ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 447 ย้ายไปบ้านใหม่(2)
ตอนที่ 447 ย้ายไปบ้านใหม่(2)
ฉินมู่หลานมองลุงเจี่ยงด้วยความสงสัยนิดหน่อย เธอรู้สึกว่าวันนี้ลุงเจี่ยงมีความสุขมากเสียจนมองเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าไปเจอเรื่องดีอะไรมา
ตอนนี้เฉินเซี่ยวอวิ๋นก็อดถามไม่ได้ “มู่หลาน ลูก ๆ ทั้งสองคนของเธอล่ะ พวกฉันยังไม่เคยเจออย่างเป้นทางการเลย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ยืนขึ้นพร้อมรอยยิ้มพลางบอกกล่าว “พวกเขาอยู่ทางลานบ้านด้านหลัง เดี๋ยวฉันไปเรียกพวกเขามาก่อน”
พูดจบเธอก็ตรงไปที่ลานบ้านด้านหลังทันที แต่ระหว่างทางก็พบลุงเจี่ยงก่อน จึงอดถามเพิ่มเติมไม่ได้ “ลุงเจี่ยงคะ ลุงดูมีความสุขจังเลย มีเรื่องอะไรดี ๆ หรือเปล่าคะ”
ลุงเจี่ยงเห็นว่าเป็นฉินมู่หลาน จึงรีบเดินเข้ามาหา ก่อนจะเล่าเรื่องเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงด้วยสีหน้าตื่นเต้น ซ้ำยังบอกด้วยว่าทั้งสองกำลังออกไปซื้อเค้กหอมหมื่นลี้ด้วยกัน จากนั้นจึงกล่าวต่อ “นายน้อยหมั้นแล้ว เรื่องแต่งงานก็คงอีกไม่นานแล้วครับ”
“จริงเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีมาก”
ฉินมู่หลานไม่คิดว่าจะมีเรื่องน่าประหลาดใจแบบนี้ เธอรู้สึกขอบคุณเกาซุนชิวเหลือเกิน หากไม่ใช่เพราะหล่อนพูดถึงพ่อบุญธรรมมากมาย ปิงชิงก็อาจยังไม่เข้าใจความรู้สึกที่มีให้พ่อบุญธรรม “เย็นนี้สามารถเพิ่มเมนูอื่นได้นะครับ เพื่อเป็นการฉลองสักหน่อย”
“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ฉันจะให้อาจารย์จินได้แสดงฝีมือ ทำมื้อเย็นสุดหรูหราไปเลย”
ฉินมู่หลานก็รู้สึกดีใจกับเจี่ยงสือเหิงเหมือนกัน หลังจากพูดคุยกับลุงเจี่ยงอีกไม่กี่คำก็เดินไปถึงหลังบ้าน เมื่อเห็นว่าซูหว่านอี๋อยู่ที่นั่นด้วย ก็รีบแจ้งข่าวดีให้เธอทราบ “แม่ หนูว่าความสัมพันธ์ของพ่อบุญธรรมกับปิงชิงจะดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกไม่นานทั้งสองอาจจะแต่งงานกันแล้วค่ะ”
ซูหว่านอี๋ได้ยินแบบนี้ ก็รีบถามด้วยความสงสัย “จริงเหรอ หรือว่าพวกเขาสองคนกำลังคุยเรื่องแต่งงานกันอยู่?”
เมื่อนึกได้ว่าพวกแม่ไม่ได้ทราบเรื่องราวก่อนหน้านี้ด้วย ฉินมู่หลานจึงไม่ได้อธิบายรายละเอียด เพียงแค่เล่าว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นเท่านั้น “ตั้งแต่ปิงชิงกับพ่อบุญธรรมหมั้นกัน ทั้งคู่ก็หวานกันมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังออกไปซื้อเค้กหอมหมื่นลี้ด้วยกัน”
หลังจากพูดแบบนั้น เธอก็แอบบอกแม่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ด้วย
“แปะๆ…”
ซูหว่านอี๋พลันมีความสุข “ดูไม่ออกเลยว่าปิงชิงจะหึงแรงขนาดนั้น”
แต่เมื่อคิดว่าเจี่ยงสือเหิงหมั้นแล้ว และบ้านใหม่ก็ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงอดหันไปมองฉินมู่หลานเสียไม่ได้ แล้วกล่าวขึ้น “มู่หลาน พวกเราจะย้ายไปบ้านใหม่กันตอนไหนเหรอ?”
