ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 399 ชัดเจน(1)
ตอนที่ 399 ชัดเจน(1)
ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือได้ยินแบบนี้ ก็รีบตอบตกลงทันที “ได้ พวกเรากลับกัน”
เซี่ยฉางชิงได้ยินว่าลูกสาวจะกลับไป จึงกลับมาได้สติอีกครั้ง ก่อนจะรีบพูดขึ้น “มู่หลาน พวกลูกกินข้าวเย็นกันก่อนแล้วค่อยกลับเถอะ”
ฉินมู่หลานส่ายหัวพลางบอกกล่าว “ไม่ค่ะ พวกฉันกับไปกินที่บ้านก็เหมือนกัน แต่ดูเหมือน…” ขณะพูดเธอก็หันมองนายท่านเซี่ยกับคนอื่น ก่อนจะพูดขึ้น “พวกคุณดูไม่มีอารมณ์จะกินเลยค่ะ”
เจี่ยงสือเหิงก้าวเดินเข้าไปแล้วยิ้มพร้อมทั้งกล่าวลาเซี่ยฉางชิง
“ฉางชิงอย่ารั้งเลย พวกขอเรากลับก่อน ยังไงพวกคุณก็มีแขกอยู่” พูดจบเขาก็หันมองสมาชิกตระกูลเติ้ง
เซี่ยฉางชิงก็นึกขึ้นมาได้ แล้วไม่รั้งอีกต่อไป
หลังจากพวกฉินมู่หลานกลับไปแล้ว ทางฝั่งตระกูลเซี่ยก็เงียบเหงามาก สุดท้ายคุณนายเติ้งจึงต้องเอ่ยทำลายความเงียบแทน พลางหันมองเซี่ยฉางชิงแล้วบอกกล่าว “เซี่ยฉางชิง ตอนนี้เธอพอใจแล้วสินะ ลูกเมียโดนจับไปหมดแล้ว สีหน้ายังดูสดใสอยู่เลย คงไม่คิดสินะว่าต่อไปคนอื่นจะมองเธอยังไง”
“อีกไม่นานเติ้งซูหลานก็จะไม่ใช่ภรรยาของผมแล้วครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของคุณนายเติ้งก็ดูเหลือเชื่อ
“ซูหลานโดนจับไปแล้ว เธอยังอยากหย่ากับหล่อนอีกเหรอ”
เซี่ยฉางชิงพยักหน้าหนักแน่นแล้วกล่าวขึ้น “ก่อนหน้านี้ผมก็พูดไปชัดเจนแล้ว ว่าผมจะหย่ากับเติ้งซูหลานครับ”
“แก…แกนี่มันไอ้เวรเนรคุณ ใจร้ายอะไรขนาดนี้”
ใบหน้าของเซี่ยฉางชิงเย็นชาขึ้น
“เติ้งซูหลานฆ่าหว่านอวี๋ ผมเกลียดหล่อนช้าไปด้วยซ้ำ จะให้ผมครองคู่กับหล่อนต่อไปอีกได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้หล่อนยังลงมือทำร้ายมู่หลานด้วย ผู้หญิงใจดำอำมหิตขนาดนี้ ผมได้แต่รู้สึกเสียดายมากที่ไม่ได้เห็นธาตุแท้ของหล่อนให้เร็วกว่านี้”
คุณนายเติ้งรู้สึกตกใจจนพูดไม่ออก แต่นางก็เฝ้าดูลูกสาวกับหลานสาวติดคุกไม่ได้ และกลัวว่าตัวเองจะโดนจับด้วยเช่นกัน จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เซี่ยฉางชิง คิดว่าแกอยากหย่าก็หย่าได้ตามต้องการอย่างนั้นเหรอ ถ้าซูหลานของเราไม่ยินยอม เช่นนั้นแกก็หย่าไม่ได้หรอก”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของเซี่ยฉางชิงก็ยับยู่น่าเกลียดขึ้นทันที
ในตอนนั้นเอง เริ่นม่านนีก็พูดขึ้น “คุณกำลังขู่คุณอาอยู่เหรอคะ เติ้งซูหลานก่อคดีเยอะขนาดนั้น คุณอามีสิทธิ์ฟ้องหย่าได้อยู่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นถึงเติ้งซูหลานไม่ยินยอมก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร”
“อะไรนะ…”
ใบหน้าของคุณนายเติ้งดูตกตะลึง นางไม่เคยรู้เรื่องนี้ จึงไม่ทราบว่าเริ่นม่านนีพูดจริงหรือเปล่า
