ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 254 น่าสงสัย(1)
ตอนที่ 254 น่าสงสัย(1)
ซูหว่านอี๋ไม่คาดคิดว่าตนเพิ่งมาถึงเมืองหลวงก็ได้เจอคนที่ไม่อยากเจอด้วยมากที่สุดแล้ว เมื่อเห็นเซี่ยฉางชิงเอ่ยถามถึงพี่สาวตน ซูหว่านอี๋ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที “คุณจำผิดคนแล้วค่ะ” ขณะที่เอ่ยเช่นนั้นก็ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
แต่ถึงอย่างไร เซี่ยฉางชิงก็ก้าวมาขวางทางซูหว่านอี๋ทันที ก่อนจะเอ่ย “ไม่ เธอนั่นแหละคือหว่านอี๋ แล้วหว่านอวี๋ล่ะ หล่อนก็มาเมืองหลวงเหมือนกันเหรอ?”
เซี่ยฉางชิงในตอนนี้กำลังจ้องมองซูหว่านอี๋ด้วยสีหน้าคาดหวัง ก่อนจะเอ่ยถามว่าทำไมถึงมาที่นี่
ฉินเจี้ยนเซ่อที่ยืนอยู่ข้างภรรยาเอ่ยขึ้นด้วยสายตาร้ายกาจ “คุณเป็นใครครับ ทำไมถึงมาขวางทางพวกเรา กรุณาหลีกทางด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยฉางชิงก็รีบหันมองฉินเจี้ยนเซ่อ เขามองฉินเจี้ยนเซ่ออย่างละเอียด ก่อนจะหันมองซูหว่านอี๋อีกครั้ง แล้วเอ่ยถาม “หว่านอี๋ เขาเป็นใครกัน?”
เมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าเอ่ยเรียกชื่อภรรยาอย่างสนิทสนม สีหน้าของฉินเจี้ยนเซ่อก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“หว่านอี๋เป็นภรรยาของผม ว่าแต่…คุณล่ะเป็นใครกัน?”
“อะไรนะ…คุณคือสามีของหว่านอี๋อย่างนั้นเหรอ?”
ใบหน้าของเซี่ยฉางชิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาหันมองซูหว่านอี๋แล้วเอ่ยถามด้วยความเหลือเชื่อ “หว่านอี๋ เธอแต่งงานกับเขาเหรอ?”
ถึงแม้ว่าฉินเจี้ยนเซ่อจะค่อนข้างดูดี แต่โดยรวมแล้วก็มองออกว่ามาจากชนบท จึงให้ความรู้สึกบ้าน ๆ ไปหน่อย ไม่เหมาะกับซูหว่านอี๋เลยสักนิด แล้วน้องสาวของหว่านอวี๋มาแต่งงานกับคนบ้านนอกผู้นี้ได้อย่างไรกัน
ได้ยินน้ำเสียงของเซี่ยฉางชิง ก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังดูถูกตัวเอง สีหน้าของฉินเจี้ยนเซ่อจึงยับยู่น่าเกลียดนิดหน่อย แต่ผู้ชายตรงหน้าดูท่าจะไม่ธรรมดา มองเพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่าคงไม่ใช่คนทั่วไป เขาจึงไม่รู้จะจัดการอย่างไรอยู่สักพัก
ฉินมู่หลานเดินตรงไปข้างหน้าแล้วยกยิ้มนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ย “ท่านผู้นี้คือลุงเซี่ยใช่ไหมคะ เรื่องที่พ่อกับแม่ของฉันแต่งงานกัน แค่มองก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอคะ ก็ทั้งคู่รักกัน แล้วอีกอย่างนะคะ ฉันว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ คุณตากับพ่อบุญธรรมของฉันมาที่นี่ไม่ได้จะมาฉลองให้ลูกสาวของคุณลุงหรอกนะคะ มแต่มาเลี้ยงฉลองที่หนูกับน้องชายสอบติดมหาวิทยาลัยค่ะ”
“งานเลี้ยงฉลองของเธอกับน้องชาย?”
เซี่ยฉางชิงหันมองฉินมู่หลานด้วยความแปลกใจ จากนั้นก็เหลือบมองฉินเคอวั่งที่อยู่ด้านหลัง มองเพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องกัน แต่ไม่นานเขาก็ตระหนักถึงบางสิ่งได้อย่างรวดเร็ว
“หว่านอี๋เป็นแม่ของพวกเธอเหรอ?”
