ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 908 เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว 2
ตอนที่ 908 เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว 2
พอหูหลิงเสวี่ยได้ฟัง สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยน รีบลุกขึ้นกล่าวว่า “ท่านแม่ แฝดชายหญิงติดตามท่านพ่อกับท่านแม่เป็นเรื่องดีมาก พวกเราในฐานะบุตรและสะใภ้ ไม่อาจปรนนิบัติท่านพ่อกับท่านแม่ ให้แฝดชายหญิงปรนนิบัติแทนบุตรชายและสะใภ้ก็ดีมากเจ้าค่ะ”
ลู่เจียวหน้านิ่งมองสะใภ้ แค่อยากให้พวกนางอบรมหลานชายหลานสาวให้ กลับพูดจาเสียยิ่งใหญ่ หน้าไม่อายหรือไม่นี่
หูหลิงเสวี่ยรู้สึกเขิน รีบลุกขึ้นเดินมาหาลู่เจียว ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อนาง “ท่านแม่ หากท่านแม่ทิ้งสองแฝดไว้ เหวินเหยารู้เข้า ย่อมคิดว่าข้าเอ่ยสิ่งที่ไม่ควรเอ่ย ทำให้ท่านแม่ไม่พอใจ เขาย่อมโมโห ถึงตอนนั้นพวกเราสองสามีภรรยาก็คงได้รับผลกระทบ ท่านแม่ ท่านสงสารสะใภ้เถอะนะเจ้าคะ”
ลู่เจียวไม่อาจปฏิเสธ ได้แต่เห็นด้วย “ได้ ขอเพียงเจ้าไม่คิดถึงพวกเขา”
“คิดถึงก็คิดถึง แต่คิดถึงว่าพวกเขาได้ติดตามท่านพ่อกับท่านแม่ ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดี ข้าก็วางใจได้”
กล่าวจบก็สำทับอีกประโยค “ท่านแม่ หรือว่าท่านพาเฉิงจื่อไปด้วย”
ลู่เจียวรีบส่งสายตาจ้องใส่สะใภ้ทีหนึ่ง “เฉิงจื่อปีนี้เหมือนจะแค่สี่ขวบ เจ้าตัดใจได้หรือ”
ซือหว่านอิ๋งรีบเอ่ยทันที “ท่านแม่ เพียนเพียนปีนี้ห้าขวบแล้ว ติดตามท่านแม่ได้แล้ว”
ลู่เจียวกลับมาก็ได้รู้จักหลานสาวคนนี้แล้วว่าซุกซนเพียงใด พอเห็นนาง ก็ทำให้ลู่เจียวก็คิดถึงว่าจ้าวอวี้หลัวตอนเด็ก หากไม่อบรมให้ดี วันหน้าเติบโตไปก็จะเอาแต่ใจและไร้เหตุผล
แต่ซานเป๋ามีบุตรสาวเพียงคนเดียว เขาตัดใจได้หรือ
ลู่เจียวมองไปยังซือหว่านอิ๋ง “พวกเจ้ามีบุตรสาวแค่คนเดียว ตัดใจได้หรือ”
ซือหว่านอิ๋งก้มหน้าลงมองท้องตนเองท่าทางเขินอาย กล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าตั้งครรภ์อีกแล้ว”
ลู่เจียวดีใจทันที “นี่เป็นเรื่องมงคลยิ่ง”
ซานเป่ามีบุตรสาวแค่คนเดียว ต้าเป่ามีบุตรสามคน เอ้อร์เป่ามีบุตรสองคน มีเพียงซานเป่ามีบุตรสาวคนเดียว อู่เป่าตอนนี้ยังไม่มี
แต่ลู่เจียวเพิ่งคิดจบ หลู่หนิงก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเขินอายว่า “ท่านแม่ ข้าก็ตั้งครรภ์แล้ว”
ยามนี้ลู่เจียวดีใจมากจริงๆ กวักมือเรียกสองสะใภ้เข้ามาหา ตรวจชีพจรให้พวกนาง สุดท้ายแน่ใจว่าซือ หว่านอิ๋งกับหลู่หนิงตั้งครรภ์แล้วจริงๆ
ลู่เจียวอดยิ้มไม่ได้ “มงคลคู่มาถึงเรือน ดีมาก ดีมาก ไว้ กลับเมืองหลวงไปฉลองกัน”
นางกล่าวจบก็คิดถึงว่าสะใภ้ตั้งครรภ์ยังตามพวกนางไปฉางหนิงก็เริ่มไม่ค่อยยินดีนัก “พวกเจ้าตั้งครรภ์ ยังตามพวกเราไปฉางหนิงทำไมกัน ควรพักผ่อนอยู่เมืองหลวง”
