ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 912 ตำหนิ
ตอนที่ 912 ตำหนิ
ริมแม่น้ำเยว่เปลวเพลิงลุกโชนรุนแรงคล้ายดังมังกรไฟสูงครึ่งฟ้า
ริมแม่น้ำเดิมกำลังอยู่ในบรรยากาศครึกครื้น พลันอลหม่านวุ่นวาย ราษฎรต่างพากันถอยหลังหนี ทำให้สภาพการณ์ในตอนนั้นวุ่นวายกันอย่างมาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวรู้สึกว่าเรื่องนี้ผิดปกติ รีบสั่งการให้องครักษ์รัชทายาทที่อยู่ไม่ไกลนักว่า “อารักขา รัชทายาท องค์หญิงให้ดี”
“ขอรับ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็มองไปยังผู้คุ้มกัน ตระกูลเซี่ยทุกคน “พวกเจ้าไม่ต้องสนใจพวกเรา อารักขาเด็กสามคนให้ดี”
“ขอรับ นายท่าน”
เห็นสภาพตรงหน้ายิ่งวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวรีบเรียกทุกคนให้ถอยออกมาอยู่วงนอก
แม้ว่าคนมากเบียดเสียด แต่พวกเขาคนเยอะ องครักษ์กับผู้คุ้มกันจวนตระกูลเซี่ยล้อมเป็นวงปกป้องเด็กๆ ไว้ตรงกลาง พร้อมกับถอยออกไปรอบนอก ไม่นานทุกคนก็ถอยออกมาอยู่รอบนอกข้างรถม้า “รีบขึ้นรถม้า กลับจวน”
“ขอรับ”
เด็กๆ ปีนขึ้นบนรถม้า ยามนี้องครักษ์รัชทายาทกับองค์หญิงส่งเสียงตกใจตะโกนดังขึ้น “ไม่ได้การแล้ว รัชทายาทหายไปแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวคิดว่าตนเองฟังผิด รถม้ารัชทายาทกับองค์หญิงใหญ่ไปแล้ว
ปรากฏเห็นองครักษ์ดึงเด็กรูปร่างสูงใกล้เคียงกับรัชทายาทมาด้วย เด็กคนนี้ไม่เพียงแต่รูปร่างสูงใกล้เคียงรัชทายาท แม้แต่ทรงผมและเสื้อผ้าที่สวมก็เหมือนกับรัชทายาท
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเห็นภาพนี้ยังจะมีอันใดไม่เข้าใจ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นริมแม่น้ำเยว่คืนนี้ก็เพื่อจับตัวรัชทายาท เห็นได้ชัดว่ามีคนบงการจับตัวรัชทายาทไป
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวย่ำแย่อย่างที่สุด
“พวกเจ้าไปอู่เฉิงปิงหม่าซือ ให้ผู้บัญชาการเซี่ยนำคนปิดถนนทุกสาย ค้นหาตัวรัชทายาท อีกอย่าง ให้คนของอู่เฉิงปิงหม่าซือปิดประตูเมือง ผู้ใดก็ห้ามออกจากเมืองหลวง”
เวลาสั้นๆ เช่นนี้ คนบงการย่อมไม่อาจนำตัวรัชทายาทออกจากเมืองไปได้ แม้ว่าไม่รู้ว่ารัชทายาทตอนนี้อยู่ที่ใด แต่เขาแน่ใจได้ว่ายังไม่ถูกนำตัวออกจากเมืองหลวง
องครักษ์รัชทายาทรีบไปอู่เฉิงปิงหม่าซือนำกำลังทหารมา เซี่ยอวิ๋นจิ่นให้คนเข้าวังไปทูลฮ่องเต้ว่ารัชทายาทถูกคนจับตัวไปแล้ว
แต่พอกล่าวจบ เขาก็เอ่ยต่อว่า “ข้าตามพวกเจ้าเข้าวังด้วย”
ลู่เจียวเองก็เป็นห่วงอย่างมาก กล่าวน้ำเสียงหนักแน่น “ข้าเข้าวังกับเจ้าก็แล้วกัน”
กล่าวจบนางมองไปยังองค์หญิงใหญ่กับเซี่ยเฉิน กล่าวว่า “พวกเจ้ากลับไปก่อน ท่านปู่ท่านย่าเข้าวังไปหารือกับฝ่าบาทว่าจะหาตัวรัชทายาทอย่างไร”
พวกเด็กๆ สีหน้าซีดเผือด แต่ละคนไม่กล้าเอ่ยอันใด ได้แต่ฟังคำพูดลู่เจียวรีบขึ้นรถม้า องค์หญิงใหญ่ร้องไห้ออกมาทันที
รัชทายาทหายไป เสด็จพ่อต้องเสียใจมากเป็นแน่ คนพวกนั้นจับตัวรัชทายาทไปทำไมกัน
