ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 376 ฉวยโอกาส(2)
ตอนที่ 376 ฉวยโอกาส(2)
ตอนที่ 376 ฉวยโอกาส(2)
หลังจากฉินมู่หลานไปแล้ว เจี่ยงสือเหิงก็ตรงไปที่ห้องครัวเพื่อออกคำสั่ง จากนั้นก็กลับไปจัดการเรื่องบางอย่างที่ห้องอ่านหนังสือ
หลังจากทางห้องครัวทำขนมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็นำขนมไปให้ที่บ้านพักของเซี่ยปิงชิง
เซี่ยปิงชิงเห็นเจี่ยงสือเหิงมาหา ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย “คุณมาทำไมเหรอ?”
เนื่องจากเซี่ยปิงหรุ่ยพี่สาวของหล่อนก็กลับไปแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งแสดงอะไรอีกแล้ว
เจี่ยงสือเหิงยิ้มแล้วยกตะกร้าในมือขึ้น ก่อนจะบอกกล่าว “ผมให้ทางครัวทำขนมนิดหน่อย เลยอยากให้คุณช่วยลองชิม ลองดูว่าคุณชอบไหม”
เซี่ยปิงชิงก้าวเดินเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้ หลังเปิดฝาออกแล้วก็เห็นขนมหลากหลายชนิดอยู่ข้างในนั้น จึงอดพูดไม่ได้ “ทำมาเยอะจัง ทั้งหมดนี่ไส้อะไรคะ?”
เจี่ยงสือเหิงส่ายหัว แล้วพูดขึ้น “ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไร ก็เลยให้ทางครัวทำออกมาเยอะ ๆ ข้างในสอดไส้อะไร เดี๋ยวคุณลองกินก็จะรู้เอง”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันขอลองหน่อย”
จริง ๆ แล้วเซี่ยปิงชิงชอบกินขนมหวานมาก เพียงแต่มีไม่กี่คนที่ทราบเรื่องส่วนตัวของหล่อน ไม่คิดว่าเจี่ยงสือเหิงเพียงคาดเดาไปเรื่อยแล้วจะทำให้หล่อนได้กินของหวานที่ชอบ
“อื้ม…อันนี้ไส้งา รสชาติค่อนข้างดีเลย”
หลังจากนั้นเซี่ยปิงชิงก็กินขนมไส้เต้าเจี้ยวและเมล็ดบัวอีกครั้ง รู้สึกว่าอร่อยไปหมดทุกอย่าง แต่สิ่งที่หล่อนชอบมากที่สุดคือไส้ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อพุทราบด รสชาติค่อนข้างดีมาก
เจี่ยงสือเหิงเห็นเซี่ยปิงชิงมีความสุขก็อดยิ้มไม่ได้ “ที่แท้คุณก็ชอบขนมหวานนี่เอง เอาไว้ผมจะให้ทางครัวทำให้คุณกินทุกวันเลย”
เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ก็รีบโบกมือแล้วบอกกล่าว “เรื่องนั้นไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันก็ไม่ได้กินเก่งขนาดนั้น”
หลังจากพูดจบ หล่อนก็กินขนมหวานในมือจนหมด จากนั้นก็ไม่รับมันอีก
เด็กส่วนใหญ่จะชอบกินของหวานมันพวกนี้มาก หล่อนที่รู้สึกว่าบุคลิกของตัวเองดูเย็นชาเกินกว่าจะชอบขนมหวานจึงเขินอายที่จะบอกเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้
เจี่ยงสือเหิงหยิบขนมหวานขึ้นมาแล้วพูดขึ้น “จริง ๆ แล้วผมชอบกินของพวกนี้มากเลย แต่เพราะว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงรู้สึกอายที่จะบอกคนอื่นว่าชอบกินของพวกนี้ เพราะฉะนั้นผมก็เลยไม่เคยให้ทางครัวทำมาก่อน แต่วันนี้ผมบอกไปว่าทำให้คุณกิน พวกเขาจึงได้ทำของพวกนี้ออกมา”
หวานมาก
เป็นเพราะเขาไม่เคยลองกินของพวกนี้มาก่อน
