ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยง ข้าพลิกฟื้นทั้งครอบครัว - ตอนที่ 112 บุกเดี่ยวเข้าไปในแดนศัตรู
ตอนที่ 112 บุกเดี่ยวเข้าไปในแดนศัตรู
ฉินเหยาไปขอยืมม้าตัวหนึ่งจากเพิงพักม้าในอำเภอและขอพลุสัญญาณสองลูกจากทหาร พลุนี้เป็นชนิดพุ่งทะยานขึ้นฟ้า เมื่อจุดติดจะพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ส่องแสงแดงจ้าและเกิดเสียงดังสนั่น
นางให้รองนายอำเภอเตรียมคนไว้ให้พร้อม พอตกเย็น ให้อาศัยแสงสุดท้ายของอาทิตย์ก่อนลับฟ้า รีบมุ่งหน้าไปยังภูเขาอวี๋ฮว่าที่ซึ่งพวกโจรภูเขากบดานอยู่ จากนั้นคอยสัญญาณเคลื่อนพลจากนาง
ตามหลักแล้ว คนในที่ว่าการอำเภอไม่น่าจะยอมทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แต่ก่อนที่ฉินเหยาจะจากไป นางยกสิงโตหินหน้าที่ว่าการอำเภอขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว
ภาพที่เห็นนั้นน่าตกตะลึงอย่างยิ่ง ทำเอาพวกทหารทั้งที่ว่าการอำเภอเลือดลมพลุ่งพล่านราวกับได้รับแรงกระตุ้นอย่างรุนแรง คิดอยากจะตามนางไปเสียเดี๋ยวนั้น ทุ่มเททั้งชีวิต กำจัดพวกโจรภูเขาให้สิ้นซาก!
ฉินเหยาขึ้นขี่ม้าควบออกจากเมืองไปตลอดทาง แต่แทนที่จะมุ่งไปภูเขาอวี๋ฮว่า นางกลับไปที่บ้าน
ระยะทางที่เดินเท้าถึงห้าชั่วโมง แต่ขี่ม้ากลับใช้เพียงชั่วโมงครึ่ง ทำเอาฉินเหยารู้สึกอิจฉาจนแอบตัดสินใจในใจว่า หากได้รับเงินรางวัลหนึ่งร้อยตำลึงมาเมื่อไหร่ จะต้องซื้อม้าเร็วตัวหนึ่งมาไว้ใช้จะได้เดินทางสะดวก
นางกลับมาอย่างกะทันหัน แถมยังขี่ม้ามาด้วย ขณะที่ควบผ่านหมู่บ้านก็ดึงดูดความสนใจของชาวบ้านตระกูลหลิวทั้งหลาย
จินเป่าที่กำลังเล่นอยู่ข้างบ่อน้ำของหมู่บ้าน รีบวิ่งกลับบ้านมาตะโกนว่า “ท่านปู่! ท่านย่า! อาสะใภ้สามขี่ม้ากลับมาแล้ว!”
หลังจากรายงานเสร็จ เขาก็หันไปวิ่งตรงไปบ้านของอาสามของตน แต่ยังไม่ทันถึงริมน้ำก็เห็นฉินเหยาหยิบธนูและดาบใหญ่ออกมา ควบม้าพุ่งออกไปอีกครั้ง
จินเป่าแทบจะร้องเรียกได้แค่อาสะใภ้สามเท่านั้น หนึ่งคนหนึ่งม้าก็พุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงฝุ่นคลุ้งตลบ ทำเอาจินเป่าสำลักฝุ่นจนต้องรีบยกมือปิดหน้า
“ท่านปู่! ท่านย่า! อาสะใภ้สามควบม้าไปอีกแล้ว!”
เด็กน้อยเพิ่งวิ่งออกไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบวิ่งกลับบ้านมาอีกครั้งแล้วรายงานแก่ทุกคนในเรือนเก่าตระกูลหลิว
นางจางและนางเหอกำลังจะออกไปดูอยู่พอดี พอได้ยินดังนั้นก็นิ่งงันไปพร้อมกัน ต่างคิดว่าอาสะใภ้สามของเขาจะทำอะไรกันแน่
ฉินเหยามาอย่างเร่งรีบและจากไปอย่างเร่งด่วน นางกลับบ้านมาเอาอาวุธแล้วกล่าวกำชับพวกต้าหลางสี่คนพี่น้องที่อยู่ในโรงโม่และควบม้าจากไป
จนกระทั่งต้าหลางสี่คนพี่น้องยังคิดว่าตัวเองตาฝาด จินตนาการไปเองว่าแม่เลี้ยงขี่ม้าผ่านหน้าไป พากันยืนนิ่งด้วยความงุนงงอยู่ครู่ใหญ่
จนกระทั่งนางจางกับจินเป่ามาถาม พวกเขาถึงได้สติว่า แม่เลี้ยงกลับมาจริงๆ
“ท่านแม่ของพวกเจ้ามาแล้วก็ไปอีก เกิดเรื่องอะไรขึ้นในเมืองหรือไม่” นางจางถามด้วยความเป็นห่วง
พวกบุรุษออกไปขนหินมาทำหินโม่ ที่บ้านจึงเหลือเพียงพวกสตรี
อีกอย่าง ฉินเหยาไปส่งหลิวจี้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาในเมือง พวกนางจึงกังวลว่าการสมัครเรียนอาจไม่ราบรื่นจึงรีบมาถามข่าว
ซานหลางกับซื่อเหนียงยังมึนงง ได้แต่บอกว่า “ท่านแม่บอกว่านางมีธุระจะกลับมาช้าสองวัน ให้พวกข้าไปกินข้าวที่เรือนเก่ากับท่านปู่ท่านย่าก่อน”
เอ้อร์หลางมีสติกว่าหน่อยจึงได้ยินอีกประโยคเพิ่มมา “ท่านแม่บอกว่านางไปหาเงินก้อนโต”
