ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 987 รอยร้าว
ตอนที่ 987 รอยร้าว
ซานซือใช้เวลาสามวันก็สอบเรื่องขุนพลหวังกระจ่าง เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจผิดพลาดของขุนพลหวังจริง ไม่ได้มีเหตุแอบแฝงอื่นอันใด
คดีความส่งไปถึงเซียวเหวินอวี๋ เขาอ่านละเอียดแล้วก็มีราชโองการปล่อยขุนพลหวังกลับบ้าน แต่ขุนพลหวังถูกปลดอำนาจทางการทหาร วันหน้าเขาก็จะใช้ชีวิตอยู่แต่ในจวนอี้หย่งโหว
ฮูหยินขุนพลหวังได้รับราชโองการ ก็ไปรับสามีนางที่คุกหลวง
สองสามีภรรยาคล้ายว่าชราลงไปหลายปี ความองอาจในอดีตหายไปหมดสิ้น ยามนี้ดังชายชราในวัยบั้นปลายผมขาวโพลนทั่วศีรษะ
วันหน้าฮูหยินขุนพลหวังก็คือฮูหยินอี้หย่งโหว
ฮูหยินอี้หย่งโหวเห็นอี้หย่งโหวเช่นนี้ก็อดปวดใจไม่ได้ นางคิดว่าอี้หย่งโหวเป็นเช่นนี้เพราะสูญเสียอำนาจทางการทหารไป จึงได้เอ่ยปลอบใจว่า “เอาละ ท่านพี่อย่าได้เสียใจไป อำนาจการทหารเสียแล้วก็เสียไป อย่างไรก็ยังมีชีวิตอยู่”
อี้หย่งโหวเงยหน้ามองฮูหยินตนเองพร้อมกับส่ายหน้าอย่างปวดร้าวใจ “ข้าไม่ได้เสียใจเพราะสูญเสียอำนาจทางการทหาร แต่เสียใจเพราะคนบริสุทธิ์เหล่านี้ต้องตายไปเช่นนั้น ข้ากรำศึกมาหลายปี ข้าศึกพ่ายหนี ไม่ควรไล่ตาม ป้องกันอุบายตลบหลัง ข้าถึงกับไม่ไตร่ตรองเรื่องนี้ กลับพาทหารเหล่านั้นบุกเข้าไป ข้าเสียใจในสิ่งที่ได้ทำลงไป”
อี้หย่งโหวร่ำไห้เอ่ยว่า “ทหารสองหมื่นนาย บางคนเพิ่งจะเข้าร่วมกองทัพ อายุเพียงแค่สิบสี่สิบห้า ข้าเห็นพวกเขาโตมา พวกเขาก็เหมือนลูกหลานข้า แต่สุดท้ายพวกเขาล้วนต้องตายอนาถในค่ายกลศึกเป่ยฉี”
อี้หย่งโหวกล่าวถึงตรงนี้ทรุดกายลงร่ำไห้กับพื้นคล้ายเด็กน้อย
“ข้าเป็นคนบาป ข้าไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป ข้าไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไป”
ฮูหยินอี้หย่งโหวเองก็ร่ำไห้ตามไปด้วย นางเข้าใจความรู้สึกของเขาดี คิดถึงคนที่ตายไปเหล่านั้นแล้ว ไหนเลยจะทนรับไหว
นางเดินเข้าไปประคองสามีตนเอง “เอาละ อย่าได้เสียใจเช่นนั้น พวกเรากลับกันก่อนเถอะ”
สองสามีภรรยาประคองกันขึ้นรถม้าออกจากกรมอาญาไป
ยามนี้พระราชวังซีเหลียงกำลังเกิดละครโกลาหลฉากใหญ่
รัชทายาทซั่งกวนเฮ่อถึงกับนอนกับพระสนมระดับกุ้ยเหรินวัยเยาว์ที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานที่สุด และยังถูกนำตัวมาประจานต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ ยังเปิดเผยเรื่องนี้ต่อหน้าขุนนางราชสำนักซีเหลียง
สีพระพักตร์ฮ่องเต้ย่ำแย่อย่างยิ่ง มองบุตรชายตนเองในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยกับกุ้ยเหรินตนเอง
