ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 148 ไปพามาด้วยตัวเอง
ตอนที่ 148 ไปพามาด้วยตัวเอง
ตอนที่ 148 ไปพามาด้วยตัวเอง
อย่าว่าแต่เหยาจิ้งจือเลย เซี่ยเหวินปิงก็รู้สึกเหลือเชื่อเช่นกัน
“อาหลี่ พวกแกเดาผิดหรือเปล่า แม่ของแกจะมาจากปักกิ่งได้ยังไง หล่อน…หล่อนถูกเจอตัวอยู่บนเขานะ”
“ไม่น่าเดาผิดครับ วันนี้แม่ก็เจอเหยาอี้หนิงแล้ว พวกแม่ก็เห็นสีหน้าเขาแล้วในตอนเขาเห็นหน้าแม่ เห็นได้ชัดว่าคล้ายกับคนที่เขารู้จักคุ้นเคย”
ได้ยินคำกล่าวของลูกชาย เซี่ยเหวินปิงกับเหยาจิ้งจือก็นึกถึงตอนที่เหยาอี้หนิงปรากฎตัว ทั้งสองจึงเงียบไป
ฉินมู่หลานเห็นดังนี้จึงอดไม่ได้ที่จะพูด “แม่คะ ถึงเรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงก็ตาม ขอเพียงแค่แม่อยากเจอพวกเขา เดี๋ยวพวกฉันจะช่วยสืบให้ ตอนนี้แม่มีความคิดเห็นว่ายังไงคะ?”
คนรอบข้างได้ยินสิ่งนี้ จึงพากันหันมองเหยาจิ้งจือ
เหยาจิ้งจือรู้สึกคลุมเครือนิดหน่อย แต่ในที่สุดก็เอ่ยด้วยสีหน้าแน่วแน่ “ฉันอยากรู้ว่านายท่านเหยากับคุณนายเหยาที่พวกแกพูดถึงเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ของฉันหรือเปล่า ตั้งแต่ตอนที่ฉันหลงทาง หากพวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทิ้งฉัน ฉันก็ยังอยากเจอพวกเขาอยู่”
เหยาจิ้งจือเคยคิดเกี่ยวกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเองเยอะแยะมากมาย รู้สึกได้ว่าตัวเองอาจจะเป็นลูกสาวที่ถูกทิ้ง โชคดีที่เป็นการพลัดหลงแล้วหายตัวไป เมื่อตอนนี้ทราบแล้วว่าตนพลัดหลง หล่อนจึงอยากตามหาพ่อแม่แท้ ๆ ของตัวเองให้เจอ
ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเหยาจิ้งจือเอ่ยเช่นนี้ จึงมองหน้ากัน จากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “แม่คะ ถ้าแม่อยากจะตามหาพ่อแม่แท้ ๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะช่วยค่ะ”
“ได้”
เหยาจิ้งจือค่อนข้างสับสนนิดหน่อย ตอนแรกหล่อนตั้งใจมาดูแลสะใภ้คนเล็ก คิดไม่ถึงว่าจะพบเบาะแสครอบครัวเดิมของตัวเอง
เซี่ยเหวินปิงก็รู้สึกสับสนนิดหน่อยเช่นกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้ลูกชายคนเล็กจะไม่ได้เล่าเรื่องตระกูลเหยาในเมืองหลวงให้ฟัง แต่จากที่ได้ยินมาคร่าว ๆ ก็ทราบว่าตระกูลเหยาเป็นตระกูลที่ค่อนข้างร่ำรวย ถ้าจิ้งจือเป็นคุณหนูตระกูลเหยาที่พลัดหลงไปตอนเด็กจริง ก็ดูเหมือนว่าตัวเขาจะไม่เหมาะสมกับจิ้งจือเอาเสียเลย
เมื่อเห็นพ่อกับแม่เงียบไป เซี่ยเจ๋อหลี่จึงเป็นฝ่ายเริ่มเปิดปากพูดขึ้น “พ่อครับ แม่ครับ พวกเรากินข้าวกันก่อนเถอะ มู่หลานหิวแล้ว” โนเวลพีดีเอฟ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงก็กลับมามีสติ ทั้งสองจึงรีบพยักหน้าพลางเอ่ยขึ้นว่า “ใช่แล้ว ๆ กินข้าวกันก่อน จะปล่อยให้มู่หลานหิวไม่ได้”