สองสะใภ้รีบยิ้มกล่าวว่า “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านแม่วางใจได้”
ทั้งสองคนตอบจบ ลู่เจียวก็สั่งการให้พวกนางกลับไปพักผ่อน “อย่าเอาแต่เดินไปมา เสียสุขภาพ”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านแม่”
หูหลิงเสวี่ยถามอีกว่า “เช่นนั้นครั้งนี้ท่านแม่วางแผนกลับเมืองหนิงโจวเมื่อใดเจ้าคะ”
ท่านพ่อเปิดสำนักศึกษาที่เมืองหนิงโจว ท่านแม่รับดูแลสำนักยาหลวงเมืองหนิงโจวต่อ
พวกเขาน่าจะอยู่ในเมืองหลวงได้ไม่นานนัก หูหลิงเสวี่ยยังคิดอยู่กับแฝดชายหญิงให้นานอีกสักหน่อย
ลู่เจียวยิ้มมองนางกล่าวว่า “ในวัง ฮ่องเต้ให้พวกเราอยู่ถึงฤดูใบไม้ร่วงค่อยกลับไป ครั้งนี้พวกเราน่าจะอยู่ราวสองเดือน สาเหตุเพราะฝ่าบาทอยากให้รัชทายาทได้ร่วมงานล่าสัตว์ของบรรดาเชื้อพระวงศ์ประจำปี อยากทรงดูว่าการขี่ม้าของเขาเป็นอย่างไรบ้าง”
รัชทายาทได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาทตั้งแต่ต้น แต่เล็กได้รับการอบรมขี่ม้ายิงธนูและวิทยายุทธ์ พร้อมทั้งศิลปะทั้งหก สี่ตำรา ห้าคัมภีร์และวิถีแห่งผู้ปกครอง
หูหลิงเสวี่ยได้ยินลู่เจียวก็พลันยิ้ม “เจ้าค่ะ เช่นนั้นดีมากจริงๆ”
ลู่เจียวบอกให้นางพาน้องสะใภ้ทั้งสองไปพักผ่อน หูหลิงเสวี่ยรีบรับคำพาพวกนางออกไป
บรรดาสะใภ้เพิ่งจากไป ใต้เท้าเซี่ยก็เดินเข้ามา เห็นใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มของลู่เจียว ใต้เท้าเซี่ยอดถามอย่างห่วงใยไม่ได้ว่า “เจียวเจียว เกิดเรื่องอันใดขึ้น ดีใจเพียงนี้เลยหรือ”
ลู่เจียวยิ้มตาหยีกล่าวว่า “สะใภ้รองกับสะใภ้สามตั้งครรภ์แล้ว ตระกูลเรามีเรื่องมงคลสองเรื่องพร้อมกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็ดีใจ เดินไปข้างกายลู่เจียว ดึงมือนางมานั่ง “ไม่เลวจริงๆ”
“อืม ตระกูลเซี่ยค่อยๆ ขยายขึ้นแล้ว ลูกหลานรุ่นต่อไปก็ต้องอบรมให้ดี เด็กๆ จึงจะเป็นความหวังของวงศ์ตระกูลได้”
“เจียวเจียว เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง ไว้กลับไปเมืองหนิงโจวก็พาเพียนเพียนของซานเป่าไปด้วย ซุกซนจริงๆ ล้วนเป็นเพราะซานเป่าสองสามีภรรยาตามใจมากเกินไป”
เพราะหลายปีมีบุตรเพียงคนเดียว จึงยากจะไม่ตามใจ เซี่ยอวิ๋นจิ่นทนดูไม่ได้ที่สุด แม้ว่าเขาตามใจเซี่ยหลิงหลง แต่หลิงหลงก็เชื่อฟังรู้ความมาแต่เล็ก
ยามนี้ใต้เท้าเซี่ยลืมไปแล้วว่าที่เซี่ยหลิงหลงรู้ความได้ก็เพราะมีท่านแม่คอยคุมไว้
ทุกคนเร่งเดินทางกลับถึงเมืองหลวงก็เดือนเจ็ดแล้ว อากาศปลอดโปร่งโล่งสบายอย่างที่สุด
เซียวเหวินอวี๋ในวังรู้ว่าพวกเขาทุกคนจะกลับถึงเมืองหลวง ก็รีบส่งคนไปบอกฮองเฮาหวังเมิ่งเหยา ให้ฮองเฮาจัดงานเลี้ยงรับรองในวัง รอต้อนรับท่านพ่อกับท่านแม่กลับเมืองหลวง
ฮองเฮารีบสั่งการให้คนเตรียมจัดงานเลี้ยง นางนำขันทีไปจวนตระกูลเซี่ย เชิญพวกเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเข้าวังมาร่วมงานเลี้ยง