องค์หญิงใหญ่ร้องไห้ขึ้นรถม้าไปตระกูลเซี่ย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวรีบนั่งรถม้าเข้าวัง
ในวัง เซียวเหวินอวี๋กับหวังเมิ่งเหยาได้ข่าวอย่างรวดเร็ว รัชทายาทถูกคนจับตัวไปที่ริมแม่น้ำเยว่ สีหน้าสองสามีภรรยาย่ำแย่ไม่อาจบรรยาย
โดยเฉพาะหวังเมิ่งเหยา ส่งเสียงร้องดังขึ้นอย่างไม่อาจระงับตนเองได้อีก “รัชทายาทถูกคนจับตัวไปได้อย่างไร พวกเจ้าคนตั้งมากมายตามไปเช่นนี้ เหตุใดปล่อยให้คนจับตัวเขาไปได้ คนตั้งมากมายกินข้าวเสียเปล่างั้นหรือ”
เซียวเหวินอวี๋เองก็เป็นห่วงรัชทายาทมาก แต่พอได้ยินหวังเมิ่งเหยาเอ่ยเช่นนี้ แม้แต่ท่านพ่อกับท่านแม่ก็โดนตำหนิไปด้วยหรือ
เรื่องเช่นนี้ผู้ใดอยากให้เกิดขึ้นกัน
เซียวเหวินอวี๋มองไปยังหวังเมิ่งเหยาไม่พอใจกล่าวว่า “เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด”
หวังเมิ่งเหยาแทบไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไป สีหน้าซีดเผือดส่งเสียงดังขึ้น “ฝ่าบาท นั่นเป็นบุตรชายที่หม่อมฉันตั้งครรภ์มาสิบเดือน ตอนนี้เขาถูกจับตัวไป หม่อมฉันแทบจะไปแทนเขา ฝ่าบาทยังตำหนิหม่อมฉันพูดจาเหลวไหล หรือว่าตอนนี้ไม่ควรคิดหาทางหาตัวบุตรชายเรากัน หากคนเลวพวกนั้นทำอันใดกับเขา ทำ…”
ฮองเฮาไม่กล้าเอ่ยต่อ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น “พวกเราจับตัวเด็กที่รูปร่างใกล้เคียงกับรัชทายาทมาได้คนหนึ่ง เขาแต่งกายเหมือนรัชทายาท แม้แต่ทรงผมก็เหมือนกัน ตอนเกิดเหตุเพลิงไหม้ สถานการณ์วุ่นวายมาก รัชทายาทอาจถูกสับเปลี่ยนไปในตอนนั้น”
“ที่กระหม่อมเข้าวังมาก็เพื่อทูลฝ่าบาทว่า เรื่องรัชทายาทออกจากวังหลวงตามหลักควรมีคนรู้ไม่มาก แต่อีกฝ่ายกลับรู้ว่าคืนนี้รัชทายาทออกจากวังหลวงไปลอยเรือกระดาษที่แม่น้ำเยว่ ไม่เพียงแต่รู้ ยังเตรียมการไว้ล่วงหน้า แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีคนเผยเส้นทางรัชทายาท คนผู้นี้ไม่ใช่คนในวังก็เป็นคนตระกูลเซี่ย”
“กระหม่อมกลับจวนไปตรวจสอบคนตระกูลเซี่ยดูว่าผู้ใดแพร่ข่าวนี้ออกไป ส่วนฝ่าบาทเองก็ควรตรวจสอบในวัง คนข้างกายรัชทายาท องค์หญิงใหญ่และฮองเฮาทั้งหมด”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็มองไปยังลู่เจียว เอ่ยขึ้นว่า “พวกเราออกจากวังหลวงกลับไปตรวจสอบที่จวนกันก่อน ดูว่าที่จวนมีคนแพร่งพรายเรื่องรัชทายาทไปแม่น้ำเยว่หรือไม่”
“ตกลง”
สองสามีภรรยาร้อนใจก้าวออกไป
เซียวเหวินอวี๋มองตามหลังท่านพ่อกับท่านแม่ที่ร้อนใจออกไป ในใจก็ทนแทบไม่ไหว ตอนนั้นพวกเขาพยายามยัดเยียดรัชทายาทไปให้ท่านพ่อกับท่านแม่ ปรากฏตอนนี้เกิดเรื่องกลับไปตำหนิท่านพ่อกับท่านแม่
ในใจเซียวเหวินอวี๋แทบทนรับไม่ไหว เขาหันไปมองหวังเมิ่งเหยา กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ไม่มีผู้ใดต้องการให้รัชทายาทเกิดเรื่อง เจ้าสงบสติลงหน่อยได้หรือไม่”
สีหน้าหวังเมิ่งเหยาแทบไม่อยากจะเชื่อ “ตอนนี้ฝ่าบาทยังไม่รีบให้คนไปตามหาจิ่งเอ๋อร์ ยังมีเวลามาตำหนิหม่อมฉัน?”
