ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 398 พาออกไปทั้งคู่(2)
ตอนที่ 398 พาออกไปทั้งคู่(2)
บอกตามตรงว่าหล่อนไม่ค่อยชอบคุณน้ากับเซี่ยอวี่หรงมากนัก กับฉินมู่หลานลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งกลับมาก็ไม่ได้ชอบมากเหมือนกัน ไม่ต้องพูดถึงว่าก่อนหน้านี้ที่บ้านของหล่อนกับตระกูลเหยาขัดแย้งกันแล้วหล่อนไม่ค่อยชอบฉินมู่หลานคนนี้ เพราะรู้สึกเหมือนว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่เข้าถึงยากนิดหน่อย แต่ตอนนี้หล่อนอยากรู้เสียเหลือเกิน
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วบอกกล่าว “รอก่อนนะ”
เมื่อฉินมู่หลานเพิ่งพูดประโยคนี้จบ ก็พบว่าข้างนอกได้มีการเคลื่อนไหว ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจฝึกหัดกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามา
นายท่านเซี่ยเห็นกลุ่มคนปรากฎตัวขึ้นอย่างกะทันหัน จึงขมวดคิ้วขึ้นทันที “ใครใช้ให้พวกนายเข้ามา?”
“ฉันเองค่ะ”
ฉินมู่หลานก้าวไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม แล้วพูดกับชายวัยกลางคนที่เป็นสารวัตร “สวัสดีค่ะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่ตรงนั้นคือสองแม่ลูกเติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรง เชิญนำตัวไปสอบปากคำได้เลยค่ะ”
ฉู่เหวินหย่วนหันมองคนกลุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า แล้วได้แต่รู้สึกว่าตัวเองช่างโชคร้ายที่ต้องมาพบเจอปัญหานี้
เนื่องจากรับเรื่องมาสองคดี เขาจึงทราบว่างานเริ่มยุ่งแล้ว ถึงจะเป็นเรื่องราวภายในของตระกูลเซี่ย แต่เขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามหน้าที่ จึงพาคนเข้าไปคุมตัวเติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรง ก่อนจะพูดขึ้น “เติ้งซูหลาน พวกเราสงสัยว่าคุณเป็นผู้มีส่วนร่วมในคดีลักพาตัวและค้ามนุษย์ เชิญพวกคุณกลับไปพร้อมกับพวกเราด้วยครับ”
หลังจากนั้นฉู่เหวินหย่วนก็หันไปทางเซี่ยอวี่หรงอีกครั้งแล้วบอกกล่าว“เซี่ยอวี่หรง คุณมีส่วนเกี่ยวข้องในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา เพราะฉะนั้นตามพวกเรากลับไปให้ปากคำด้วยครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เหวินหย่วน ทุกคนจึงหันมองฉินมู่หลานด้วยความเหลือเชื่อ
ใบหน้าของนายท่านเซี่ยยับยู่น่าเกลียดมาก “หลานทำอะไรเนี่ย หลานคิดจะให้ทุกคนในเมืองหลวงมองตระกูลเซี่ยของเราเป็นตัวตลกอย่างนั้นหรือ”
คุณนายเซี่ยก็ทนไม่ไหวเหมือนกันพลางเอ่ยขึ้นทันที “มู่หลาน ถึงเติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงจะทำไม่ถูก หลานก็ไม่ควรจะไปแจ้งความนะ หลานทำแบบนี้อยากให้พวกหล่อนทั้งสองติดคุกเหรอ หลานก็ใจร้ายเกินไป”
แม้แต่ว่านจี้อวิ๋นก็จ้องมองฉินมู่หลาน แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่เป็นผลของการไม่ใส่ใจอย่างถี่ถ้วน หากทำอะไรให้เธอเคืองโกรธ เธอคงแก้แค้นอย่างถึงที่สุดแน่นอน
เซี่ยฉางชิงหันมองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าอธิบายไม่ถูกก่อนจะพูดขึ้น “มู่หลาน ที่ลูกถามเมื่อกี้ ก็เพราะต้องการแบบนี้เหรอ?”
