ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 222 ไม่มีใจ(1)
ตอนที่ 222 ไม่มีใจ(1)
ตอนที่ 222 ไม่มีใจ(1)
ฉินมู่หลานได้ยินคำพูดนี้ ก็ส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ฉันไม่รู้จักค่ะ”
ปักกิ่งคนเยอะขนาดนั้น เธอจะรู้จักหมดทุกคนได้เหรอ
ตอนแรกเจียงลวี่ชิวคิดจะมาเยี่ยมเยียนฉินมู่หลานเท่านั้น แต่เห็นเธอพูดอย่างนั้นจึงไม่ได้เอ่ยอะไรอีก และพูดเรื่องอื่นแทน จากนั้นก็กลับไป
เพียงแต่สิ่งที่ฉินมู่หลานไม่ทันคาดคิดก็คือ ไม่นานนักเธอก็ได้พบกับเซี่ยอวี่หรงที่เจียงลวี่ชิวเพิ่งเอ่ยถึงเมื่อไม่นานมานี้
เวินเนี่ยนอันยิ้มกว้าง แล้วพูดกับฉินมู่หลาน “พี่สะใภ้ ได้ยินว่าพวกพี่เพิ่งกลับมาจากปักกิ่ง ที่บ้านทำเกี๊ยวเอาไว้พอดี ก็เลยแบ่งเอามาให้บางส่วนด้วยค่ะ”
ขณะเอ่ยก็รีบวางเกี๊ยวที่นำมาไว้บนโต๊ะทันที จากนั้นก็สังเกตเห็นเหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงด้วย จึงรีบเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มทันที “คุณลุง คุณป้า สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะ”
เหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงก็ยกยิ้มให้แล้วทักทายเวินเนี่ยนอันเช่นกัน
ในขณะนั้นเอง ผู้หญิงที่เดินเข้ามาพร้อมกับเวินเนี่ยนอันก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เนี่ยนอัน เธอจะไม่แนะนำพวกเราให้รู้จักกันหน่อยเหรอ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหยาจิ้งจือกับฉินมู่หลานก็หันมองไป ก่อนจะพบกับหญิงสาวผู้สวมเสื้อผ้าตามสมัยนิยมยืนอยู่ตรงหน้า บนใบหน้าตบแต่งด้วยเครื่องสำอางไว้อย่างงดงาม จัดว่าเป็นหญิงสาวที่หน้าตาดีคนหนึ่ง
เวินเนี่ยนอันได้ยินเช่นนั้น ก็หันมองฉินมู่หลานแล้วยกยิ้ม “พี่สะใภ้ นี่คือเซี่ยอวี่หรงเพื่อสนิทของฉันเองค่ะ หล่อนเพิ่งมาเที่ยวหาฉันที่นี่ หล่อนเคยไปทำภารกิจแถวตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อเป็นกองหนุนมาก่อน เพิ่งกลับมาเมื่อไม่นานมานี้ พอกลับมาแล้วก็ตรงมาหาฉันทันทีเลยค่ะ”
หลังจากพูดจบ เวินเนี่ยนอันก็ฝืนฉีกยิ้มนิดหน่อย
ดูเหมือนเซี่ยอวี่หรงจะไม่ทันสังเกตเห็นท่าทางของสหายตัวเอง และหันมองฉินมู่หลานก่อนจะยกยิ้มแล้วพูดขึ้น “สวัสดีค่ะพี่สะใภ้ ฉันชื่อเซี่ยอวี่หรง เคยมาที่ฐานทัพนี้หลายครั้งแล้วค่ะ เป็นเพราะเนี่ยนอันฉันถึงได้รู้จักกับสหายเซี่ยด้วย ไม่คิดเลยว่ากลับมาครั้งนี้เขาไม่เพียงแค่แต่งงานแล้ว แต่กำลังจะมีลูกด้วย เป็นเรื่องน่าตกใจมากเลยค่ะ”
ขณะที่เอ่ย เซี่ยอวี่หรงก็ปรายตามองฉินมู่หลานอย่างละเอียด
ต้องยอมรับว่าแม้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ากำลังตั้งท้องอยู่ แต่ก็ยังสวยมาก ผิวขาวผุดผ่องและใบหน้าละเอียดอ่อนสดใสนั้นทำให้แววตาของคนได้พบเห็นถึงกับเปล่งประกาย แตกต่างจากหญิงตั้งครรภ์คนอื่นที่ไม่ตัวซูบผอมก็ตัวอ้วนใหญ่ที่หล่อนเคยพบเจอมาอย่างมาก
