ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 914 เปลี่ยนไป
ตอนที่ 914 เปลี่ยนไป
แต่ค้นหาจวนองค์หญิงจนทั่วแล้วก็ยังไม่พอร่องรอยของรัชทายาทเซียวจิ่ง
เซียวเหวินอวี๋สีหน้าเย็นเยียบ มององค์หญิงเซียวเยว่ “ว่ามา เอาตัวรัชทายาทไปซ่อนไว้ที่ใด”
เซียวเยว่ไหนเลยจะยอมรับเรื่องนี้ นางพยายามสงบใจลง เอ่ยขึ้นว่า “หม่อมฉันไม่รู้ว่าฝ่าบาททรงหมายความเช่นไร”
เซียวเหวินอวี๋แค่นเสียงฮึในลำคอ “ดูท่าเราดีกับเจ้ามากเกินไป จึงทำให้เจ้าบังอาจเหิมเกริมเช่นนี้”
เซียวเหวินอวี๋เดินมาถึงวันนี้ได้ ค่อยๆ ได้รับรู้แล้วว่าในฐานะฮ่องเต้ ควรเย็นชาแล้งน้ำใจ บางครั้งเมตตามากเกินไป ไม่แน่ว่าอาจทำร้ายคนข้างกายได้
เซียวเยว่ได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ก็อดตัวสั่นไม่ได้ สีหน้าซีดเผือด
ในเวลานี้ ในใจนางอดนึกเสียใจภายหลังไม่ได้แล้วที่ช่วยคนบงการทำเรื่องเช่นนี้
แต่เรื่องมาถึงเช่นนี้แล้ว นางไม่อาจยอมรับว่าทำเรื่องนี้ได้
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำอันใด ฝ่าบาทอย่าได้ใส่ความหม่อมฉัน”
เซียวเหวินอวี๋แค่นยิ้มเยียบเย็น “ใส่ความ? หากเราคิดสังหารเจ้าต้องหาเรื่องใส่ความหรือ”
เขากล่าวจบ ก็มองไปที่โจวโย่วจิ่น “นำตัวนางออกไปลงทัณฑ์ เราอยากดูว่าปากนางจะแข็งเพียงใด”
โจวโย่วจิ่นโบกมือให้คนเข้าจับกุมเซียวเยว่ เซียวเยว่ตกใจร้องเสียงดัง “ฝ่าบาท ทรงทำกับหม่อมฉันเช่นนี้ไม่ได้นะ ทำกับหม่อมฉันเช่นนี้ไม่ผิดต่อเสด็จพ่อหรือ”
เซียวเหวินอวี๋แค่นยิ้มกล่าวว่า “เราทำเพื่อเสด็จพ่อมากเกินไป จึงปล่อยให้เจ้ามีโอกาสทำร้ายรัชทายาท”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวจบโบกมือ โจวโย่วจิ่นรีบเข้าไปจับกุมตัวหมิงจูจวิ้นจู่ ลากนางออกไป
เซียวเยว่เปล่งรัศมีเย็นเยียบรอบกาย พยายามดิ้นรนขัดขืน น่าเสียดายนางไหนเลยจะสู้คนของโจวโย่ว จิ่นได้ สุดท้ายถูกคนของโจวโย่วจิ่นลากตัวออกไป
เป็นถึงองค์หญิง ถึงกับถูกกระทำเช่นนี้ ในใจเซียวเยว่คับแค้นใจไม่อาจบรรยาย นางกัดฟันตะโกนดัง “หยุดนะ ข้าพูดแล้ว ข้าพูดหมดแล้ว”
เซียวเหวินอวี๋ยกมือให้คนของโจวโย่วจิ่นหยุด ขันทีลากนางกลับมา
เซียวเยว่คุกเข่าตัวตรงด้วยสีหน้าคับแค้น มองไปยังเซียวเหวินอวี๋ตรงหน้า “ข้าขอถามฝ่าบาทเรื่องหนึ่งได้หรือไม่”
“ว่ามา”
“ข้าแพ้ดอกไม้เป็นเพราะฝ่าบาทใช่หรือไม่”
เพราะเรื่องนี้ ตอนนี้นางมีชีวิตที่ลำบากมาก
เซียวเหวินอวี๋นิ่งมองเซียวเยว่ ค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “เป็นฝีมือเราเอง”
เซียวเยว่สมองอื้ออึงไปหมด ลมหายใจพลันสับสน แววตานางมีแต่ความเคียดแค้นชิงชัง มองเซียวเหวิน อวี๋ “เป็นเจ้าจริงๆ”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “ในฐานะองค์หญิง หากจิตใจดีมีเมตตา เจ้าก็จะมีชีวิตที่ทรงเกียรติไปตลอดชีวิต แต่เจ้าไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา เหิมเกริมเอาแต่ใจตนเองมากเกินไป”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวจบก็ไม่คิดคุยเรื่องนี้กับเซียวเยว่อีก ตวาดดังว่า “ว่ามา ตอนนี้รัชทายาทอยู่ที่ใด”
