ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 986 เพ้อฝัน
ตอนที่ 986 เพ้อฝัน
เซียวเหวินอวี๋กล่าวถึงตรงนี้ รัชทายาทคิดเอ่ย เซียวเหวินอวี๋ยิ้มมองเขา “เจ้าคิดจะบอกว่าเสด็จแม่เจ้ารักพวกเจ้ามากสินะ”
“ใช่ นางรักเจ้ากับน้องชายเจ้า เพราะเจ้าเป็นรัชทายาท นางฝากความหวังไว้ที่เจ้า แน่นอนว่านางรักเจ้า นางรักน้องชายเจ้า ตั้งแต่เขาเกิดมาก็ไม่เคยห่างกายนาง แต่น้องสาวเจ้า หรือว่าไม่ใช่บุตรีนางกัน”
เรื่องนี้หากเกิดกับฮ่องเต้พระองค์อื่น บางทีอาจไม่มีเรื่องอันใด แต่เกิดกับเซียวเหวินอวี๋ เขารู้สึกยอมรับไม่ได้
เพราะมารดาเลี้ยงเขาเป็นสตรีที่ยอดเยี่ยมมาก ในใจเขา ผู้ชายสำคัญเช่นเดียวกับผู้หญิง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ตระกูลเซี่ย ตอนเซี่ยหลิงหลงเกิด เขารักนางที่สุด แม้แต่ชื่อของเซี่ยหลิงหลง เขาก็เป็นคนตั้งเอง
ตอนองค์หญิงใหญ่เกิดมา เขาก็ชอบมาก พอองค์หญิงรองเกิด เขากลับให้ความสนใจน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักองค์หญิงรอง แต่เพราะองค์หญิงรองมีเสด็จแม่ดูแลเช่นนั้น เขาจึงให้ความสนใจน้อยลง แต่พอองค์หญิงรองโตได้สามขวบ เขาก็พบว่าฮองเฮาไม่ดีต่อองค์หญิงรองจากใจจริง แต่เพราะเห็นแก่รัชทายาท เขาจึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่านางถึงกับร้ายกาจมากขึ้นเรื่อยๆ
รัชทายาทได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ก็เงียบงันไป กล่าวตามตรง เขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เสด็จพ่อโมโห ในใจเขา เขาคิดว่าเสด็จแม่รักเขากับน้องชายมากกว่าน้องสาว ไม่ใช่เรื่องผิดอันใด
เขากับน้องชายเป็นผู้ชายไม่ใช่หรือ
แม้ว่าในใจรัชทายาทไม่เห็นด้วย แต่ก็มิได้เอ่ยอันใด
เซียวเหวินอวี๋เห็นท่าทางเขาก็ย่อมเข้าใจว่ารัชทายาทไม่เห็นด้วยกับเขา
เซียวเหวินอวี๋มองรัชทายาทด้วยสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวว่า “เซียวจิ่ง เจ้าคิดว่าเสด็จแม่ไม่ได้ทำอันใดผิดใช่หรือไม่ คิดว่านางให้ความสำคัญกับเจ้า กับน้องชายเจ้ามากว่าน้องสาวเจ้า ไม่ผิดใช่หรือไม่ เจ้าคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ในฐานะบิดามารดา ไม่ว่าบุตรชายหรือบุตรสาวก็ควรให้ความรักเสมอกัน บิดามารดาที่ดีควรรักบุตรสาวมากกว่าบุตรชายถึงจะถูกต้อง เพราะบุตรสาวได้รับเพียงความรักในครอบครัว ผ่านไปไม่กี่ปี นางก็ต้องออกเรือนไปอยู่บ้านสามี วันหน้าก็จะถูกธรรมเนียมยึดตรึงไว้ บุตรสาวจะต้องทนลำบาก นางควรมีความสุขยามอยู่กับบิดามารดาได้ หากอยู่บ้านตนเองยังโดนรังแก ชีวิตนางก็คงเรียกได้ว่าต้องลำบากชั่วชีวิตแล้ว”
เซียวเหวินอวี๋มองรัชทายาทกล่าวว่า “เราหวังว่าเจ้าจะจดจำคำสอนเราไว้”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวจนสุดท้ายก็ไม่คิดกล่าวอีก รัชทายาทไม่เข้าใจความคิดเขา มีบางวาจาเอ่ยกับคนที่มีความคิดเฉกเช่นเดียวกันได้ แต่หากเอ่ยกับคนที่คิดต่างย่อมไร้ความหมาย