ฉินมู่หลานได้ยินดังนี้ก็ยกยิ้ม แล้วเอ่ย “ที่แท้ก็เป็นสหายเซี่ยนี่เอง สวัสดีค่ะ”
หลังจากเซี่ยอวี่หรงทักทายฉินมู่หลานแล้ว ก็หันมองเหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงแล้วยกยิ้มพลางกล่าวทักทายด้วยอีกครั้ง “คุณลุง คุณป้า สวัสดีค่ะ”
“อ้อ…สวัสดีจ้ะ”
เหยาจิ้งจือกับเซี่ยเหวินปิงไม่ค่อยรู้จักเวินเนี่ยนอันสักเท่าใด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซี่ยอวี่หรงที่อยู่ตรงหน้าเลย หลังจากทักทายกันเสร็จแล้วก็พากันมองหน้ากันอยู่เงียบ ๆ สักพัก
เวินเนี่ยนอันเป็นคนที่ดึงแขนเสื้อของเซี่ยอวี่หรงแล้วพูดขึ้น “อวี่หรง ตอนนี้เกี๊ยวเสร็จแล้ว พวกเราก็กลับกันเถอะ”
“ได้”
เซี่ยอวี่หรงยกยิ้มอย่างสง่า ก่อนจะหันมองฉินมู่หลานเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็กลับไปพร้อมกับเวินเนี่ยนอัน
ฉินมู่หลานมองแผ่นหลังของทั้งสองที่เดินจากไป ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นนิดหน่อย
แม้เซี่ยอวี่หรงจะยกยิ้มอยู่ตลอด แต่ฉินมู่หลานก็รู้สึกได้ว่าสายตาที่จ้องมองมาทางตนช่างดูแปลกประหลาด เธอมั่นใจว่าไม่เคยเจอเซี่ยอวี่หรงมาก่อน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายรู้จักเธอหรือเปล่า ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบเจอกันในวันนี้ก็เท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเวินเนี่ยนอันกับเซี่ยอวี่หรงกลับไป ทั้งสองก็พากันเงียบไปสักพัก สุดท้ายเป็นเวินเนี่ยนอันที่เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “อวี่หรง เซี่ยเจ๋อหลี่แต่งงานมีลูกแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็ยอมแพ้ได้แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยอวี่หรงที่ตอนแรกไม่แสดงท่าทีอะไรก็รู้สึกแตกตื่นขึ้นมา
“เนี่ยนอัน เธอก็คิดอย่างนั้นใช่ไหมว่าฉันพลาดเองที่ไปชอบเซี่ยเจ๋อหลี่”
เมื่อเห็นเพื่อนสนิทแตกตื่น เวินเนี่ยนอันก็รีบเอ่ยทันที “อวี่หรง ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น เธอเคยชอบเซี่ยเจ๋อหลี่มาก่อน ฉันก็สนับสนุนเธอไม่ใช่เหรอ เพียงแต่เซี่ยเจ๋อหลี่เย็นชามาก เธอเคยแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วเขาก็ยังไม่มีท่าทีอะไรตอบกลับมาเลย แล้วตอนนี้เขาก็แต่งงานแล้วด้วย พี่สะใภ้ก็ท้องแล้ว เพราะฉะนั้นเธอต้องยอมปล่อยวางได้แล้วนะ”
เป็นเพราะเพื่อนสนิทชอบเซี่ยเจ๋อหลี่ เวินเนี่ยนอันจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจและประหม่านิดหน่อยตอนได้เจอฉินมู่หลานครั้งแรก