สิ่งแรกที่ซั่งกวนเฮ่อกังวลไม่ใช่ฮ่องเต้ แต่หันไปมองซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนด้วยสัญชาตญาณทันที อวิ๋นเยี่ยนจะรู้สึกว่าเขาเหลวแหลกหรือไม่ แต่เรื่องคืนนี้เขาตกหลุมพรางผู้อื่น
ซั่งกวนเฮ่อคิดขึ้นมาแล้ว ก็มีสีหน้าดำทะมึนน่ากลัว เปล่งรัศมีเย็นเยียบรอบกาย ผู้ใด ผู้ใดแอบวางหลุมพรางดักเขา หากเขาสืบพบ จะต้องให้เขาตายอย่างไร้ที่ฝัง
ซั่งกวนเฮ่อเงยหน้ากวาดตามองไปรอบๆ เขาไม่ทันสังเกตสีพระพักตร์ฮ่องเต้ที่ยิ่งดำทะมึน สุดท้ายอดตวาดดังไม่ได้ “เจ้าลูกชั่ว ในสายตาเจ้ายังเห็นเราเป็นเสด็จพ่ออีกหรือไม่”
ในที่สุดซั่งกวนเฮ่อก็คิดถึงฮ่องเต้ หันไปมองก็พบว่าสีพระพักตร์ฮ่องเต้ดำทะมึนน่ากลัว แววพระเนตรลุกโชนไปด้วยโทสะ
ในใจซั่งกวนเฮ่อพลันรู้สึกตกใจอยู่บ้าง แม้ว่าฮ่องเต้ทรงโปรดปรานเขา แต่เรื่องนี้ถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ ถือเป็นการตบพระพักตร์ฮ่องเต้
เขาต้องรับมือฮ่องเต้ก่อน
ซั่งกวนเฮ่อรีบวิ่งถลาไปคุกเข่าเบื้องพระพักตร์ “เสด็จพ่อ หม่อมฉันถูกคนวางหลุมพราง จึงได้นอนกับลี่กุ้ยเหริน หม่อมฉันจะต้องสืบให้ได้ว่าผู้ใดวางหลุมพรางหม่อมฉัน หาคำตอบมารับผิดชอบต่อเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”
เดิมซั่งกวนเฮ่อคิดว่าตนเองกล่าวเช่นนี้ ฮ่องเต้จะรับสั่งให้เขาไปสืบหาตัวว่าเป็นผู้ใด ผู้ใดจะรู้ว่าพอเขาเอ่ยจบ ฮ่องเต้กลับไม่ตรัสอันใด
ซั่งกวนเฮ่อหันไปมองด้วยสัญชาตญาณทันที พบว่าสีพระพักตร์ฮ่องเต้เย็นเยียบ ทอดพระเนตรมองเขาพร้อมกับรอยยิ้มเยาะ
ขุนนางในที่นั้นพากันกระซิบกระซาบกันไปมา ทุกคนต่างคิดว่ารัชทายาทฉลาดเพียงนี้ ผู้ใดกล้าวางหลุมพรางเขากัน
ยังมีคนบอกว่าแต่ไรมารัชทายาทก็ลุ่มหลงนารี เห็นนารีงามก็คิดครอบครองเป็นของตนเอง ในตำหนักบูรพารับสาวงามไว้มากมาย
ฮ่องเต้ได้ฟังบรรดาขุนนางใหญ่วิจารณ์ ก็โมโหอย่างไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดใด นี่คือบุตรชายที่เขาเฝ้าให้ความรักความโปรดปรานหรือ การที่เขาโปรดปรานบุตรชายผู้นี้ ไม่เพียงเพราะเขาเป็นสายโลหิตฮองเฮา แต่ยังเพราะเขาเหมือนกับตนเอง เพราะบุตรชายเหมือนกับตนเอง ฮ่องเต้จึงมั่นใจว่าการที่บุตรชายนอนกับผู้หญิงของเขาเป็นเพราะต้องตาลี่กุ้ยเหรินแท้จริง เพราะเขาเองก็ลุ่มหลงนารี เห็นสาวงามก็ไม่อาจควบคุมตนเองได้ ดังนั้นบุตรชายจึงได้รับการถ่ายทอดจากเขา
แต่ลี่กุ้ยเหรินเป็นสตรีของบิดา เขาถึงกับนอนกับสตรีของบิดา นี่คือเดรัจฉานอันใดกัน
ฮ่องเต้ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง มีราชโองการทันที “ทหาร พระราชทานสุราพิษลี่กุ้ยเหริน”
แม้เขาโกรธแค้นบุตรชาย แต่ไม่อาจประหารบุตรชาย เช่นนั้นก็ทำได้เพียงแค่ประหารลี่กุ้ยเหริน
