ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 937 ลงโทษ
ตอนที่ 937 ลงโทษ
พ่อบ้านทังคิดไปพลางมองลู่เจียวไป เอ่ยว่า “ฮูหยิน คุณหนูรองกับคุณชายใหญ่ไม่รู้ความ ฮูหยินอบรมก็พอ พวกเขายังเล็ก หากตีด้วยไม้ เกรงว่าคงไม่ดีนัก หากนายท่านรู้ย่อมต้องไม่พอใจเป็นแน่”
ลู่เจียวหัวเราะ “ข้าในฐานะฮูหยินดูแลตระกูล แม้แต่บุตรอนุก็อบรมไม่ได้ เช่นนั้นข้ายังต้องนั่งในตำแหน่งนี้อีกหรือ”
พ่อบ้านทังได้ฟังก็หันไปมองเฝิงเจิน เฝิงเจินคิดไม่ถึงว่าลู่เจียวถึงกับต้องการให้คนตีบุตรชายบุตรสาว นาง สีหน้านางพลันแปรเปลี่ยน ไม่อาจดำรงท่าทีสงบนิ่งได้อีกต่อไป
นางแผดเสียงดังว่า “หลิ่วเสียน เจ้าเสียสติหรือ ถึงกับให้คนตีบุตรชายบุตรสาวข้า”
ลู่เจียวหันไปมองเฝิงเจิน ยกมือตบหน้านางฉาดหนึ่ง
“อี๋เหนียงผู้หนึ่ง ถึงกับกล้าล่วงเกินฮูหยิน กฎธรรมเนียมข้อใดอนุญาตให้เจ้าทำได้”
ยามนี้ทุกคนล้วนตกใจกับการกระทำของลู่เจียว
ในใจลู่เจียวโมโหมาก จวนใหญ่โตเช่นนี้ไม่มีคนใช้งานได้สักคน ช่างน่าหมดแรงเสียจริง
แต่ในเมื่อนางเริ่มแล้ว ไม่มีทางยอมปล่อยไปง่ายๆ ได้ นับประสาอันใดกับตู้หลิงซีกับตู้จั๋วถึงกับกล้ารังแกตู้เยี่ยน
ลู่เจียวคิดไปพลางมองไปยังสาวใช้เรือนนาง นอกจากปี้เยว่ ยังมีปี้อวิ๋นหัวหน้าสาวใช้อีกคนและสาวใช้ระดับรองอีกสี่คน ชุนเถา เซี่ยอวี่ ชิวหลี ตงเสวี่ย ที่เหลือเป็นสาวใช้ระดับสามและบ่าวหญิงสูงวัย
ลู่เจียวมองทุกคน แค่นยิ้มเอ่ยว่า “ผู้อื่นไม่ขยับก็แล้วไป คนในเรือนข้าเองก็ไม่ขยับ เจ้าคิดว่าข้ายังจะยอมให้พวกเจ้าอยู่เรือนข้าต่อไปหรือ แม้แต่คำสั่งนาย พวกเจ้าก็ไม่เชื่อฟัง ยังจะอยู่ต่อไปทำอันใด ขายออกไปให้หมด”
พอนางเอ่ยวาจานี้ ทุกคนในเรือนต่างมีสีหน้าแปรเปลี่ยน แม้ว่าคนเหล่านี้เป็นบ่าวรับใช้จวนป๋อ แต่เจ้าของร่างเดิมก็มิได้โง่เขลาจนไม่มีสัญญาขายตัวพวกนาง สัญญาขายตัวอยู่ในมือเจ้าของร่างเดิม
ยามนี้ไม่ต้องให้ลู่เจียวเอ่ยต่อ คนในเรือนนางก็ขยับกันแล้ว บ่าวหญิงสูงวัยรูปร่างกำยำก้าวเข้าไปประชิดตัวตู้หลิงซีกับตู้จั๋ว หัวหน้าสาวใช้ไม่ขยับ สาวใช้ระดับรอง ชิวหลีกับตงเสวี่ยลงมือตีฝ่ามือทั้งสองคน
ตู้หลิงซีกับตู้จั๋วสองคนแต่เล็กได้รับการดูแลเอาใจ ไม่เคยต้องทนรับเช่นนี้ พอถูกตีก็แผดเสียงร้องไห้ดังไปด่าไป
“นังหญิงชั่ว หญิงชั่วร้าย ถึงกับกล้าตีพวกเรา พวกเราจะไปฟ้องท่านย่า ฟ้องท่านพ่อ ให้พวกเขามาตีเจ้าให้ตาย เจ้าแย่งตำแหน่งท่านแม่ข้า ยังกล้าตีพวกเรา เจ้ามันหน้าไม่อาย”
ลู่เจียวหัวเราะ มีคำสั่งอีกครั้ง “ตบปากพวกเขา อายุน้อยๆ ถึงกับเหิมเกริมเช่นนี้ ด่าว่ามารดาผู้เป็นภรรยาเอกบิดา เห็นชัดว่าขาดการอบรม”
