ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยง ข้าพลิกฟื้นทั้งครอบครัว - ตอนที่ 53 นับจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
- Home
- ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยง ข้าพลิกฟื้นทั้งครอบครัว
- ตอนที่ 53 นับจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ลูกพี่กำลังจะหนี ทั้งยังเสียแขนไปหนึ่งข้าง ลูกสมุนก็แตกพ่ายในทันที
หลิวเฝยเลือดเดือดพล่าน ตะโกนดังลั่นว่า “พวกเราสู้ตายกับพวกมัน เอาของกลับมาให้ได้!”
ทุกคนตอบรับพร้อมกัน พวกเขาโกรธจนตาแดงก่ำ กระทั่งเสื้อผ้าของพวกโจรยังถอดออกจนหมด
เสียงกีบเท้าม้าเลือนลั่น พวกโจรที่ไม่โลภรีบตามหัวหน้าขี่ม้าฝ่าวงล้อมชาวบ้านออกไปทันที
ส่วนพวกที่โลภอยากขนของไปอีกเล็กน้อยล้วนถูกชาวบ้านที่โกรธจัดจับตัวเอาไว้ทั้งหมด
หลายคนรุมโจมตีคนเดียว ใช้ทั้งจอบและเคียวเข้าฟาดฟันพร้อมๆ กัน
หลิวไป่วิ่งเข้ามาในลานบ้าน ถามฉินเหยาว่าจะตามอีกหรือไม่
ฉินเหยากล่าวเสียงหนัก “ตาม! ต้องตาม! หัวหน้าโจรต้องตาย!”
พูดจบนางก็พุ่งออกไปทันที
หลิวไป่รีบเรียกชาวบ้านให้ตามไป กลุ่มชาวบ้านจำนวนมากไล่ตามพวกโจรไปจนถึงปากหมู่บ้านแล้วยังตามไปจนถึงถนนสายเล็ก
แต่สองขาไหนเลยจะวิ่งทันม้าสี่ขา สุดท้ายก็ถูกทิ้งห่างออกไป
มีเพียงฉินเหยาที่ยังไล่ตามไปอย่างบ้าคลั่งตลอดทาง สุดท้ายนางเล็งธนูไปยังแผ่นหลังของหัวหน้าโจรแล้วยิงออกไปอย่างแรง!
ขณะที่คิดจะยิงซ้ำอีกดอก พวกโจรก็เลี้ยวเข้าหุบเขาไปแล้ว หลังจากเล็งอยู่พักหนึ่ง นางจึงลดคันธนูลง
โดนลูกธนูของนางเข้าไปทั้งยังเสียแขนไปหนึ่งข้าง ย่อมไม่มีทางรอดชีวิตได้!
หลิวเฝยนำเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันสองคนวิ่งหอบตามมาจนทัน “พี่สะใภ้สาม…ยังจะตามต่ออีกหรือไม่”
ฉินเหยามองไปที่ปากทางเข้าหุบเขาแล้วส่ายหน้า
นางหันกลับไปมองหลิวเฝยที่เต็มไปด้วยเลือดของพวกโจรก็ยิ้มเอ่ย “เจ้าหนุ่ม วันนี้เจ้าทำได้ไม่เลวเลย”
หลิวเฝยกลับยิ้มไม่ออกสักนิด เขาเพิ่งผ่านการต่อสู้สุดชีวิตมา ไม่รู้สึกถึงสิ่งใดทั้งสิ้น ตอนนี้เพิ่งมานึกได้ว่าตนเองอาจจะฆ่าคนไปก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
…
ฉินเหยาประคองหลิวต้าฝูขึ้นมา มองไปยังเรือนด้านหลังของหลิวต้าฝูที่กำลังโดนไฟไหม้ เอ่ยเตือนเขาว่า “ดับไฟก่อนเถิด”
หลิวต้าฝูตอบรับ ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างพากันมาช่วยดับไฟ
เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เปลวเพลิงก็ถูกดับลงจนหมด
ตัวแทนจากแต่ละบ้านมารวมตัวกันในศาลบรรพชน
ส่วนคนที่เข้าไปไม่ได้ก็พากันเบียดเสียดอยู่ที่หน้าประตูศาล
“ฉินเหนียงจื่อมาแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา แต่ในศาลบรรพชน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำตระกูล และครอบครัวหลิวต้าฝูที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดต่างพากันลุกขึ้นยืน
ฉินเหยากลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมนำข่าวที่ว่าโจรภูเขาหนีไปแล้วเล่าให้คนในบ้านฟัง จากนั้นก็ปลอบเด็กทั้งสี่ที่ยังตกใจจนสงบ ก่อนจะกินข้าวต้มหมูเต้าหู้ใส่ผักกาดขาวที่หลิวจี้ตั้งใจยกมาให้แล้วค่อยถือโคมแดงเดินมายังศาลบรรพชน
หลิวจี้และเด็กทั้งสี่คนตามมาด้วย แต่น่าเสียดายที่พวกเขาเข้าไปในศาลด้วยไม่ได้
แต่เพราะฉินเหยา ชาวบ้านที่หน้าประตูจึงพากันหลีกทางให้พื้นที่กับหลิวจี้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความมืดยามค่ำคืนหรือไม่ สายตาที่ทุกคนมองหลิวจี้ถึงดูอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน
หลิวจี้รู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความรัก เขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติที่ดีเช่นนี้จากคนในหมู่บ้านมาก่อน
หลิวจี้ยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงเล่าเรื่องที่ฉินเหยาไล่สังหารจนหัวหน้าโจรหลบหนีไปให้เขาฟัง
หลิวจี้เบิกตากว้าง มองฉินเหยาที่อยู่ในศาลบรรพชนอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่คิดเลยว่ากระทั่งหัวหน้าโจรนางก็ยังไม่กลัว
สีหน้าของพวกต้าหลางปรากฏความนับถือ ไม่คิดเลยว่าแม่เลี้ยงจะเก่งกาจถึงเพียงนี้!
ฉินเหยานั่งลงบนม้านั่งในศาลบรรพชน ชี้ไปที่ศพของโจรด้านนอกศาลแล้วถามว่า “ศพพวกนั้นจะไม่จัดการหรือ”
ผู้ใหญ่บ้านอธิบายว่า เขาได้ส่งคนไปแจ้งทางการแล้ว ไปกลับเร็วที่สุดคงต้องรอจนเช้าเจ้าหน้าที่ถึงจะมา
ศพเหล่านี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่มาแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่าจะจัดการอย่างไร
ฉินเหยาพยักหน้าเล็กน้อยแสดงออกว่ารับทราบแล้ว
เหล่าผู้อาวุโสมองนางด้วยสายตาเมตตาปรานี ถามว่ามีสิ่งใดอยากถามอีกหรือไม่ หากไม่มีจะได้คุยประเด็นสำคัญกัน
ฉินเหยายิ้มบางๆ ก่อนจะส่ายหน้า
หัวหน้าตระกูลลุกขึ้นยืน บุตรชายคนโตของเขานำสมุดและกระดาษพู่กันมาเพื่อจดความเสียหายของแต่ละบ้านพร้อมทั้งจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
กระบวนการนี้เต็มไปด้วยความเศร้าโศก นอกจากบ้านที่ถูกถาม คนอื่นๆ ล้วนพากันเงียบไม่เอ่ยคำใด
ช่วงปีใหม่กลับเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าใครก็ไม่อาจมีความสุขอยู่ได้
ในหมู่บ้านมีทั้งหมดสี่สิบสองครัวเรือน สตรี เด็ก และคนชรารวมแล้วสองร้อยสิบแปดคน
วันนี้มีชาวบ้านตายไปหกคน ในจำนวนนี้เป็นสตรีสองคน คนชราสองคน และชายหนุ่มอีกสองคน
ผู้บาดเจ็บมีมากกว่าครึ่ง บาดเจ็บเล็กน้อยประมาณแปดสิบเก้าคน และบาดเจ็บสาหัสสิบสองคน
โชคดีที่หมอเฒ่าไม่เป็นอะไร ขณะนี้กำลังรักษาชาวบ้านที่บาดเจ็บอยู่ที่บ้านหลิวต้าฝู
ในจำนวนผู้บาดเจ็บสาหัสสิบสองคน มีคนในครอบครัวหลิวต้าฝูถึงสามคน
ผู้เสียชีวิตสองคนที่เป็นคนชราก็คือบิดามารดาของหลิวต้าฝู
คนในเรือนเก่าตระกูลหลิวไม่มีใครเป็นอะไรมาก หลิวไป่และหลิวเฝยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยต่างกันไป เพียงไปเอายาจากหมอเฒ่าและดื่มยาอีกสองชุดก็หายแล้ว
นางจางกราบไหว้ท้องฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า ขอบคุณสวรรค์ที่คุ้มครอง
