ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 977 สงคราม
ตอนที่ 977 สงคราม
วันรุ่งขึ้น เซียวเหวินอวี๋มาเยี่ยมองค์หญิงรองจริงดังที่พูดไว้เมื่อวาน
องค์หญิงรองดีขึ้นมากแล้ว แต่เพราะล้มป่วย ทำให้ใบหน้าเล็กซีดขาว
พอเห็นเซียวเหวินอวี๋มา นางก็ยื่นมือออกไปให้เซียวเหวินอวี๋อุ้ม “เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ อุ้มๆ”
เซียวเหวินอวี๋ยื่นมือไปอุ้มนาง เห็นบุตรสาวตัวน้อยเช่นนี้ ในใจเขาก็รู้สึกบอกไม่ถูก
“เอาละ เสด็จพ่อวันหน้าจะมาหาเจ้าบ่อยๆ”
องค์หญิงรองปีนขึ้นไปบนไหล่เซียวเหวินอวี๋ ยื่นมือออกไปกอดคอเซียวเหวินอวี๋แน่น “เสด็จพ่อ ซิงซิงไปอยู่กับเสด็จพ่อได้หรือไม่เพคะ”
องค์หญิงรองเพิ่งกล่าวจบ เซียวเหวินอวี๋ยังไม่ทันได้ตอบ หวังเมิ่งเหยาข้างๆ ก็เลิกคิ้วอย่างไม่พอใจ มององค์หญิงรองกล่าวว่า “ซิงซิง เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด เสด็จพ่อยุ่งมาก ไม่มีเวลามาดูแลเจ้า นับประสาอันใดกับเจ้าเป็นเด็กผู้หญิง เจ้าจะไปอยู่กับเสด็จพ่อได้อย่างไร”
องค์หญิงรองได้ฟังหวังเมิ่งเหยาก็เบะปากจะร้องไห้
เซียวเหวินอวี๋ลูบศีรษะนางกล่าวว่า “ไม่ต้องร้องไห้ เสด็จพ่อจะมาหาเจ้าบ่อยๆ ไว้เสด็จพ่อกลับไปจะเอาของขวัญมาให้เจ้า เจ้าอยากได้ของขวัญอะไร”
องค์หญิงรองคิดอยู่ครู่หนึ่งกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ข้าอยากกินปิงถังหูลู่ผลไม้เคลือบน้ำตาล ท่านเอามาให้ข้าไม้หนึ่ง”
“ได้ ไว้เสด็จพ่อจะให้คนไปซื้อมาให้เจ้า ดีหรือไม่”
“อืม ซิงซิงจะรอเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋อยู่พูดคุยกับองค์หญิงรองได้ครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยดีใจมาก สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เซียวเหวินอวี๋มองนาง พบว่าองค์หญิงรองหน้าตาเหมือนเขามาก นอกจากดวงตาที่ไม่เหมือน ส่วนอื่นล้วนเหมือนเขามาก
ทำให้เขายิ่งมองก็ยิ่งใจอ่อน
“เอาละ เสด็จพ่อยังมีธุระ ไว้ค่อยมาหาเจ้าใหม่”
“เช่นนั้นเสด็จพ่ออย่าลืมนะเพคะ หม่อมฉันจะรอเสด็จพ่อ”
“อืม”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวจบก็หันหลังคิดอุ้มนางส่งให้ฮองเฮาด้วยสัญชาตญาณ
องค์หญิงรองกลับดิ้นรน แต่ก็ถูกหวังเมิ่งเหยาอุ้มกลับไปได้อย่างรวดเร็ว นางมององค์หญิงรองด้วยสีหน้าอ่อนโยนอย่างมาก พลางเอ่ยนุ่มนวลว่า “เอาละ ซิงซิงอย่ากวนเสด็จพ่อ เสด็จพ่อมีราชกิจต้องทำ ไว้จะเสด็จมาหาเจ้าใหม่ หากเจ้าคิดถึงเสด็จพ่อ ไว้เสด็จแม่พาเจ้าไปหาเสด็จพ่อ”
เซียวเหวินอวี๋เห็นหวังเมิ่งเหยาปลอบใจองค์หญิงรองอ่อนโยนเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าแม้หญิงผู้นี้มีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่านางดีต่อบุตรของนางไม่เลว
ไม่เพียงแต่รัชทายาทกับองค์หญิงรอง แม้แต่องค์หญิงใหญ่ นางก็ดีต่อนางมาก
