ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 429 สำเร็จแล้ว(1)
ตอนที่ 429 สำเร็จแล้ว(1)
เซี่ยเหยียนซุ่นได้ยินสิ่งที่ฉินมู่หลานพูด คิ้วจึงขมวดนิดหน่อย ในทางกลับกันเซี่ยฉางเจี๋ยกลับตอบตกลงทันที “ได้ ขอเพียงแค่ทำให้การร่วมมือของตระกูลหยวนกับทางกองทัพไม่สำเร็จ พวกเราจะให้พ่อบุญธรรมของเธอกับปิงชิงหมั้นกันทันที”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็รู้สึกสุขใจขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างพวกเราตกลงกันตามนี้นะคะ” ตอนนี้เธอมีเพียงความคิดเดียว นั่นคือการทำให้โม่คุนยอมตกลงร่วมมือกับตัวเองเท่านั้น ตระกูลหยวนก็จะต้องลำบากใจกับเขา
ผู้อาวุโสเห็นว่าลูกชายยอมตกลงแล้ว เขาจึงถอนหายใจ แล้วเอ่ย “ได้ ถ้าอย่างนั้นก้ตกลงตามนี้ แต่ว่า…ปู่ขอถามหน่อย เธอจะหยุดการตกลงร่วมมือของโม่คุนกับตระกูลหยวนได้ยังไง”
“ง่ายมากค่ะ ยาตัวใหม่ที่ตะกูลหยวนจะใช้เปิดตัวในครั้งนี้คือยารักษาโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง บังเอิญว่าฉันเองก็มีสูตรยารักษาโรคนี้อยู่เหมือนกัน ขอเพียงแค่ทำให้สูตรยาได้ประสิทธิภาพมากกว่าของตระกูลหยวน เช่นนั้นโม่คุนก็จะหันมาร่วมมือกับฉันแทน”
ผู้อาวุโสกับเซี่ยฉางเจี๋ยได้ยินแบบนี้ ก็ต่างพากันขมวดคิ้วขึ้น
“อะไรนะ…ถ้าเธอจะใช้วิธีแบบนี้ในการต้าน ถึงแม้ตระกูลหยวนจะเพิ่งเติบโตมาในช่วงสิบปีนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสามารถทางเภสัชศาสตร์ของพวกเขาค่อนข้างดีเลยนะ เธอจะแน่ใจได้ยังไงว่ายาของเธอดีกว่าของตระกูลหยวน”
“พวกคุณปู่ไม่สงสัยเหรอคะว่าฉันรู้จักโม่คุนได้ยังไง?”
เซี่ยฉางเจี๋ยเคยตั้งคำถามนี้มาก่อน ตอนนี้เมื่อได้ยินฉินมู่หลานพูดเรื่องนี้ออกมาเองแล้ว จึงเอ่ยถามตาม “ฉันก็อยากรู้มากเลยว่าเธอรู้จักโม่คุนได้อย่างไร จากที่ทราบมา โม่คุนไม่ได้ข้องเกี่ยวกับตระกูลเซี่ยที่ปักกิ่งเลย”
“เป็นเพราะฉันเคยร่วมงานกับเขามาก่อนค่ะ พวกคุณอาทราบกันใช่ไหมคะว่าฉันเคยพัฒนาตัวยาพิเศษหลายชนิด จริง ๆ แล้วนอกจากยาพวกนั้น ฉันก็ได้พัฒนายาที่ใช้เฉพาะในกองทัพด้วยค่ะ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราได้รู้จักกัน”
“อะไรนะ…เธอเคยร่วมงานกับกองทัพมาแล้วหรือ?”
