ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 400 ชัดเจน(2)
ตอนที่ 400 ชัดเจน(2)
ตอนแรกฉินเจี้ยนเซ่อกังวลมาก ตอนนี้เมื่อเห็นมู่หลานพูดอะไรบางอย่าง แล้วทำให้ภรรยาหยุดร้องไห้และกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เขาก็เอ่ยแนะเช่นกัน “หว่านอี๋ วันนี้ควรเป็นวันที่มีความสุขนะ ทำไมคุณถึงร้องไห้แบบนั้นล่ะ มา พวกเรามาดื่มฉลองกันเถอะ”
“ชนแก้ว”
ทุกคนยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วดื่มฉลอง
ฉินมู่หลานดื่มไปหนึ่งแก้วก็ไม่คิดจะดื่มเพิ่มอีกแล้ว เย็นนี้เธอต้องดูแลลูกทั้งสองคน จึงไม่ควรเมา
ฉินเคอวั่งก็ดื่มเพียงแก้วเดียวเท่านั้น มากกว่านี้คงไม่ไหว
แต่เซี่ยปิงชิงดื่มเรื่อย ๆ ไปหลายแก้ว หล่อนเลียรอบริมฝีปาก ก่อนจะพบว่าเหล้านี้รสชาติค่อนข้างดี
เจี่ยงสือเหิงก็ใส่ใจเซี่ยปิงชิง เมื่อเห็นว่าหล่อนดื่มเหล้าไปหลายแก้วแล้วก็ห้ามปรามอยู่ข้างๆ “ปิงชิง ดื่มพอแล้วนะ ถึงเหล้านี้จะรสชาติค่อนข้างหวาน แต่ฤทธิ์ก็แรงมาก ดื่มเยอะจะเมาเอาได้”
แต่เซี่ยปิงชิงกลับปรายตามองเจี่ยงสือเหิงแล้วพูดขึ้น “วางใจได้ ฉันคอแข็งมาก ไม่เมาอยู่แล้ว”
“แต่ว่า…”
ก่อนที่เจี่ยงสือเหิงจะทันได้พูดจบ เซี่ยปิงชิงก็ยกขึ้นดื่มอีกหนึ่งแก้วไปเสียแล้ว
เซี่ยเหวินปิงที่อยู่อีกด้านเห็นแบบนี้ จึงยิ้มแล้วพูด “สือเหิง ฉันว่าปิงชิงดื่มได้อยู่แล้วล่ะ ให้หล่อนดื่มไปเถอะ ไม่เห็นเหรอว่าหล่อนมีความสุขขนาดไหน”
เหยาจิ้งจือได้ยินสิ่งนี้ ก็ปรายตามองเซี่ยเหวินปิง “เหล้ามันไม่ดีต่อสุขภาพ ทำไมคุณถึงชักชวนให้ปิงชิงดื่มเยอะอีก”
เซี่ยเหวินปิงได้ยินดังนี้ก็หยุดพูดทันที ตัวเขาเองเป็นนักดื่มตัวยงอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าเซี่ยปิงชิงชอบดื่มเหมือนกันจึงพูดแบบนั้นออกไปโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก
แต่เซี่ยปิงชิงก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “น้าเหยาคะ ไม่ได้ดื่มทุกวันเสียหน่อย นาน ๆ ดื่มทีไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เมื่อเห็นเซี่ยปิงชิงบอกแบบนั้น เหยาจิ้งจือก็ได้แต่ยิ้ม
จนกระทั่งกินอาหารหมด เซี่ยปิงชิงก็ดื่มไปคนเดียวหนึ่งขวดเต็ม
ตอนแรกเจี่ยงสือเหิงเป็นกังวลมาก เพียงแต่เมื่อเห็นแววตาเป็นประกายของเซี่ยปิงชิง ใบหน้าจึงดูสงบแล้วก็โล่งใจขึ้น
คนอื่นหัวเราะเมื่อเห็นแบบนี้ ก่อนจะพูดขึ้น “ปิงชิง เธอคอแข็งมากเลยนะ”
เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้จึงหัวเราะ จากนั้นจึงหันมองเจี่ยงสือเหิงแล้วบอกกล่าว “ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ ตามฉันไปที่สวนหลังบ้านหน่อย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงจึงสงสัยนิดหน่อยในเรื่องที่เซี่ยปิงชิงจะบอก แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไร แล้วตามเซี่ยปิงชิงไปสถานที่ตรงนั้นทันที เพียงแต่เมื่อทั้งสองเดินไปได้เพียงครึ่งทาง เขาก็พบว่ามีบางอย่างแปลก ๆ
“ปิงชิง…คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
เซี่ยปิงชิงไม่ได้พูดอะไร อยู่ ๆ ก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน แล้วหันหน้ากลับไปมองเจี่ยงสือเหิง ก่อนจะยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเจี่ยงสือเหิงจะไม่รู้เรื่อง แต่ก็รีบก้าวเดินเข้าไปจับมือหล่อนเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยถาม “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
เซี่ยปิงชิงพยักหน้าแล้วตอบ “เป็นสิ”
“ทำไมเหรอ?”