ลี่กุ้ยเหรินคิดเอ่ย แต่กลับถูกคนอุดปากพาออกไปกรอกสุราพิษ
ในกลุ่มคนด้านหน้า ซั่งกวนม่อกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไม่รู้สึกเห็นใจลี่กุ้ยเหรินผู้นี้แม้สักนิด เพราะหญิงผู้นี้ถือว่าฮ่องเต้โปรดปราน วางตัวเหิมเกริมในวังอย่างมาก ทำให้นางกำนัลกับขันทีตายไปหลายคน และเพราะนางสมควรตาย พวกเขาจึงได้เลือกนาง
หลังฮ่องเต้สั่งประหารลี่กุ้ยเหรินแล้ว ก็มีราชโองการต่อมาว่า “วันหน้ารัชทายาทไม่มีเรื่องอันใดก็ไม่ต้องเข้าวัง”
สีหน้าซั่งกวนเฮ่อย่ำแย่ทันที ฮ่องเต้กระทำการดังตบหน้าเขาต่อหน้าขุนนางทุกคน จากนี้เกียรติแห่งรัชทายาทของเขาคงจบสิ้น คงต้องถูกผู้อื่นนินทาลับหลัง
แต่ยามนี้ซั่งกวนเฮ่อกลับไม่ได้เอ่ยอันใด คุกเข่าขอบพระทัยในพระเมตตา “หม่อมฉันขอบพระทัยเสด็จพ่อ”
ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์อย่างรำคาญพระทัย “ไสหัวไป”
ฮ่องเต้คิดถึงลี่กุ้ยเหรินที่ถูกประหารแล้วก็รู้สึกปวดใจ เพราะเขายังชื่นชมไม่หนำใจ
ซั่งกวนเฮ่อลุกขึ้นหันหลังออกไป ตอนเดินผ่านขุนนาง มองเห็นสายตาดูแคลนของทุกคนได้อย่างชัดเจน
ซั่งกวนเฮ่อออกไปอย่างโมโหฮึดฮัด พลางครุ่นคิดว่าจะหากหาตัวคนวางหลุมพรางเขาในคืนนี้ให้ได้ ต้องทำให้อีกฝ่ายตายอย่างไร้ที่ฝัง
ฮ่องเต้มีราชโองการให้บรรดาขุนนางในราชสำนักออกจากวังได้ “เอาละ ไม่มีอันใดแล้ว รีบออกจากวังหลวงกันไปได้แล้ว”
ทุกคนขอบพระทัยในพระเมตตา ก่อนจะทูลลา
ความจริงงานเลี้ยงในวังคืนนี้จัดเพื่อให้องค์ชายห้าและองค์ชายหกคัดเลือกพระสนม ปรากฏกลับมีเรื่องเช่นนี้ได้ ทุกคนต่างไม่มีกะจิตกะใจจะคัดเลือกพระสนมต่อ
วันรุ่งขึ้น ทั้งเมืองหลวงซีเหลียงก็มีข่าวลือแพร่ออกไปว่า รัชทายาทซั่งกวนเฮ่อนอนกับพระสนมที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด สุดท้ายกลายเป็นรัชทายาทซั่งกวนเฮ่อวางอำนาจบบาตรใหญ่เช่นไร ขอเพียงเป็นหญิงที่ตนชอบก็จะครอบครอง แม้ว่าหญิงผู้นั้นเป็นผู้หญิงของฮ่องเต้ก็ไม่ละเว้น
ซั่งกวนเฮ่อย่อมได้รับรายงานนี้ โมโหจนขว้างปาข้าวของในตำหนักบูรพาแตกกระจายไปหลายชิ้น
ฮ่องเต้เองก็ย่อมได้รับรายงานจากองครักษ์ลับ โมโหจนขว้างปาข้าวของเช่นกัน
เมื่อก่อนสองพ่อลูกรักใคร่สนิทสนมกัน ในที่สุดก็เกิดรอยร้าวเพราะสตรีนางหนึ่ง
เทียบกับฮ่องเต้ ตอนนี้คนที่ซั่งกวนเฮ่อใส่ใจที่สุดก็คือผู้ที่บงการเรื่องนี้
แม้ว่าฮ่องเต้ไม่ให้เขาเข้าวัง แต่ในวังมีคนของซั่งกวนเฮ่อแฝงกายอยู่นานแล้ว เขาไม่ออกหน้าสั่งให้คนสืบ แต่ในวังก็สืบเรื่องนี้ สืบไปสืบมาหลักฐานก็มุ่งไปที่องค์ชายห้าซั่งกวนหรง
ซั่งกวนเฮ่อหรี่ตาครุ่นคิด หรือว่าเรื่องครั้งนี้เป็นฝีมือซั่งกวนหรง
ซั่งกวนหรงกล้าเช่นนี้หรือ