ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยง ข้าพลิกฟื้นทั้งครอบครัว - ตอนที่ 178 กำลังจะโดนซ้อมแล้ว
ฉินเหยาถามว่า “ท่านพ่อ ท่านว่าวัวตัวนี้ดีหรือไม่”
หลิวเหล่าฮั่นพยักหน้า วัวตัวนี้เป็นวัวดี เรื่องนี้ไม่อาจโกหกได้
แต่ไม่ได้ใช้น่ะสิ!
“ไปๆๆ พวกเจ้าสามคงซื้อของเสร็จแล้ว กลับบ้านเถอะ” หลิวเหล่าฮั่นรีบดึงพวกจินเป่ากลับมา เด็กพวกนี้อยากรู้อยากเห็นไปหมด “กลับบ้าน”
จินเป่าจูงมือจินฮวาทำท่าทีไม่อยากกลับ “อ้อ…”
แต่ฉินเหยากลับไม่ขยับ นางกล่าวอย่างหนักแน่น “ท่านพ่อ ข้าจะซื้อ ข้าไม่อยากไถนา”
“แค่สิบหมู่ เจ้าก็ไม่ยอมไถรึ” หลิวเหล่าฮั่นไม่เข้าใจ แถมยังตกตะลึงอย่างหนัก
ฉินเหยาพยักหน้า นางจะซื้อมัน!
นางส่งสัญญาณให้หลิวเหล่าฮั่นหลบทาง ก่อนเดินไปหาพ่อค้าและเตรียมจ่ายเงิน
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าคนที่ต่อราคาก่อนหน้านี้ พอเห็นนางจะซื้อ จู่ๆ ก็เลิกกดราคา แถมยังรีบพูดว่าตนเองก็ต้องการซื้อเช่นกัน
พ่อค้าเกิดความลำบากใจขึ้นมาทันที มองฉินเหยาแล้วหันไปมองพวกที่โวยวาย ไม่รู้ว่าควรขายให้ใครดี
แต่ฉินเหยาไม่สนใจคนพวกนั้น นางยัดเงินใส่มือพ่อค้าโดยตรง “ทุกสิ่งย่อมมีลำดับก่อนหลัง ข้าเป็นคนพูดก่อนว่าจะซื้อ สมควรขายให้ข้า!”
คนพวกนั้นไม่ยอม รีบขวางพ่อค้าไว้ ไม่ให้เขารับเงินจากฉินเหยา “สตรีที่ไหนกัน ไม่รู้จักกฎระเบียบหรือไร ทุกคนต่างเห็นกันอยู่ทนโท่ว่าเป็นพวกเราที่มาก่อน เรากำลังตกลงราคากันอยู่!”
หลิวเหล่าฮั่นเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่สนเรื่องห้ามฉินเหยาแล้ว รีบตะโกนลั่น “พวกเจ้าคิดจะทำอะไร กลางวันแสกๆ ยังคิดจะรังแกคนอื่นหรือ”
กล่าวจบก็วางคันไถเหล็กลงบนพื้น แสดงท่าทีปกป้องเต็มที่
พวกนั้นเห็นดังนั้น สีหน้าก็ดูไม่สู้ดีนัก แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงชายชราใกล้ลงหลุมกับสตรีตัวเล็กๆ ก็หาได้ใส่ใจไม่ ยังคงข่มขู่พ่อค้าไม่ให้ขายต่อไป
ต้าหลางกับเอ้อร์หลางเห็นว่าน้องๆ มีท่าทีหวาดกลัวจึงนำเด็กๆ ทั้งหมดไปยืนอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้าม มองดูอยู่ห่างๆ
ซานหลางกับซื่อเหนียงดูดนิ้วพลางพูดกับจินเป่าและจินฮวาด้วยความกังวล “กำลังจะถูกซ้อมแล้ว”
จินฮวาตกใจ “อะไรนะ ท่านปู่กับอาสะใภ้สามจะถูกซ้อมหรือ”
ซื่อเหนียงขี้เกียจอธิบาย นางเพียงเบิกตากว้างจ้องมองสถานการณ์ฝั่งตรงข้าม
พ่อค้าถูกพวกนั้นคุมตัวไว้ ในอากาศหนาวเหน็บเช่นนี้กลับเหงื่อแตกพลั่กด้วยความร้อนรน
ฝูงชนเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มุงดูเหตุการณ์ตรงหน้า บ้างก็กล่าวว่าพวกนั้นรังแกคนแก่และสตรี บ้างก็เร่งให้พ่อค้าให้คำตอบเสียที
“จะขายให้ใคร เจ้าก็รีบบอกมาเสียเถอะ!” มีคนในฝูงชนตะโกนขึ้น
ฉินเหยาเองก็เบื่อที่ต้องมาเสียเวลา นางเอ่ยถามพ่อค้าตรงๆ “สรุปเจ้าจะขายให้ใครกันแน่”
เงินสิบหกตำลึงวางอยู่ตรงหน้า พ่อค้าหมายจะขายให้ฉินเหยาอยู่แล้ว แต่ก็กลัวจะทำให้พวกนั้นไม่พอใจ จึงลังเลไม่แน่ใจ
ฉินเหยาเห็นเขามัวแต่รีรอจึงเรียกหลิวเหล่าฮั่น ก่อนหันหลังเดินจากไปทันที
“แม่นางน้อย อย่าเพิ่งไป! ข้าขายให้เจ้า!” พ่อค้าร้องเรียกหยุดนางเอาไว้ หากปล่อยให้ผู้ซื้อคนนี้ไปแล้ว เหลือแต่พวกนั้นคงต้องถูกกดราคาอีกแน่
หากเป็นเช่นนี้จริง ล่วงเกินคนก็ต้องล่วงเกินแล้ว เงินสำคัญกว่า!
