ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 390 หนีไม่พ้น(2)
ตอนที่ 390 หนีไม่พ้น(2)
ฉินมู่หลานไม่คิดว่าลวี่เถี่ยจะมีปืนอยู่ในมือ และด้วยระยะทางไกลขนาดนี้ เธอจึงไม่สามารถสาดผงยาให้ถูกเป้าได้
ในตอนนั้นเอง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ปรากฎตัวขึ้น เขายื่นแขนของตัวเองเข้ามากำบัง เพื่อไม่ให้ปากกระบอกปืนจ่อหน้าเธอ
นอกจากนี้คนที่ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับเซี่ยเจ๋อหลี่ยังมีพวกเหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิง ทุกคนมาถึงกันหมดแล้ว
ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วจึงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย “อาหลี่ คุณมาได้ยังไงคะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่จ้องมองฉินมู่หลานพลางบอกกล่าว “กลับไปผมจะคิดบัญชีกับคุณ ทำไมคุณต้องพาตัวเองมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ด้วย”
หลังจากได้รับข้อความจากโหยวหย่งแล้ว เขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เกรงว่าการคาดเดาของฉินมู่หลานจะเป็นจริง เมื่อได้มาเห็นเข้ากลับพบว่ามันเกิดเรื่องอันตรายขึ้นจริง เพียงแค่นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาก็หวาดกลัวอยู่ครู่หนึ่ง
ลวี่เถี่ยสังเกตเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่และคนอื่นปรากฎตัวขึ้น ก็ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะมาเร็วขนาดนี้ ก่อนที่เขาจะทันได้จับตัวฉินมู่หลานกับโหยวหย่ง คนพวกนี้ก็มากันแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่สามารถนั่งนิ่งรอความตายได้
เมื่อคิดเช่นนั้น สายตาของลวี่เถี่ยก็ฉายแววบ้าคลั่ง คนพวกนี้ต้องการมาจับตัวเอง ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกมันตายให้หมดนี่แหละ
“ปังๆๆ…”
ลวี่เถี่ยปลดสลักห้ามไกปืน แล้วยิงใส่ไปทางเซี่ยเจ๋อหลี่กับฉินมู่หลาน
เซี่ยเจ๋อหลี่พุ่งเข้ากอดฉินมู่หลานแล้วรีบพาหลบทันที เหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงและคนอื่น ๆ ต่างก็หามุมหลบเหมือนกัน ส่วนเซี่ยจงกับเซี่ยซินนั้นไม่ต้องห่วง พวกเขาสองคนมีฝีมือมาก
ครั้นหลี่เถี่ยเห็นว่ายิงออกไปตั้งหลายนัดแต่กลับไม่โดนใครเลย สีหน้าจึงดูโกรธจัด แต่ในขณะที่เขากำลังจะยิงต่อ ก็เห็นชายหนุ่มคนก่อนหน้าที่เข้ามาปกป้องฉินมู่หลานปรากฎตัวขึ้นราวกับผีเตะเข้าตรงข้อมือของเขา ทำให้ปืนที่อยู่ในมือของเขาร่วงหล่นลงไปบนพื้นทันที
โหยวหย่งก็จัดการคนพวกนั้นที่ล้อมรอบตัวเขาได้แล้ว ขณะนี้เมื่อเห็นว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ลงมือ เขาจึงรีบเข้ามาช่วย ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบปืนกระบอกนั้นเอาไว้ และเซี่ยเจ๋อหลี่ก็จับมือของลวี่เถี่ยไพล่หลังเพื่อคุมตัวเขาเอาไว้