อันที่จริงเมื่อไม่นานมานี้ฉินมู่หลานก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน บ้านใหม่ปรับปรุงเสร็จได้สักพักหนึ่งแล้ว พวกเขาสามารถย้ายเข้าได้แล้ว เธอจึงพยักหน้าแล้วกล่าว “ค่ะ พวกเราแค่หาฤกษ์ดี ถึงเวลาก็ย้ายเลยก็ได้ค่ะ”
“อื้ม ถ้าตัดสินใจแล้ว พวกเราก็ไปบอกสือเหิง แล้วค่อยบอกพ่อกับพ่อสามีลูกด้วย”
หลังจากทั้งสองคุยกันสักพัก ฉินมู่หลานก็พาเด็กทั้งสองคนไปหน้าบ้าน
“หม่าม้า…ไป…”
เด็กทั้งสองเอ่ยเรียกหาคนอื่นเก่งมากแล้ว แต่ยังพูดได้ไม่ค่อยคล่องนัก จึงพูดได้เพียงไม่กี่คำเท่านั้น
ฉินมู่หลานเข้าใจความหมายนี้ จึงหันมองลูกสาวพร้อมรอยยิ้มแล้วพูดขึ้น “หม่าม้าจะพาพวกลูกไปหน้าบ้าน ที่นั่นมีเพื่อนร่วมห้องของหม่าม้าอยู่ เป็นคุณน้าของพวกลูกทุกคนเลย แล้วก็มีพี่คนเล็กอีกหนึ่งคนด้วย พวกลูกเล่นกับเขาได้นะ”
“น้า…พี่…”
ชิงชิงกับเฉินเฉินต่างตะโกนเรียก
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ชิงชิงกับเฉินเฉินของพวกเรานี่น่ารักจริง ๆ”
หลังจากเธอพาลูกทั้งสองคนมาถึงแล้ว เหมาชุนเถากับพวกเฉินเซี่ยวอวิ๋นก็ต่างเข้ามารุมล้อม แม้แต่เกาซุนชิวก็อดมองมากขึ้นไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “มู่หลาน เธอนี่โชคดีจังเลย ได้ลูกแฝดมังกรหงส์ และเด็กทั้งสองก็น่ารักขนาดนี้อีก”
“ขอบคุณนะ”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วเอ่ยขอบคุณ
ชิงชิงกับเฉินเฉินก็รับรู้ได้เหมือนกัน เมื่อได้เห็นคุณน้าแสนสวยมากมาย จึงตะโกนขึ้นด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว หวานละมุน ถึงอย่างไรพวกหล่อนก็เป็นน้าอยู่แล้ว ถือว่าพวกเขาไม่ได้เรียกผิด
เหมาชุนเถาในฐานะแม่ได้เห็นก็ใจแทบละลาย หล่อนแนะนำจี๋เซียงน้อยให้รู้จักกับเด็กทั้งสอง แล้วบอกกล่าว “ชิงชิง เฉินเฉิน นี่คือพี่ชายจี๋เซียง พวกหลานเล่นด้วยกันได้นะ”
“พี่…ชาย…”
เด็กน้อยก็ชอบพวกเด็ก ๆ มาก เด็กทั้งสองจึงเข้าไปเริ่มเล่นกับจี๋เซียงทันที
สือหยวนฝูไม่ได้ชอบเด็กมากนัก แต่เมื่อได้เห็นลูกทั้งสองของฉินมู่หลานก็กลับพบว่าชอบมากเช่นกัน แน่นอนว่าเด็ก ๆ จะมีเสน่ห์มากขึ้นหากสวยน่ารัก แต่หล่อนก็ชอบจี๋เซียงน้อยเหมือนกัน เพราะเด็กคนนั้นเป็นเด็กดีมาก
“มู่หลาน ชุนเถา วันนี้กะทันหันมาก ไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้พวกเด็ก ๆ เลย เดี๋ยวเอามาให้พวกเด็ก ๆ ทีหลังนะ”
เหมาชุนเถาได้ยินสือหยวนฝูพูดแบบนี้ ก็รีบเอ่ย “หยวนฝู พวกเธอเองก็ทำให้มากพอแล้ว ยังจะต้องให้ของขวัญอะไรอีก ของขวัญให้เด็ก ๆ อะไร เธอไม่ต้องให้แล้ว”
