ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 285 อยู่ใกล้กัน(2)
ตอนที่ 285 อยู่ใกล้กัน(2)
ตอนที่ 285 อยู่ใกล้กัน(2)
แน่นอนว่าหมอคนนั้นก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่เช่นกัน ทันใดนั้นเขาก็เริ่มสงสัยการวินิจฉัยของตัวเอง “โดนวางยาพิษอย่างนั้นเหรอ? แต่…ทำไมก่อนหน้าถึงตรวจไม่เจอล่ะ?”
ฉินมู่หลานที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยอธิบายขึ้น “พิษในตัวพ่อบุญธรรมของฉันหาเจอค่อนข้างยากค่ะ คุณตรวจไม่เจอก็ไม่แปลก แต่ตอนนี้ฉันไม่มียาถอนพิษที่ใช้ได้เลย ไม่ทราบว่าที่โรงพยาบาลของคุณมีหรือเปล่าคะ”
หมอคนนั้นได้ยินเช่นนั้น ก็รีบสอบถามทันที “คุณอยากได้อะไรล่ะ ถ้าโรงพยาบาลของเรามี เดี๋ยวจะรีบให้คนเตรียมให้เลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แววตาของฉินมู่หลานก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดขึ้น “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นรบกวนด้วยนะคะ”
หลังจากหมอกับพยาบาลไปแล้ว ฉินมู่หลานก็ตรวจชีพจรให้เจี่ยงสือเหิงอีกครั้ง ถึงแม้ชีพจรจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ก็ถือได้ว่ามีความก้าวหน้า
เธอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนได้สกัดยาเม็ดบางชนิดไว้ ถึงตอนนี้คงได้ใช้ประโยชน์แล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินมู่หลานก็หันไปมองฉู่เทียนหลินแล้วพูดขึ้น “คณบดีฉู่คะ ฉันขอไปแจ้งให้คนที่บ้านทราบก่อนนะคะ จะได้บอกอาการของพ่อบุญธรรมกับพวกเขาด้วย แล้วจะให้คนนำยาจากที่บ้านมาให้พ่อบุญธรรมด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นฝากคุณดูแลพ่อก่อนนะคะ”
ฉู่เทียนหลินได้ยินเช่นนี้ก็รีบโบกมือแล้วพูดขึ้นทันที “ได้ครับ ทางนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง คุณรีบไปเถอะครับ”
ฉินมู่หลานวิ่งไปในโรงพยาบาลเพื่อขอใช้โทรศัพท์ ก่อนจะติดต่อลุงเจี่ยงทันที
ตอนแรกลุงเจี่ยงรู้สึกแปลกใจที่ได้รับสายจากฉินมู่หลาน จนกระทั่งได้ยินเรื่องที่เจี่ยงสือเหิงได้รับบาดเจ็บและกำลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เขาก็กังวลมากจนใบหน้าแดงก่ำ “คุณหนูน้อยครับ นายน้อยเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บสาหัสมากไหมครับ?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเป็นกังวลของลุงเจี่ยง ฉินมู่หลานก็รีบเอ่ยปลอบเขาทันที “ลุงเจี่ยงไม่ต้องกังวลนะคะ พ่อบุญธรรมไม่ได้บาดเจ็บสาหัสอะไรค่ะ ไม่เป็นอันตรายอยู่แล้ว นอกจากนี้ฉันก็อยู่ที่นี่ด้วย”
ลุงเจี่ยงได้ยินแบบนี้ ในที่สุดก็ตระหนักได้ เขาทุบอกตัวเองก่อนจะพูดอย่างเสียอดไม่ได้ “ใช่ครับ มีคุณหนูน้อยคอยอยู่ข้าง ๆ นายน้อย เพราะฉะนั้นจะต้องไม่เป็นไรแน่”
เมื่อเห็นว่าลุงเจี่ยงสงบลงแล้ว ฉินมู่หลานก็บอกให้เขานำยามาให้ “ลุงเจี่ยงคะ ลุงช่วยเตรียมเสื้อผ้ามาให้พ่อบุญธรรม แล้วช่วยเดินไปที่ลิ้นชักตรงหัวมุมห้องของฉันหน่อยนะคะ เอาขวดยาที่อยู่ข้างในทุกขวดมาด้วยค่ะ พวกนั้นเป็นยาที่ฉันสกัดเอง จะช่วยให้พ่อบุญธรรมอาการดีขึ้น”
ลุงเจี่ยงได้ยินเช่นนี้ ก็รีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าวทันที “ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากฉินมู่หลานได้แจ้งลุงเจี่ยงแล้ว เธอก็กำลังจะกลับไปห้องพักผู้ป่วย เพียงแต่ระหว่างทางที่เดินกลับก็พบใครบางคนที่ดูคุ้นตา “สิงเจิ้งหาว ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้?”
