ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 364 ข่าวลือ(2)
ตอนที่ 364 ข่าวลือ(2)
ตอนที่ 364 ข่าวลือ(2)
ฉินมู่หลานเคลื่อนไหวเร็วมาก ดำเนินการไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างรวดเร็ว เล่าข่าวลือที่เธอได้ยินมาให้ฟังอีกครั้ง หลังจากนั้นก็บอกกล่าว “อาจารย์คะ เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับฉันมากเลยค่ะ เพื่อนร่วมชั้นทุกคนต่างมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ ทำให้ฉันไม่มีสมาธิจดจ่อกับการเรียน ตัวฉันเองก็เคยชี้แจงแล้วด้วยว่าแต่งงานมีลูกแล้ว ไม่เคยชายตามองเพื่อนนักศึกษาชายคนอื่นเลย ตอนนี้กลับมีคำพูดแบบนี้ออกมา มันทำให้ฉันเสียใจมากจริง ๆค่ะ”
หลังจากพูดจบ ฉินมู่หลานก็เอ่ยบอกด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง “มหาวิทยาลัยของพวกเราเพิ่งกลับมาเปิดสอบ และในที่สุดพวกเราก็ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้าเรียน แทนที่จะได้ตั้งใจเรียน แต่กลับมาเจอคนทำเรื่องน่าเบื่อแบบนี้ มันเสียเวลาชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์เลยค่ะ”
หลังจากหลัวซงผิงได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน ใบหน้าก็ดูจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเองก็เห็นด้วยกับมุมมองของเธอ นอกจากนี้ยังคิดด้วยว่ากว่าพวกนักศึกษาจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ล้วนผ่านความยากลำบากมามาก จึงควรที่จะตั้งใจเรียน ไม่ควรทำเรื่องเสียเวลาชีวิตแบบนี้
“ได้สินักศึกษาฉิน ผมเข้าใจคุณแล้ว ทางมหาวิทยาลัยของเราจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นต้องขอรบกวนอาจารย์ด้วยนะคะ”
ฉินมู่หลานกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม หลังจากนั้นก็พาเซี่ยปิงหรุ่ยออกมาจากห้องทำงานของอาจารย์
เซี่ยปิงหรุ่ยอดหันไปพูดกับฉินมู่หลานไม่ได้ “มู่หลาน ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีคารมคมคายขนาดนี้ ที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อกี้มันดีมากเลยนะ”
“ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่นา”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วบอกกล่าว จากนั้นก็หันไปมองแล้วถามเซี่ยปิงหรุ่ยอีกครั้ง “ฮั่วหย่าซงมาจากคณะอะไรนะ?”
ถึงเขาจะเคยแนะนำตัวเองมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ฉินมู่หลานก็ลืมไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็ถามด้วยความสงสัย “เธอส่งเรื่องให้ทางมหาวิทยาลัยสอบสวนแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงอยากจะไปเจอฮั่วหย่าซงอีกล่ะ”
“ฉันมีเรื่องอยากกจะถามเขานิดหน่อย”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนี้ จึงก้าวเดินนำหน้าแล้วบอกกล่าว “ฉันรู้ว่าฮั่วหย่าซงอยู่ชั้นเรียนไหน ไป เดี๋ยวฉันพาเธอไปเอง”
ตอนนี้ฮั่วหย่าซงกำลังนอนฟุบอยู่บนโต๊ะด้วยความเบื่อหน่าย รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย
สองวันที่ผ่านมานี้เขาก็ได้ยินเรื่องฉินมู่หลานเหมือนกัน และก็ทราบเรื่องข่าวลือด้วย ซึ่งเขาเป็นคนที่อยู่ในข่าวลือนั้น ในตอนนี้จึงรู้สึกเสียใจนิดหน่อย เป็นเพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้สืบเรื่องของมู่หลานให้รู้แน่ชัดเสียก่อนแล้วตามจีบเธอ ทำให้มีข่าวลือแบบนี้ขึ้นมา ทั้งหมดเป็นความผิดของเขา
ในตอนนั้นเอง ก็มีคนตะโกนขึ้น “ฮั่วหย่าซง มีคนมาหานาย หรือว่าจะเป็นคนที่ใจนายคิดถึงอยู่นะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฮั่วหย่าซงก็หันไปมอง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”
คนๆ นั้นเห็นฮั่วหย่าซงไม่ค่อยพอใจ จึงหยุดล้อทันที แต่ก็ยังชี้ไปทางประตู แล้วพูดขึ้น “ฉินมู่หลานมาหานาย”
“อะไรนะ…”
ฮั่วหย่าซงมีสีหน้าตื่นตกใจ หลังจากนั้นก็รีบลุกขึ้นทันที
เมื่อเห็นท่าทางของฮั่วหย่าซงดูกังวลมาก ชายคนนั้นก็เริ่มขยับปาก แล้วพูดขึ้น “นายกังวลมากเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมยังจ้องฉันอยู่อีก”
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วมองไปทางประตูด้วยความสนอกสนใจ
นอกจากคนๆ นี้แล้ว เพื่อนร่วมชั้นของฮั่วหย่าซงก็หันไปมองเหมือนกัน เพียงแค่อยากรู้อยากเห็นว่าทั้งสองกำลังจะพูดอะไรกัน
ฉินมู่หลานเห็นสีหน้าสอดรู้สอดเห็นของคนพวกนั้นเหมือนกัน เธอไม่ได้ก้าวเดินหนีไป แต่พาฮั่วหย่าซงเข้าไปในห้องเรียนแทน ก่อนจะเอ่ยถามตามตรง “นักศึกษาฮั่วหย่าซง เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวลือแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยว่าฉันเป็นคนจับปลาสองมือ เป็นผู้หญิงสองใจ เห็นได้ชัดว่าแต่งงานมีลูกแล้ว แต่ก็ยังมาเกาะแกะวนเวียนอยู่กับนาย ทำตัวหน้าด้าน ไม่รู้ว่านายได้ยินข่าวนี้บ้างไหม”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของฮั่วหย่าซงก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เขารีบก้มหน้าก้มตาเอ่ยขอโทษ
“ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเองที่ทำให้คุณต้องมาเจอข่าวลือแบบนี้ ผมจะบอกกับทุกคนให้ชัดเจนเองว่าผมกับคุณไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น ตอนแรกผมไม่รู้เรื่องส่วนตัวของคุณ ก็เลยอยากช่วยต่อแถวซื้อข้าวให้ คอยเอาใจคุณ อยากจะตามจีบ หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้พูดคุยอะไรกันอีกเลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮั่วหย่าซง ใบหน้าของฉินมู่หลานก็ดูดีขึ้นนิดหน่อย
“ถ้านายอธิบายเรื่องทั้งหมดได้คงจะดีไม่น้อยเลย แต่วิธีนี้มันก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่หรอกหากนายต้องมาคอยอธิบายให้หลายคนฟังขนาดนั้น”
“ผม…”
ฮั่วหย่าซงพูดไม่ออก เพราะสุดท้ายแล้วคนอื่นก็มีปาก อยากพูดอะไรก็พูด เขาสามารถไปอธิบายให้ฟังทีละคนได้ แต่ก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้คนพูดถึงเรื่องนี้ต่อไปได้