เซียวเหวินอวี๋ครุ่นคิดแล้วก็มองไปยังรัชทายาท ไม่ได้คิดคุยความในใจกับเขาอีก กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “สรุปก็คือเสด็จแม่เจ้าถูกกักบริเวณในตำหนักเฉาหยางกงเพราะนางทำผิด เดิมตามหลักแล้ว เราควรปลดนางจากตำแหน่งฮองเฮา แต่คิดถึงเจ้า เราจึงเพียงแค่กักบริเวณนาง”
เดิมรัชทายาทมาเพื่อขอร้องแทนฮองเฮา แต่พอได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ก็รู้ว่าตนเองขอร้องไปก็ไร้ประโยชน์ สุดท้ายได้แต่ลุกขึ้นเอ่ยขอบพระทัยเซียวเหวินอวี๋
“ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่คิดเพื่อหม่อมฉัน”
เซียวเหวินอวี๋มองรัชทายาทแล้วก็รู้สึกว่าแล้วไปดีกว่า โบกมือเอ่ยว่า “เอาละ กลับไปพักผ่อนได้ พรุ่งนี้ต้องเรียนหนังสืออีก”
“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ”
รัชทายาทขอบพระทัยในพระเมตตาแล้วก็ออกไป นำคนกลับตำหนักบูรพา
เซียวเหวินอวี๋มองตามหลังรัชทายาทจากไป ครุ่นคิดถึงตนเองอบรมสั่งสอนรัชทายาทมาแต่เล็ก ยามนี้รับรู้ได้เรื่องหนึ่งว่า ความคิดรัชทายาทต่างกับเขาราวฟ้ากับดิน แม้จะหาคนมาอบรมสั่งสอน ก็อย่าได้คิดหวังว่าเขาจะสมบูรณ์ดังที่เขาคิด
ตอนนี้เขาเองก็ไม่หวังว่ารัชทายาทจะสมบูรณ์ได้ดังใจเขา ขอเพียงรัชทายาทคิดวางตนให้เหมาะสมกับความเป็นรัชทายาทก็พอแล้ว
รัชทายาทกลับถึงตำหนักบูรพา ฮองเฮาก็สั่งให้คนที่รู้วิชายุทธ์ไปพบรัชทายาทที่ตำหนักบูรพา
ฮองเฮาต้องการให้รัชทายาทอย่าได้ล่วงเกินฝ่าบาทเพราะนาง นางไม่เป็นอันใด ให้รัชทายาทตั้งใจเรียนให้ดี รอให้ได้เข้าร่วมประชุมราชกิจเร็ววัน รอให้เขาเติบใหญ่ ฮองเฮาก็จะไม่เป็นอันใดแล้ว
ตำหนักบูรพา รัชทายาทได้ยินคำพูดของคนที่ฮองเฮาส่งมา ก็อดหลั่งน้ำตาไม่ได้ ในใจรู้สึกบอกไม่ถูก เสด็จแม่เป็นเช่นนี้แล้วยังคิดเพื่อเขาคนเดียว เขารู้สึกละอายใจต่อความรักของนางที่มีต่อเขาจริงๆ
น่าแค้นใจนัก เขาไม่อาจเปลี่ยนความคิดเสด็จพ่อได้ ดังนั้นตอนนี้เขาได้แต่หวังว่าตนเองจะเติบใหญ่เร็ววัน ได้เข้าร่วมประชุมราชกิจและขึ้นครองราชย์ เช่นนั้นเสด็จแม่ก็จะได้ออกมา ถึงตอนนั้นเขาจะพระราชทานแต่งตั้งเสด็จแม่เป็นไทเฮาแคว้นต้าโจว ถึงเช่นนั้นก็จะไม่มีผู้ใดกักบริเวณเสด็จแม่ได้อีก
รัชทายาทคิดไปก็กำชับคนผู้นั้นไปว่า ให้ดูแลเสด็จแม่ให้ดีๆ
คนผู้นั้นกำชับรัชทายาทอีกสองสามคำแล้วก็กลับไป
หวังเมิ่งเหยาส่งคนไปพบรัชทายาท เพราะรู้ว่าระหว่างตนเองกับฮ่องเต้ไม่มีทางกลับมาคืนดีกันได้อีกแล้ว ตอนนี้นางต้องทุ่มเทไปที่รัชทายาท ขอเพียงรัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์ราบรื่น นางก็คือไทเฮาแห่งแคว้นต้าโจวที่มีเกียรติหาประมาณมิได้ ถึงตอนนั้นดูว่าผู้ใดจะกล้ารังแกนาง กักบริเวณนาง แม้แต่เซียวเหวินอวี๋ก็ทำไม่ได้