หลิวเหล่าฮั่นกล่าวเหน็บว่า “หากจะขอบคุณก็ต้องขอบคุณสะใภ้สามต่างหาก”
นางจางพยักหน้าเห็นด้วย ขณะเดียวกันก็ถลึงตาใส่หลิวเหล่าฮั่นเพราะนางเองก็ไม่กล้าล่วงเกินสวรรค์
หลิวเหล่าฮั่นมองบ้านที่ถูกโจรกวาดทำลาย ดวงตาพลันชื้นขึ้น เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อข่มกลั้นความรู้สึกแล้วพับแขนเสื้อขึ้นเริ่มเก็บบ้าน
แต่ละบ้านสถานการณ์ไม่ต่างกันมากนัก บางบ้านเพียงย่ำแย่เล็กน้อย ขณะที่บางบ้านย่ำแย่เสียจนเกินคำบรรยาย
หัวหน้าตระกูลสรุปสถานการณ์ทั้งหมดพร้อมทั้งรายงานความเสียหายของทรัพย์สินแต่ละบ้าน
เนื่องจากพวกโจรหนีไปแล้ว ทรัพย์สินเช่นสัตว์เลี้ยงและเสบียงจึงแทบไม่ได้รับความเสียหาย แต่เงินทองส่วนใหญ่นั้นเอาคืนมาไม่ได้แล้ว
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถึงฉินเหยาขึ้นมาอีกครั้ง หากวันนี้ไม่ได้นางเป็นผู้นำ สภาพการณ์ของหมู่บ้านจะเป็นอย่างไรพวกเขาไม่กล้าจินตนาการ
โดยเฉพาะหลิวต้าฝู เขากล่าวขอบคุณฉินเหยาและพวกชาวบ้านต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโส
เขากล่าวว่า “วันนี้หากไม่ได้ฉินเหนียงจื่อและทุกท่าน เกรงว่าครอบครัวข้าคงต้องตายภายใต้คมดาบของพวกโจรไปแล้ว ตอนนี้สามารถรักษาไว้ได้ทั้งเสบียงและชีวิต ข้าจึงอยากแบ่งธัญพืชครึ่งหนึ่งของบ้านข้าให้แก่ชาวบ้านที่มาช่วยข้าหลิวต้าฝูในวันนี้…”
การกระทำของหลิวต้าฝูทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น ชาวบ้านบางคนที่ยามนั้นกลัวจนไม่ได้ออกมาช่วยเสียใจอย่างมาก
ฉินเหยาเข้าใจเหตุผลที่หลิวต้าฝูทำเช่นนี้
ข้อแรกคือเขาต้องการขอบคุณจากใจจริง
เหตุผลข้อสองคือธัญพืชทั้งหมดที่เขาซ่อนเอาไว้ถูกพวกโจรขนออกมาก็เหมือนกับถูกเปิดเผยออกมาจนหมดต่อหน้าทุกคน
ปกติทุกคนรู้เพียงว่าหลิวต้าฝูร่ำรวยและครอบครองที่นาในหมู่บ้านเกือบครึ่ง แต่ไม่มีใครรู้จำนวนที่แน่ชัด
แต่ยามนี้จำนวนที่แท้จริงถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจนเช่นนี้ ยามนี้ทุกคนยังคิดถึงแค่เรื่องโจร แต่รอจนคืนนี้ผ่านพ้นพวกเขาสงบสติได้แล้วก็จะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
ธัญพืชจำนวนมากเช่นนี้จะดึงดูดหมาป่าร้ายกาจเพียงใดมากัน เพียงแค่คิดก็ชวนให้คนหวาดกลัวแล้ว
ตอนนี้บุตรชายสามคนของเขาล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาไม่มีทางรับมือได้ สู้แบ่งธัญพืชออกไปเสียจะดีกว่า จะได้ไม่มีใครมาจับจ้อง
นอกจากนี้ คนที่ได้รับธัญพืชไปก็จะกลายเป็นผู้สนับสนุนครอบครัวเขาไปโดยปริยาย ทั้งยังช่วยข่มขวัญคนที่คิดร้ายเหล่านั้นอีกด้วย
ชาวบ้านเพิ่งเผชิญกับเหตุโจรปล้น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องการการปลอบขวัญ การกระทำของหลิวต้าฝูจึงเหมือนเป็นการช่วยหัวหน้าหมู่บ้านและผู้อาวุโสแก้ไขปัญหานี้ลงได้
เมื่อไม่มีใครคัดค้าน หลิวต้าฝูจึงหาชาวบ้านที่ไว้ใจไปขนธัญพืชจากบ้านของเขามาแจกจ่ายที่ศาลบรรพชน
ความยินดีจากการได้รับธัญพืชช่วยบรรเทาความเศร้าหมองที่โจรภูเขานำมาได้อย่างรวดเร็ว