เจี่ยงสือเหิงได้ยินแบบนี้ สีหน้าจึงดูกังวลนิดหน่อย
เซี่ยปิงชิงเอนศีรษะแล้วโน้มเข้าไปหาเจี่ยงสือเหิง ก่อนจะเอ่ยพึมพำ “เหล้านี่…แรงจริงด้วย”
“ปิงชิง…”
เจี่ยงสือเหิงไม่คิดว่าเซี่ยปิงชิงจะหมดสติไปเพราะอาการมึนเมา เขาพลันมีท่าทางลุกลี้ลุกลน สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอุ้มคนขึ้นแล้วพากลับเข้าไปในห้อง ตอนแรกเขาเป็นกังวลมากจนอยากจะเรียกฉินมู่หลานไปดู แต่หลังจากที่เขาลุกขึ้นยืน ก็ได้ยินเสียงกรนของเซี่ยปิงชิงดังขึ้นมาเบาๆ
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เจี่ยงสือเหิงก็หัวเราะขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ปรากฎว่าเซี่ยปิงชิงเมามากจนผล็อยหลับไปทันที แต่เพื่อความปลอดภัย เขาจึงไปเรียกฉินมู่หลานมา
“พ่อวางใจเถอะค่ะ ปิงชิงแค่ดื่มจนเมา แต่ทางที่ดีควรมีคนคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ นะคะ ถ้าปิงชิงเกิดอาเจียนขึ้นมาตอนหลับแล้วหล่อนหลับไม่ตื่น ก็มีโอกาสจะสำลักอาเจียนได้ค่ะ”
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นไม่ได้ ฉินมู่หลานจึงเล่าเคสที่เลวร้ายที่สุดให้ฟัง
เจี่ยงสือเหิงได้ยินดังนี้ ก็พูดขึ้นทันี “เดี๋ยวพ่อดูแลหล่อนเอง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานจึงหันมองเจี่ยงสือเหิง ก่อนจะยกยิ้มแล้วพูดขึ้น “พ่อคะ ถ้าอย่างนั้นรบกวนพ่อดูแลปิงชิงด้วยนะคะ”
เจี่ยงสือเหิงเห็นท่าทางเย้าแหย่ของมู่หลาน จึงอดแกล้งทำเป็นดึงหน้านิ่งแล้วเอ่ยกลับ “มู่หลาน ลูกยังไม่ไปดูแลชิงชิงกับเฉินเฉินอีกหรอ รีบกลับไปเถอะ”
“ค่ะๆๆ ฉันกำลังกลับ”
หลังจากฉินมู่หลานกลับไป เจี่ยงสือเหิงก็คอยดูแลเซี่ยปิงชิง
และในเมืองหลวงตอนนี้ ข่าวของเติ้งซูหลานก็ได้แพร่กระจายไปทั่วแล้ว
“อะไรนะ…เติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงติดคุกเหรอ จริงหรือเปล่าเนี่ย?”