ใต้เท้าเซี่ยกับลู่เจียวพาสามสะใภ้และเด็กๆ เข้าวังมาร่วมงานเลี้ยง บุตรชายคนโตกับบุตรชายรองติดงาน ไม่ได้เข้าวังมาด้วย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนเข้าวัง เซียวเหวินอวี๋ก็นำรัชทายาทมารอรับที่ด้านในของหน้าประตูวัง พอเห็นรถม้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมาถึง เซียวเหวินอวี๋กับรัชทายาทเซียวจิ่งก็รีบเข้าไปต้อนรับ
รัชทายาทปีนี้เก้าชันษา ท่าทางมีสง่าราศี ใบหน้างามกระจ่าง แม้ว่ารูปงามไม่เท่าฮ่องเต้ แต่กิริยาท่าทางสง่างามไม่แพ้บิดา ยามอยู่ในชุดปักลายงูใหญ่สีเหลืองอ่อน ก็เปล่งรัศมีสูงศักดิ์ไม่อาจบรรยาย
เขาเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมาก็ดีใจเข้าไปต้อนรับทันที
“ท่านปู่ ท่านย่า พวกท่านมาแล้ว”
ครั้งนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเข้าเมืองหลวง นำเด็กๆ ทุกคนกลับมาครบ
พวกเขาอยู่เมืองหนิงโจวมาสองปี เด็กๆ ก็ติดตามพวกเขาอยู่เมืองหนิงโจวมาได้สองปีเช่นกัน
ที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกลับเมืองหลวง ก็เพราะซานเป่าเขียนจดหมายไปหาพวกเขาได้เอ่ยถึงเรื่องเซี่ยหลิงหลง เซี่ยอวิ๋นจิ่นโมโหมาก จึงรีบพาเด็กๆ เดินทางกลับเมืองหลวง
พาทั้งรัชทายาทกับองค์หญิงใหญ่และคนอื่นๆ กลับมาหมด
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวยิ้มพยักหน้า จากนั้นก็ถวายพระพรเซียวเหวินอวี๋ที่เดินตามมาด้านหลัง “ถวายบังคมฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋รีบเข้าไปประคองท่านพ่อกับท่านแม่ตนไว้ “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้ ไป ไปรับประทานอาหารที่ตำหนักเฉาหยางกงกัน พอดีจะได้พบองค์หญิงรองกับองค์ชายรองด้วย”
หลายปีมานี้ หวังเมิ่งเหยาให้กำเนิดบุตรแก่เซียวเหวินอวี๋อีกสองคน องค์หญิงรองเซียวลั่ว ชื่อเล่นว่า ลั่วลั่ว ปีนี้ห้าขวบ
องค์ชายรองเกิดเมื่อปีก่อน ปีนี้ใกล้ครบหนึ่งชันษาแล้ว ชื่อว่าเซียวหลาง ชื่อเล่น หลางหลาง
เดิมเซียวเหวินอวี๋คิดให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวตั้งชื่อเล่นให้องค์ชายรอง แต่สองผู้เฒ่าอยู่เมืองหนิงโจว จะตั้งได้อย่างไร เซียวเหวินอวี๋จึงได้เรียกองค์ชายรองว่า หลางหลาง
เทียบกับรัชทายาท เซียวเหวินอวี๋ไม่ได้ตื่นเต้นกับองค์ชายรองมากนัก
“ได้ ไปตำหนักเฉาหยางกงดูองค์หญิงรองกับองค์ชายรองกัน”
พวกเขาเคยเห็นองค์หญิงรอง แต่ไม่เคยเห็นองค์ชายรอง จะได้ไปดูพอดี
ทุกคนเดินไปยังตำหนักเฉาหยาง ตอนเดินเข้าไปบังเอิญได้เห็นเนี่ยชิงเหยาบุตรีจวนอู่กั๋วกง นางเข้าวังมาได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสนมระดับผิน
ตอนนี้ชนชั้นสูงศักดิ์ในราชสำนักถูกจัดการไปไม่น้อยแล้ว ชนชั้นสูงศักดิ์ที่เหลือ มีเพียงจวนอู่กั๋วกงที่มีสถานะที่สุด บุตรีตระกูลเนี่ยผู้นี้ดูแล้วสงบเสงี่ยมอย่างมาก น่าจะคิดไม่ถึงว่าจะได้พบพวกเขาทุกคน จึงตกใจ จากนั้นก็รีบถวายบังคมเซียวเหวินอวี๋ “ถวายบังคมฝ่าบาท”