หลังคนในแก๊งที่เหลืออยู่ไม่กี่คนเห็นว่าเจ้านายโดนจับแล้ว ก็รู้สึกขวัญผวา ต่างวิ่งกลับหลังหันเตรียมหนี แต่ฝั่งฉินมู่หลานมีคนเยอะพอสมควร เหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงจึงพากันบุกนำไปไล่ล่า ทำให้คนพวกนั้นจึงไม่สามารถหนีรอดไปได้สักคน
หลังจากทุกคนโดนจับได้หมดแล้ว ฉินมู่หลานก็หันไปบอกเหวินเฉียน “ห้องพวกนั้นมีคนโดนขังอยู่ข้างใน เธอกับเสี่ยวผิงลองไปนับจำนวนคน แล้วช่วยพูดปลอบพวกเขาหน่อย”
“ได้ค่ะ พี่สะใภ้”
เหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงพยักหน้า แล้วพาคนเข้าไปจัดการ
อีกด้านหนึ่ง เซี่ยเจ๋อหลี่จับกุมลวี่เถี่ยเอาไว้ แล้วบอกให้โหยวหย่งกับคนอื่นจับคนอื่นที่เหลือไปด้วย
เมื่อมาถึงบริเวณลานกว้าง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้ทราบแผนการเดิมของแก๊งพวกนี้แล้ว เมื่อทราบว่าพวกเขาจะขายฉินมู่หลานออกไป แล้วให้คนอีกแก๊งนำฉินมู่หลานไปขายให้ทางฝั่งฮ่องกง ร่างของเขาก็แทบจะระเบิด
“พลั่ก…”
เซี่ยเจ๋อหลี่ยกขาเตะอีกฝ่าย ทำเอาลวี่เถี่ยกระเด็นไปไกลถึงห้าเมตร
“อั่ก…”
ลวี่เถี่ยรู้สึกทนไม่ไหว กระอักเลือดออกมาจากปาก
ลวี่ต้านีเห็นพี่ชายตัวเองเป็นแบบนี้ก็รู้สึกทนไม่ไหว แต่ตอนนี้หล่อนเองก็โดนจับอยู่เหมือนกัน จึงไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่กล้าแม้แต่จะตะโกน เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นที่สังเกต
“เหอะ…พวกแกนี่ช่างกล้าเหลือเกิน กล้าคิดแบบนี้ได้ยังไง แถมพวกแกยังกล้าทำเรื่องสกปรกแบบนี้ใต้จมูกพวกเราด้วย” กระทั่งเซี่ยเจ๋อหลี่เองก็ไม่คิดว่าจะมีแก๊งค้ามนุษย์อยู่ที่นี่ ทำให้เขารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย “พวกแกจับคนไปขังเอาไว้ตรงส่วนไหนของบริเวณหลังบ้าน?”
ที่นี่ไม่เคยมีคดีคนหาย เพราะฉะนั้นจึงไม่มีคนคิดว่าจะมีแก๊งค้ามนุษย์อยู่ที่นี่
“แค่กๆ…คนพวกนั้นโดนจับมาจากที่อื่น พวกเราก็เพิ่งมาทำงานได้ไม่นานนนี่เอง” ลวี่เถี่ยได้แต่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย เมื่อได้ยินเซี่ยเจ๋อหลี่พูด ตอนแรกไม่กล้าตอบ แต่กลัวว่าอีกฝ่ายจะลงมือฆ่าตน เพราะสายตาของชายตรงหน้าส่อเจตนาฆ่าจริง
“ไม่แปลกใจเลย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่จึงได้เข้าใจ แก๊งนี้เพิ่งจะมาได้ไม่นาน นอกจากนี้คนในพื้นที่ยังไม่เคยแจ้งความคนหายด้วย จึงเป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่เคยตรวจพบ
ในตอนนี้ ฉินมู่หลานก็มองลวี่เถี่ยแล้วเอ่ยถาม “ตอนแรกพวกแกอยากจะส่งฉันไปให้ใคร? มีคนจ่ายเงินจ้างแกให้จับตัวฉันใช่ไหม?”