ฉินมู่หลานยอมรับอย่างเปิดเผย “ใช่ค่ะ ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องโดนกฎหมายลงโทษ”
“ลูก…”
อยู่ ๆ เซี่ยฉางชิงก็พูดไม่ออก ตอนนี้อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนยากจะอธิบาย ตอนแรกคิดว่าปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขหมดแล้ว แต่ปรากฎว่าเรื่องในตอนนี้เป็นทางออกที่แท้จริงต่างหาก
ซูหว่านอี๋มองดูเซี่ยฉางชิงด้วยท่าทางเย้ยหยันกับท่าทางโลเลเช่นนี้
“เซี่ยฉางชิง คุณคิดจะออกโรงปกป้องเหรอ ถึงแม้ว่าพวกหล่อนคนหนึ่งจะเป็นภรรยาของคุณ อีกคนจะเป็นลูกสาวของคุณ แต่ผิดก็คือผิด แล้วสิ่งที่พวกหล่อนทำก็ไม่ใช่ความผิดเพียงเล็กน้อย การฆ่าคนมันเป็นความผิดใหญ่หลวงมากนะ”
หลังจากพูดเสร็จ ซูหว่านอี๋ก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย
“ฉันไม่ควรให้มู่หลานกลับไปตระกูลเซี่ยเพื่อสืบหาความจริงเรื่องการตายของพี่เลย ฉันควรเชื่อมั่นในการตัดสินใจของพี่ การที่หล่อนยอมตัดใจจากคุณได้นั่นหมายความว่าหล่อนไม่สนใจคุณอีกแล้ว นิสัยของพี่ก็คือเมื่อหล่อนตัดสินใจทำอะไรแล้วจะไม่คิดเสียใจอีก หล่อนปล่อยคุณไปแล้วก็หมายความว่าคงไม่อยากเกี่ยวข้องกับคุณอีกต่อไปแล้ว และมู่หลานก็ไม่ควรจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณอีก”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของเซี่ยฉางชิงก็ซีดลง
“หว่านอวี๋…”
แต่ความสนใจของคนอื่นกลับอยู่ตรงจุดอื่น
“ความจริงเรื่องการตายอะไร? ซูหว่านอวี๋ตายเพราะคลอดลูกไม่ใช่เหรอ?” ทันใดนั้นคุณนายเซี่ยก็รู้สึกได้ถึงพิรุธบางอย่าง หรือว่าเรื่องนี้จะมีอะไรปิดบังอยู่
แม้แต่ว่านจี้อวิ๋นก็หันมองซูหว่านอี๋ด้วยความสงสัย
ทางด้านเติ้งซูหลานที่ยืนอยู่ข้างหลังก็มีแววตาตกใจขึ้นมา เกิดอะไรขึ้น ทำมคนพวกนี้จึงข้องใจเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของซูหว่านอวี๋กันเล่า? ซูหว่านอวี๋ได้รับการชันสูตรว่าตายเพราะคลอดลูกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกหล่อนจึงสงสัยเรื่องนี้ได้
และแล้ว…
เติ้งซูหลานหันมองเซี่ยฉางชิง ก่อนจะพบว่าเขาไม่มีท่าทางตกใจเลยแม้แต่น้อย นี่แสดงให้เห็นว่าเซี่ยฉางชิงทราบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เซี่ยฉางชิงลงมือช่วยสืบสวนด้วยอย่างนั้นใช่ไหม?
