ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยง ข้าพลิกฟื้นทั้งครอบครัว - ตอนที่ 118 เจ้าความอบอุ่น
ตอนที่ 118 เจ้าความอบอุ่น
ฉินเหยางีบหลับไปอย่างสบายตื่นหนึ่ง พอตื่นขึ้นมา พระอาทิตย์ก็คล้อยลงต่ำ แสงอาทิตย์ยามเย็นกระจายไปทั่วท้องฟ้า งดงามเป็นพิเศษ
กลิ่นข้าวหอมโชยมาจากในครัว เอ้อร์หลางกำลังถือถ้วยน้ำแกงบวบใส่ไข่เข้ามาด้วยความระมัดระวัง
ซานหลางกับซื่อเหนียงเดินตามพี่ชายรองราวกับองครักษ์ซ้ายขวา แม้ไม่ได้ช่วยถืออาหาร แต่สีหน้าของพวกเขาก็แสดงออกชัดเจนว่าได้ช่วยอย่างเต็มที่แล้ว
พอเห็นฉินเหยาตื่น ซื่อเหนียงก็รีบวิ่งเข้ามาอ้อน แนบตัวเอนพิงตักท่านแม่ “ท่านแม่หิวน้ำหรือไม่”
“อืม นิดหน่อย”
“เช่นนั้นข้าไปเทน้ำให้นะ!”
เด็กน้อยแสนอบอุ่นรีบลุกขึ้น เดินไปที่โต๊ะยาวด้านหลัง เขย่งเท้าหยิบไหดินเผาที่ใส่น้ำลงมาวางบนโต๊ะด้วยความระมัดระวัง จากนั้นหยิบถ้วยไม้ไผ่ที่ฉินเหยาใช้ประจำมา รินน้ำจนเต็มแล้วประคองให้นางด้วยสองมือ
เมื่อนานมาแล้วตอนสร้างโรงโม่น้ำยังเหลือไม้ไผ่อยู่หลายท่อน ฉินเหยาเลยเก็บมาทำเป็นถ้วยน้ำหกใบ
ถ้วยแต่ละใบถูกแกะสลักชื่อของเจ้าของ นางใช้ใบนี้ ด้านบนมีสลักอักษรเหยาเอาไว้
ของพี่น้องทั้งสี่ถูกสลักตัวเลขหนึ่ง สอง สาม สี่ตามลำดับ แยกออกง่ายมาก
ฉินเหยาจิบช้าๆ ระหว่างรออาหาร พอดีกับที่ช่างไม้หลิวมาถึง
ก่อนเข้าบ้าน เขาเดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อดูเหล่าหวงที่กำลังกินหญ้าแล้วค่อยเดินเข้ามาด้วยสีหน้าสงสัย
“ร่ำรวยแล้วหรือ” ช่างไม้หลิวหยอกล้อ
ทั้งสองคนสนิทกันเพราะทำโครงการกังหันน้ำร่วมกัน ช่างไม้หลิวจึงเห็นบ้านหลังนี้เป็นเหมือนบ้านตัวเอง หยิบเก้าอี้ไม้นั่งลงที่โต๊ะอาหารอย่างคุ้นเคย
พอได้กลิ่นเนื้อหอมฉุย เขาก็อดไม่ได้ที่จะเปิดฝาครอบดูแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง
“เจ้าไปทำอะไรมาน่ะ” คราวนี้เขาดูตกใจจริงๆ
ฉินเหยาปิดฝาคืน ไม่ได้มีท่าทีจะชวนกินข้าว เพียงยิ้มแล้วตอบว่า “ก็ได้ค่าเหนื่อยมาเล็กน้อยน่ะ”
คิดไปแล้ว ถึงอย่างไรหลังจากนี้ตอนนางใช้เงินทุกคนก็ต้องรู้อยู่ดี อีกทั้งที่นี่เป็นชนบท ไม่ใช่ตัวอำเภอ ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นจุดเด่น
กลับกัน นางควรแสดงอำนาจออกไปอย่างพอเหมาะ จะได้ไม่มีใครมาคิดมารังแกง่ายๆ
ฉินเหยาจึงเล่าเรื่องที่นางรับภารกิจล่าค่าหัวช่วยทางการปราบโจรอย่างย่อๆ
ที่ช่างไม้หลิวมาหานางในวันนี้ก็เพื่อบอกว่างานกังหันน้ำเสร็จแล้ว ให้ฉินเหยาไปช่วยติดตั้งให้ลูกค้าในอีกสองวันข้างหน้า
จู่ๆ ได้ยินเรื่องใหญ่โตระดับการตัดหัวเสี่ยวหวัง ช่างไม้หลิวก็ถึงกับตกตะลึงจนเกือบลืมเรื่องที่ตั้งใจจะมาบอกฉินเหยาไปหมด