แม้แต่ผู้อาวุโสก็หันไปมองด้วยความแปลกใจ
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วบอกกล่าวตามตรง “ใช่ค่ะ เคยร่วมมือกันมาก่อนแล้ว ตอนแรกฉันไปอยู่ที่บ้านพักของอาหลี่ จึงได้รู้จักหมอในโรงพยาบาลทหาร หลังจากนั้นก็เริ่มร่วมงานกับพวกเขาค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ผู้อาวุโสกับเซี่ยฉางเจี๋ยก็ได้ทราบเรื่องราวของฉินมู่หลานเพิ่มเติม ปรากฎว่าก่อนหน้านี้เธอเคยร่วมงานกับทางกองทัพมาก่อนแล้ว
ทำไมหญิงสาวคนนี้จึงไม่ใช่เชื้อสายตระกูลของพวกเขากันนะ แต่กลับมาจากตระกูลทางปักกิ่งแทน
เมื่อนึกถึงเรื่องที่พวกตระกูลทางปักกิ่งเคยทำ เซี่ยฉางเจี๋ยก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจมากขึ้นเท่านั้น ตระกูลที่แสนวุ่นวายขนาดนั้นยังมีลูกสาวที่ความสามารถโดดเด่นได้ พวกเขาเป็นตระกูลหลักเหตุใดจึงไม่มีบ้าง
ผู้อาวุโสก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อยเช่นกัน ถึงแม้ต่างใช้สกุลเซี่ยกันหมด แต่ตระกูลรองกับตระกูลหลักของพวกเขาแยกจากกันมานานแล้ว ปัจจุบันจะไปมาหาสู่กันแค่ช่วงวันปีใหม่ซึ่งเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น
ฉินมู่หลานไม่ทราบว่าทั้งสองกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงทำเพียงยิ้มแล้วกล่าวขึ้น “เป็นเพราะฉันโชคดีด้วยค่ะ ก่อนหน้านี้จึงได้มีโอกาสหารือและร่วมมือกับรัฐมนตรีโม่ ในครั้งนี้ฉันเองก็มั่นใจในตัวยาของฉัน เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีโม่ไม่ตกลงร่วมมือกับตระกูลหยวนแน่นอนค่ะ”
ตอนแรกเซี่ยเหยียนซุ่นกับเซี่ยฉางเจี๋ยยังมีข้อกังขาในตัวฉินมู่หลาน แต่ตอนนี้ทั้งสองเชื่อใจเธออย่างมาก
“ดี ถ้าอย่างนั้นฝากเป็นหน้าที่เธอด้วยนะ ตระกูลเซี่ยของเราโดนตระกูลหยวนตามไล่บี้มาหลายสิบปีแล้ว ครั้งนี้ก็หวังแค่ว่าจะได้มีเวลาหายใจหายคอมากขึ้นหน่อย เพราะถ้าเรื่องยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ตระกูลเซี่ยแห่งซีอานของพวกเราต้องตกที่นั่งลำบากมากขึ้นแน่”
ฉินมู่หลานครุ่นคิดอยู่สักพักเมื่อได้ยินแบบนี้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถ้าฉันตกลงร่วมมือกับรัฐมนตรีโม่ได้ ฉันก็สามารถเขียนสูตรยาทิ้งเอาไว้ให้พวกคุณปู่ที่นี่ได้ ให้พวกคุณปู่ได้มีชื่อเข้าร่วมกับกองทัพ”
เมื่อเห็นฉินมู่หลานพูดแบบนั้น ผู้อาวุโสกับเซี่ยฉางเจี๋ยก็พากันหันมองด้วยความไม่อยากเชื่อ ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจึงจะทำเช่นนี้ ใจกว้างจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าจะเขลาแล้ว
ฉินมู่หลานทำแบบนี้ย่อมมีจุดประสงค์ของเธอ
“พวกคุณปู่ตกลงแล้วใช่หรือคะว่าจะให้พ่อบุญธรรมกับปิงชิงได้หมั้นหมายกัน คำขอของฉันง่ายมากนะคะ เพียงแค่พวกคุณปู่ให้พวกเขาได้หทั้นหมายกันในตอนนี้ เช่นนั้นฉันก็จะหาทางให้พวกคุณปู่ได้ตกลงร่วมมือกับโม่คุนได้ พวกคุณปู่ไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่รอมอบสูตรยาให้กับทางกองทัพเท่านั้นก็พอค่ะ”
สายตาของเจี่ยงสือเหิงที่จ้องมองเซี่ยปิงชิงนั้นดูเอาอกเอาใจมาก เห็นได้ชัดเจนว่าเขาใส่ใจเซี่ยปิงชิงขนาดไหน
แต่ดูเหมือนว่าเซี่ยปิงชิงจะยังไม่เข้าใจ ดังนั้นมู่หลานจึงอยากจะผลักดันไปอีกก้าว ให้ทั้งสองได้ลองหมั้นหมายกันก่อน หากสุดท้าย ปิงชิงไม่มีความรู้สึกกับพ่อบุญธรรมของเธอจริง เมื่อถึงตอนนั้นก็ยังยุติการหมั้นหมายได้ แต่หากทั้งสองได้แต่งงานกันจริง ๆ เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