เมื่อสิงเจิ้งหาวเห็นฉินมู่หลาน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ
“พี่สะใภ้ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ครับเนี่ย?”
“คำพูดนี้ฉันก็เพิ่งถามนายไปเองไม่ใช่เหรอ” ฉินมู่หลานมองสิงเจิ้งหาวด้วยแววตาขบขัน ก่อนจะเอ่ยถาม “หรือว่าเป็นภารกิจ เลยบอกกับคนนอกไม่ได้?”
สิงเจิ้งฮ๋าวได้ยินเช่นนี้ ก็ส่ายหัวทันที ก่อนจะพูดขึ้น “พี่สะใภ้ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมแค่ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” หลังจากพูดจบ สายตาของเขาก็ดูลุกลี้ลุกลนนิดหน่อย สีหน้าก็ยังดูลังเลอีก ไม่รู้ว่ามีอะไรที่อยากจะพูดหรือเปล่า
เมื่อเห็นท่าทางของสิงเจิ้งหาวเป็นแบบนี้ ฉินมู่หลานจึงสังหรณ์ใจ ก่อนจะเอ่ยคาดเดาขึ้น “เซี่ยเจ๋อหลี่ก็อยู่ที่นี่เหรอ?”
ตอนแรกสิงเจิ้งหาวยังคงอ้ำอึ้ง เมื่อได้ยินแบบนี้ สุดท้ายจึงยอมหยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ครับ พวกเขาก็อยู่ที่นี่”
“พวกเขา? แสดงว่าซวี่ตงก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”
สิงเจิ้งหาวเห็นว่าฉินมู่หลานคาดเดาได้เองแล้ว จึงไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป เขารีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าวตามตรง “ครับ ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วย”
“ห้องพักผู้ป่วย? พวกอาหลี่บาดเจ็บเหรอ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องการบาดเจ็บของเซี่ยเจ๋อหลี่ แววตาของสิงเจิ้งหาวก็ดูเหมือนจะโทษตัวเอง “ครับ ผู้กองเซี่ยได้รับบาดเจ็บ และครั้งนี้ก็บาดเจ็บตรงขาข้างขวาอีกแล้ว หมอบอกว่าจะผ่าตัดให้พรุ่งนี้ แต่…หลังจากผ่าตัดแล้ว หมอบอกว่าต่อไปรับประกันไม่ได้ว่าเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
จริง ๆ แล้วหมอพูดอย่างตรงไปตรงมามาก บอกอย่างชัดเจนว่าเซี่ยเจ๋อหลี่อาจจะพิการขาขวา
แต่เรื่องนี้มันโหดร้ายเกินไปสำหรับเซี่ยเจ๋อหลี่ เซี่ยเจ๋อหลี่ยังหนุ่มอยู่ ได้เลื่อนตำแหน่งก็เร็ว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขายังไปต่อได้อีกไกล แต่ตอนนี้กลับต้องมาเจ็บขาขวา หากเป็นอย่างนั้น ต่อไปเขาก็คงจะเข้าร่วมกองทัพไม่ได้อีก เช่นนั้นอนาคตของเขาก็คงพังทลาย
เมื่อคิดได้เช่นนั้น สิงเจิ้งหาวก็เอ่ยขอโทษฉินมู่หลานด้วยใบหน้ารู้สึกผิด “พี่สะใภ้ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเองครับ ผมทำให้ผู้กองเซี่ยเป็นห่วง ตอนที่กำลังออกไปทำภารกิจ ผู้กองเซี่ยคอยดูแลพวกเรา แล้วผม…”
