ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 916 หาเรื่องโวยวาย
ตอนที่ 916 หาเรื่องโวยวาย
เซียวเหวินอวี๋รีบมีราชโองการสั่งให้เซี่ยวั่งเทียนเลือกทหารเก่งกล้าจากอู่เฉิงปิงหม่าซือลอบปะปนเข้าไปสืบค้นในแถบตะวันออกของเมือง เพราะไม่วางใจ เขายังสั่งให้จ้าวเหิงนำกำลังองครักษ์ส่วนหนึ่งไปช่วย หลังคนเซี่ยวั่งเทียนตรวจสอบเสร็จ ก็เข้าตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง
หากรัชทายาทอยู่ในแถบตะวันออกของเมือง จะต้องพบร่องรอย
ในห้องโถง เซี่ยอวิ๋นจิ่นยืนขึ้นเอ่ยขึ้นว่า“ฝ่าบาท กระหม่อมก็จะนำคนส่วนหนึ่งไปแถบตะวันออกของเมืองด้วย”
เซียวเหวินอวี๋เดิมคิดห้าม แต่เห็นท่าทางท่านพ่อกับท่านแม่เป็นห่วง สุดท้ายจึงไม่ได้เอ่ยอันใด
“ได้ ส่งคนออกไปแล้ว พวกเรากลับไปรอกันเถอะ”
เซียวเหวินอวี๋นำคนกลับเข้าวัง รองโส่วฝู่รีบกลับบ้าน เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่งลู่เจียวกลับตระกูลเซี่ยก่อน จากนั้นก็นำคนไปแถบตะวันออกของเมืองค้นหารัชทายาท
ลู่เจียวเป็นห่วงเขา กำชับกล่าวว่า “หากพบความผิดปกติ เจ้าอย่าทำอันใดพลการ มารายงานฝ่าบาท ให้ฝ่าบาททรงจัดการ รู้ไหม”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบพยักหน้าเห็นด้วย “ข้าทราบแล้ว เจ้าอย่าได้เป็นห่วง ข้ารู้ควรทำเช่นไร”
ลู่เจียวกลับจวน เซี่ยเหวินเหยา เซี่ยเหวินเซ่าและเซี่ยเหวินอวี้พากันออกมาสอบถามสถานการณ์
“ท่านแม่ รัชทายาทอยู่จวนองค์หญิงหรือ”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่อยู่ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ารัชทายาทอยู่ที่ใด แต่น่าจะแน่ใจได้ว่ารัชทายาทน่าจะยังไม่ถูกส่งออกจากเมืองหลวง ท่านพ่อเจ้าสงสัยว่าตอนนี้รัชทายาทถูกซ่อนอยู่พื้นที่แถบตะวันออกของเมือง ตอนนี้เขานำคนไปตรวจค้นแล้ว”
พวกเซี่ยเหวินเหยาสามคนรีบกล่าวว่า “พวกเราก็นำคนไปแถบตะวันออกของเมืองตรวจค้นด้วยกันเถอะ”
ลู่เจียวยกมือห้ามพวกเขา “ไม่ต้อง ฝ่าบาทส่งคนลงไปแถบตะวันออกของเมืองไม่น้อยแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องไปแล้ว ไปพักผ่อนเร็วหน่อยดีกว่า พรุ่งนี้ยังต้องไปทำงานอีก”
เซี่ยเหวินเหยาเห็นสีหน้าเหน็ดเหนื่อยของท่านแม่ก็อดเอ่ยไม่ได้ว่า “ท่านแม่ ท่านนอนพักสักครู่ รัชทายาทเป็นผู้มีวาสนาย่อมไม่เป็นอันใด”
ลู่เจียวพยักหน้า แม้ว่ายังหารัชทายาทไม่พบ แต่อย่างไรก็รู้ว่ารัชทายาทยังอยู่ในเมืองหลวง นางเคร่งเครียดไปก็ไร้ประโยชน์
“ได้ แม่จะนอนสักครู่ พวกเจ้าเองก็ไปนอนเถอะ”
ต้าเป่ากับซานเป่าหันหลังออกไป อู่เป่ากลับรั้งท้าย พอทุกคนไปกันแล้ว เขาหันกลับมานั่งลงข้างกายลู่เจียว
“ท่านแม่ ท่านอย่าได้ตำหนิตนเองเรื่องรัชทายาทถูกจับไป ไม่ได้เกี่ยวอันใดกับพวกท่าน หากคนบงการคิดจับตัวรัชทายาท แม้ไม่มีเหตุครั้งนี้ ก็ย่อมมีครั้งหน้า หากฝ่าบาทกับฮองเฮาตำหนิท่านแม่กับท่านพ่อ…”