เมื่อคิดได้แบบนี้ เติ้งซูหลานจึงตระหนักได้ทันที ไม่แปลกใจที่เซี่ยฉางชิงจะใจร้ายได้ขนาดนี้ เป็นเพราะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเอาไว้แล้ว จึงคิดอยากจะหย่ากับหล่อน
ฉินมู่หลานเห็นซูหว่านอี๋พูดถึงเรื่องนี้ จึงหันไปมองฉู่เหวินหย่วนอีกครั้งพลางบอกกล่าว “เจ้าหน้าที่คะ ยังมีอีกเรื่องที่อยากแจ้งความค่ะ เป็นเรื่องของซูหว่านอวี๋แม่แท้ ๆ ของฉัน ฉันสงสัยว่าเติ้งซูหลานจะจ้างวานให้คนไปฆ่าท่าน เพราะฉะนั้นช่วยร่วมมือสืบสวนให้ด้วยนะคะ ฉันอยู่ตรงนี้ก็จะช่วยหาเบาะแสอีกแรง”
ฉู่เหวินหย่วนฟังอยู่นานมาก จึงพอเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆ แล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าเป็นเพราะเซี่ยฉางชิง จึงทำให้เกิดเรื่องราวหลายอย่างมากมายขนาดนี้ และฟังจากสิ่งที่ฉินมู่หลานเพิ่งพูดแล้ว เธอคงมีเบาะแสและหลักฐานที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่แจ้งความตรง ๆ แบบนี้หรอก
“ครับ พวกผมจะช่วยสืบสวนด้วย”
หลังจากพูดจบ ฉู่เหวินหย่วนก็หันมองเติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงแล้วพูดขึ้น “เอาล่ะทั้งสองคน กรุณามากับพวกเราครับ”
ในตอนนี้ นายท่านเซี่ยและคุณนายเซี่ยต่างไม่พูดอะไรอีก
เติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดก็แสดงสีหน้าหวาดกลัว “ไม่ พวกเราไม่ไป คำพูดพวกนั้นฉินมู่หลานแค่ต้องการจะใส่ร้ายพวกเรา พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“เคยทำหรือไม่เคยทำ เดี๋ยวกลับไปให้ปากคำกับเราก็จะรู้เอง”
“ไม่ พวกเราไม่ไป”
เติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงก้าวถอยหลังพร้อมกัน ต่างไม่อยากถูกพาตัวไป
คุณนายเติ้งรู้สึกแปลกใจในเรื่องที่ซูหว่านอวี๋ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกสาวของตน แต่นางก็ต้องช่วยลูกสาวตัวเองอยู่แล้ว “คุณเจ้าหน้าที่คะ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ฉินมู่หลานต้องการใส่ความลูกสาวกับหลานสาวของฉันนะคะ พวกคุณอย่าให้หล่อนหลอกใช้สิ”
“จริงสิคะคุณเจ้าหน้าที่ ฉันสงสัยว่าแม่ของเติ้งซูหลานจะมีส่วนรู้เห็นเรื่องลักพาตัวและค้ามนุษย์ด้วยค่ะ วันนี้ช่วยพาหล่อนไปด้วยนะคะ” ฉินมู่หลานโต้
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของคุณนายเติ้งก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แม่สาวน้อยคนนี้คงวางแผนอยากจะรวบจับพวกหล่อนในครั้งนี้ทีเดียวเลยสินะ ในใจของจึงรู้สึกผิดนิดหน่อย ไม่กล้าขัดขืนอีกต่อไป
ฉู่เหวินหย่วนเห็นแบบนี้ จึงพาลูกน้องเข้ามาคุมตัวเติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงไป จากนั้นก็หันไปมองแล้วบอกกล่าวกับฉินมู่หลานอีกครั้ง “เรื่องนี้พวกผมจะตรวจสอบด้วยเหมือนกัน หากคุณนายเติ้งผิดจริง พวกผมก็ไม่ปล่อยหล่อนเหมือนกัน”
หลังจากนั้น เติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงก็ถูกตำรวจพาตัวไป
ฉินมู่หลานก็ไม่สนใจที่จะอยู่ต่อ จึงหันมองซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือแล้วกล่าวขึ้น “แม่คะ พวกเรากลับกันเถอะ”