ลู่เจียวกล่าวจบ ชิวหลีกับตงเสวี่ยก็อึ้งไปทันที ตีมือกับตบปากไม่เหมือนกัน
ทั้งสองคนลังเลครู่หนึ่ง แต่พอคิดถึงว่าตนเองตีมือก็ตีไปแล้ว ความผิดนี้ก็ทำไปแล้ว ตอนนี้พวกนางมายืนข้างฮูหยินดีกว่า ทั้งสองคนรีบลงมือตบปากทันที
เพียะ เพียะ
เฝิงเจินไม่คิดไม่ฝันว่าแฝดชายหญิงตนเองถึงกับถูกคนตบตีเช่นนี้ พุ่งเข้าไปหาลู่เจียวอย่างเสียสติ ลู่เจียวรีบสั่งการ “ห้ามนางไว้”
ยามนี้ผอจื่อร่างใหญ่ในเรือนนางลงมือเข้ามาคว้าตัวเฝิงเจินจนขยับไม่ได้
ทุกคนต่างพากันตกใจนิ่งอึ้ง บ่าวรับใช้ไม่กล้าเอ่ยอันใด
ลู่เจียวไม่ได้สนใจผู้อื่น เพียงแต่หันไปมองตู้เยี่ยนเงียบๆ พบว่าเรียวตาหงส์งดงามของเด็กน้อยส่องประกายวาวจนน่าตกใจ มีแต่ความดีใจและสะใจ
แต่ชิวหลีกับตงเสวี่ยเพิ่งจะตบเสร็จ บนทางเดินเรือนด้านหลังที่ปูลาดด้วยอิฐชิงจวนก็มีเสียงฝีเท้ารีบร้อนเดินมา ยังไม่ทันมาถึงก็ส่งเสียงดังมาก่อน “ผู้ใดกัน ข้าอยากดูว่าผู้ใดกล้าตบตีหลานชายกับหลานสาวข้า”
ผู้ที่มาก็คือฮูหยินผู้เฒ่าจวนป๋อ พอได้ข่าวก็รีบมาช่วย น่าเสียดายนางมาถึง เด็กน้อยสองคนก็ถูกตีและตบไปแล้ว
แต่เด็กน้อยสองคนเห็นฮูหยินผู้เฒ่ามา ก็แผดเสียงร้องไห้ดังลั่น “ท่านย่า ช่วยข้าด้วย ช่วยพวกเราด้วย”
เฝิงเจินเองก็ร้องดังเช่นกัน “ฮูหยินผู้เฒ่า รีบมาช่วยพวกเราด้วย ฮูหยินเสียสติไปแล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่ามาถึงก็เห็นสภาพน่าอนาถของเฝิงเจินกับหลานชายหลานสาว จึงโมโหหันไปถลึงตาใส่ลู่เจียว “หลิ่วเสียน เจ้ากล้าสั่งให้คนตบตีพวกเขาหรือ”
ลู่เจียวมองด้วยสีหน้านิ่งเฉยไปยังฮูหยินผู้เฒ่า “ข้าในฐานะฮูหยินจงอี้ป๋อ แม้แต่บุตรอนุก็อบรมไม่ได้หรือ”
ฮูหยินผู้เฒ่าได้ฟังคำพูดลู่เจียว โมโหจนหายใจไม่ทัน “เจ้า เจ้าบังอาจมาก ผู้ใดให้อำนาจเจ้าตบตีพวกเขา”
ลู่เจียวค่อยๆ กล่าวว่า “ตระกูลตู้พวกเจ้าให้อำนาจข้า ใช้เกี้ยวแปดคนแบกข้าแต่งเข้ามา ข้าก็คือฮูหยิน ดูแลจวนนี้ คงมิใช่ว่าแม้แต่อำนาจอบรมอนุกับบุตรอนุก็คงไม่มีกระมัง”
ฮูหยินผู้เฒ่าได้ฟังคำพูดลู่เจียว โมโหจนตวาดดังว่า “ได้ๆ เจ้าเป็นคนไร้ความเมตตาปรานี รอให้ถิง เอ๋อร์กลับมา ข้าจะให้เขาหย่าเจ้าเสีย”
ลู่เจียวยืนขึ้นอย่างไม่คิดสนใจ “ได้สิ ข้ารอหนังสือหย่าอยู่ หากคืนนี้หนังสือหย่าไม่มา พรุ่งนี้ข้าก็จะจัดการทั้งจวนป๋อ พวกไร้ธรรมเนียมไม่ฟังคำเจ้านาย ขายทิ้งให้หมด”
ยามนี้บ่าวรับใช้ทุกคนต่างมีสีหน้าแปรเปลี่ยน คนไม่น้อยนึกเสียใจภายหลังแล้ว ลู่เจียวขี้เกียจจะสนใจหันหลังพาตู้เยี่ยนออกไป
