ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 403 ชะตากรรมของเติ้งซูหลานและเซี่ยอวี่หรง(1)
- Home
- ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก
- ตอนที่ 403 ชะตากรรมของเติ้งซูหลานและเซี่ยอวี่หรง(1)
ตอนที่ 403 ชะตากรรมของเติ้งซูหลานและเซี่ยอวี่หรง(1)
หลังจากเซี่ยฉางชิงได้พบหวังฉวนแล้ว ก็จะไปเจอหน้าเติ้งซูหลานทีหลัง
ภรรยาที่เขาแต่งงานมาด้วยหลายปีคนนี้ ไม่เพียงแต่จะฆ่าผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด แต่ยังคิดทำร้ายมู่หลานด้วย เขาไม่ทราบมาก่อนเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะน่ากลัวถึงเพียงนี้
ฉู่เหวินหย่วนมีความสุขมาก
“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเจอเถอะครับ คดีของเติ้งซูหลานได้รับการตัดสินแล้ว หลักฐานชัดเจนว่าจ้างวานฆ่า หนีไม่พ้นโทษอยู่แล้ว และนอกเหนือจากคดีนี้ยังมีอีกคดีที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนด้วยครับ”
“มีเรื่องอะไรอีกเหรอครับ?”
ฉู่เหวินหย่วนเอ่ยบอกตามตรง “เรื่องของเริ่นม่านลี่ครับ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภรรยาและลูกสาวของคุณด้วย”
หลังพูดจบ ฉู่เหวินหย่วนก็รู้สึกสงสารเซี่ยฉางชิงนิดหน่อย ทั้งภรรยาและลูกสาวต่างทำผิด ต่อให้เซี่ยฉางชิงกับเติ้งซูหลานกำลังจะทำเรื่องหย่ากัน แต่นั่นก็ไม่มีประโยชน์ เรื่องนี้ต้องส่งผลกระทบต่ออาชีพของเขาอย่างแน่นอน
เซี่ยฉางชิงเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแล้ว เขาจึงมีท่าทางสงบมาก ทำเพียงแค่พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ผมทราบแล้วครับ”
ฉู่เหวินหย่วนพูดกับเขาต่ออีกไม่กี่คำก็ไม่พูดอะไรอีก เขาพาเซี่ยฉางชิงไปยังบริเวณเข้าเยี่ยม “เรียบร้อย คุณเข้าไปได้ครับ”
เมื่อเซี่ยฉางชิงได้พบเติ้งซูหลาน เขาก็เอาแต่มองหล่อนนิ่ง ๆ อย่างนั้น หลังจากนั้นจึงพูดขึ้น “หวังฉวนโดนจับแล้ว คุณควรจะรู้เอาไว้”
เติ้งซูหลานได้ยินแบบนี้ก้แค่นหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ทำไม…คุณมาเพื่อหัวเราะเยาะฉันเหรอ แล้วยังไงล่ะ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนซูหว่านอวี๋น่ะตายไปตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเซี่ยฉางชิงก็มืดมนลงทันที
“ทำไมคุณถึงทำแบบนั้น ผมกับหว่านอวี๋แยกทางกันแล้ว แต่งงานก็แต่งกับคุณแล้ว แต่ทำไมคุณถึงยังทำร้ายหว่านอวี๋อีก ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าหว่านอวี๋ตั้งท้อง และหว่านอวี๋ก็ยอมไปจากผมแบบไม่มีวันยกโทษให้ผมแล้วด้วย คุณแค่ปล่อยให้หว่านอวี๋กับมู่หลานสองแม่ลูกได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ได้เหรอ”
เติ้งซูหลานเห็นสีหน้าของเซี่ยฉางชิงเต็มไปด้วยความโกรธและความเศร้า จึงยกยิ้มอย่างเยือกเย็น
