ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 904 โอกาส
ตอนที่ 904 โอกาส
ฉินเจามู่ตื่นมาอีกครั้งก็อยู่ที่ตระกูลเซี่ยแล้ว
ในห้อง พี่ใหญ่ พี่สาม พี่ห้า กำลังจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ
ฉินเจามู่ดิ้นรนลุกขึ้น เอ่ยขอโทษทุกคนด้วยความจริงใจ
“พี่ใหญ่ พี่สาม พี่ห้า ข้าขอโทษพวกท่าน ข้าทำได้ไม่ดีพอ ทำให้หลิงหลงเสียใจ ชีวิตที่เหลือจากนี้ ข้าจะไม่ทำให้นางเสียใจอีก”
เซี่ยเหวินเหยามองลงมายังฉินเจามู่ อบรมสั่งสอนว่า “เจ้าในฐานะบุตร กตัญญูต่อบิดามารดาเป็นเรื่องถูกต้อง แต่เจ้ายังมีสถานะสามี สามียอมให้ภรรยาโดนรังแกได้อย่างไรกัน หรือเพราะภรรยาเจ้าเป็นบุตรสาวตระกูลอื่น เป็นน้องสาวผู้อื่น เจ้าเคยคิดไหมว่าญาติพี่น้องเช่นพวกเราได้รู้ว่าน้องสาวตนมีชีวิตที่ไม่ดีนัก ในใจเจ็บปวดเสียใจเพียงใด”
เซี่ยเหวินเหยากล่าวจบ เซี่ยเหวินเซ่าก็ค่อยๆ เอ่ยตามมาอีกว่า “ฉินเจามู่ ตอนนี้หลิงหลงมาโดนพวกเจ้ารังแก ท่านพ่อท่านแม่ข้ายังไม่รู้ เจ้าควรรู้ว่าท่านพ่อข้ารักหลิงหลงเพียงใด หากให้ท่านพ่อรู้หลิงหลงโดนพวกเจ้าตระกูลฉินรังแก เจ้าคิดถึงผลที่ตามมาบ้างหรือไม่”
ฉินเจามู่หลั่งเหงื่อเย็นทันที ใต้เท้าเซี่ย โส่วฝู่แคว้นต้าโจว รักภรรยาและบุตรสาวดังชีวิต เรื่องนี้เขารู้ดี คิดถึงว่าใต้เท้าเซี่ยสถานะสูงส่งเช่นนั้น ยังรักภรรยาและบุตรสาวเช่นนี้ หันมาคิดถึงตนเอง ฉินเจามู่ได้แต่หลั่งเหงื่อเย็นผุดเต็มใบหน้า
อู่เป่าก้าวเข้ามาตรงหน้าฉินเจามู่ กล่าวน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “คนเรากตัญญูได้ แต่ไม่อาจกตัญญูอย่างโง่เขลา วันนี้มารดาเจ้าให้เจ้าแต่งน้องสาวหม้ายมาเป็นอนุในนามเจ้า พรุ่งนี้นางหาเรื่องจะเป็นจะตายให้เจ้ารับอนุ เจ้าใช่ว่าก็ต้องยอมทนหรือ หรือว่านี่คือความต้องการของเจ้ากัน”
ฉินเจามู่ยืนยันไม่ยอมรับเรื่องนี้ หากรับเรื่องนี้ หลิงหลงยังจะกลับมาอยู่กับเขาอีกหรือ
“พี่ห้า ข้ารู้ผิดแล้ว ข้าคิดการพลาดไป เดิมข้าคิดว่าจะให้นางได้มีหนทางรอดก็แค่นั้น”
“เหตุใดนางไม่ไปเป็นอนุในนามผู้อื่น แต่ต้องเป็นเจ้า แสดงให้เห็นว่าในใจนางมีแผน นางมีแผนในใจก็ย่อมคิดหาทางใกล้ชิดเจ้า หากวันหนึ่งเจ้าไม่ทันระวังหรือดื่มเมามายทำอันใดลงไป เจ้าคิดว่าพวกเจ้าสองสามีภรรยาจะมีทางย้อนกลับคืนมาได้อีกหรือ เจ้าคิดว่าหลิงหลงจะยังต้องการเจ้าอีกหรือ เจ้าคิดว่าตระกูลเซี่ยจะยังยอมให้นางอยู่กับเจ้าอีกหรือ”
คำพูดอู่เป่าทำให้ฉินเจามู่ตกใจหลั่งเหงื่อเย็นโทรมกาย
แม้ร่างกายเขาอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง แต่เขาก็ยังดิ้นรนพยายามแสดงท่าทียืนยัน “วันหน้าข้าจะรักษาระยะห่างจากสตรีที่มีแผนการในใจให้ดี ส่วนท่านแม่ข้า ข้าจะกตัญญู แต่จะไม่ใช่ความกตัญญูแบบโง่เขลา ขอพี่ๆ ทุกท่านให้โอกาสข้าสักครั้ง”