“เงินก้อนโตอะไร” นางเหอใจเต้นโครมคราม ชาวบ้านธรรมดาจะหาเงินก้อนโตได้จากที่ไหนหรือว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี
นางจางถลึงตาใส่นางเหอให้อีกฝ่ายหุบปากอย่าพูดจาเหลวไหล
นางเหอเก้อเขินจนลูบจมูกเบาๆ ก่อนจะหันไปถามต้าหลางว่า “ท่านแม่ของเจ้าบอกไหมว่ามันเรื่องอะไรกัน แล้วม้าตัวนั้นได้มาจากไหน”
ม้ามีค่ามากกว่าวัว ชาวบ้านทั่วไปไม่มีปัญญาเลี้ยงได้ หากไม่ใช่ของทางการก็คงเป็นของพวกเศรษฐี
ต้าหลางส่ายหัว บอกเพียงว่าไม่รู้ ไม่แน่ใจ
แต่เขารู้แน่เพียงอย่างเดียว นั่นคือท่านแม่พกอาวุธออกไปด้วย แค่คิดก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา
แต่ต้าหลางไม่ได้พูดออกมา เขาส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เหล่าพี่น้องว่าอย่าพูดเรื่องนี้
แต่ในเมื่อแม่เลี้ยงจะยังไม่กลับมาอีกหลายวัน พวกเขาก็ต้องไปพึ่งเรือนเก่าก่อน
นางจางก็นึกขึ้นได้เช่นกัน นางถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วกำชับให้พี่น้องทั้งสี่เก็บกล่องเงินจากโรงโม่ตอนเย็นแล้วมากินข้าวที่บ้าน จากนั้นจะให้ลูกชายคนเล็กไปดูแลเด็กๆ ที่บ้านของฉินเหยาในตอนกลางคืน
เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน แม้แต่ฉินเหยาก็ไม่คิดว่าวันนี้ตนจะมีเรื่องใหญ่ต้องทำ นางทำได้เพียงรออธิบายภายหลังเมื่อกลับมาแล้ว
นางพกอาวุธติดตัว มุ่งหน้าตรงไปยังภูเขาอวี๋ฮว่า
สถานที่แห่งนี้อยู่ทางตอนใต้ของอำเภอไคหยาง เป็นหนึ่งในยอดเขาของเทือกเขาใหญ่ ปกติมีทางเข้าทางเดียว ส่วนด้านหลังเป็นหน้าผาสูงชัน ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้
ดังนั้น ทุกครั้งที่ทางการคิดจะล้อมปราบมักเผยความเคลื่อนไหวออกไปก่อนเสมอ
พวกโจรภูเขาใช้ทั้งเทือกเขาเป็นที่กำบัง หากพวกมันถอยลึกเข้าไปในป่าแล้วก็ยากที่จะตามหาเจอ
นอกจากนี้ ในภูเขาลึกมีทั้งอาหารและน้ำดื่มไม่ขาด การจะใช้วิธีปิดล้อมให้พวกมันอดตายจึงเป็นไปไม่ได้เลย
กลับกัน ฝ่ายทางการเพราะไม่คุ้นชินกับภูมิประเทศและเตรียมการมาไม่ดี ปิดล้อมได้เต็มที่เพียงสามวันก็ต้องถอยแล้ว
นี่ถือว่ายังเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี หากโชคร้ายกว่านี้ หัวหน้าโจรเกิดสนุกขึ้นมา นำกำลังลอบตีโอบด้านหลังทหารทางการก็จะเกิดการสู้รบนองเลือดอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ ฉินเหยาเพียงคนเดียวกลับไม่มีข้อจำกัดเหล่านี้
ช่วงหัวค่ำ ฉินเหยาแอบเข้าไปยังด้านหลังของภูเขาอวี๋ฮว่าแล้ว
ตามแผนของนาง คือต้องหาหัวหน้าโจรให้เจอโดยเร็ว จากนั้นจะลงมือช่วงรุ่งสาง
พอถึงเช้า ทหารทางการก็จะมาถึงค่ายโจรพอดี ไม่ต้องกังวลเรื่องความมืดและภูมิประเทศ สามารถแสดงศักยภาพการรบออกมาได้อย่างเต็มที่
เส้นทางขึ้นภูเขาอวี๋ฮว่าด้านหน้า ไม่ว่าจะเป็นทางเดินบนเขาหรือปากหุบเขาล้วนมีพวกโจรภูเขาเฝ้าอยู่ พวกมันยึดครองพื้นที่สูงจึงมองเห็นผู้บุกรุกได้ง่าย
แต่ช่วงหัวค่ำ เป็นเวลาที่พวกมันกำลังกินข้าวเย็นย่อมหย่อนยานลงหลายส่วน
ฉินเหยาอาศัยจังหวะนี้ อ้อมผ่านพวกโจรที่เฝ้ายาม แทรกซึมเข้าไปทางด้านข้างของภูเขาอวี๋ฮว่า
สถานที่ตั้งของค่ายโจรนั้นหาได้ไม่ยาก เพราะคนจำนวนมากต้องกินต้องดื่ม ค่ายของพวกมันจึงไม่น่าจะอยู่ไกลจากแหล่งน้ำมากนัก
ฉินเหยาหาตามเส้นทางของแหล่งน้ำไปได้ไม่นานก็เริ่มได้ยินเสียงผู้คน
Comments for chapter "ตอนที่ 112 บุกเดี่ยวเข้าไปในแดนศัตรู"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
khome
ตื่นเต้นๆๆ ขอเพิ่มสักสิบตอนค่ะแอดดดด