ตอนนี้เรื่องของฉินมู่หลานสำคัญที่สุด เรื่องอื่นพวกเขาค่อยเอาไว้คุยทีหลัง
อีกด้านหนึ่ง เหยาอี้หนิงที่ได้พบเหยาจิ้งจือแล้วก็ได้แต่รู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะไปตามสืบมานิดหน่อย จึงได้ทราบว่าเหยาจิ้งจือเป็นแม่ของเซี่ยเจ๋อหลี่ อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องถามก็ได้ เพราะสองแม่ลูกดูคล้ายกันมาก แต่เขาเพียงอยากอาศัยจังหวะหลอกถาม และผลสุดท้ายก็ทำให้เขาผิดหวัง
ระหว่างรับประทานอาหาร เหยาอี้หนิงก็นึกถึงรูปร่างหน้าตาของเหยาจิ้งจืออยู่ตลอด สุดท้ายก็ไม่สามารถตั้งสมาธิให้กินข้าวจนเสร็จ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปเพื่อโทรศัพท์
เพียงแต่เขายังไม่กล้าโทรกลับไปที่บ้าน กลัวว่านายท่านเหยาและคนอื่นจะรับสายแทน สุดท้ายจึงโทรไปหาคุณยายที่อยู่บ้านข้าง ๆ
ยินอวี่โหรวรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้รับโทรศัพท์จากหลานชาย หลังจากได้ยินสิ่งที่หลานชายบอกเล่า น้ำเสียงของเธอก็กดต่ำลงทันที “อี้หนิง แกบอกว่า…แกเห็นแม่ของเพื่อน ดูเหมือนคุณตามากเลยอย่างนั้นเหรอ?”
“ครับ ดูคล้ายกันมาก บุคลิกหล่อนเหมือนคุณยายใหญ่จนทำให้ผมรู้สึกคุ้นมากตั้งแต่ได้เห็นครั้งแรก” ตอนนี้ในใจของเหยาอี้หนิงรู้สึกสับสนนิดหน่อย แต่เขาก็สงบลงโดยเร็ว ก่อนจะเอ่ยถาม “คุณยายครับ รูปถ่ายที่ผมส่งกลับไปที่บ้านครั้งก่อน แม่กับยายได้ดูหรือยังครับ?”
“เห็นแล้วล่ะ เพื่อนของแกคล้ายกับคุณตาสมัยตอนที่ยังเป็นหนุ่มอยู่นะ แกอยู่ใกล้เพื่อนแกตั้งนานแล้วไม่ทันสังเกตเห็นเลยเหรอ ตอนได้ยินคำพูดของพ่อบ้านเหยาถึงได้ส่งรูปถ่ายมาให้พวกเรา แต่พอวันนี้ได้เจอแม่เพื่อนคนนั้นแล้วรู้สึกคุ้นหน้า แกกลับบอกว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนคุณตามากกว่าลูกชายของหล่อน”
“ครับ ผมไม่เคยเห็นคุณตาตอนหนุ่ม ก็เลยไม่รู้สึกอะไรตอนที่เจอเซี่ยเจ๋อหลี่ แต่กับแม่ของเขามันไม่เหมือนกัน ดูคล้ายกันมากตั้งแต่แรกเห็นเลย”
ได้ยินดังนี้ ยินอวี่โหรวก็รู้สึกมั่นใจแล้วว่าแม่ของเซี่ยเจ๋อหลี่คือแม่หนูเหยาจิ้งจือคนนั้น คิดได้เช่นนั้นสีหน้าของนางก็มืดมนลง แต่ไม่นานนักก็กลับมายกยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยถาม “ยายได้ยินมาว่าเพื่อนของแกมาจากชนบทเหรอ?”
“ครับ เซี่ยเจ๋อหลี่มาจากหมู่บ้านชนบทแถบซานตง เขาสมัครเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่อายุสิบหก”
“อ๋อ ยายเข้าใจแล้ว แกเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อนนะ ยายจะจัดการเอง”
เห็นยินอวี่โหรวเอ่ยเช่นนั้น เหยาอี้หนิงก็รู้สึกโล่งใจ แต่ในใจยังคงมีคำถามมากมายที่อยากจะถาม “คุณยายครับ เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของเซี่ยเจ๋อหลี่….จะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของคุณปู่ที่หายไปตั้งแต่เด็ก?”