เซี่ยเหวินเหยามองฉินเจามู่ที่ป่วยอยู่บนเตียง ฉินเจามู่ท่าทางอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด
เซี่ยเหวินเหยาท่าทางนึกรังเกียจ คนเช่นนี้ไหนเลยคู่ควรกับน้องสาวเขากัน
ตอนนั้นไม่ได้ห้ามน้องสาวแต่ง เป็นความผิดพลาดของเขาจริงๆ
ซานเป่ากับอู่เป่าเองก็โมโห พี่น้องพากันจ้องมองฉินเจามู่บนเตียงนิ่ง
ฉินเจามู่พอจะเข้าใจความโกรธของบรรดาพี่ๆ หลิงหลง ไม่กล้าส่งเสียงแม้สักคำ
เป็นนานเขาจึงได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบายิ่งว่า “ข้าขอพบหลิงหลงได้หรือไม่”
เซี่ยเหวินเหยาคิดเสียดสีเขาอีกสองสามคำ ไม่คิดว่านอกประตูมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เซี่ยหลิงหลงพาบ่าวหญิงสองคนเดินเข้ามา
ฉินเจามู่เห็นนางก็อดส่งเสียงเรียกไม่ได้ “หลิงหลง?”
เซี่ยหลิงหลงเดินเข้ามามองบรรดาพี่ชายทีหนึ่งแล้วก็กล่าวว่า “พี่ชายทุกท่าน ข้าขอคุยกับเจามู่สักหน่อยเจ้าค่ะ”
เซี่ยเหวินเหยามองนางทีหนึ่ง กล่าวว่า “ได้ หากคุยแล้วไม่สบายใจก็ไม่ต้องคุยต่อ”
“ข้าทราบแล้ว”
บรรดาพี่ชายเดินออกไป ในห้องเหลือเพียงสองสามีภรรยา
เซี่ยหลิงหลงเดินถึงข้างเตียง ลงนั่งบนเก้าอี้ นางเงยหน้าเห็นฉินเจามู่ที่นั่งปล่อยผมดำยาวอยู่บนเตียง ท่าทางดูอ่อนแรงอย่างไม่อาจบรรยาย ราวกับไม่อาจต้องลมได้
เซี่ยหลิงหลงอดถอนหายใจไม่ได้ กล่าวตามตรง นางเองก็มีความผูกพันกับเขาอยู่บ้าง เห็นเขาเช่นนี้ก็อดใจอ่อนไม่ได้
“เจ้านอนลง พวกเราคุยกันหน่อย”
ฉินเจามู่ฝืนนั่งไม่ขยับ ดึงดันมองเซี่ยหลิงหลง “ข้าไม่นอน อยากมองเจ้าเช่นนี้”
การได้มองเช่นน้ำทำให้เขารู้สึกสบายใจ
“หลิงหลง ระยะนี้เจ้าไปจากข้า ข้าคิดได้มากมาย ได้รู้ความผิดตนเองมากมาย ในใจข้านึกขอบคุณเจ้าที่จากมาครั้งนี้มาก ทำให้ข้าได้คิดกระจ่างและเข้าใจตนเอง ก่อนหน้านี้ข้าได้ทำร้ายเจ้า และข้ารู้ว่า หากไม่ใช่เจ้าจากมาครั้งนี้ ข้าอาจไม่มีทางได้พบความผิดพลาดของตนเอง วันหน้าก็จะยิ่งเลวร้าย ถึงกับทำให้พวกเราทั้งสองคนต้องแยกจากกัน”
ระยะนี้เขาได้คิดว่าการที่เขายอมเห็นด้วยกับมารดา ยอมรับน้องสาวหม้ายมาเป็นอนุในนามเขา วันหน้าก็อาจจะประนีประนอมกับมารดายอมรับอนุ ถึงกับทำเรื่องทำร้ายหลิงหลงอย่างหนักหนาสาหัส ถึงตอนนั้นทำให้นางปวดใจหมดสิ้น แม้เขานึกเสียใจภายหลัง เกรงว่าพวกเขาก็คงไม่มีทางกลับมาคืนดีกันได้อีก ดังนั้นเขาขอบคุณการตัดสินใจเด็ดขาดของนางครั้งนี้อย่างมาก
ขอเพียงนางมอบโอกาสให้เขาสักครั้ง
ฉินเจามู่ดิ้นรนไปชิดขอบเตียง ยื่นมือไปคว้ามือเซี่ยหลิงหลงมากุม