ตู้เยี่ยนดิ้นรนครู่หนึ่ง แต่ก็สลัดไม่หลุด ทว่ามือลู่เจียวกุมนางเช่นนี้ทำให้ในใจนางดีใจมาก
สองแม่ลูกสองคนค่อยๆ เดินจากไป หรงหมัวมัวมองตาค้าง จากนั้นพอคิดได้ว่านายตนจะถูกหย่า ก็ตกใจสีหน้าซีดเผือดรีบไล่ตามกลับเรือน อดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “ฮูหยิน ท่านทำเช่นนี้ ท่านโหวกลับมาเกรงว่าคงจะหย่าท่านจริงๆ”
ลู่เจียวไม่สนใจ กล่าวว่า “หย่าก็หย่าสิ ข้ารอเขาหย่าอยู่”
นางข้ามมิติเข้ามาในนิยายก็เพื่อช่วยตัวร้ายหญิง ไม่ได้ช่วยชายชั่วเช่นนั้น
ไปจากเขา นางจะช่วยตัวร้ายหญิงไม่ได้หรือ
ในใจลู่เจียวครุ่นคิด ก้มหน้ามองไปยังตัวร้ายหญิงในมือนาง
แม้ว่าในใจนางดีใจ แต่สีหน้ากลับยังคงเย็นเยียบ เริ่มดิ้นรนไม่อยากให้ลู่เจียวจูงมือ
ลู่เจียวไม่สนใจ ยังคงจูงมือนาง สองแม่ลูกสองคนเดินเข้าไปในห้อง
ลู่เจียวเห็นหรงหมัวมัวตามมา กลัวนางจะบ่นอีก จึงสั่งงานให้นางไปทำ
“คนที่ขัดคำสั่งข้าในวันนี้ทุกคนให้จดชื่อมาให้ครบ ข้าไม่เลี้ยงคนที่เลี้ยงไม่เชื่อง”
หรงหมัวมัวได้ฟังนิ่งอึ้งไปทันที เงยหน้ามองลู่เจียวที่เข้าไปอุ้มตู้เยี่ยนที่กำลังพยายามก้าวข้ามธรณีประตู
ตู้เยี่ยนถูกอุ้มก็นิ่งตัวแข็งทื่อไม่ขยับเป็นนาน
ลู่เจียวอุ้มนางไปวางไว้บนตั่ง สองแม่ลูกสบตากัน จากนั้นก็นางเอ่ยขึ้นว่า “เยี่ยนเอ๋อร์ แม่ขอโทษเจ้า ดีหรือไม่ เมื่อก่อนเป็นความผิดแม่เอง แม่นึกเสียใจภายหลังแล้ว ตอนนี้ขอโทษเจ้าด้วย”
เด็กน้อยสีหน้าตกใจ มองลู่เจียวเป็นนานก็ไม่ขยับ ลู่เจียวค่อยๆ ตาแดงใกล้จะหลั่งน้ำตาร่ำไห้
เด็กน้อยตกใจรีบเอ่ยว่า “ท่านแม่ ท่านแม่อย่าร้องไห้”
นางโตจนป่านนี้ ยังไม่เคยเห็นมารดาร้องไห้
ลู่เจียวขอบตาแดงมองนางกล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าให้อภัยแม่แล้วหรือ”
ตู้เยี่ยนมองลู่เจียวด้วยสีหน้าจริงจัง “เช่นนั้น วันหน้าท่านแม่ยังจะตีข้าอีกหรือไม่”
“ไม่ตีแล้ว”
“เช่นนั้นท่านแม่จะยังปกป้องตู้หลิงซีกับตู้จั๋วอีกไหม”
“ไม่แล้ว”
“เช่นนั้น วันหน้าท่านแม่ยังจะลงโทษให้ข้าไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชนอีกไหม”
“ไม่แล้ว”
“เช่นนั้นข้า ข้าก็จะให้อภัยท่านแม่”
ลู่เจียวได้ฟังก็อดถอนหายใจเบาๆ ไม่ได้ นางจิ้งจอกอันใดกัน เห็นชัดว่าเป็นตุ๊กตาตัวน้อยสุดน่ารัก
นางยื่นมือไปกอดเด็กน้อยไว้ เด็กน้อยไม่ชินทำเอาตัวแข็งทื่อเป็นนานกว่าจะยอมยื่นมือขึ้นลูบใบหูลู่เจียว
ท่านแม่นุ่มนิ่มจริง นุ่มสบายจริงๆ
วันหน้าท่านแม่จะดีแล้วจริงๆ หรือ ไม่ตีนางแล้ว ไม่ด่านางแล้ว ไม่ลงโทษนางไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชนแล้วหรือ