สรุปได้ว่า เธอพยายามทำงานหนักเพื่อพวกเขาทั้งสองคน
แต่ผู้อาวุโสกับเซี่ยฉางเจี๋ยต่างรู้สึกแปลกใจ
พวกเขาไม่คาดคิดว่าข้อตกลงของฉินมู่หลานจะเรียบง่ายขนาดนี้ ตอนแรกพวกเขาสัญญากับเธอไว้ว่าขอเพียงเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะให้เจี่ยงสือเหิงกับปิงชิงได้หมั้นหมายกัน จนถึงตอนนี้ข้อตกลงก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ข้อตกลงทั้งหมดมีเพียงเท่านั้น
แต่เรื่องนี้ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเจี่ยงสือเหิงเป็นพ่อบุญธรรมคนสำคัญของฉินมู่หลาน
“ได้ พวกเราตกลงอยู่แล้ว แต่พวกเราจะไม่เอาเปรียบจนเธอเสียประโยชน์หรอกนะ หากโม่คุนอนุมัติเรื่องยาตัวใหม่ของเธอจริง เช่นนั้นตระกูลของเราก็จะร่วมมือกับเธอ ขอเพียงแค่ตระกูลเซี่ยของเราได้มีชื่อ ส่วนอย่างอื่นที่เหลือเป็นของเธอหมดเลย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนว่าทั้งผู้อาวุโสและเซี่ยฉางเจี๋ยต่างก็เป็นคนรู้ได้ถึงความผิดชอบ เธอพูดเช่นนั้นไปแล้ว พวกเขากลับเสนอเรื่องนี้ออกมาอีก เพียงแต่ตอนนี้เรื่องยังไม่จบ เธอจึงยิ้มแล้วบอกกล่าว “ฉันจะกลั่นยาอยู่ทางลานหลังบ้านในสองสามวันนี้ แล้วจะรอส่งไปให้รัฐมนตรีโม่ตรวจสอผล และรอคำตอบรับจากเขาค่ะ”
เซี่ยเหยียนซุ่นกับเซี่ยฉางเจี๋ยพยักหน้าเมื่อได้ยินแบบนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเชื่อใจในตัวฉินมู่หลาน แต่ตอนนี้งานก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย
เซี่ยฉางเจี๋ยจึงบอกกล่าวตามตรง “เธอต้องการอะไร ก็มาบอกเราได้เลยนะ พวกเราอยู่ตรงนี้มีทุกอย่างพร้อมให้เธอ”
ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เธอยิ้มแล้วพยักหน้าตอบกลับ “ค่ะ เดี๋ยวฉันขอจดรายการของที่ต้องใช้ก่อนนะคะ”
ฉินมู่หลานเขียนสิ่งของที่ต้องใช้เต็มหน้ากระดาษ จากนั้นก็ส่งไปให้เซี่ยฉางเจี๋ยแล้วบอกกล่าว “คุณอาเซี่ยคะ ช่วยเตรียมของพวกนี้ให้พร้อมโดยเร็วที่สุดนะคะ”
“ได้ เดี๋ยวอาไปเตรียมให้ตอนนี้เลย”
ตอนนี้เซี่ยฉางเจี๋ยรู้สึกรีบร้อน อยากจะแย่งชิงการร่วมมือระหว่างตระกุลหยวนกับโม่คุนใจแทบขาด
หลังจากเซี่ยฉางเจี๋ยรีบวิ่งออกไปแล้ว ฉินมู่หลานก็หันมองเซี่ยเหยียนซุ่นแล้วบอกกล่าว “ผู้อาวุโสคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ได้”
เฝ้ามองร่างของฉินมู่หลานกำลังเดินจากไป เซี่ยเหยียนซุ่นก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ชีวิตช่างโหดร้ายนัก”
เมื่อฉินมู่หลานกลับมาถึงบริเวณลานบ้านด้านหลัง เธอก็รีบตรงไปหาเจี่ยงสือเหิงทันที
เจี่ยงสือเหิงเห็นฉินมู่หลาน ก็อดพูดพร้อมรอยยิ้มไม่ได้ “มู่หลานกลับมาแล้ว รัฐมนตรีโม่กลับไปแล้วเหรอ?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วเอ่ย “ใช่ค่ะ กลับไปเรียบร้อยแล้ว แต่ที่มาหาเพราะมีเรื่องจะบอกพ่อค่ะ”
ขณะพูดเธอก็เล่าเรื่องข้อตกลงของเธอกับผู้อาวุโสและเซี่ยฉางเจี๋ย หลังจากนั้นจึงกล่าวต่อ “พ่อคะ พ่อคิดว่ายังไงบ้างคะ?”
เจี่ยงสือเหิงคิ้วขมวดนิดหน่อย ก่อนจะพูดขึ้น “ถึงแม้จะเป็นแค่การหมั้น แต่พ่อก็อยากให้ปิงชิงตอบตกลงเอง ไม่ใช่บังคับเป็นข้อตกลงจากทางครอบครัว ที่สั่งให้หล่อนหมั้นกับพ่อ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เสนอเงื่อนไขมาแบบนี้ก็เท่ากับว่าได้ประโยชน์หลายต่อเลย แผนการร้ายกาจมากมู่หลาน
ไหหม่า(海馬)