“ใช่ ผู้ชายคนนั้นจ่ายให้เราในราคาสูงลิ่วให้ช่วยจับตัวเธอ หลังจากนั้นก็มาบอกสถานที่ให้พวกเราเตรียมส่งตัวเธอไปหาเขา”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ จึงอยากจะอาศัยประโยชน์
“อาหลี่ พวกเรารอดูจนถึงตอนเย็นดีไหมคะ”
เซี่ยเจอหลี่ไม่ต้องคิด ก่อนจะปฏิเสธขึ้นทันที “ถ้าจะไปเดี๋ยวพวกผมไปดูเอง คุณไม่ต้องเสี่ยงเลย”
โหยวหย่งก็เอ่ยขึ้นตามกัน “ใช่ครับพี่สะใภ้ พวกเราจะพาคนไปตามหาเจ้าพวกนั้นเอง” พูดจบ เขาก็หันมองเซี่ยจงแล้วพูดขึ้น “เซี่ยจง นายเป็นคนเดียวที่เห็นชายวัยกลางคนนั่นไปพบเติ้งซูหลาน ถึงเวลาต้องขอให้นายช่วยดูอย่างละเอียดด้วยนะ”
เซี่ยจงได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่
“วางใจได้ ฉันจะดูให้ละเอียด ฉันเคยเจอแก๊งค้ามนุษย์พวกนี้มาก่อน ไม่มีใครดูคุ้นหน้าเลยสักคน อาจมีคนอื่นจางวานให้มาทำแทนก็ได้ ชายวัยกลางคนที่ไปเจอเติ้งซูหลาน เป็นไปได้ว่าอาจจะอยู่ในกลุ่มที่จะมารับตัวคุณหนูมู่หลาน แต่ก็เป็นไปได้สูงว่าเขาจะไม่ได้มาด้วย”
คนอื่นก็คิดเหมือนกัน หากคนนั้นจ่ายเงินจ้างวานให้คนอื่นจัดการทุกอย่าง ก็คงไม่ปรากฎตัวขึ้นอย่างแน่นอน
“ไม่สำคัญหรอก ขอแค่จับคนพวกนี้มาได้ ก็จะต้องได้เบาะแสอื่นเพิ่มแน่นอน”
เซี่ยเจ๋อหลี่ลุกขึ้นยืนตรง วางแผนกับโหยวหย่งและคนอื่น ๆ สุดท้ายหลายคนก็ลงมติเห็นชอบว่าจะให้ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มของชุยเสี่ยวผิงปลอมตัวเป็นฉินมู่หลาน เพราะหล่อนดูคล้ายฉินมู่หลานมาก และทำการเลือกชายหนุ่มจากแก๊งค้ามนุษย์มาสักสองคน แล้วให้ฉินมู่หลานฝังเข็มปิดสกัดจุดเอาไว้เพื่อไม่ให้พวกเขาส่งเสียง
เมื่อเตรียมพร้อมเรียบร้อย จู้จื่อกับคนอื่น ๆ ก็ออกเดินทางไปพร้อมกับฉินมู่หลานตัวปลอม โดยมีเซี่ยเจ๋อหลี่ โหยวหย่ง เซี่ยจงและคนอื่น ๆ คอยแอบซ่อนตัวอยู่
ส่วนทางด้านฉินมู่หลาน เธอโรยผงกระดูกอ่อนที่เหลือทั้งหมดใส่พวกแก๊งค้ามนุษย์ นอกจากนี้ยังมีเหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงอยู่ด้วย จึงไม่มีปัญหาแน่นอน
เพียงแต่การรอคอยนั้นช่างยาวนาน ฉินมู่หลานเห็นว่าผ่านไปเกือบสองชั่วโมงกว่าแล้ว พวกเซี่ยเจ๋อหลี่ยังไม่มา จึงรู้สึกไม่ไว้ใจนิดหน่อย
“ทางฝั่งอาหลี่น่ะ ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะจับได้หรือเปล่า ก็เลยยังจัดการไม่เสร็จ”
เหวินเฉียนได้ยินแบบนี้จึงรีบพูดขึ้น “ไม่หรอกค่ะพี่สะใภ้ มีทั้งผู้กองเซี่ยกับโหยวหย่งอยู่”
เพิ่งพูดจบ ข้างนอกก็มีการเคลื่อนไหว
“พี่สะใภ้ พวกเขาคงกลับมากันแล้ว”
ฉินมุ่หลานได้ยินแบบนี้ก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ทันได้เดินออกไป เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เดินเข้ามาแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “มู่หลาน ทุกคนโดนจับแล้ว และเซี่ยจงก็เจอคนที่เป็นตัวการแล้ว เป็นชายวัยกลางคนที่ไปพบเติ้งซูหลานมา ครั้งนี้เติ้งซูหลานหนีไม่รอดแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
รอรับผลกรรมที่ก่อไว้ได้เลยเหล่านางจิ้งจอกตระกูลเติ้ง สมุนโดนรวบจนดิ้นไม่หลุดขนาดนี้
ไหหม่า(海馬)