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพ่อครัวมีฝีมือดีหรือไม่ เขาจึงรู้สึกว่ารสชาติของมันค่อนข้างดีเลยทีเดียว
“ปิงชิง คุณลองพวกนี้ด้วยก็ได้นะ เป็นไส้ที่คุณไม่เคยกินมาก่อน ผมรู้สึกเหมือนได้รสของไข่แดงเค็มอยู่”
เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ ก็หันมองเจี่ยงสือเหิงด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพูดขึ้น “ที่แท้คุณก็ชอบกินของพวกนี้นี่เอง ถึงได้ใช้ฉันเป็นข้ออ้าง”
หลังจากพูดจบ หล่อนก็หยิบขนมเปี๊ยะแบบที่เจี่ยงสือเหิงกินขึ้นมาหนึ่งชิ้น แล้วพูดขึ้น “มีไข่แดงเค็มจริงเหรอ ฉันขอลองหน่อย”
“อื้ม…อร่อยจังเลย”
ไข่แดงเค็มมีสัมผัสร่วนซุย รสชาติเค็มปะแล่มอมหวาน เซี่ยปิงชิงไม่เคยลิ้มลองรสชาติแบบนี้มาก่อน จึงรู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นมาทันที “ฉันอยากกินอีกอันจัง”
เจี่ยงสือเหิงเห็นเซี่ยปิงชิงหยิบขึ้นกินอีก แววตาจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ฉินมู่หลานที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ได้กินขนมเปี๊ยะไส้ไข่แดงเค็มที่ทางครัวทำด้วย ไส้ไข่แดงเค็มเป็นสิ่งที่เธอบอกพ่อครัวเอาไว้ตั้งนานแล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะได้กิน
“ฝีมือของอาจารย์จินดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะคะ ขนมเปี๊ยะไส้ไข่แดงเค็มนี่อร่อยมากเลยค่ะ”
ซูหว่านอี๋ที่อยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ อร่อยมากจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าไข่แดงเค็มจะสามารถนำมาทำเป็นของหวานได้”
แต่ฉินมู่หลานรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย “ทำไมวันนี้ถึงทำขนมหวานล่ะคะ แถมทำเยอะมากด้วย”
คนที่มาส่งขนมคือลุงเจี่ยง เขาได้ยินแบบนี้ จึงยิ้มแล้วบอกกล่าว “นายน้อยขอให้ทางครัวทำขนมหวานเพิ่มครับ เขาจะเอาไปให้คุณหนูปิงชิง”
หลังจากพูดจบ เขาก็ยิ้มแล้วเดินจากไป “คุณหนูน้อยครับ ผมจะไปดูงานที่ห้องครัวต่อนะครับ”
หลังจากลุงเจี่ยงไป ซูหว่านอี๋ก็อดหันมองฉินมู่หลานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเสียไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้น “ดูเหมือนสือเหิงจะชอบปิงชิงจริง ๆ นะเนี่ย ใส่ใจจนกระทั่งเรื่องขนมหวาน”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ค่ะ พ่อบุญธรรมปฏิบัติต่อปิงชิงไม่ธรรมดาเลย”
ที่แท้พวกเขาได้อานิสงส์ในการกินขนมหวานเพราะเซี่ยปิงชิงนี่เอง
ตอนแรกคิดว่าพวกเขาแค่แกล้งแสดงทำแบบนั้น แต่ดูจากท่าทางของของเจี่ยงสือเหิงในตอนนี้แล้วก็คิดว่าเขาคงไม่ได้แกล้งแสดงแน่นอน เมื่อคิดได้แบบนี้ ฉินมู่หลานจึงคิดจะทำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้เจี่ยงสือเหิง “แม่คะ หนูขอไปทำงานก่อนนะคะ ฝากดูแลชิงชิงกับเฉินเฉินด้วยค่ะ”