ฉินเหยาหยุดฝีเท้า หันกลับมาอีกครั้ง เอ่ยย้ำถาม “ขายให้ข้า?”
พ่อค้าพยักหน้าหงึกๆ ไม่หยุด
ฉินเหยากระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้หลิวเหล่าฮั่นรออยู่ก่อน จากนั้นก้าวไปข้างหน้า ยื่นเงินให้พ่อค้า
แต่ไม่คาดคิดว่าคนพวกนั้นจะโกรธจัด รีบยื่นมือออกมาหมายจะปัดเงินลงพื้น
ฉินเหยาดวงตาเย็นเยียบ รีบกำเงินตำลึงในมือแน่นอย่างรวดเร็ว อีกมือหนึ่งโจมตีออกไปราวสายฟ้า เพียะๆๆๆ ตบสี่ทีติดกัน มือทั้งสี่ข้างที่ยื่นออกมาถูกปัดจนกระเด็นไปหมด
เสียง “ตุบตุบ” ดังขึ้น สี่คนนั้นกระเด็นจนล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
คนพวกนั้นทั้งตกใจและโกรธ รีบลุกขึ้นแล้วกำหมัดหมายจะชกเข้าใส่ฉินเหยา
พ่อค้าถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกับสถานการณ์ตรงหน้า ทำได้เพียงบอกให้ฉินเหยารีบหนีไปก่อน
“หนี? ข้ายังไม่ได้พาวัวของข้าไปเลย จะหนีทำไมกัน!”
ในจังหวะที่พวกนั้นกำลังจะดึงหมัดกลับไป ฉินเหยาก็พลันยืดกายขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช้ศอกกวาดหมัดของทั้งสี่คนรวบเข้าใต้รักแร้ จากนั้นบิดตัวกดลงอย่างแรง ทั้งสี่คนถูกแรงกดมหาศาลทับลงบนพื้น!
ได้ยินเพียงเสียงกร๊อบดังขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเสียงกระดูกส่วนไหนผิดรูป ตามมาด้วยเสียงครวญครางของคนทั้งสี่ที่กุมแขนด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น
“ซี๊ด~”
ฝูงชนรอบข้างต่างพากันสูดหายใจเย็นยะเยือก สตรีผู้นี้ช่างเก่งกาจยิ่งนัก!
ฉินเหยามองพวกที่กลิ้งอยู่กับพื้นพลันหัวเราะเย็นชา นางเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างยิ่ง จึงกระทืบซ้ำเรียงตัวไปอีกคนละที
เท้าของนางเตะเข้ากลางหลังพอดี ทั้งสี่คนถึงกับแน่นิ่งลงไป หายใจติดขัดจนร้องไม่ออก
“วัวเป็นของใคร?” นางนั่งยองๆ ตรงหน้าคนทั้งสี่ เอ่ยถามด้วยท่าทีจริงจัง
ทั้งสี่คนตกใจอยากถอยหนีให้ห่างจากนาง สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและร้องขอความเมตตา
พวกเขาพยายามกลั้นหายใจแล้วพูดอย่างตะกุกตะกักออกมา “ของเจ้า ของเจ้า ล้วนเป็นของเจ้าทั้งหมด…”
ฉินเหยาจึงยื่นมือออกไป ท่ามกลางสายตาหวาดหวั่นของพวกนั้น นางจัดแขนที่เคลื่อนผิดตำแหน่งให้เข้าที่ทั้งหมด
นางลงมือจัดกระดูกโดยไม่ให้เวลาตั้งตัวสักนิด คนพวกนั้นเจ็บจนดิ้นกลิ้งไปมากับพื้นอีกครั้ง ร้องโหยหวนกันระงม
เมื่อจัดเสร็จ ฉินเหยาก็ปัดมือ ลุกขึ้นยืน เดินไปหาพ่อค้า
พอเห็นนางเข้าใกล้ พ่อค้าก็ถอยหลังไปก้าวใหญ่ทันที!