ไม่ง่ายเลยกว่าจะบอกจบก็ถูกฉินเหยาผลักออกจากบ้านในสภาพมึนงง ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามาถึงลานกว้างข้างบ่อน้ำหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อไร
ดังนั้น ตอนที่บ้านฉินเหยาเพิ่งจะกินมื้อค่ำแสนอุดมสมบูรณ์กันเสร็จก็มีเสียงเคาะประตูเรือนดังขึ้น
ต้าหลางกำลังช่วยซื่อเหนียงล้างจาน ส่วนเอ้อร์หลางกับซานหลางวิ่งไปเปิดประตู
พอประตูเปิด แสงไฟจากคบเพลิงเจิดจ้าก็สาดเข้ามาทำให้สองพี่น้องต้องถอยกรูดไปหลายก้าว
ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าตระกูล คนจากเรือนเก่าตระกูลหลิว รวมถึงชาวบ้านไม่น้อยล้วนมากันหมด
ฉินเหยาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ นี่มันเรื่องอะไรอีกเล่า
คนมากเช่นนี้ นางไม่กล้าชวนเข้าบ้านจริงๆ ได้แต่เดินออกมาหน้าประตูเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “ทุกคนมาทำอะไรกันหรือ”
หลิวเหล่าฮั่นถามขึ้นก่อน “สะใภ้สาม ช่างไม้หลิวบอกว่าทางการปราบพวกโจรภูเขาเรียบร้อยแล้ว จริงหรือไม่”
ฉินเหยาพยักหน้า “จริงเจ้าค่ะ พรุ่งนี้คนจากทางการคงมาแจ้งข่าวที่หมู่บ้าน”
ผู้ใหญ่บ้านถาม “เกิดขึ้นเมื่อไหร่”
“เมื่อเช้านี้เอง ทั้งอำเภอล้วนลือกันไปทั่ว”
เมฆดำที่ปกคลุมศีรษะของชาวบ้านมานานสลายหายไปในพริบตา ทุกคนแทบไม่อยากเชื่อ
“ดีเหลือเกิน! นี่มันข่าวดีจริงๆ!” หัวหน้าตระกูลตื้นตันจนตาแดงเรื่อ
ชาวบ้านสูงวัยบางคนถึงกับคุกเข่าหันหน้าไปทางตัวอำเภอ คุกเข่าโขกหัวอย่างแรง “ขอบคุณใต้เท้าผู้เที่ยงธรรม! ขอบคุณใต้เท้าผู้เที่ยงธรรมเหลือเกิน…!”
ชาวบ้านบางคนเมื่อได้รับข่าวแน่ชัดก็ชูคบเพลิงวิ่งลงเขาไปบอกต่อข่าวดีนี้ ความยินดีแผ่กระจายไปทุกซอกทุกมุมของหมู่บ้าน
ผู้คนทยอยกลับไปบางส่วน แต่ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าตระกูลและคนจากเรือนเก่าตระกูลหลิวยังอยู่
ทุกคนมองหน้ากันไปมา ในที่สุดหลิวเหล่าฮั่นก็เป็นคนเอ่ยถามหยั่งเชิงออกมาอย่างระมัดระวัง
“ช่างไม้หลิวบอกว่าเจ้าถอนประกาศค่าหัว จริงหรือ”
“จริงเจ้าค่ะ” ฉินเหยาตอบเร็วเสียจนหลิวเหล่าฮั่นอึ้งไปสองวินาที ก่อนจะเบิกตากว้างถาม “เจ้าตัดหัวเสี่ยงหวังหรือ”
ฉินเหยาตอบ “หากกล่าวให้ถูกต้อง ข้าตัดหัวเสี่ยงหวังกับสามองครักษ์ข้างกายของมัน”
“นั่นไง” นางชี้ไปหลังบ้าน “ม้าที่ข้าขี่กลับมาเป็นรางวัลจากท่านนายอำเภอ”
ผู้ใหญ่บ้านและหัวหน้าตระกูลร้องออกมาพร้อมกัน “เจ้ายังได้พบใต้เท้าอำเภอด้วยหรือ”
ฉินเหยาพยักหน้า “ใต้เท้านายอำเภอรู้สึกขอบคุณข้ามาก”
ชายชราทั้งสองมองนางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
ในสายตาของทั้งสองคน ตอนนี้ฉินเหยาไม่ได้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาที่พอมีวรยุทธ์อีกต่อไป แต่เป็นวีรสตรีผู้กวาดล้างโจรที่ได้รับการยอมรับจากท่านนายอำเภอที่เป็นดั่งบิดามารดรของแผ่นดินแถบนี้!