“วางใจเถอะ แม่จะอยู่ดูแลหลานที่นี่แหละ”
ฉินมู่หลานยุ่งอยู่กับการทำงานเป็นเวลานาน เธอยังมีเรื่องที่ต้องทำอยู่ไม่น้อย หลังจากเลิกเรียนก็ใช้เวลาช่วงเย็นทำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและยาบำรุงสุขภาพให้กับเจี่ยงสือเหิง
เจี่ยงสือเหิงได้รับของพวกนี้ก็ดีใจมาก
“มู่หลาน ขอบคุณลูกมากนะ”
ฉินมู่หลานส่ายหัวแล้วเอ่ย “พ่อคะ พวกเรามีอะไรต้องขอบคุณกันคะ” พูดจบเธอก็อธิบายวิธีการใช้ให้เจี่ยงสือเหิง หลังจากนั้นก็เอ่ยเพิ่ม “พ่อคะ ปิงชิงยังอายุน้อย เพราะฉะนั้นพ่อก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยค่ะ”
เจี่ยงสือเหิงได้ยินสิ่งนี้ ก็หันมองฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้น “ที่แท้ลูกก็รู้สึกว่าพ่อแก่จนไม่เหมาะกับปิงชิงนี่เอง ”
ฉินมู่หลานโบกมือแล้วรีบพูด “พ่อคะ ฉันยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ พ่อยังดูเหมือนอายุสามสิบอยู่เลยค่ะ ตอนอยู่กับปิงชิงก็ไม่ได้ดูอายุเยอะขนาดนั้น เอาล่ะ ฉันต้องไปดูลูกสองคนต่อ ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบก็รีบเดินหนีทันที
เจี่ยงสือเหิงมองท่าทางของฉินมู่หลานที่กำลังเดินจากไปอย่างขบขัน หลังจากนั้นก็หยิบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไป แล้วลงมือใช้มันกับตัวเอง
วันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานตื่นไปเรียนตั้งแต่เช้า วันนี้เริ่มสอบแล้ว หลังจากสอบเสร็จ การเรียนในภาคการศึกษาแรกของเธอก็สิ้นสุดลง
“มู่หลาน เดี๋ยวฉันไปกับเธอด้วย”
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลานกำลังจะไป จึงรีบตามมาด้วย “ฉันจะแวะไปหาปิงชิงหน่อย”
“ได้สิ”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพยักหน้า แต่หลังจากทั้งสองเดินออกจากประตูมหาวิทยาลัย ก็เห็นเซี่ยฉางชิงอยู่ตรงนั้น
เซี่ยฉางชิงเห็นฉินมู่หลาน ก็รีบเดินเข้ามาหาทันที “มู่หลาน พ่อเพิ่งมาถึง ว่าจะมาหาลูกนี่แหละ คิดไม่ถึงเลยว่าลูกจะออกมาพอดี”
ฉินมู่หลานแปลกใจนิดหน่อยเมื่อเห็นเซี่ยฉางชิง แต่ก็ยังทักทายเขาพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อเห็นลูกสาวยิ้มแล้วเรียกตนว่าคุณพ่อ เซี่ยฉางชิงก็รู้สึกเหมือนใจกำลังอ่อนระทวย “มู่หลาน พวกลูกปิดเทอมแล้วใช่ไหม พรุ่งนี้ลูกว่างหรือเปล่า มากินข้าวที่บ้านสิ”
ฉินมู่หลานกำลังจะปฏิเสธ แต่หลังจากนั้นก็ได้ยินเซี่ยฉางชิงเอ่ยต่อ “พ่อมีเรื่องเก่าจะมาเล่าให้ลูกฟัง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วแล้วหันมองเซี่ยฉางชิง ก่อนจะพยักหน้ากล่าว “ค่ะ พรุ่งนี้ตอนกลางวันฉันจะไปค่ะ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ความรักต่างวัยเริ่มเบ่งบานเสียแล้วสิ พ่อบุญธรรมต้องดูแลตัวเองไม่ให้แก่นะคะ
ฉางชิงจะมาบอกเรื่องอะไรกับมู่หลานน้อ
ไหหม่า(海馬)