เซียวเหวินอวี๋กัดฟัน หันหลังก้าวออกไปสั่งให้คนไปตามบ่าวรับใช้รัชทายาทและองค์หญิงใหญ่มา รวมทั้งบ่าวรับใช้ของฮองเฮาด้วย นำมาสอบให้หมดทุกคน ดูว่าผู้ใดเป็นคนแพร่งพรายเรื่องรัชทายาทออกจากวังหลวง
ดังที่ท่านพ่อว่า คนผู้นั้นเตรียมการไว้เช่นนี้ย่อมต้องรู้ล่วงหน้าว่ารัชทายาทจะไปลอยเรือกระดาษริมแม่น้ำเยว่
ไม่เพียงแต่สอบคนเหล่านี้ แต่ยังสั่งการให้เซี่ยเหวินเหยาแห่งศาลอาญาต้าหลี่สอบปากคำเด็กที่จับตัวมาได้คนนั้น
จวนตระกูลเซี่ย พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมาก็สั่งการให้นำตัวบ่าวรับใช้ทุกคนมาสอบ ปรากฏสอบไปสอบมาก็ไม่พบความผิดปกติอันใด
ตระกูลเซี่ย เซี่ยเหวินเซ่าพร้อมกับเซี่ยเหวินเหยาล้วนรู้ข่าวรัชทายาทถูกจับตัวไป
ทั้งสองคนตกใจอย่างมาก เรื่องรัชทายาทไปแม่น้ำเยว่ลอยเรือกระดาษขอพร ทุกคนรู้กันนานแล้ว
ไม่มีผู้ใดคิดว่าจะถึงกับมีคนกล้าจับตัวรัชทายาทในพื้นที่ใกล้พระเนตรพระกรรณเช่นนี้
พรรคพวกตระกูลจ้าวถูกกำจัดหมดแล้ว ยังมีผู้ใดจ้องทำร้ายรัชทายาทอีก
แต่ยามนี้ ทุกคนล้วนเป็นห่วงรัชทายาทมาก รัชทายาทคงไม่ถูกอีกฝ่ายสังหารกระมัง
“ท่านพ่อ รัชทายาทคงไม่เป็นอันใดกระมัง”
หากรัชทายาทเกิดเรื่อง ท่านพ่อกับท่านแม่คงถูกคนนินทาว่าร้าย รัชทายาทเป็นโอรสที่ฝ่าบาทโปรดปรานมาก หากรัชทายาทเกิดเรื่อง เกรงว่าแม้แต่ซื่อเป่าก็คงเอาใจออกหากจากท่านพ่อท่านแม่ด้วยเรื่องนี้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตอบน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “รัชทายาทพกยาที่ท่านแม่เตรียมไว้ให้ไม่น้อย เขาฉลาดมาก น่าจะไม่เกิดเรื่อง และอีกฝ่ายทุ่มเทกำลังจับตัวรัชทายาทไป น่าจะไม่ใช่แค่ต้องการสังหารเขา หากเขาคิดสังหาร เพียงกระบี่เดียวก็ปลิดชีพได้ ไม่จำเป็นต้องนำตัวเขาไป”
เซี่ยเหวินเหยากับเซี่ยเหวินเซ่าได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็วิเคราะห์กัน คิดแล้วก็เห็นตามเหตุผลนี้ คนบงการจับตัวรัชทายาทไปย่อมต้องไม่เพียงแค่ต้องการสังหารเท่านั้น หากต้องการสังหารรัชทายาทก็สังหารในที่นั้นเสียเลย ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทสรรพกำลังนำตัวไป
พวกเขาจับตัวรัชทายาทไปย่อมต้องมีจุดมุ่งหมาย
ตอนนี้รัชทายาทไม่เป็นอันใดก็ดี