ลู่เจียวรีบมองเซี่ยเหวินอวี้กล่าวว่า “พี่สี่เจ้าไม่ได้ตำหนิพวกเรา เจ้าอย่าได้คิดเหลวไหลไป”
นางไม่อยากให้บรรดาบุตรชายเกิดช่องว่างระหว่างกัน
เซี่ยเหวินอวี้พอได้ฟังลู่เจียวก็เลิกคิ้วเอ่ยทันที “เช่นนั้นก็คงเป็นฮองเฮาตำหนิท่านพ่อกับท่านแม่”
กล่าวจบสีหน้าก็เย็นเยียบ น้ำเสียงดุดันเยือกเย็นอย่างไม่อาจระงับ “นางน่าจะลืมไปแล้วว่าตนเองก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาได้อย่างไร หากไม่มีท่านแม่ก็ไม่มีนางในวันนี้ นางใช้ชีวิตดีๆ มากเกินไปแล้วจริงๆ จึงคิดไปว่าตนเองเก่งกาจ ข้าว่าพี่สี่ไม่ควรมีนางเพียงคนเดียว นางไม่ควรได้รับความรักหนึ่งเดียวจากพี่สี่ บุตรีขุนพลทหารหยาบกระด้าง แม้แต่หน้าตาก็ไม่ใช่ว่างามล้ำเลิศอันใด”
เซี่ยเหวินอวี้โมโหเดือดดาล ลู่เจียวยกมือตีเขาทีหนึ่ง “พูดจาเหลวไหลอันใด รีบไปนอนได้แล้ว วาจาเช่นนี้วันหน้าอย่าได้เอ่ยอีก”
เซี่ยเหวินอวี้เห็นท่านแม่โมโห ก็รีบเอ่ยเสียงอ่อนทันที “ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว วันหน้าไม่พูดแล้ว ท่านแม่นอนเถอะ ข้าจะนอนเฝ้าท่านแม่”
ลู่เจียวยังอยากให้เขาไปนอน แต่เห็นเขาดึงดันจะเฝ้านาง ก็รู้ว่านางพูดไปก็ไร้ประโยชน์
นางจึงนอนลงบนเตียง พูดคุยจุกจิกกับเซี่ยเหวินอวี้ไปจนกระทั่งค่อยๆ หลับผล็อยหลับไป
เซี่ยเหวินอวี้ห่มผ้าให้ลู่เจียวอย่างเบามือ ก่อนจะออกไป
พอก้าวออกจากห้องมาก็เงยหน้ามองท้องฟ้าค่ำคืน ค่อยๆ เผยรอยยิ้มมุมปากอย่างมีความนัย ฮองเฮาคงใช้ชีวิตดีๆ มากเกินไปแล้ว เขาไม่ถือสาหากจะต้องให้ยาปิดตานาง[1]สักหน่อย
อู่เป่าไม่รู้ว่า แม้เขาไม่ให้ยาปิดตานาง ยามนี้เซียวเหวินอวี๋ในวังกำลังหมดความอดทนกับฮองเฮาแล้ว
“ฮองเฮา เราหวังว่าวันหน้าเจ้าอย่าได้นำเรื่องรัชทายาทถูกจับตัวไปมาตำหนิท่านพ่อท่านแม่ข้าอีก”
ฮองเฮาได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ก็นิ่งอึ้งมองแววตาเยียบเย็นของเขา เขาใช่ชายที่อดีตเคยตามใจนางหรือนี่ เขาใช่ชายที่บอกว่าจะอยู่กับนางไปชั่วชีวิตผู้นั้นหรือ เหตุใดเขาจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้
“ฝ่าบาท ทรงตำหนิหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ รัชทายาทถูกจับตัวไป ตอนนี้สถานการณ์เป็นเช่นไรก็ยังไม่อาจรู้ได้ หม่อมฉันไหนเลยจะมีกะจิตกะใจมาสนใจความรู้สึกของผู้อื่น หม่อมฉันเองก็ปวดใจเจียนตายนะเพคะ”
หวังเมิ่งเหยากล่าวจนสุดท้ายปวดใจร่ำไห้ “ก็จริง ขอเพียงฝ่าบาททรงต้องการ ก็จะไม่ขาดแคลนบุตรชาย แต่รัชทายาทเป็นโอรสองค์แรกของหม่อมฉัน”
หวังเมิ่งเหยากล่าวถึงตรงนี้ ในใจพลันสะอึกกึก นางรู้แล้วว่าตนเองพูดพลาดไปแล้ว