ก่อนที่สิงเจิ้งหาวจะทันพูดจบ ฉินมู่หลานก็เอ่ยแทรกขึ้นทันที “พวกอาหลี่อยู่ที่ไหน พาฉันไปหาพวกเขาหน่อย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สิงเจิ้งหาวก็ไม่ได้ปฏิเสธอยู่แล้ว และเดินนำทางไปทันที
กระทั่งไปถึงหอพักผู้ป่วย ฉินมู่หลานก็พบว่า ห้องพักของเซี่ยเจ๋อหลี่กับพ่อบุญธรรมอยู่ไม่ไกลกันนัก ก่อนหน้าเธอไม่เคยสังเกตเลยด้วยซ้ำ “อาหลี่…”
ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็รีบเดินตรงเข้าไปหา เพียงแต่ตอนนี้เซี่ยเจ๋อหลี่ยังหมดสติอยู่ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย
เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของเซี่ยเจ๋อหลี่ ฉินมู่หลานก็รีบตรวจชีพจรให้เขาทันที หลังจากนั้นก็สำรวจมองขาขวาของเขาอีกครั้ง แต่ยิ่งมองดูเท่าใด สีหน้าของเธอก็ยิ่งยับยู่น่าเกลียดมากขึ้น ก่อนหน้านี้ขาขวาของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เคยบาดเจ็บมาก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าต่อมาจะดีขึ้น แต่ก็กลับมาได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง อาการบาดเจ็บทั้งสองครั้งทำให้ขาขวาของเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ยาก เพราะฉะนั้นการบาดเจ็บครั้งนี้ถือได้ว่ารุนแรงมาก
“ไม่ได้ รอไม่ได้แล้ว รอผ่าตัดพรุ่งนี้ไม่ได้หรอก ต้องทำวันนี้เลย” ขณะพูด สีหน้าของเธอก็ดูจริงจัง
“อะไรนะ…”
สิงเจิ้งหาวได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน อยู่ ๆ ก็จมอยู่กับความคิด เมื่อเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว เขาก็เอ่ยพูดด้วยความลังเล “แต่ว่า…หมอบอกว่าจะผ่าตัดพรุ่งนี้ วันนี้น่าจะทำไม่ได้ครับ”
“ฉันทำเอง ไม่ต้องรอให้ถึงมือหมอพวกนั้นหรอก”
“นี่…นี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
สิงเจิ้งหาวก็เคยได้ยินว่าฝีมือการรักษาของฉินมู่หลานดีมาก เขาจึงไม่ค่อยแปลกใจนัก แต่เขากลับรู้สึกว่าพวกเขาไม่คุ้นเคยกับโรงพยาบาลทหารที่นี่ พวกหมอคงไม่ให้ยืมห้องผ่าตัดได้ง่าย ๆ แน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้นฉินมู่หลานก็เอ่ยเร่งเร้า “จะไม่ทันการแล้ว นายรีบไปตามหมอมาเร็วเข้า ฉันจะคุยกับหมอเอง”
“อ่อ ครับ เดี๋ยวผมรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”
เมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของฉินมู่หลาน สิงเจิ้งหาวจึงไม่กล้ารอช้า รีบไปตามหมอทันที
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอ้า พี่หลี่ก็มาบาดเจ็บไปอีกคน แถมมาอยู่โรงพยาบาลที่เดียวกับพ่อบุญธรรมด้วย มู่หลานเจองานหนักเลยทีนี้
ไหหม่า(海馬)