ฉินเหยาขมวดคิ้ว แกว่งเงินในมือไปมา “เงิน เจ้าจะเอาหรือไม่”
“เอา เอาสิ” พ่อค้าหยุดฝีเท้า โน้มร่างไปด้านหน้าเกือบครึ่งแล้วค่อยๆ ยื่นมือออกไป ใช้นิ้วคีบเงินตำลึงจากมือฉินเหยามาทีละก้อน
พอได้เงินแล้วก็หันหลังวิ่งหนีไปทันที
ฉินเหยา “…”
นางยักไหล่ จากนั้นก็เดินไปจูงเกวียนวัวที่ผูกอยู่กับเสาออกมา
อาจเป็นเพราะพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ออกมาจากร่างนาง วัวแก่ที่ดื้อรั้นกลับเชื่องอย่างไม่น่าเชื่อ บอกให้เดินไปทางตะวันออกก็ไป บอกให้ไปทางตะวันตกก็ไป
“…ได้ ได้!” หลิวเหล่าฮั่นลังเลไปชั่วครู่ ก่อนจะรู้สึกตัว รีบตอบรับอย่างรวดเร็ว แล้วนำคันไถและจอบที่เพิ่งซื้อขึ้นไปวางบนเกวียน
ฉินเหยากวักมือเรียกต้าหลางและพวกเด็กๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามให้กลับมา แล้วกำชับให้พวกเขาเดินตามรถเกวียน พร้อมกับอุ้มเด็กเล็กสามคนขึ้นไปบนรถแล้วจูงไปด้วยกัน
จินฮวาตอนนี้ถึงเพิ่งเข้าใจ ที่แท้ซานหลางกับซื่อเหนียงพูดว่าจะถูกซ้อม ไม่ได้หมายถึงท่านปู่กับอาสะใภ้สาม แต่เป็นพวกคนเลวทั้งสี่ที่นอนอยู่กับพื้นต่างหาก
และคนเลวทั้งสี่ในสายตาของจินฮวานั้น หลังจากมองส่งฉินเหยาและพวกเดินจากไปแล้วก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งตรงไปทางที่ว่าการ
ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากฉินเหยารับพวกหลิวจี้ที่ซื้อของเสร็จแล้วซื้อของเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มอีกหน่อยเพื่อเตรียมกลับบ้าน ตอนที่พวกนางกำลังจะเดินพ้นประตูเมืองนั้น ก็มีเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากทางด้านหลัง!
“พวกเจ้าข้างหน้านั่น หยุดเดี๋ยวนี้!”
จากนั้นยังมีเสียงเบาๆ ดังขึ้นมาอีก “ใช่ๆ ท่านทหาร นางนั่นแหละ หญิงชาวบ้านที่ขับเกวียนวัวผู้นั้น…”
ทหารเฝ้าประตูเมืองได้ยินคำสั่งเช่นนี้ก็รีบยื่นง้าวยาวออกมาขวางฉินเหยาและพวกทันที
นางเหอสะดุ้งเฮือก หลิวจ้งเองก็ตกใจจนลนลาน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
หลิวเหล่าฮั่นขมวดคิ้วแน่น หันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นพวกสี่คนที่ถูกฉินเหยาซ้อมเมื่อครู่ พวกนั้นคงโกรธจนทนไม่ได้ วิ่งไปแจ้งความที่ที่ว่าการ
เวลานี้พวกเขาพาเจ้าหน้าที่ทางการมาสี่คน ต้องการจะจับตัวฉินเหยา
ข้อหาก็คือนางเมินเฉยต่อกฎหมาย ทำร้ายคนกลางถนนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส!
“อะไรกัน” หลิวจี้ชี้ไปยังคนทั้งสี่ที่กำลังกระโดดโลดเต้นไปมาด้วยท่าทีไม่อยากเชื่อ “พวกเขาบาดเจ็บสาหัสตรงไหนกัน”
………………..