ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 408 รวมตัว(2)
ตอนที่ 408 รวมตัว(2)
“จริง ๆ แล้วอาการของคุณต้องดูแลรักษาตัวเองอีกสักสองสามปี จะค่อย ๆ เห็นผลเปลี่ยนแปลง เพียงแต่…การจะมีลูกนับว่าเป็นเรื่องยากมาก คุณอยากจะลองกินยาสักสองสามชนิดแล้วรอดูอาการไปสักพักก่อนไหมล่ะ”
เมื่อถึงตอนนี้ เซี่ยอวี๋เซิงก็รู้สึกด้านชานิดหน่อย
เขาที่ไปฟังผลตรวจมามากมายหลายที่พบว่าหมอคนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ปฏิเสธเขาในทันที เพียงแต่เขาไม่ได้คิดอยากจะกินยา เพราะต่อให้กินยาก็เป็นเพียงการบำรุงเท่านั้น ช่วยให้มีลูกไม่ได้หรอก กินไปก็ไม่มีประโยชน์
เริ่นม่านนีก็มีความเห็นอย่างเดียวกัน แต่สิ่งที่หล่อนกำลังคิดอยู่ในตอนนี้คือ หากต้องกินยาบำรุงร่างกายของหมอคนนี้อยู่หลายปีก็ยังมีความเสี่ยงที่ไม่สามารถมีลูกได้ แต่ถ้าไปหาฉินมู่หลาน เซี่ยอวี๋เซิงก็น่าจะมีโอกาสมีลูกได้ หากต้องการรู้ว่าเหตุการณ์จะออกหัวหรือก้อยนั้น ก็คือต้องไปหาฉินมู่หลาน
หลังจากนั้นทั้งสองก็กลับไป
คุณนายเซี่ยกับว่านจี้อวิ๋นนั่งรอกันอย่างใจจดใจจ่ออยู่เนิ่นนาน เมื่อเห็นทั้งสองกลับมาแล้วจึงตรงไปหาทันที ก่อนจะเอ่ยถาม “อวี๋เซิง เป็นยังไงบ้าง?”
เซี่ยอวี๋เซิงไม่พูดอะไร แต่กลับทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าว่างเปล่า
เมื่อเห็นท่าทางของเซี่ยอวี๋เซิง คุณนายเซี่ยกับว่านจี้อวิ๋นก็ตกใจ หรือฉินมู่หลานจะพูดถูกว่าร่างกายของอวี๋เซิงมีปัญหาจริง ๆ? ครั้นพวกหล่อนเห็นว่าเซี่ยอวี๋เซิงนั่งเงียบ จึงหันไปมองเริ่นม่านนีอีกครั้ง
เริ่นม่านนีไม่ได้ปิดบังอะไร เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ หลังจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “หมอทุกคนบอกว่าอาการของอวี๋เซิงไม่มีทางรักษา บอกว่าพวกเราไม่สามารถมีลูกกันได้ค่ะ”
“อะไรกัน…ทำไมถึงเป็นแบบนี้”
เริ่นม่านนีเล่าเรื่องของวันนี้ให้ฟังอย่างละเอียด บอกแม้กระทั่งว่าไปโรงพยาบาลไหนและหาหมอคนไหนมาอย่างชัดเจน จึงไม่มีเหตุผลที่ทั้งสองจะไม่ยอมเชื่อ
“ไม่นะ…ทำไมถึงเป็นแบบนี้”
คุณนายเซี่ยกับว่านจี้อวิ๋นยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ พวกหล่อนเคยแอบนินทาว่าร้ายเริ่นม่านนีมาก่อนในเรื่องที่หล่อนไม่สามารถตั้งครรภ์ได้หลังจากแต่งงานมาหลายปีแล้ว แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นอวี๋เซิงเองที่ไม่สามารถมีลูกได้ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?
เมื่อเห็นทั้งสองเป็นแบบนี้ เริ่นม่านนีจึงเอ่ยเกลี้ยกล่อม
“คุณย่า คุณแม่ ทุกคนอย่าเพิ่งกังวลไปเลยค่ะ ก่อนหน้านี้มู่หลานก็เคยบอกไม่ใช่เหรอคะว่าขอแค่อวี๋เซิงดูแลรักษาร่างกายให้ดีสักสองสามปีก็จะมีลูกได้ เพราะฉะนั้นพวกเราแค่รอเวลา แล้วทำตามที่มู่หลานแนะนำ คอยดูแลสุขภาพของอวี๋เซิงให้ดีก็พอ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณนายเซี่ยกับว่านจี้อวิ๋นก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาเหมือนกัน ทั้งสองรีบพยักหน้ากล่าว “ใช่ พวกเราอย่าเพิ่งกังวลไปก่อนเลย ลองไปให้มู่หลานช่วยดู ถ้าหล่อนพูดแบบนั้น ก็คงจะมีวิธีอย่างที่ว่าจริง”
หลังจากพูดจบ ทั้งสองก็อึดอัดใจขึ้นมาอีกครั้งว่าทำไมวันนี้พวกหล่อนถึงไม่เชื่อคำพูดของฉินมู่หลานตั้งแต่แรก รู้อย่างนี้ยอมให้หล่อนเขียนใบสั่งยาให้ก็คงดี
แต่แล้วเซี่ยอวี๋เซิงก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “ไม่ ผมไม่เชื่อว่าหมออื่นจจะไม่มีทางรักษาแล้ว พรุ่งนี้ผมจะไปหาหมออีกคน ผมไม่เชื่อหรอก”
เริ่นม่านนีได้ยินแบบนี้ ก็จ้องมองเขาแล้วพูดขึ้นทันที “มู่หลานบอกว่าหล่อนรักษาคุณให้หายได้ แค่คุณดูแลรักษาตัวเองให้ดีสักสองสามปี ทำไมคุณถึงคิดจะไปหาหมอคนอื่นอีก”
“หมอคนอื่นอาจรักษาผมได้เร็วกว่าก็ได้ ก็เลยอยากจะไปหาหมอคนอื่น ผมไม่เชื่อหรอว่าจะไม่มีหมอคนไหนรักษาอาการนี้ได้แล้ว”
เมื่อเห็นเซี่ยอวี๋เซิงตัดสินใจแล้ว เริ่นม่านนีก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่สีหน้ากลับยับยู่น่าเกลียดมาก
อีกด้านหนึ่ง หลังจากฉินมู่หลานพาลูกทั้งสองกลับไปแล้ว เธอก็เริ่มเตรียมของ ตอนนี้เติ้งซูหลานกับเซี่ยอวี่หรงโดนตัดสินโทษแล้ว อย่างนั้นเธอก็วางใจได้แล้ว ตอนนี้จึงถึงเวลาต้องเดินทางไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่ ซึ่งครั้งที่แล้วถือว่าไม่นับ
หลังจากซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือรูว่าฉินมู่หลานกำลังจะไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่ ทั้งสองก็ไม่ได้คัดค้านอะไร และช่วยเก็บข้าวของด้วย สุดท้ายก็บอกให้เหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงเตรียมตัวด้วย เพื่อให้พวกหล่อนสองคนพร้อมออกเดินทางด้วยกันโดยเร็ว
ฉินมู่หลานจัดการทุกอย่างรวดเร็วมาก วันรุ่งขึ้นก็จองตั๋วเรียบร้อย เมื่อถึงวันที่สามก็พาเด็กทั้งสองคนกับเหวินเฉียนและชุยเสี่ยวผิงออกเดินทางไปด้วยกัน
ทันทีที่ฉินมู่หลานเพิ่งออกไป เซี่ยอวี๋เซิงกับเริ่นม่านนีก็มาหาเธอที่บ้านตระกูลเจี่ยง
ซูหว่านอี๋เห็นทั้งสองมา จึงสงสัยนิดหน่อย จากนั้นก็บอกกล่าวตามตรง “มู่หลานไม่อยู่ หล่อนไปหาอาหลี่น่ะ อีกหนึ่งสัปดาห์กว่าจะกลับมา”
“อะไรนะครับ…ฉินมู่หลานออกไปแล้ว”
เมื่อเซี่ยอวี๋เซิงทราบข่าว คนทั้งคนก็รู้สึกแย่อีกครั้ง
ซูหว่านอี๋รู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น “พวกเธอมีธุระอะไรหรือเปล่า ถ้ามีธุระเร่งด่วน ติดต่อหาอาหลี่ได้นะ เดี๋ยวมู่หลานไปถึง จะให้ติดต่อกลับมาหาพวกเธอทันทีเลย”
“พวกเรา…”
เซี่ยอวี๋เซิงเปิดปาก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองไม่สามารถมีลูกได้ “พวกเราไม่มีธุระอะไรหรอกครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวรอมู่หลานกลับมาจากฐานทัพก่อนก็ได้”
เมื่อเห็นเซี่ยอวี๋เซิงพูดแบบนั้น ซูหว่านอี๋ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายอีก พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นตามตรง “ก็ได้ เดี๋ยวมู่หลานกลับมาน้าจะบอกให้ว่าพวกเธอมาหา”
เริ่นม่านนีเห็นว่าสามีไม่อยากพูด หล่อนจึงไม่พูดอะไรเช่นกัน สุดท้ายทั้งสองก็กลับไปทันที
ฉินมู่หลานไม่ทราบว่าสองสามีภรรยาคู่นี้กำลังตามหาตัวเองอยู่ ตอนนี้เธอพาลูกทั้งสองคนออกเดินทางไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว
เซี่ยเจ๋อหลี่ทราบว่าพวกเธอจะมา จึงไปรอรับที่สถานีรถไฟตั้งแต่เช้า เมื่อได้เจอภรรยากับลูกทั้งสองคน เขาก็รีบก้าวเดินเข้าไป “มู่หลาน พวกคุณมากันแล้ว”
ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็ดีใจมาก ยิ้มพลางบอกกล่าว “ค่ะ พวกเรามาแล้ว คุณมารอตั้งแต่เมื่อไหร่ รอนานไหมคะ?”
“ไม่เลย ผมรอไม่นานหรอก”
ในตอนนี้ เด็กทั้งสองที่เห็นหน้าเซี่ยเจ๋อหลี่ได้เริ่มตะโกนเรียกอย่างมีความสุข”ปะ…ป๊า…”
ทั้งสองเพิ่งพูดได้เพียงไม่กี่คำ ดังนั้นเมื่อเรียกคน จึงออกมาเพียงทีละพยางค์
แต่ถึงอย่างนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ดีใจมาก เขาใช้แขนแต่ละข้างอุ้มเด็กทั้งสองขึ้นมา แล้วพูดขึ้น “โอ้…ปะป๊าคิดถึงพวกลูกมากเลย”
เหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงคอยเดินตามหลังอยู่ไกล ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนครอบครัว
เซี่ยเจ๋อหลี่เตรียมที่พักให้พวกเธอเรียบร้อยแล้ว หลังจากพามู่หลานกับลูกทั้งสองกลับไปที่บ้านพักครอบครัว ก็พาเหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงไปที่ห้องพักของพวกหล่อน “ครั้งนี้ก้ต้องรบกวนพวกเธออีกแล้ว พวกเธอพักอยู่ที่นี่กันก่อนนะ”
หลังเซี่ยเจ๋อหลี่พาคนไปส่งแล้วก็รีบกลับทันที เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาและลูก ๆ