชโองการให้เจ้าหย่ากับฉินเจามู่”
เซี่ยเหวินเหยาเซี่ยเหวินเจียและอู่เป่ารีบพยักหน้าเห็นด้วย “มีราชโองการหย่าเถอะ วันหน้าให้ตระกูลฉินพวกเขาตายอยู่ที่ฉางหนิงไป”
เซี่ยหลิงหลงเห็นท่าทางทุกคนปกป้องนาง ในใจก็อบอุ่นซาบซึ้งอย่างมาก แต่นางมีความคิดของตนเอง รอเซียวเหวินอวี๋กับเซี่ยเหวินเหยากล่าวจบ นางจึงค่อยๆ เอ่ยว่า “เสด็จพี่ พี่ใหญ่ พี่สาม พี่ห้า เป้าหมายแท้จริงที่ข้ากลับเมืองหลวงครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อหย่า แต่เพื่อสั่งสอนฉินเจามู่ให้จดจำไปชั่วชีวิต”
ทุกคนในห้องหันไปมองเซี่ยหลิงหลง เซี่ยหลิงหลงยิ้มละไม แววตาอ่อนโยนจนถึงกับคล้ายลู่เจียว นางมีหน้าตาคล้ายลู่เจียวอยู่ไม่น้อย ในเวลานี้กิริยาท่าทางของนางคล้ายลู่เจียวอยู่มาก
เซี่ยหลิงหลงมองทุกคนในห้อง เอ่ยขึ้นว่า “พี่ๆ พี่สะใภ้ นั่งลงเถอะ พวกเราค่อยๆ คุยกัน”
เซียวเหวินอวี๋พยักหน้าเล็กน้อยบอกให้ฮองเฮาลงนั่ง คนอื่นๆ ในห้องก็พากันนั่งลง
เซี่ยหลิงหลงไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อยยิ้มมองทุกคนในห้อง “ครั้งนี้ที่ข้ากลับเมืองหลวงก็คิดสั่งสอนฉินเจามู่ อีกอย่างก็คิดถึงทุกคน ดังนั้นจึงได้กลับมาเยี่ยมพี่ๆ ข้ารู้ว่าพี่ๆ รักข้า อยากให้ข้าหย่า แต่ชีวิตหลังจากหย่าก็ใช่ว่าจะดีอย่างที่คิด วาจานินทาว่าร้ายข้างนอก เสด็จพี่ไม่อาจห้ามได้ แต่หากห้ามปรามได้ คนพวกนั้นไม่พูดต่อหน้าก็พูดลับหลัง ยังคงดูแคลนข้า ข้าไม่อยากให้เสด็จพี่กับพี่ๆ ต้องตกเป็นที่หัวเราะเยาะของทุกคนในเมืองหลวง”
“ผู้ใดกล้าหัวเราะเยาะ เราจะไม่ละเว้นพวกเขา”
“ใช่ ผู้ใดกล้าหัวเราะเยาะ พวกเราจะจัดการพวกเขา เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมากมายเช่นนี้”
“ใช่ ขอเพียงเจ้ามีชีวิตที่เบิกบานใจ เจ้าเบิกบานใจ พี่ๆ ทุกคนก็จะเบิกบานใจ”
สีหน้าเซี่ยหลิงหลงอาบไปด้วยประกายอบอุ่น มุมปากอดกระตุกยิ้มไม่ได้ “ข้ารู้ว่าพี่ชายทุกคนรักข้า จึงได้กลับเมืองหลวงมาให้พี่ๆ ให้ท้ายข้า แต่ข้าไม่ได้คิดจะหย่า พี่ๆ ช่วยคิดหาทางหน่อยว่าจะจัดการฉินเจามู่อย่างไร ให้วันหน้าเขาไม่กล้ารังแกข้าอีก”
เซี่ยหลิงหลงเคยคิดมาหลากหลายทาง สรุปหย่าแล้วแต่งใหม่อาจไม่ดีกับตัวนางเอง ไม่แน่อาจสู้ฉินเจามู่ไม่ได้ แต่งกับบุตรชายตระกูลชนชั้นสูงศักดิ์ อย่าว่าแต่คนเขาอาจรังเกียจนางที่หย่าร้างมาก แค่เรื่องฉาวโฉ่ของตระกูลชนชั้นสูงศักดิ์พวกนั้นก็มีมากมายแล้ว เช่นว่ารับอนุ มีนางผู้รู้ใจ พวกนั้นก็ล้วนเป็นเรื่องธรรมดา
หากไม่แต่ง อยู่บ้านตนเองไปเช่นนี้ พี่ชายพี่สะใภ้จะถูกคนหัวเราะเยาะ ดังนั้นเป้าหมายแท้จริงของนางก็คือสั่งสอนฉินเจามู่ ให้คนตระกูลฉินรู้ว่านางไม่ใช่คนที่ผู้ใดจะมารังแกได้ วันหน้านางอยู่ตระกูลฉินคิดทำอันใดก็ทำได้ ชีวิตเช่นนั้นจึงจะเป็นชีวิตที่นางต้องการ