หลังจากเอ่ยจบ เขาก็มองสำรวจฉินมู่หลานกับฉินเคอวั่งอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง ฉินมู่หลานเป็นหลานสะใภ้ของนายท่านเหยา แน่นอนว่าต้องเคยเจอเธอตอนงานเลี้ยงรับรองอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ จริง ๆ แล้วเธอเป็นลูกสาวของซูหว่านอี๋ หากมองดูดี ๆ ทั้งสองดูคล้ายกันนิดหน่อย
แต่ไม่นานนัก เซี่ยฉางชิงก็คิดอีกเรื่องขึ้นมาได้
เมื่อตอนได้เจอฉินมู่หลานครั้งแรก เขาจึงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้คล้ายกับหว่านอวี๋มาก เพียงแต่ว่าหว่านอวี๋ดูอ่อนโยนกว่า แต่ฉินมู่หลานกลับดูเด็ดเดี่ยวมั่นใจ หลังจากมองดูมาสักระยะแล้ว เขาจึงทราบว่าทั้งสองต่างกัน แต่เมื่อได้ทราบว่าฉินมู่หลานเป็นลูกสาวของซูหว่านอี๋ เขาจึงรับรู้ได้ว่าความรู้สึกของตนเองในครั้งแรกนั้นถูกต้องแล้ว ฉินมู่หลานไม่เพียงแต่ดูเหมือนหว่านอี๋เท่านั้น แต่ยังเหมือนกับหว่านอวี๋มากด้วย
เมื่อเห็นว่าเซี่ยฉางชิงยังขวางทางอยู่ นอกจากนี้ยังดูสับสนด้วย ฉินมู่หลานจึงขมวดคิ้วทันที ก่อนจะเปิดปากพูดอีกครั้ง “ลุงเซี่ยคะ พวกเราจะไปกินข้าวค่ะ เพราะฉะนั้นคงอยู่คุยด้วยไม่ได้แล้วค่ะ”
ในตอนนี้ นายท่านเหยาก็ก้าวเดินมาข้างหน้าเช่นกัน ก่อนจะเอ่ย “ฉางชิง ลูกสาวนายมีงานเลี้ยงฉลอง ถ้าอย่างนั้นนายรีบไปทักทายแขกเถอะ เดี๋ยวพวกเราก็จะเข้าไปแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซี่ยฉางชิงก็ยกยิ้ม แล้วเอ่ย “งั้นก็ได้ครับ ผมไม่รบกวนพวกคุณแล้ว” พูดจบเขาก็เดินจากไป เพียงแต่ยังคงหันมองซูหว่านอี๋ด้วยสายตาลึกซึ้งอีกครั้ง ภายในสายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ว่าถึงอย่างไรวันนี้เขาจะต้องสอบถามที่อยู่ของซูหว่านอวี๋ให้จงได้
เพียงแต่ซูหว่านอี๋ไม่ได้ปรายตามองเซี่ยฉางชิงเสียด้วยซ้ำ เธอตามลูกสาวและคนอื่น ๆ เข้าไปข้างในทันที
เฝ้ามองร่างของซูหว่านอี๋เดินจากไป เซี่ยฉางชิงก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที สิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้มันไม่ถูกต้อง แต่ท่าทีของซูหว่านอี๋เย็นชาใส่เขาเสียเหลือเกิน ทำไมหว่านอี๋ถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้
ขณะที่เซี่ยฉางชิงกำลังขมวดคิ้วและครุ่นคิด เซี่ยอวี่หรงก็เดินเข้ามา แล้วเอ่ยถาม “พ่อคะ มาทำอะไรตรงนี้?” ขณะเอ่ยถาม เธอก็หันไปมอง ไม่นานก็ได้พบกับร่างอันแสนคุ้นตา “ฉินมู่หลาน เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของลูกสาว สุดท้ายเซี่ยฉางชิงก็ได้สติกลับมา เขาหันไปมองก่อนจะเอ่ยถาม “อวี่หรง ลูกมาตรงนี้ได้ยังไง?”