เพียงแต่เมื่อได้รู้จักฉินมู่หลานมากขึ้นแล้ว หล่อนจึงได้ทราบว่าพี่สะใภ้คนนี้เก่งมากแล้วยังทรงอำนาจมากด้วย ในตอนนั้นเพื่อนสนิทก็ได้บังเอิญไปเป็นกองกำลังเสริมให้ทางตะวันตกเฉียงเหนือและอยู่ที่นั่นนานกว่าครึ่งปี ไม่คิดเลยว่าหลังจากกลับมาแล้วจะตรงมาหาหล่อน และได้ทราบเรื่องที่เซี่ยเจ๋อหลี่แต่งงานแล้วด้วย
เซี่ยอวี่หรงได้ยินคำพูดของเวินเนี่ยนอัน ก็อดพูดเสียไม่ได้ “เนี่ยนอัน เธอจะให้ฉันปล่อยวางได้ยังไง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้เจอเซี่ยเจ๋อหลี่ ฉันก็ชอบเขาทันที เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่มีเวลา ฉันก็จะมาหาเธอเพื่อที่จะได้เจอเขา แต่ไม่คิดเลยว่า ช่วงเวลาที่ฉันห่างหายไปเขาจะแต่งงานแล้ว เขาทำแบบนี้ได้ยังไงกันนะ”
เวินเนี่ยนอันได้ยินจึงอดจะกระซิบบอกไม่ได้ “ถึงเธอจะชอบเซี่ยเจ๋อหลี่ตั้งแต่แรกเห็นก็เถอะ แค่เขาไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลยนะ”
หากเซี่ยเจ๋อหลี่คิดอะไรกับเซี่ยอวี่หรง ทั้งสองคงคบหากันนานแล้ว เพราะเซี่ยอวี่หรงก็ได้เจอกับเซี่ยเจ๋อหลี่มาสามปีแล้ว หล่อนไม่เคยลืมเขา และมาหาเขาตลอดทุกครั้งที่มีเวลา
น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่บันดาลให้สมหวัง แม้เพื่อนสนิทจะชอบเซี่ยเจ๋อหลี่มากแค่ไหนก็ตาม แต่เซี่ยเจ๋อหลี่กลับไม่ได้ชอบเพื่อนคนนี้เลย แถมท่าทีที่แสดงต่อหล่อนก็เย็นชาอยู่ตลอด
ตอนแรกเวินเนี่ยนอันคิดว่าเซี่ยเจ๋อหลี่มีนิสัยแบบนี้เป็นปกติ แต่เมื่อเห็นท่าทางที่เซี่ยเจ๋อหลี่มีต่อฉินมู่หลานแล้วเทียบกับท่าทางของเขาต่อบุคคลอื่นทั่วไปมันก็ช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว ดังนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่คงชอบภรรยาของเขามาก
แย่แล้วล่ะเพื่อนรัก
“เนี่ยนอัน เธอจะอยู่ข้างใคร”
เซี่ยอวี่หรงเห็นว่าเพื่อนไม่เข้าข้างตัวเอง จึงได้แต่ยืนประชดประชันอยู่อย่างนั้น หล่อนโกรธมากจนใบหน้าแดงก่ำ
“อวี่หรง ฉันไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ ฉันแค่เอ่ยไปตามสถานการณ์”
“เนี่ยนอัน เธอ…”
เซี่ยอวี่หรงโกรธมากจนพูดไม่ออก สุดท้ายก็เอ่ยพูดด้วยความขุ่นเคืองใจ “เอาเถอะ ฉันขอตัวกลับก่อน คุณป้าทำเกี๊ยวเสร็จแล้ว ถ้าพวกเราไม่รีบกลับไปเกี๊ยวจะเย็นชืดเอา” พูดจบก็เดินตรงไปข้างหน้า
เมื่อเห็นเซี่ยอวี่หรงก้าวเดินนำหน้าไปด้วยความโกรธ เวินเนี่ยนอันก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ บางครั้งเพื่อนสนิทก็ทำตัวน่ารำคาญนัก ทั้งที่รู้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่แต่งงานแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ แบบนี้จะให้ทำอย่างไร พี่สะใภ้ก็ใกล้จะคลอดแล้ว ถ้าทราบเรื่องนี้เข้า ไม่รู้ว่าเธอจะโกรธหรือเปล่า
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เขาไม่มีใจก็ควรพอนะสาว เมียเขาก็ท้องแก่ใกล้คลอดอยู่ทั้งคน
ไหหม่า(海馬)