เมื่อคิดได้แบบนี้ ฮั่วหย่าซงก็เอ่ยขอโทษต่อไป “ขอโทษครับ เป็นความผิดผมเอง”
เพื่อนร่วมชั้นของฮั่วหย่าซงเห็นเหตุการณ์นี้แล้วก็ค่อย ๆ สงบลง พวกเขาเองก็เคยพูดเรื่องพวกนั้นมาก่อน เพราะหัวข้อบทสนทนาของเรื่องนี้เป็นที่ดึงดูดใจที่สุดท่ามกลางบรรดาเพื่อนร่วมชั้นทั้งชายหญิง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของฮั่วหย่าซงเต็มไปด้วยการสำนึกผิด และหลังจากได้ยินสิ่งที่ฮั่วหย่าซงบอกกล่าวว่าตอนแรกเขาทำไปเพราะไม่รู้เรื่องส่วนตัวของฉินมู่หลานมาก่อน แล้วหลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย จึงเห็นได้ชัดว่าข่าวลือที่ว่าล้วนไม่ใช่เรื่องจริงทั้งสิ้น
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกคนก็รู้สึกเขินอายนิดหน่อย
ในตอนนั้นเอง ฉินมู่หลานก็ถามขึ้น “ฉันอยากจะถามหน่อย ว่าทำไมตอนแรกนายถึงตัดสินใจทำเรื่องพวกนั้น ก่อนที่จะไปตามจีบใครก็ต้องตามสืบข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนไม่ใช่เหรอ นายไม่มีสมองหรือไง”
เพราะในมหาวิทยาลัยของพวกเขามีผู้หญิงหลายคนแต่งงานแล้ว นอกจากนี้บางคนก็ยังมีลูกแล้วด้วย เพราะฉะนั้นต่อให้อยากจะตามจีบใครก็ต้องรู้เรื่องของอีกฝ่ายให้ชัดเจนก่อนจะลงมือทำ
ฮั่วหย่าซงรีบเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทันที “นักศึกษาเซี่ยอวี่หรงเพื่อนร่วมห้องของพวกเราที่พักอยู่ใกล้ ๆ หอพักของคุณ หล่อนบอกว่าคุณยังไม่มีคู่ครอง ผมจึงตัดสินใจเดินหน้าต่อ”
“เซี่ยอวี่หรง…อ๋อ…”
ฉินมู่หลานหันมองฮั่วหย่าซงแล้วพูดขึ้น “ถึงทุกคนจะไม่รู้ว่าฉันแต่งงานแล้ว แต่เซี่ยอวี่หรงรู้ดีที่สุด เพราะหล่อนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของฉัน…”
“อะไรนะ…”
ในตอนนั้นเอง ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
ฮั่วหย่าซงเอ่ยถามด้วความเหลือเชื่อ “คุณกับเซี่ยอวี่หรงเป็นพี่อน้องกันเหรอ?”
เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นในเวลาเหมาะเจาะพอดี “เรื่องนี้ฉันยืนยันได้ เซี่ยอวี่หรงเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน มู่หลานกับเซี่ยอวี่หรงเป็นพี่น้องแท้ ๆ กันจริง ๆ”
“นี่…”
ทุกคนพบว่ามันเหลือเชื่อมาก แล้วก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาเช่นกัน
“เซี่ยอวี่หรงรู้ทั้งรู้ว่านักศึกษาฉินแต่งงานมีลูกแล้ว ทำไมถึงยังไปบอกฮั่วหย่าซงแบบนั้นอีกล่ะ”
“ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่เพราะตั้งใจอยากทำให้ฮั่วหย่าซงเข้าใจผิดใช่ไหม”
ฮั่วหย่าซงก็มีปฏิกิริยาเช่นกันหลังทราบว่าโดนเซี่ยอวี่หรงหลอก
ในตอนนั้นเอง เซี่ยอวี่หรงเพิ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นฉินมู่หลาน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ
ฉินมู่หลานก็มองเห็นเซี่ยอวี่หรงเหมือนกัน จึงขยับปากยิ้มแล้วพูดขึ้น “น้องสาวของพี่ ทำไมเธอถึงเพิ่งมาล่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มาแล้วเหรอนังคนปล่อยข่าว มาจมน้ำลายคนอื่นตายเถอะมา
ไหหม่า(海馬)