ฝ่าบาททรงรักรัชทายาทเพียงใด นางรู้ดี รัชทายาทถูกจับตัวไป ในพระทัยฝ่าบาทก็ย่อมเสียพระทัยไม่น้อยไปกว่านาง เหตุใดนางจึงได้กล่าววาจาเสียดแทงพระทัยฝ่าบาทเช่นนี้ได้
“ฝ่าบาท หม่อมฉัน…”
เซียวเหวินอวี๋ไม่อาจระงับโทสะในใจตนเองได้อีกต่อไป เขาตวาดเยียบเย็นว่า “พอได้แล้ว หวังเมิ่งเหยา ตั้งแต่เจ้าเป็นฮองเฮาก็คิดว่าตนเองเก่งกาจ เจ้าที่เคยมีจิตใจงดงามหายไปไหน เจ้าคิดว่าเรามองไม่ออกหรือว่า เจ้ารู้สึกอย่างไรยามเรียกฮูหยินเข้าวังมานั่งสูงส่งโดดเด่น เจ้าคิดว่าเรามองไม่ออกหรือ เจ้าแสดงตนเองยิ่งใหญ่ต่อหน้าบรรดาพระสนมเนี่ยผิน พวกนางเข้าวังก็เพราะต้องการทำให้ราชสำนักเรามั่นคง เราติดค้างพวกนาง ในฐานะฮองเฮา เจ้าไม่เพียงแต่ไม่ปลอบใจพวกนาง ดูแลพวกนางให้ดี สุดท้ายถึงกลับแสดงว่าตนโดดเด่นเหนือกว่าต่อหน้าพวกนาง แสดงให้เห็นว่าเราโปรดปรานเจ้าเพียงผู้เดียว”
“เจ้าทำให้เราผิดหวังมากจริงๆ ครั้งนี้รัชทายาทถูกจับไป ก็เพราะเจ้าดูแลไม่เข้มงวด ในฐานะฮองเฮา แม้แต่นางกำนัลในตำหนักตนเองก็ดูแลไม่ได้ ทำให้บุตรชายตนเองถูกจับตัวไป ปรากฏเจ้าไม่เพียงแต่ไม่รู้สำนึก กลับยังเอาแต่ตำหนิผู้อื่น”
กล่าวจนสุดท้ายเซียวเหวินอวี๋ไม่คิดสนใจหวังเมิ่งเหยาอีก หันหลังจากไป หวังเมิ่งเหยาเห็นเขาเช่นนี้ก็โมโหพูดไม่ออก ตะโกนไล่ดังตามหลังไปว่า “ฝ่าบาทผิดหวังต่อหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ผิดหวังต่อฝ่าบาทเช่นกันเพคะ ฝ่าบาทบอกว่าจะทรงรักมั่นต่อหม่อมฉัน ปรากฏพอพบเจอเรื่องเล็กน้อยก็ตะโกนใส่หน้าหม่อมฉัน อีกอย่างฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินโจวกั๋วก็แค่บิดามารดาบุญธรรมฝ่าบาท ฝ่าบาทเอาแต่เรียกท่านพ่อกับท่านแม่ ฝ่าบาททำเช่นนี้ไม่เกรงว่าอดีตฮ่องเต้จะเสียพระทัยหรือเพคะ พวกเขาถือสิทธิ์อันใดให้ฝ่าบาทเรียกท่านพ่อกับท่านแม่”
“ฝ่าบาทบอกแต่ว่าดีกับหม่อมฉัน แต่พวกเขาทำให้รัชทายาทถูกจับตัวไป ฝ่าบาทไม่ตำหนิพวกเขา แต่กลับมาตำหนิหม่อมฉัน”
หวังเมิ่งเหยากล่าวจนสุดท้ายเสียใจจนหัวใจแตกสลายร่ำไห้ออกมา
เดิมนางคิดว่าตนเองร้องไห้ เซียวเหวินอวี๋จะหันกลับมา ปรากฏเซียวเหวินอวี๋หันกลับมาจริง แต่กลับมองนางเพียงแค่ทีหนึ่ง แววตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นก็เขาก็เดินจากไปทันที
หวังเมิ่งเหยาร้องไห้ได้ครู่หนึ่ง เห็นว่าเซียวเหวินอวี๋ไม่หันหลังกลับมาก็โมโหสิ้นหวัง ยกมือขว้างปาข้าวของรอบตัว จากนั้นก็นางก็เรียกนางกำนัลอาวุโสมาสั่งการอย่างโมโหมาก “ไป ดูว่าฝ่าบาทไปตำหนักนางชั้นต่ำคนไหนในวัง ข้ารู้นะ รู้ว่าเขาหวั่นไหวกับนังชั้นต่ำพวกนั้น พอมีเรื่องนิดหน่อย จึงได้อารมณ์เสียใส่ข้า”
[1] สำนวนให้ยาปิดตา หมายถึงการให้ยาปิดตาคนป่วยย่อมสบาย แต่คนไม่ป่วยย่อมอึดอัด จึงนำมาเปรียบเหมือนการหาเรื่องให้ผู้อื่นต้องประสบเหตุลำบาก เช่น ฟ้องนาย รังแกต่างๆ เป็นต้น ไม่ให้คนผู้นั้นมีชีวิตที่สุขสบาย