เซียวเยว่ได้ยินเซียวเหวินอวี๋ ในใจก็แตกตื่นตกใจ หน้าซีดไม่อาจบรรยาย เป็นนานก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า“ความจริงมีคนมาหาข้า ให้ข้าร่วมมือด้วย แต่ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาให้ข้าบอกความเคลื่อนไหวของรัชทายาท ขอเพียงข้าบอกพวกเขา พวกเขาก็จะให้เงินข้าก้อนหนึ่ง”
แม้ว่าในฐานะองค์หญิง แต่เพราะมีเรื่องกับฝ่าบาท เซียวเยว่มีชีวิตที่ยากลำบากมาก คนผู้นั้นมาหานาง ก็เพราะนางแค้นใจเซียวเหวินอวี๋ จึงได้ร่วมมือกับอีกฝ่าย อีกฝ่ายพูดแล้วก็ทำตามที่พูด มอบตั๋วแลกเงินให้นางสามหมื่นตำลัง
เพียงแต่ตอนนี้เห็นสีหน้าเย็นเยียบดุดันของเซียวเหวินอวี๋ นางเริ่มนึกกลัวแล้ว
“หม่อมฉันผิดไปแล้วๆ”
เซียวเยว่ตัวสั่นไม่หยุด
เซียวเหวินอวี๋สีหน้าเย็นเยียบน่ากลัวยิ่ง เดิมเขาคิดว่าเป็นฝีมือเซียวเยว่จับตัวรัชทายาทไป เพื่อล้างแค้นเขา ตอนนี้ดูท่ามีคนคิดแตะต้องรัชทายาท
“ดีที่สุดเจ้าขอพรให้รัชทายาทไม่เป็นอันใด หากรัชทายาทเกิดเรื่อง เราไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
เซียวเหวินอวี๋เพิ่งกล่าวจบ องครักษ์ก็เดินเข้ามารายงาน “ฝ่าบาท ใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินโจวกั๋วมา”
เซียวเหวินอวี๋ได้ยินท่านพ่อกับท่านแม่มา สีหน้าก็อ่อนโยนลง รีบสั่งการองครักษ์ “เชิญพวกเขาเข้ามา”
เซียวเหวินอวี๋คิดไม่ถึงว่า นอกจากเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว ฮองเฮาก็มาด้วย
ฮองเฮาสีหน้าย่ำแย่อย่างมาก พอเข้ามาก็ตรงเข้าไปหาเซียวเยว่ ตวาดเสียงดังถามว่า “รัชทายาทล่ะ เจ้าเอารัชทายาทไปซ่อนไว้ที่ใด”
เซียวเยว่เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรงว่า “ข้าไม่รู้”
ฮองเฮาโมโหตวาดว่า “ไม่ใช่เจ้าสั่งการให้คนจับตัวรัชทายาทหรือ”
“ไม่ใช่ข้า ข้าเปล่า”
ฮองเฮาพลันแตกตื่นตกใจร่ำไห้มองไปยังเซียวเหวินอวี๋ “ฝ่าบาท จิ่งเอ๋อร์อยู่ที่ใดเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋เริ่มรำคาญ ตั้งแต่รู้ว่ารัชทายาทถูกจับตัวไป ฮองเฮาก็เอาแต่ร้องไห้ เขาพอเข้าใจจิตใจผู้เป็นมารดาได้ แต่ร้องไห้ไปมีประโยชน์อันใด สงบจิตสงบใจลงหน่อยได้หรือไม่
เซียวเหวินอวี๋ไม่ได้สนใจฮองเฮา หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว “ท่านพ่อกับท่านแม่ พวกท่านมาได้อย่างไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสีหน้าไม่ดีนัก ตั้งแต่รัชทายาทถูกจับตัวไป พวกเขาไม่ได้พักผ่อนเลย รอฟังแต่ข่าว พอได้ยินลูกน้องรายงานว่า รัชทายาทอาจถูกองค์หญิงจับไป ดังนั้นจึงได้เร่งมา