พอเซียวเหวินอวี๋คิดเช่นนี้ สีหน้าก็มิได้เย็นเยียบเหมือนก่อน
เขามองหวังเมิ่งเหยาพลางกำชับว่า “องค์หญิงรองสุขภาพไม่ดี ระยะนี้เจ้าก็ดูแลนางให้มากหน่อย อย่าให้นางล้มป่วยอีก”
“ฝ่าบาทวางพระทัยเพคะ หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ”
หวังเมิ่งเหยาเม้มปากเล็กน้อย ดูท่าวิธีการนี้ของนางถูกทางแล้ว ฝ่าบาทใจอ่อนต่อนางแล้ว
ครั้งนี้นางเป็นทุกข์ใจมามาก นับว่าเข้าใจได้เรื่องหนึ่ง หากหวังว่าฮ่องเต้จะมีจิตปฏิพัทธ์ต่อนางตลอดชีวิตย่อมเป็นไปไม่ได้ วันหน้านางต้องอยู่เพื่อบุตรชาย รอให้บุตรชายนางขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ นางก็จะกลายเป็นไทเฮาแคว้นต้าโจว สตรีที่อยู่จุดสูงที่สุด ดูว่าผู้ใดยังจะกล้ารังแกนางอีก
ในใจหวังเมิ่งเหยาครุ่นคิด แต่สีหน้ามิได้แสดงออก เดินออกไปส่งเซียวเหวินอวี๋ด้วยสีหน้าอ่อนโยนยิ่ง
“ฝ่าบาททรงรักษาสุขภาพด้วย อย่าได้ทรงงานหนักมากเกินไปนะเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋ได้ยินนางกำชับละเอียด ก็คิดถึงอดีตที่ทั้งสองคนเคยอยู่ร่วมกันมาอย่างอบอุ่น จึงไม่ได้ชักสีหน้าใส่นางเหมือนก่อนหน้านี้อีก ทั้งสองคนเดินไปถึงนอกประตูตำหนัก เพิ่งจะเดินถึงประตูก็เห็นโจวโย่วจิ่นรีบร้อนเข้ามารายงาน “ฝ่าบาท ด่านเยว่กู่ส่งคนนำสารด่วนมาเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าเซียวเหวินอวี๋พลันเคร่งขรึม พร้อมกับก้าวออกไปทันที สีหน้าหวังเมิ่งเหยาพลันฉายแววเป็นกังวล กำมือแน่นเดินไปมาในพระตำหนัก
แม่ทัพประจำด่านเยว่กู่ก็คือบิดานาง อยู่ดีๆ บิดาส่งคนนำสารเข้าเมืองหลวงมาทำไมกัน ย่อมต้องเกิดเรื่องอันใด หรือว่าซีเป่ยเกิดสงครามขึ้นอีกแล้ว
หวังเมิ่งเหยายิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง บิดาห้ามเกิดเรื่องอย่างเด็ดขาด หากมีเขาอยู่ ตำแหน่งรัชทายาทก็ย่อมมั่นคง
ในห้องทรงอักษรเซียวเหวินอวี๋รีบเปิดสารด่วนที่ขุนพลหวังส่งมาเมืองหลวง พวกชนเผ่าเร่ร่อนสิบสองเป่ยฉีรุกรานโจมตีด่านเยว่กู่
เซียวเหวินอวี๋รีบหยิบแผนที่ซีเป่ยออกมาดูทันที
ด่านเยว่กู่ห่างจากเมืองอิ๋งเฉิงไม่ไกล เมืองอิ๋งเฉิงมีทหารประจำการอยู่ส่วนหนึ่ง เคลื่อนไปด่านเยว่กู่ช่วยขุนพลหวังอีกแรงได้
เซียวเหวินอวี๋คิดไปก็พลางสั่งการโจวโย่วจิ่นให้เรียกขุนนางเข้าวังมาประชุมเรื่องนี้
ขุนนางในราชสำนักเข้าวังมาแล้วก็เริ่มหารือกันทันที หารือเรียบร้อยให้เคลื่อนกำลังจากเมืองอิ๋งเฉิงสามหมื่นไปช่วยขุนพลหวังอีกแรง
“ฝ่าบาท ชนเผ่าเร่ร่อนสิบสองเป่ยฉีน่ารังเกียจมาก ก่อนหน้านี้ใต้เท้าฉินไปเป็นทูตที่เป่ยฉี เห็นอยู่ว่าสองแคว้นหารือกันเรียบร้อยแล้วว่าจะธำรงสันติภาพสองแคว้นและเปิดตลาดการค้าสองแคว้น ตอนนี้พวกเขาถึงกับผิดคำ ยกทัพมารุกรานแคว้นต้าโจวเรา ครั้งนี้พวกเราต้องสั่งสอนพวกเขาให้หนัก”