“ก็น่าจะเป็นหล่อนนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหยาอี้หนิงก็บีบโทรศัพท์ในมือแน่น ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างก็คิดขึ้นได้ว่ากำลังโทรศัพท์อยู่ หากพูดไปคงมีใครได้ยินเข้า ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีก และตอบกลับเพียงว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ”
หลังจากเหยาอี้หนิงวางสาย ก็เดินกลับบ้านพักด้วยสีหน้ายับยู่น่าเกลียด
เริ่นม่านลี่ก็กลับมาในช่วงตอนเที่ยงเหมือนกัน เมื่อเห็นสามีก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “เป็นอะไรเหรอคะ มีปัญหาในที่ทำงานหรืออะไรหรือเปล่า” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“ไม่มี”
เหยาอี้หนิงตอบอย่างรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย
เริ่นม่านลี่เห็นว่าน้ำเสียงของสามีแย่มาก จึงแสดงท่าทีเย็นชาใส่เช่นกัน “เหยาอี้หนิง คุณกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันอุตส่าห์พูดกับคุณดี ๆ แล้ว แต่คุณก็ยังเป็นแบบนี้”
“ผม…”
เหยาอี้หนิงรู้สึกไม่ค่อยดีนัก หลากหลายคำพูดท่วมล้นอยู่ภายในใจ ไม่คิดว่าภรรยาจะเป็นแบบนี้ เขาอยากเล่าเรื่องของตัวเองดี ๆ แต่เหมือนจะมีบางอย่างที่โลกภายนอกยังไม่รับรู้ นั่นก็คือแม่ของตนเป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกูลเหยา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เหยาอี้หนิงก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะลุกขึ้นยืนตรงแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้เป็นอะไร ไปก่อนนะ”
“เหยาอี้หนิง…”
เห็นสามีของตนเดินจากไป เริ่นม่านลี่ก็ขว้างถ้วยในมือจนแตกด้วยความโกรธ
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ยินอวี่โหรวได้ยินสิ่งที่หลานชายเอ่ย ก็ไปเรียกเหยาจิ้งถงมาทันที
“แม่ แม่บอกว่าอะไรนะ เหยาจิ้งจือยังมีชีวิตอยู่จริงเหรอ อี้หนิงเจอหล่อนเหรอ?”
“ใช่ อี้หนิงรู้สึกคุ้นตาทันทีที่ได้เห็นหล่อน น่าจะเป็นเหยาจิ้งจือแหละนะ”
เหยาจิ้งถงได้ยินแล้วก็นั่งไม่ติดที่ทันที ลุกขึ้นยืนพรวดแล้วเอ่ยขึ้น “แม่ ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะรออะไรอยู่ล่ะคะ จะให้นายท่านเหยารู้เรื่องเหยาจิ้งจือไม่ได้ เราต้องอาศัยจังหวะนี้ทำให้สองแม่ลูกอยู่ที่นั่นตลอดไป จะปล่อยให้นายท่านเหยาเจอไม่ได้”
“งี่เง่า!”
ยินอวี่โหรวหันมองลูกสาวด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเอ่ย “เหยาซื่อหงอาจทราบเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ได้ แกจะลงมือทำอะไรตอนนี้ ทำไปก็มีแต่จะทำให้คนอื่นจับได้”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหยาจิ้งถงก็รู้สึกหงุดหงิดไปหมด “ถ้าอย่างนั้นจะต้องทำยังไง หรือเราต้องรอให้นายท่านเหยาพาหล่อนกลับมา หลังจากนั้นฉันก็ต้องหลีกทางให้ลูกสาวทางสายเลือดจริง ๆ น่ะเหรอ”
“แกวางใจเถอะ ยินอวี่เจินชอบแกมาก แกไม่โดนตระกูลเหยาทิ้งหรอก”
“แต่ว่า…”
“พอแล้ว ไม่มีแต่ แกแค่ลงมือพาเหยาจิ้งจือกลับมาด้วยตัวเอง”
“อะไรนะ…”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แม่ลูกคู่นี้แสบจังนะ เริ่มคิดแล้วว่าหรือคนที่วางแผนทำให้เหยาจิ้งจือต้องพลัดหลงจากครอบครัวก็คือแม่เฒ่ายินอวี่โหรวนี่?
ไหหม่า(海馬)