ตอนนี้ดูท่าทางองค์หญิงคงไม่ได้จับตัวไป
อารมณ์เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวหนักอึ้งขึ้นมาทันที ทั้งสองคนมองไปยังเซียวเหวินอวี๋กล่าวว่า “พวกเราเป็นห่วงรัชทายาท ดังนั้นจึงได้มาดูว่าจะช่วยอันใดได้บ้าง”
เซียวเหวินอวี๋มองออกว่าท่านพ่อกับท่านแม่ตำหนิตนเองอย่างมาก
ความจริงเรื่องนี้ก็ไม่อาจตำหนิท่านพ่อกับท่านแม่ แม้ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้พารัชทายาทออกไป คนบงการก็ยังคงหาโอกาสจับตัวรัชทายาทอยู่ดี
“ท่านพ่อกับท่านแม่ ไม่เป็นไร”
เซียวเหวินอวี๋เพิ่งกล่าวจบ ฮองเฮาเอ่ยขึ้นว่า “อะไรคือไม่เป็นไร ตอนนี้จิ่งเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างยังไม่รู้ หากไม่ใช่ใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินโจวกั๋วพาเขาไปแม่น้ำเยว่ เขาก็คงไม่ถูกจับตัวไป”
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟัง ก็มีสีหน้าย่ำแย่อย่างไม่อาจบรรยาย หันไปมองฮองเฮา “หุบปาก”
เดิมฮองเฮากำลังเสียใจ พอได้ยินเซียวเหวินอวี๋ตำหนิตน ก็น้ำตาร่วงรินออกมาอีกครั้ง เอ่ยอย่างปวดใจว่า “ข้าพูดผิดหรือ หากไม่ใช่ใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินโจวกั๋วพารัชทายาทไปแม่น้ำเยว่ รัชทายาทจะหายตัวไปหรือ”
คิดถึงว่าบุตรชายอาจประสบเหตุแล้ว ฮองเฮาก็ไม่อาจสงบสติลงได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวได้ฟังฮองเฮาก็สีหน้าย่ำแย่ทันที ทั้งสองคนเอ่ยขึ้นว่า “ฮองเฮาวางใจ พวกเราจะช่วยรัชทายาทกลับมาให้ได้”
ฮองเฮาสูญเสียการควบคุมตนเอง กรีดร้องดังว่า “ไปช่วยที่ไหนกัน ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้”
เซียวเหวินอวี๋ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เขามองฮองเฮาแล้วก็ตวาดเยียบเย็นว่า “ฮองเฮา หากรัชทายาทประสบเหตุ เจ้าก็คือตัวการใหญ่ที่สุด นางกำนัลในวังเจ้าเผยร่องรอยรัชทายาท ในฐานะฮองเฮา แม้แต่ความสามารถดูแลแค่นี้ก็ไม่มี รู้จักแต่ตำหนิผู้อื่น นี่คือสิ่งที่ฮองเฮาควรกระทำหรือ”
เซียวเหวินอวี๋แต่งตั้งหวังเมิ่งเหยาเป็นฮองเฮาไม่นานก็พบข้อด้อย ตระกูลหวังไม่ใช่ตระกูลเก่าแก่ หวังเมิ่งเหยาไม่ได้รับการอบรมในเรื่องนี้ ความสามารถในการดูแลไม่พอ แม้ว่านางทำการค้าพอได้ แต่ทำการค้ากับดูแลวังหลังต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าคนในวังเป็นเพียงนางกำนัลเล็กๆ แต่ทุกคนล้วนมีแผนการในใจตนเอง ฮองเฮาต้องเชี่ยวชาญดูแลเรื่องพวกนี้ จึงจะสยบคนพวกนั้นให้ไม่กล้าคิดนอกลู่นอกทางได้ แต่การทำการค้า ขอเพียงสองฝ่ายมีประโยชน์ร่วมกันก็พอ
เดิมเซียวเหวินอวี๋ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เขาเองค่อยๆ สอนไปก็ได้
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าพอนางประสบเรื่องนี้ ก็ไม่คิดหาทางแก้ไข รู้จักแต่ตำหนิผู้อื่น