นายท่านเติ้งและคนอื่น ๆ หันมองคุณนายเติ้งแล้วพูดขึ้น “ยังมัวทำอะไรอยู่อีก ยังอายไม่พอใช่ไหม รีบไปได้แล้ว”
พูดจบทุกคนก็เดินออกจากประตูไป
คุณนายเติ้งเห็นว่านายท่านเติ้งรวมถึงลูกชายและลูกสะใภ้ออกไปกันหมดแล้ว นางจึงรีบตามออกไปเหมือนกัน
หลังจากตระกูลเติ้งกลับไปแล้ว คุณนายเซี่ยก็อดหันมองแล้วเอ่ยถามเซี่ยฉางชิงไม่ได้ “ฉางชิง แกรู้เรื่องของเติ้งซูหลานมานานแล้ว วันนี้จึงคิดอยากจะหย่าสินะ”
เซี่ยฉางชิงไม่ปฏิเสธ แล้วพยักหน้าบอกกล่าวตามตรง “ใช่ ผมรู้ตั้งนานแล้วว่าเติ้งซูหลานทำร้ายหว่านอวี๋ แต่ที่ผมยังลีลาอยู่ก็เพราะอยากจะหาหลักฐานเพิ่มเติม”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณนายเซี่ยก็อดถามต่อเสียไม่ได้ “แล้วตอนนี้เจอหลักฐานหรือยัง?”
“ผมเจอคน ๆ นั้นที่เติ้งซูหลานจ้างวานแล้ว แต่ยังจับเขาไม่ได้”
คุณนายเซี่ยไม่คาดคิดว่าลูกชายคนเล็กจะล่วงรู้มาถึงจุดนี้แล้ว หากมีคนนั้นอย่างที่ว่าจริง เช่นนั้นเรื่องที่เติ้งซูหลานทำก็มีแนวโน้มว่าจะจริง แต่เนื่องจากเรื่องนี้ยังไม่ได้บทสรุป จึงยังไม่อยากปักใจเชื่อ “แล้วถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิดขึ้นมาจะทำยังไง”
“ไม่หรอกครับ”
เมื่อเห็นว่าลูกชายคนเล็กดูมั่นใจ คุณนายเซี่ยจึงขมวดคิ้วขึ้นทันที “ฉางชิง แกกลายเป็นคนคิดตื้น ๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน รอให้จับคน ๆ นั้นได้ก่อนก็ไม่สาย”
เซี่ยฉางชิงคิดไม่ถึงว่าแม่จะพูดแบบนี้
“แม่ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ผมขอตัวก่อน”
“เดี๋ยวก่อน ฉันยังมีเรื่องอื่นอีก”
คุณนายเซี่ยรั้งเซี่ยฉางชิงเอาไว้ แล้วเอ่ยถามขึ้นทันที “พวกมู่หลานมากันอย่างแข็งแกร่ง เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พวกเขารู้ได้ยังไงว่าตระกูลเติ้งมาบ้านเรา”
“ผมให้คนไปบอกมู่หลานเอง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณนายเซี่ยก็พลันโกรธเคืองขึ้นมา
“เรื่องวันนี้แกตัดสินใจแล้วใช่ไหม แกทำแบบนี้ได้ยังไง ไม่ต้องการลูกสาวอย่างเซี่ยอวี่หรงแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าตำรวจจะมาใช่ไหมล่ะ เหอะ… ‘ลูกสาวแสนดี’ ของแกไม่ได้บอกเรื่องนี้ก่อนหรอกเหรอ แกบอกหล่อนทุกอย่าง แต่หล่อนกลับไม่บอกแกเรื่องที่พาตำรวจมา ในสายตาหล่อนแกก็เป็นแค่พ่อที่ให้กำเนิด ไม่ได้นับถืออะไรขนาดนั้นหรอก”
“มู่หลานหล่อน…”
เซี่ยฉางชิงอยากจะแก้ตัวให้ฉินมู่หลานสักหน่อย แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไรอยู่สักพัก เพราะมู่หลานไม่ได้บอกเขาเรื่องแจ้งตำรวจเลย
เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กไม่พูดอะไรแบบนี้ คุณนายเซี่ยก็อดพูดไม่ได้ “ถึงแม้ว่าฉินมู่หลานจะเป็นลูกสาวของซูหว่านอวี๋ แกรักซูหว่านอวี๋ ก็เลยชอบลูกสาวคนโตคนนี้มากด้วย แต่ไม่คิดว่าการกระทำของหล่อนโหดร้ายไปหน่อยเหรอ ถึงเซี่ยอวี่หรงจะทำผิด แต่ทำไมหล่อนไม่คิดเลยว่าตัวเองเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของอวี่หรงนะ หล่อนไม่ควรจะให้ตำรวจพาตัวน้องสาวแท้ ๆ ไปสิ”