“ตามหลักแล้ว พวกเขาไม่ควรยกทัพมารุกรานแคว้นต้าโจวเราถึงจะถูก ชนเผ่าเร่ร่อนสิบสองเป่ยฉียกทัพรุกรานแคว้นต้าโจวก็เพื่อปล้นชิงเสบียงอาหารราษฎรแคว้นต้าโจว แต่ตอนนี้เปิดตลาดการค้าสองแคว้น เห็นอยู่ว่ามีเสบียงอาหารเพียงพอ พวกเขาเพียงแค่เอาวัวแพะมาแลกเปลี่ยนก็พอ ตอนนี้พลันรุกรานแคว้นต้าโจวเราด้วยเหตุใดกันแน่”
“เรื่องนี้เกรงว่ามีอันใดที่พวกเราไม่รู้ว่า ฝ่าบาทควรส่งคนไปสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างพ่ะย่ะค่ะ”
แต่ไรมาขุนนางในราชสำนักล้วนไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะรัชทายาทซีเหลียงต้องการยึดครองใต้หล้าเพียงผู้เดียว แคว้นแรกที่เขาคิดจัดการก็คือแคว้นต้าโจว ดังนั้นหากไม่เหนือความคาดหมาย ชนเผ่าเร่ร่อนสิบสองเป่ยฉีถูกรัชทายาทซีเหลียงซั่งกวนเฮ่อกล่อมให้ร่วมมือแล้ว
ซั่งกวนเฮ่ออาจจะเสนอให้สองแคว้นร่วมกันแบ่งปันแคว้นต้าโจว ดังนั้นเป่ยฉีจึงได้รุกรานแคว้นต้าโจว
หากไม่เหนือความคาดหมาย เกรงว่าด่านหลงไห่ก็คงจะเกิดสงครามเช่นกัน
เซียวเหวินอวี๋ครุ่นคิดแล้วก็รีบมองไปยังอู่กั๋วกง มีราชโองการกล่าวว่า “อู่กั๋วกง ท่านรีบส่งทหารห้าหมื่นไปเพิ่มที่ด่านหลงไห่ หากซีเหลียงรุกรานแคว้นต้าโจวก็ให้ตีโต้กลับไปให้หนัก”
ด่านหลงไห่สำคัญกว่าด่านเยว่กู่มาก หากด่านหลงไห่แตก ทัพซีเหลียงก็จะตรงเข้ายึดครองแผ่นดินแคว้นต้าโจวได้ทันที
ในห้องทรงอักษร อู่กั๋วกงตกใจเอ่ยว่า “ฝ่าบาท ไม่เคยได้ยินว่าซีเหลียงจะรุกรานแคว้นต้าโจว พวกเราเป็นมิตรกับซีเหลียงมาตลอด”
เกือบสิบปีมานี้ซีเหลียงไม่ได้มีสงครามอันใดกับแคว้นต้าโจว ตอนนี้ก็ไม่ได้ยินข่าวว่าจะยกทัพบุกแคว้นต้าโจว
เหตุใดฝ่าบาทพลันให้เขานำทหารไปช่วยด่านหลงไห่
เซียวเหวินอวี๋มองขุนนางใหญ่ในราชสำนักหลายคนพลางกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ที่รัชทายาทถูกจับตัวไป เป็นฝีมือของรัชทายาทซีเหลียงซั่งกวนเฮ่อบงการ เขาคิดทำให้แคว้นต้าโจวเราเกิดปัญหาการขึ้นครองราชย์ ให้แคว้นต้าโจวเกิดเหตุจลาจล”
“เราตรวจสอบละเอียดแล้ว รัชทายาทซีเหลียงซั่งกวนเฮ่อมีใจคิดเป็นใหญ่ คิดยึดครองใต้หล้า เขาต้องการยึดแคว้นต้าโจวเราที่สุด หากเขาทำตามแผนได้ ยึดแคว้นต้าโจวเราได้ ก็จะเข้ายึดเป่ยฉีและแคว้นโดยรอบได้อย่างราบรื่น”
“แคว้นต้าโจวเราโจมตียากที่สุด ดังนั้นเขาย่อมต้องจัดการพวกเราก่อนเป็นอันดับแรก”
ในห้องทรงอักษร ขุนนางในราชสำนักนิ่งอึ้งไปทันที จากนั้นทุกคนก็พากันเดือดดาล “เจ้าคนจิตใจละโมบดังหมาป่า ถึงกับเพ้อพกคิดยึดครองแคว้นต้าโจวเรา ช่างกำเริบหลงตัวเองเสียจริง”
“มารดามันสิ ตีพวกมันให้ถอยกลับไป”
“คิดบุกแคว้นต้าโจวเรา พวกเราบุกพวกเขาก่อนเลยดีกว่า”
เซียวเหวินอวี๋คิดถึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว ในใจก็พลันเป็นห่วงขึ้นมา
ซั่งกวนเฮ่อรัชทายาทซีเหลียงตอนนี้ราวกับสุนัขบ้า หากเขาได้ข่าว เกรงว่าท่านพ่อกับท่านแม่คงตกอยู่ในอันตราย