“เหอะ…ซูหว่านอวี๋นั่นตายไปยี่สิบกว่าปีได้แล้ว แต่คุณก็คิดถึงหล่อนมาตลอดยี่สิบกว่าปี ถ้าฉันไม่ฆ่าหล่อนในตอนนั้น แล้วจะให้รอถ่านไฟเก่าของพวกคุณกลับมาจุดติดกันอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ”
หลังจากพูดจบ เติ้งซูหลานก็จ้องมองเซี่ยฉางชิงด้วยสายตาโกรธแค้นและไม่ยินยอม
“ถึงปีนั้นคุณจะแต่งงานกับฉันแล้ว แต่คุณคงไม่รู้ว่าแม้กระทั่งตอนหลับ คุณก็ยังละเมอเรียกแต่ชื่อของนังหมาซูหว่านอวี๋นั่น แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าฉันจะปล่อยนังนั่นเอาไว้ล่ะ”
“คุณ…คุณมันไร้เหตุผล ถึงในใจผมจะยังคิดถึงหว่านอวี๋ แต่หลังจากแต่งกับคุณแล้วผมก็รับผิดชอบชีวิตของคุณ รับผิดชอบชีวิตครอบครัวของเรา แล้วทำไมคุณยังคิดทำแบบนี้อีก คุณคิดว่าผมคิดไม่ได้อย่างนั้นเหรอ”
เติ้งซูหลานกล่าวด้วยน้ำเสียงเดือดดาล “ใช่ คุณมันคิดไม่ได้ ตั้งแต่แต่งงานกับฉัน ทั้งหัวใจรวมถึงสายตาของคุณควรจะมองแค่ฉันคนเดียว เป็นคุณที่ควรจะขอโทษฉันก่อน ตอนนี้ฉันได้แต่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ฆ่านังฉินมู่หลานนั่นด้วย หวังฉวนนั่นก็ไร้ประโยชน์ ไม่ฆ่าฉินมู่หลานไปซะตั้งแต่แรก สุดท้ายซูหว่านอี๋จึงได้อาศัยช่องโหว่ตรงนี้สับเปลี่ยนลูกของตัวเองที่ตายไปแล้วเป็นลูกของซูหว่านอวี๋แทน ฉินมู่หลานถึงอยู่เย็นเป็นสุขมาได้จนถึงตอนนี้”
เมื่อเห็นท่าทางของเติ้งซูหลานดูไม่สำนึกผิดเลย เซี่ยฉางชิงก็รู้สึกหมดคำจะพูด
“ดูเหมือนคุณจะไม่คิดว่าตัวเองผิดเลยนะ ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้ว เชิญคุณเก็บเกี่ยวชีวิตช่วงสุดท้ายนี้ให้คุ้มเถอะ” พูดจบ เซี่ยฉางชิงก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังกลับไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
“เซี่ยฉางชิง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ เซี่ยฉางชิง…”
เติ้งซูหลานเห็นเซี่ยฉางชิงกำลังจะเดินจากไป จึงตะโกนขึ้นด้วยสีหน้ายับยู่ เพียงแต่เซี่ยฉางชิงไม่หยุดเดินเลย แม้แต่หน้าก็ยังไม่หันกลับมามอง
ตอนแรกเซี่ยฉางชิงอยากไปหาเซี่ยอวี่หรง แต่เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับลูกสาวคนนี้อีก สุดท้ายจึงไม่ได้ไปหา และคิดจะกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้เซี่ยอวี่หรงใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก หล่อนใช้เวลาทั้งวันอยู่กับความวิตกหวาดกลัว คิดอยากจะออกไปให้เร็วที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็มองไม่เห็นความหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ในช่วงใกล้ ๆ นี้เลย แม้แต่พ่อก็ไม่มาเยี่ยมหล่อนด้วยซ้ำ สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือหล่อนได้ยินว่าแม่ถูกตัดสินโทษ
เมื่อคิดดังนี้ เซี่ยอวี่หรงจึงทราบว่าทุกอย่างมันจบสิ้นแล้ว
หลังจากเซี่ยฉางชิงกลับไป ฉู่เหวินหย่วนก็เข้ามาสอบปากคำเซี่ยอวี่หรงทันที
“พ่อของเธอเพิ่งกลับไป”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยอวี่หรงก็ทำหน้าตกใจ “อะไรนะ..พ่อมาเหรอ แต่ว่า…เขาไม่เห็นมาหาฉัน”
“ใช่ เขาไปหาแม่ของเธอสักพักหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปเลย”
เซี่ยอวี่หรงได้ยินแบบนี้ สีหน้าก็ดูไม่ค่อยพอใจ “เพราะอะไร พ่อก็อยู่ที่นี่ ทำไมถึงไม่มาหาฉัน ฉันเป็นลูกแท้ ๆ ของเขานะ ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้กับฉันได้”
ฉู่เหวินหย่วนจ้องมองเซี่ยอวี่หรงแล้วพูดขึ้น “คงเป็นเพราะว่าเธอเป็นเหมือนแม่เธอ ก่อคดีผิดกฎหมาย พ่อก็เลยไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้ว”
เซี่ยอวี่หรงได้ยินแบบนี้ก็ตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก หรือว่าสิ่งที่หล่อนกับแม่ทำจะถูกเปิดเผยแล้วอย่างนั้นหรือ
เมื่อเห็นท่าทางของเซี่ยอวี่หรง ฉู่เหวินหย่วนก็ทราบว่าต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง
เซี่ยอวี่หรงคนนี้เทียบไม่ได้กับเติ้งซูหลาน เติ้งซูหลานเป็นคนหัวแข็งมาก หากไม่ใช่เพราะหวังฉวนคงเป็นไปได้เลยที่จะเอาผิดหล่อน แต่เซี่ยอวี่หรงไม่เหมือนกันตรงที่ยังเป็นเด็กน้อยด้อยประสบการณ์ เมื่อเกิดความหวาดกลัวจึงเผยท่าทางร้อนตัวขึ้นมาได้
“เธอเลิกพูดจาโกหกได้แล้ว หลังจากที่แม่เธอโดนข้อหาจ้างวานฆ่า หล่อนก็สารภาพเรื่องอื่นด้วย เรื่องของเริ่นม่านลี่ก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเลิกปิดบังได้แล้ว”
“แม่เขา…นี่เป็นเรื่องจริงเหรอคะ”
สีหน้าของเซี่ยอวี่หรงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้”
หลังจากทราบแล้ว สุดท้ายก็รู้สึกทนไม่ไหว เล่าทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดีของเริ่นม่านลี่ “เริ่นม่านลี่นั่นยังไงก็ฟื้นขึ้นมาไม่ได้แล้ว พวกเราก็แค่ช่วยทำให้หล่อนไปสู่สุขคติเท่านั้นเอง”
เมื่อฟังเซี่ยอวี่หรงพูดเหมือนตัวเองมีคุณธรรม ฉู่เหวินหย่วนจึงแค่นหัวเราะ แล้วพูดขึ้น “ทำแบบนั้นตามใจชอบกับเริ่นม่านลี่ได้ยังไง คนที่ตัดสินใจควรเป็นครอบครัวหล่อน ไม่ใช่กงการอะไรของพวกเธอเลย เธอแค่ไม่อยากให้เริ่นม่านลี่ตื่นขึ้นมาเป็นพยานปรักปรำเธอไม่ใช่เหรอก็เลยลงมือฆ่า อย่าพูดเอาดีเข้าตัวไปหน่อยเลย”
“ฉัน…”
เซี่ยอวี่หรงพูดไม่ออกอยู่สักพัก เพียงแต่ตอนนี้หล่อนเริ่มท้อแท้แล้ว จึงไม่อยากพูดอะไรอีก
ฉู่เหวินหย่วนก็ได้ถามสิ่งที่เขาอยากรู้ไปแล้ว เมื่อเห็นคนข้าง ๆ จดรายละเอียดในสิ่งที่เซี่ยอวี่หรงเพิ่งให้การไปก็พยักหน้าอย่างพอใจ หลังจากนั้นก็ให้นำตัวเซี่ยอวี่หรงกลับไปคุมขัง
มีคำให้การของเซี่ยอวี่หรงแล้ว ประกอบกับหลักฐานบางอย่างก่อนหน้านี้ด้วย คดีที่เติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงสบคบคิดกันสังหารเริ่นม่านลี่ก็ได้คลี่คลายลงแล้ว
เมื่อเริ่นม่านนีทราบเรื่อง ก็รีบกลับไปบ่านพ่อแม่แล้วตามพวกเขาให้ไปสถานีตำรวจด้วยกัน ครั้นทั้งสามเห็นคำให้การของซี่ยอวี่หรง สีหน้าก็บูดบึ้งมาก