เริ่นม่านนีทนไม่ไหวอีกแล้ว ก่อนจะพูดขึ้น “คุณย่าคะ อวี่หรงฆ่าคนตายนะ ยังต้องปกป้องอีกเหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไม่ใช่หรือไงคะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณนายเซี่ยก็หันไปมองเริ่นม่านนีแล้วเอ่ยขึ้น “เธอหุบปากไปเลย เหยาจิ้งจือก็แค่พูดพล่อย ๆ ไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอเชื่อแบบนั้น ทำไม เธออยากจะเหยียบอวี่หรงให้จมดินใช่ไหม”
“ฉัน…”
เริ่นม่านนีต้องการจะพูดอะไรอีก แต่ก็โดนเซี่ยอวี๋เซิงสามีของตนปรามเอาไว้
เมื่อเห็นเซี่ยอวี๋เซิงส่ายหัว เริ่นม่านนีจึงไม่พูดอะไรอีก
สุดท้ายนายท่านเซี่ยก็กล่าวขึ้น “เอาล่ะ พวกเธอคงหิวกันแล้ว ฉันก็หิวจนไส้แทบกิ่วไปหมดแล้ว ไปนั่งกินข้าวอร่อย ๆ กันเถอะ”
เมื่อเห็นชายชราพูดแบบนี้ คนอื่น ๆ จึงพากันไปกินข้าวที่ห้องอาหาร
อีกด้านหนึ่ง หลังจากพวกฉินมู่หลานกลับไป ก็มานั่งกินข้าวกัน
ลุงเจี่ยงทราบแล้วว่าพวกเขาไปเผชิญหน้ากับปัญหามา จึงคิดว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้อยู่กินอาหารที่บ้านตระกูลเซี่ยอย่างแน่นอน จึงเตรียมอาหารมื้อใหญ่เอาไว้ให้พวกเขา
วันนี้ซูหว่านอี๋มีความสุขมาก จึงอยากจะดื่มฉลอง
ฉินเจี้ยนเซ่อเป็นคนแรกที่สนับสนุน “เอาสิหว่านอี๋ พวกเรามาดื่มฉลองกันหน่อย”
หลายคนก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นเหมือนกัน “ได้สิ ทุกคนมาดื่มฉลองกัน”
แม้แต่ฉินมู่หลานก็รินเหล้าลงในแก้วของตัวเอง ก่อนจะเทบางส่วนให้ฉินเคอวั่งด้วย “วันนี้นายก็ดื่มสักหน่อยสิ”
ฉินเคอวั่งพยักหน้าด้วยความดีใจ
ในตอนนี้ ซูหว่านอี๋ก็หันมองฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน ในที่สุดพวกเราก็แก้แค้นให้แม่ของลูกได้แล้ว ตอนเห็นเติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงโดนพาตัวไปนะ แม่นี่ดีใจมากเลย”
แต่หลังจากพูดจบ หล่อนก็อดร้องไห้ขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้ “ทั้งหมดเป็นเพราะแม่ไร้ประโยชน์ หาหลักฐานอะไรในตอนนั้นไม่ได้เลย ทำให้เติ้งซูหลานได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาตั้งหลายปี”
เมื่อเห็นซูหว่านอี๋เป็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็รีบเอ่ยขึ้น “แม่คะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หนูล้างแค้นส่วนตัวให้แม่แท้ ๆ ได้แล้ว ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ซูหว่านอี๋ก็อดยิ้มขึ้นมาเสียไม่ได้ แล้วกล่าวขึ้น “ใช่ จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พี่ที่อยู่บนสวรรค์ต้องเห็นทั้งหมดนี้ และมีความสุขตาม ๆ กันอย่างแน่นอน”