ฉินเหยาหาววอดใหญ่ “ขอโทษด้วย พอดีข้าไม่ได้นอนมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว รู้สึกหมดแรงจริงๆ”
ผู้ใหญ่บ้านกับหัวหน้าตระกูลรีบบอกให้นางพักผ่อนดีๆ แล้วก็ถอยกลับไปอย่างรู้กาลเทศะ
หน้าบ้านเหลือเพียงหลิวเหล่าฮั่นกับลูกชายทั้งสามที่มีสีหน้าซับซ้อน ไม่รู้จะพูดอะไรกับฉินเหยาดี
หลังจากความเงียบแปลกๆ ดำเนินไปครู่หนึ่ง หลิวไป่ก็เอ่ยขึ้นว่าโม่หินขัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอให้นางวางใจพร้อมทั้งกำชับให้ปิดประตูบ้านพักผ่อนดีๆ แล้วค่อยมาพูดคุยกันอีกทีในวันพรุ่งนี้
“ท่านพ่อ พวกท่านรอก่อน”
ฉินเหยาเรียกพวกเขาเอาไว้ก่อนเดินกลับเข้าไปในบ้าน หยิบห่อกระดาษน้ำมันที่ยังไม่ได้เปิดออกมาส่งให้หลิวเฝย
เด็กหนุ่มดมกลิ่นแล้วตาเป็นประกายทันที “ขอบคุณพี่สะใภ้สาม!”
“ไม่เป็นไร ข้าซื้อมาฝากพวกเจ้าด้วยชุดหนึ่ง ฝีมือพ่อครัวใหญ่ของโรงเตี๊ยมในอำเภอ”
ฉินเหยาเอ่ยขึ้นว่าม้าของนางยังไม่มีที่นอนเลย หลิวเหล่าฮั่นก็รีบโบกมือใหญ่ บอกนางให้ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้เช้าพวกข้าจะมาสร้างคอกให้เหล่าหวงของนางเอง
ฉินเหยามองส่งพวกเขาลงจากเขา ก่อนจะเดินไปหลังบ้าน ปลดอานม้าลงมาเก็บในบ้าน ตักน้ำให้เหล่าหวงหนึ่งถังแล้วจึงปิดประตูบ้าน นำเสื้อผ้าที่เปื้อนมาซักจนสะอาด จากนั้นทุกคนในบ้านก็ล้างหน้าล้างตากันง่ายๆ แล้วแยกย้ายกันไปนอน
นางนอนหลับสนิทและยาวนานมาก ทั้งยังฝันเห็นภาพแปลกประหลาดหลายฉากในความฝันอีกด้วย
ภาพตึกสูงรกร้างในวันสิ้นโลกตัดสลับไปมากับเรือนหรูหราในยุคโบราณ ศีรษะของเสี่ยงหวังและใบหน้าของนายอำเภอปรากฏขึ้นซ้ำๆ จนกระทั่งรุ่งสาง จิตสำนึกถึงค่อยแจ่มชัดและความฝันก็จบลง
นางนอนต่ออีกสักพัก พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกสดชื่นแล้วพบว่าหลิวไป่กับหลิวจ้งกำลังทำงานอยู่หลังบ้าน
สำหรับชาวบ้านหมู่บ้านตระกูลหลิวแล้ว ไม้ไผ่เป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้ง่ายที่สุด เวลาจะใช้ก็แค่เข้าไปตัดในป่าไผ่ พอตัดแต่งกิ่งให้เรียบร้อยก็ใช้งานได้เลย
ไม้ไผ่ยังเจาะรูง่าย ใช้เชือกปอที่แข็งแรงร้อยผ่านรูก็สามารถมัดเข้าด้วยกันได้
คอกม้าถูกสร้างข้างประตูหลังบ้าน ติดกับกำแพงลานบ้านทำให้การสร้างง่ายขึ้น
ต้าหลางกับเอ้อร์หลางฝึกยามเช้ากลับมาแล้วกำลังช่วยท่านลุงทั้งสองสร้างคอกม้า
ซานหลางกับซื่อเหนียงนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือในห้องของพวกเขา โยกศีรษะไปมาพลางอ่านออกเสียงตามบทเรียนที่เอ้อร์หลางมอบหมายให้ ทั้งสองอ่านไปทั้งที่ตายังลืมไม่เต็มที่ ดูแล้วช่างน่าเอ็นดู
แม้ว่าหลิวจี้ พ่อครัวประจำบ้านผู้นี้จะไปเรียนที่สำนักศึกษาแล้ว แต่ฉินเหยาก็ไม่ต้องลงมือทำอาหารเอง
นางแต่งตัวเสร็จแล้วออกมาล้างหน้า เด็กโตสองคนก็อุ่นโจ๊กข้าวฟ่างวางไว้บนเตาเรียบร้อย
ฉินเหยาเคยเจอแต่เด็กดื้อซุกซนมามาก พอได้เห็นเด็กดีๆ เช่นนี้ นางก็รู้สึกปลื้มใจมาก