เพราะนางมีบุตรชาย
ส่วนตอนนี้ ขอเพียงนางอยู่อย่างสงบเสงี่ยมในตำหนักเฉาหยางกงไปก็พอ
คนของฮองเฮาเพิ่งเข้าไปในตำหนักบูรพา ก็มีคนส่งข่าวไปยังเซียวเหวินอวี๋
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังรายงานองครักษ์ลับ ก็แค่นยิ้มมองไปยังตำหนักเฉาหยางกง
ฮองเฮายังคงไม่ยอมเลิกรา ไม่ทำลายรัชทายาทให้ย่อยยับก็จะไม่ยอมเลิกราอย่างนั้นหรือ
ความจริงเขารู้ความคิดนางแล้ว นางก็แค่คิดรั้งใจรัชทายาทเอาไว้ ให้รัชทายาทคิดถึงนาง รอวันรัชทายาทขึ้นสู่ตำแหน่ง นางก็จะได้เป็นไทเฮาแห่งแคว้นต้าโจว
น่าขันสิ้นดี นางคิดฝันเกินตัวไปแล้ว หากนางยังทำตัวเช่นนี้ต่อไป ไม่ต้องรอให้รัชทายาทขึ้นสู่ตำแหน่งเขาก็คงได้พระราชทานสุราพิษให้นางก่อน ดูว่านางจะได้เสวยสุขอย่างไรได้อีก
เซียวเหวินอวี๋คิดถึงว่าสุดท้าย ก็คิดถึงรัชทายาท เมื่อก่อนเขาคิดว่ามีรัชทายาทคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้กลับรู้สึกกังวลใจขึ้นมา
หากรัชทายาทไม่อาจเป็นดังที่เขาหวังไว้จริง ตำแหน่งฮ่องเต้จะมอบให้กับผู้ใด
เซียวเหวินอวี๋คิดถึงสุดท้าย ก็คิดถึงสตรีในวังหลัง แต่ยามนี้เขาไม่ได้โปรดปรานพวกนางแม้สักคน และไม่ได้คิดให้พวกนางให้กำเนิดองค์ชาย
ตอนนี้เขาอายุยี่สิบเจ็ด ไม่อาจไร้สตรีข้างกายไปตลอดชีวิต ดังนั้นจากนี้ไปเขาย่อมต้องมีสตรีอื่นอีก แต่ครั้งนี้เขาจะต้องเลือกหาคนที่เข้าใจเขา เมื่อก่อนทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ฮองเฮาถูกกักบริเวณในวังแล้ว ในที่สุดในวังก็สงบลง เซียวเหวินอวี๋ทุ่มเทกับสงครามที่ด่านหลงไห่กับด่านเยว่กู่ เขาสั่งการให้คนสำนักจิ่วหลงซือแบ่งกำลังสามถึงห้าชุดคอยจับตาด่านหลงไห่กับด่านเยว่กู่ และกลับมารายงานเมืองหลวงเป็นระยะ เช่นนี้เขาก็จะได้ข่าวสถานการณ์ด่านหลงไห่กับด่านเยว่กู่ทันท่วงที
ตอนเซียวเหวินอวี๋กำลังสนใจเฝ้ามองสงครามด่านหลงไห่กับด่านเยว่กู่ ในที่สุดบิดาฮองเฮาขุนพลหวังก็ถูกคุมตัวเข้าเมืองหลวง เซียวเหวินอวี๋มีราชโองการให้ซานซือ[1] ร่วมกันสอบเรื่องนี้ ให้แน่ใจว่าเบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ได้มีอันใดแอบแฝง เพื่อให้คำตอบแก่ครอบครัวเหล่าทหารหาญสองหมื่นนาย
หากขุนพลหวังตัดสินใจผิดพลาดจนทำให้พ่ายศึกจริง แม้คนตายไปมากมาย แต่ก็จะเป็นเพียงแค่ตัดสินใจผิดพลาด ไม่ต้องโทษถึงประหาร แต่หากเขาสมคบคิดข้าศึก ไม่เพียงแต่ต้องโทษประหาร แต่ยังต้องประหารเก้าชั่วโคตร
ซานซือรับราชโองการฝ่าบาทแล้วก็ดำเนินการสอบทั้งคืนว่ามีเรื่องอันใดแอบแฝงอยู่หรือไม่
[1] ซานซือ หมายถึง ซือหม่า (เจ้ากรมกลาโหม) ซือถู (เจ้ากรมการศึกษา) และซือคง (เจ้ากรมโยธา) สามขุนนางใหญ่
—————————