“จริงอยู่แล้ว ได้ยินว่าเติ้งซูหลานจ้างวานฆ่า เป้าหมายก็คือซูหว่านอวี๋”
“ห๊ะ…ซูหว่านอวี๋? ซูหว่านอวี๋ตายเพราะโดนเติ้งซูหลานฆ่าเหรอเนี่ย เรื่องนี้น่าแปลกจริง”
แต่ก็มีบางคนที่ให้ความเห็นต่างออกไป “เธอ เรือ่งนี้ไม่ถูกนะ ฉันได้ยินมาว่า เติ้งซูหลานยอมรับฉินมู่หลานที่กลับมาเป็นลูกสาวคนโตตระกูลเซี่ยไม่ได้ หล่อนก็เลยจ้างวานให้คนจับตัวไปขายที่ฮ่องกง แต่ว่าฉินมู่หลานไม่ใช่คนที่จะยอมโดนกระทำ สุดท้ายไม่ใช่แค่จับกลุ่มค้ามนุษย์ได้ แต่ยังส่งเติ้งซูหลานเข้าคุกไปด้วยอีก”
“จริงเหรอเนี่ย ฉินมู่หลานคนนี้เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“จริงอยู่แล้ว พวกญาติฉันปะปนอยู่ในนั้น ก็เลยได้ทราบข่าวมาบ้าง ได้ยินว่าเติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงโดนฉู่เหวินหย่วนมาพาตัวไป”
ในตอนนี้ ทุกคนรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย
“ถ้าอย่างนั้น…เติ้งซูหลานโดนจับเพราะอะไรกันล่ะ”
“พวกเธอยังไม่รู้รายละเอียดไง เป้นเพราะเติ้งซูหลานฆ่าซูหว่านอวี๋ แล้วยังคิดจะขายตัวลูกสาวของซูหว่านอวี๋ให้ทางฮ่องกงด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่โดนจับ ที่พวกเธอเพิ่งพูดกันน่ะ หล่อนทำทุกอย่างเลย”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เติ้งซูหลานนี่โหดเหี้ยมเหลือเกิน อยากขายตัวคนให้ทางฮ่องกง ใจไม้ไส้ระกำมาก”
ในตอนนั้นเองก็ได้มีคนตั้งคำถามขึ้น
“เติ้งซูหลานทำผิดจริง แล้วเซี่ยอวี่หรงล่ะ ทำไมถึงโดนจับไปด้วย”
“ฮิฮิ…เรื่องนี้ฉันรู้”
คนที่พูดเล่าเรื่องของเซี่ยอวี่หรงกับเริ่นม่านลี่ หลังจากนั้นก็พูดต่อ “ได้ยินว่าการตายของเริ่นม่านลี่มันบังเอิญมาก ก็เลยสงสัยว่าเซี่ยอวี่หรงที่คบค้าสมาคมกับเริ่นม่านลี่จะเป็นคนฆ่า หล่อนจึงโดนคุมตัวไปด้วย”
“หูย…สองแม่ลูกนี้ร้ายกาจจริง ๆ”
หลังจากทุกคนพูดคุยข่าวซุบซิบของเติ้งซูหลานและเซี่ยอวี่หรงสองแม่ลูกแล้ว อยู่ ๆ ก็มีบางคนพูดขึ้น “ได้ยินมาว่าเซี่ยอวี่หรงกับซูจิ้งเหยานายน้อยจากตระกูลซูกำลังคบหากันอยู่ไมใช่เหรอ ตอนนี้เซี่ยอวี่หรงโดนจับแล้ว ถ้าอย่างนั้นซูจิ้งเหยาคงตัดสัมพันธ์กับเซี่ยอวี่หรงแน่นอน”
ตอนนี้ทางฝั่งตระกูลซูก็กำลังพูดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
“ไม่ได้ พรุ่งนี้พวกเราต้องออกไปชี้แจงเรื่องนี้ จิ้งเหยาของเราเพิ่งไปทานข้าวกับเซี่ยอวี่หรง จะเกี่ยวข้องอะไรกัน ให้ทุกคนเลิกพูดจาไร้สาระสักที”