“หลิงหลง ให้โอกาสข้าสักครั้งได้หรือไม่”
เซี่ยหลิงหลงมองฉินเจามู่เป็นนานก่อนจะเอ่ยอย่างอ่อนโยน “เจ้าจะคิดว่าข้ารังแกกันเกินไปหรือไม่ จะรู้สึกว่าตระกูลเซี่ยข้ารังแกกันเกินไปหรือไม่”
นางต้องแน่ใจก่อนว่าเขาไม่ได้คิดคับแค้นใจนางกับตระกูลเซี่ย อย่าได้พอนางให้โอกาสเขา ก็จะมาคับแค้นใจนางกับตระกูลเซี่ย
รอจนวันหนึ่งมีโอกาสก็จะเอาคืนนางกับตระกูลเซี่ย
นางไม่มีทางมอบโอกาสนี้ให้แก่เขาอย่างเด็ดขาด
ฉินเจามู่อึ้งไปทันที จากนั้นก็มองเซี่ยหลิงหลง แสดงท่าทีด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว
“หลิงหลง ข้าไม่ตำหนิเจ้า ข้าไม่ได้ตำหนิตระกูลเซี่ย ข้ารู้ความคิดเจ้า เจ้ากลัวว่าข้าจะคับแค้นใจคิดเอาคืนเจ้ากับตระกูลเซี่ย”
ฉินเจามู่แววตาเปล่งประกายอ่อนโยน เอ่ยขึ้นว่า “ไม่ใช่ความผิดพวกเจ้า แต่เพราะข้ากล่าววาจาแล้วคืนคำเอง หากจะว่าผิด ก็ผิดที่ข้าเอง ตอนนั้นฝ่าบาทบอกกับข้า พี่ๆ ของเจ้าและท่านพ่อของเจ้าก็บอกกับข้า ข้ารับปากแล้วว่าจะดีต่อเจ้า ไม่ปล่อยให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ ปรากฏกลับทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำน้ำใจมานานเพียงนี้”
“ทุกอย่างเป็นความผิดข้า ข้าจะมีหน้ามาตำหนิเจ้า ตำหนิตระกูลเซี่ยได้อย่าไงร ก่อนหน้านี้วาจาของเจ้า ข้านำมาคิดดูดีๆ แล้วก็พบว่าหากวันหนึ่งข้ามีบุตรสาว ข้าจะทนเห็นบุตรสาวที่ข้าทะนุถนอมเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่โดนผู้อื่นรังแกได้อย่างไร หากข้ารู้ เกรงว่าก็คงสู้ตายกับคนพวกนั้นเช่นกัน”
เซี่ยหลิงหลงจ้องมองฉินเจามู่ พบว่าแววตาเขากระจ่างใส สีหน้าตำหนิตนเองและสำนึกผิด ไม่มีความคับแค้นใจแม้สักนิด
เช่นนี้ดีมาก
เซี่ยหลิงหลงครุ่นคิดมองไปยังฉินเจามู่ค่อยๆ กล่าวว่า “ความจริงเดิมข้าคิดจะหย่า แต่เห็นแก่เจ้า ข้า…”
เซี่ยหลิงหลงเพิ่งจะกล่าวถึงตรงนี้ ฉินเจามู่ก็ดีใจสุดขีด ยื่นมือขึ้นกอดเซี่ยหลิงหลงแน่นไม่ยอมปล่อย
“หลิงหลง เจ้ายอมให้โอกาสข้าแล้ว ใช่หรือไม่ เจ้าเชื่อใจข้านะ วันหน้าข้าจะทำตัวดีๆ เจ้าเป็นภรรยาข้า ภรรยาที่ข้ารัก ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำน้ำใจ แม้แต่ท่านแม่ข้าก็ไม่อาจรังแกเจ้าได้ ข้าจะให้ความเคารพนาง แต่นางห้ามรังแกภรรยาข้า”
เซี่ยหลิงหลงได้ยินวาจาจริงใจของฉินเจามู่ก็อดหัวเราะไม่ได้ “เช่นนั้นก็จะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง เจามู่ นี่คือโอกาสเดียวของเจ้า ความจริงข้าหวังว่าพวกเราจะมีชีวิตที่รักใคร่ปรองดองกันเช่นนี้ตลอดไป ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว”