ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 409 ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว(1)
ตอนที่ 409 ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว(1)
หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาถึงบ้านพักครอบครัว ก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาจึงลองมองหาโดยรอบ ก่อนจะพบว่าลูกทั้งสองคนกำลังนอนหลับ โดยมีฉินมู่หลานคอยนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ พลางอ่านหนังสือไปด้วย
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นแบบนี้ ก็กระซิบถาม “ลูก ๆ หลับไปตั้งแต่ตอนไหนเหรอ?”
“พวกเขาหลับไปตั้งแต่หลังคุณออกไปน่ะ นั่งรถไฟมาตั้งนาน เด็กทั้งคู่ก็คงจะเหนื่อยกันบ้าง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็กล่าวทันที “ถ้าอย่างนั้นปล่อยให้พวกเขานอนสบาย ๆ เถอะ จริงสิมู่หลาน คุณหิวหรือเปล่า?”
ฉินมู่หลานรู้สึกหิวนิดหน่อยจริง ๆ ตอนที่นั่งรถไฟมาเธอไม่ได้กินอะไรเลย “ที่บ้านมีอะไรกินไหมคะ?”
“มี เดี๋ยวผมไปเตรียมบะหมี่มาให้นะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ตรงไปจัดการทำอาหารในห้องครัวทันที หลังจากทำบะหมี่เสร็จเขาก็เดินมาเรียกเธอ “มู่หลาน คุณรีบไปกินเถอะ เดี๋ยวผมดูแลลูก ๆ เอง”
“ค่ะ”
ฉินมู่หลานพยักหน้า แล้วเดินตรงไปที่โถงกินอาหาร ครั้นได้กินบะหมี่ร้อนหนึ่งชามก็รู้สึกว่าจิตวิญญาณได้คืนกลับมา หลังจากล้างจานไม่กี่ใบก็กลับเข้าไปที่ห้องอีกรอบ ก่อนจะมองแล้วพูดกับเซี่ยเจ๋อหลี่ “อาหลี่ คุณจะไปทำธุระอะไรก็ไปเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่มีงาน”
เซี่ยเจ๋อหลี่ส่ายหัว จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “พวกคุณจะอยู่ต่ออีกหลาย ๆ วันเลยได้หรือเปล่า?”
“ได้สิคะ”
ถึงกลับไปก็ไม่มีอะไรให้ทำ ฉินมู่หลานจึงไม่บ่ายเบี่ยงที่จะอยู่ต่อเหมือนกัน นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยให้ลูก ๆ ทั้งสองคนได้มีเวลาอยู่กับพ่อมากขึ้นด้วย
เมื่อได้ฟังแบบนี้ สีหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ดูมีความสุข
“จริงเหรอ ดีจังเลย”
พูดจบเขาก็บอกเล่าเรื่องน่ายินดีอีกเรื่องหนึ่งให้ฟัง “ถ้าพวกคุณอยู่ต่ออีกหลายวันได้ ก็จะได้ไปร่วมดื่มเหล้ามงคลในงานแต่งของเจี่ยงเฉิงได้ด้วย ถึงตอนนั้นพวกเราทั้งครอบครัวก็จะได้ไปด้วยกัน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของฉินมู่หลานก็ดูแปลกใจ
“เจี่ยงเฉิงจะแต่งงานแล้วเหรอ เขาเจอคู่ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ทำไมฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย”
“มันค่อนข้างกะทันหันน่ะ แต่คุณก็รู้จักคู่ของเขานะ หล่อนคือเนี่ยนอันไง”
ในตอนนั้นเอง ฉินมู่หลานก็ตกใจยิ่งขึ้น “พวกเขาสองคนชอบพอกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่เคยเห็นทั้งสองข้องเกี่ยวกันมาก่อนเลยนะ ไม่คิดว่าจะมาแต่งงานกันเสียได้”
“ใช่ ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยข้องเกี่ยวกันเลย เพียงแต่พ่อกับแม่ของทั้งคู่อยากให้พวกเขาเร่งหาคู่ครอง และทั้งคู่ก็ได้ไปทำภารกิจเดียวกันโดยบังเอิญ จึงค่อย ๆ รู้จักและคุ้นเคยกันมากขึ้น หลังจากผ่านไปสักพัก พอทั้งคู่รู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มลงตัว จึงตกลงปลงใจ และกำลังจะแต่งงานกันน่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็พูดพลางพยักหน้า “จริงด้วยค่ะ พวกเขาสองคนเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้พวกเราก็โชคดีจริง ๆ เพราะใกล้จะถึงวันแต่งของพวกเขาแล้ว”
ทั้งสองพูดคุยกันตามสบาย จากนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่ก็พูดถึงที่อยู่ของเหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิง “พวกหล่อนสองคนพักอยู่บ้านใกล้ ๆ นี่เอง ถ้าตอนกลางวันคุณยุ่งมากก็ให้พวกหล่อนมาช่วยได้ ส่วนตอนเย็นผมจะช่วยดูแลลูก ๆ เอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องพวกนี้ฉันทำเองได้ เอาไว้ถ้ายุ่งมากจริง ๆ ฉันจะให้เหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงมาช่วย”
“ได้”
จากนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ถามเกี่ยวกับเติ้งซูหลานและเซี่ยอวี่หรง
ฉินมู่หลานเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับสองคนนั้นให้ฟัง หลังจากนั้นก็บอกว่า “วางใจเถอะค่ะ ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องกังวลหรอก”
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานดูผ่อนคลาย แต่เขาก็ทราบดีว่ามันอาจไม่ง่ายขนาดนั้น
เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ดูทุกข์ใจนิดหน่อย ฉินู่หลานก็รีบยิ้มแล้วบอกกล่าว “พอเถอะค่ะ ไม่ต้องพูดถึงพวกหล่อนแล้ว”
แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยังทุกข์ใจมาก
“อีกไม่กี่ปีเซี่ยอวี่หรงก็จะโดนปล่อยตัวออกมาแล้ว ถึงตอนนั้นเราต้องใส่ใจกันให้มากกว่านี้ เดี๋ยวหล่อนจะกลับมาสร้างปัญหาให้อีก”
มู่หลานกับเซี่ยอวี่หรงมีความแค้นต่อกัน และอีกฝ่ายคงไม่ยอมปล่อยผ่านอย่างแน่นอน
ฉินมู่หลานบอกพร้อมรอยยิ้ม “วางใจเถอะค่ะ ฉันจะใส่ใจให้มากขึ้นแน่นอน อีกต้องสองปีกว่าเซี่ยอวี่หรงจะโดนปล่อยตัวออกมา ตอนนี้คุณก็อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย”
หลังจากพูดจบ ฉินมู่หลานก็บอกความลับอีกเรื่องให้เซี่ยเจ๋อหลี่ฟัง “อาหลี่ ฉันมีเรื่องจะเล่าให้คุณฟัง คุณต้องคิดไม่ถึงแน่ค่ะ”
“อะไรเหรอ?”
เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของฉินมู่หลาน เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย
“พ่อบุญธรรมกับปิงชิงชอบพอกันแล้วล่ะค่ะ”
เซี่ยเจ่อหลี่ได้ยินแบบนี้ ก็อดพูดไม่ได้ “เรื่องนี้ผมรู้อยู่แล้วล่ะ พ่อบุญธรรมกับปิงชิงชอบพอกันมานานแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เหมือนกันนะ ฉันเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าปิงชิงอยากรับมือกับทางบ้าน ก็เลยใช้พ่อบุญธรรมมาเป็นตัวช่วย แต่ตอนนี้มันกลับไม่เหมือนเดิม ฉันลองสังเกตพ่อบุญธรรมอย่างละเอียดแล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ทั้งสองจะทำอย่างไร”
คราวนี้เซี่ยเจ๋อหลี่รู้สึกแปลกใจมากจริงๆ
“คุณแน่ใจเหรอ?”
ฉินมู่หลานพูดพลางหัวเราะ “ฉันแน่ใจอยู่แล้วค่ะ สายตาที่พ่อบุญธรรมมองปิงชิงมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”
แม้ว่าอายุของเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงจะต่างกันค่อนข้างมาก แต่เซี่ยเจ๋อหลี่คิดว่าเจี่ยงสือเหิงนั้นสุดยอดมากจริง ๆ เขาจึงอดพูดไม่ได้ “พ่อบุญธรรมเป็นคนจริงจังอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหากเขาอยากอยู่กับปิงชิงจริง เขาก็จะทำให้เป็นกิจลักษณะแน่นอน”
“ใช่ค่ะ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
ตอนแรกเซี่ยเจ๋อหลี่มีเรื่องจะคุยกับฉินมู่หลานมากมาย แต่ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ฉินมู่หลานกลับดูง่วงนิดหน่อย เขาจึงให้เธอนอนพักผ่อนกับลูก ๆ ทั้งสองคน
ครั้งนี้ฉินมู่หลานนอนหลับสนิทมาก เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดแล้ว และเซี่ยเจ่อหลี่ก็กำลังเล่นกับลูกของพวกเขา
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าฉินมู่หลานตื่นแล้ว จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน ผมเตรียมอาหารเย็นไว้ให้คุณแล้ว คุณรีบมากินเถอะ ผมกับลูก ๆ กินกันเรียบร้อยแล้ว”
เด็กทั้งสองเห็นฉินมู่หลาน ก็รีบอ้าแขนออก ก่อนจะยิ้มแล้วพูดขึ้น “หม่า…ม้า…”
ฉินมู่หลานเข้าไปอุ้มเด็กทั้งสองแล้วพาเดินเล่นไปรอบ ๆ สักพัก หลังจากไปกินข้าวแล้ว ทั้งสี่คนก็ได้มีเวลาในค่ำคืนอันแสนสุขที่บ้านพักครอบครัวในคืนแรก
เมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงก็มาหา
ฉินมู่หลานเห็นทั้งสองคน จึงอดพูดไม่ได้ “ไม่ใช่ว่าให้พวกเธอพักผ่อนกันสบาย ๆ หรอกหรือ ทำไมถึงมานี่ได้ล่ะ”
เหวินเฉียนเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน “พี่สะใภ้ พวกเรามาช่วยพี่สะใภ้ค่ะ พวกเราไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”
ชุยเสี่ยวผิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นเหมือนกัน “ใช่ค่ะพี่สะใภ้ พวกเรามาช่วยดูแลเด็ก ๆ พี่สะใภ้จะได้ไม่เหนื่อย ถ้าต้องดูแลสองคนนี้ตัวคนเดียว พี่คงเหนื่อยมากแน่ค่ะ”
ตอนแรกฉินมู่หลานอยากให้พวกหล่อนกลับไปพักผ่อน เพียงแต่ทั้งสองเริ่มลงมือช่วยดูแลเด็ก ๆ แล้ว
เมื่อเห็นแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดส่ายหัวเสียไม่ได้ แต่เมื่อคิดว่าจะอยู่ที่นี่ไปอีกสักพัก เธอจึงอยากออกไปซื้อของสักหน่อย “เหวินเฉียน เสี่ยวผิง ถ้าอย่างนั้นฉันรบกวนพวกเธอดูแลเด็ก ๆ หน่อยนะ ฉันจะออกไปซื้อของสักหน่อย จะซื้อเผื่อพวกเธอด้วยเหมือนกัน”
“ค่ะ ถ้าอย่างต้องลำบากพี่สะใภ้แล้วค่ะ”
ฉินมู่หลานหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองแล้วออกไปทันที เธอเดินออกไปแถวละแวกนั้นด้วยความเคยชินและซื้อของมากมาย เมื่อกลับมาถึงก็พบเวินเนี่ยนอันเข้าโดยบังเอิญ
เวินเนี่ยนอันเห็นฉินมู่หลาน จึงรีบเดินตรงเข้ามาทักทาย “พี่สะใภ้ คุณมาแล้ว”