“พ่อ หนูเห็นพ่อออกมาตั้งนานแล้วยังไม่กลับเข้าไป ก็เลยออกมาดูพ่อค่ะ แต่เมื่อกี้ที่เพิ่งเดินผ่านไปใช่ฉินมู่หลานไหมคะ เหมือนหนูจะเห็นท่านเหยาด้วย ทำไมพวกเขาถึงได้มาที่ภัตตาคารปักกิ่งเหมือนกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว เซี่ยฉางชิงก็รีบบอกกล่าว “พวกเขามาจัดงานเลี้ยงฉลองสอบติดมหาวิทยาลัยน่ะ ให้กับฉินมู่หลานและน้องชายของเธอ ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะสอบติดมหาวิทยาลัยแล้ว”
“อะไรนะ…ฉินมู่หลานก็สอบติดมหาวิทยาลัยเหมือนกันเหรอ เป็นไปได้ยังไงกัน”
หลังจากพูดจบ ใบหน้าของเซี่ยอวี่หรงก็ยับยู่ “ฉินมู่หลานเป็นคนบ้านนอกไม่ใช่เหรอ หลอไปสอบครั้งนี้ยังจให้เธอสอบผ่านอีก เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ยังไงกัน”
“แล้วทำไมหล่อนถึงจะสอบไม่ได้ล่ะ”
เซี่ยฉางชิงอดปรายตามองลูกสาวเสียไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “ถึงฉินมู่หลานจะมาจากชนบท แต่ก็ได้เรียนหนังสือเหมือนกัน ครั้งนี้สอบติดมหาวิทยาลัยได้ ก็เห็นได้ชัดว่าคะแนนของเธอค่อนข้างดี”
เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อพูดถึงฉินมู่หลาน เซี่ยอวี่หรงก็อดมองข้ามไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “พ่อคะ ทำไมพ่อถึงเข้าข้างคนนอกล่ะ แต่หนูอยากรู้จังเลย ว่าฉินมู่หลานได้มหาวิทยาลัยไหน”
“ถ้าอยากรู้จริง ๆ ก็ลองไปถามดูทีหลังสิ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยอวี่หรงก็ส่ายหัวแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องหรอกค่ะ ถึงฉินมู่หลานจะสอบติดมหาวิทยาลัย แต่ก็คงไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่ดีอยู่แล้ว”
เมื่อเห็นลูกสาวพูดแบบนั้น เซี่ยฉางชิงก็อดหัวเราะไม่ได้ “ใช่ ๆๆ หล่อนทำไม่ได้เท่าอวี่หรงของเราหรอกเนอะ”
ลูกสาวสอบได้มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ถึงฉินมู่หลานจะสอบติดมหาวิทยาลัยก็ตาม ก็คงไม่ใช่มหาวิทยาลัยปักกิ่งแน่อน จากที่เขาทราบมา คุณภาพการศึกษาในชนบท เทียบกับในเมืองไม่ได้แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงในเมืองหลวงเลย
“เอาล่ะอวี่หรง วันนี้มีญาติและเพื่อนฝูงมางานเลี้ยงตั้งหลายคน พวกเราต้องเข้าไปต้อนรับแขก เพราะฉะนั้นพวกเราไปกันเถอะ”
เติ้งซูหลานเห็นสองพ่อลูกมาแล้ว ก็อดพูดไม่ได้ “พวกคุณสองพ่อลูกไปทำอะไรมา ทำไมถึงเพิ่งกลับมา รีบเข้ามาทักทายแขกเร็ว”
“ได้”
สองพ่อลูกตอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยุ่งกับการทักทายแขก
อีกด้านหนึ่ง ฉินมู่หลานกับคนอื่นก็ยุ่งวุ่นวายมากหลังจากมาถึง แม้ว่าพวกเขาจะมีโต๊ะเพียงไม่กี่โต๊ะก็ตาม แต่ก็มีพวกเพื่อนสนิทและญาติมิตรมากันหมด อย่างพวกครอบครัวของเสิ่นหรูฮวนก็มาถึงกันแล้ว ทางเพื่อนของเจี่ยงสือเหิงก็มากันหลายคนเช่นกัน และหวงสิงจือกับจงอวี้อู๋ที่มู่หลานเคยพบก็มาด้วยเหมือนกัน
“สือเหิง ยินดีด้วยนะ ลูกสาวบุญธรรมของนายเก่งมากเลย”
…………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เซี่ยฉางชิงนี่คนรักเก่าของพี่สาวแม่มู่หลานหรือเปล่านะ ดูกระหายใคร่รู้มากเวลาเห็นแม่มู่หลาน
ไหหม่า(海馬)