สือหยวนฝูได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วบอกกล่าว “แน่นอนว่าพวกเราสนิทกัน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องให้ไง คนอื่นก็คงไม่มาให้หรอก”
เฉินเซี่ยวอวิ๋นกับเกาซุนชิวก็ต่างพยักหน้าเช่นกัน “ใช่แล้ว พวกเราไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าเหมือนกัน”
หลายคนนั่งพูดคุยหัวเราะด้วยกัน และเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงก้กลับมาจากข้างนอกกันแล้ว พวกเขาซื้อของมามากมาย นอกจากนี้ยังซื้อบางอย่างมาฝากฉินมู่หลานและคนอื่นโดยเฉพาะด้วย
ฉินมู่หลานสังเกตด้วยตาเปล่าได้ว่าพ่อบุญธรรมกับเซี่ยปิงชิงสนิทกันมาก ทั้งสองคนกลายเป็นคู่รักกันจริง ๆ แล้ว เมื่อเห็นแบบนี้เธอก็รู้สึกดีใจมาก จึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เอาล่ะ พวกเราลองชิมกันเถอะ”
“ถ้าอย่างนั้นพวกลูกคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวถึงเวลากินข้าวเย็น พ่อจะให้ลุงเจี่ยงมาเรียก”
เจี่ยงสือเหิงพูดจบก็จับมือเซี่ยปิงชิงแล้วเดินจากไป
เซี่ยปิงชิงยังรู้สึกเขินนิดหน่อย เพราะมู่หลานกับคนอื่นที่อยู่ข้างหลังยังคงมองมา แต่หล่อนก็ได้ค้นพบว่า เจี่ยงสือเหิงไม่อายเลยสักนิด ไม่ยอมปล่อย แถมยังพาหล่อนเดินไปทั้งแบบนี้
ฉินมู่หลานเห็นภาพนี้ แววตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อถึงเวลากินอาหารเย็น ลุงเจี่ยงก็มาเรียก หลายคนก็ลุกตามกันไป เมื่อเหมาชุนเถากับคนอื่น ๆ เห็นว่าพวกทุกคนในครอบครัวอยู่ที่นี่หมด จึงรีบเอ่ยทักทายทุกคนอีกครั้ง หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ก็รีบกลับกันทันที
ฉินมู่หลานเดินไปส่งคนที่หน้าประตูใหญ่ หลังจากกลับมาก็เริ่มพูดคุยกับเจี่ยงสือเหิงเรื่องที่จะย้ายไปอยู่บ้านใหม่
เจี่ยงสือเหิงได้ยินแบบนี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ
“ทำไมจะย้ายออกกันเร็วขนาดนั้น”
เซี่ยปิงชิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวตาม “ใช่แล้วมู่หลาน พวกเธออยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อยเถอะ”
คนมากวุ่นวาย หล่อนเคยชินกับการอาศัยอยู่กับทุกคนไปแล้ว
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้จึงยกยิ้มแล้วกล่าว “บ้านใหม่ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปล่อยทิ้งเอาไว้จนแห้งนานแล้ว จริง ๆ พวกเราต้องย้ายไปอยู่ตั้งนานแล้วค่ะ”
ซูหว่านอี๋ก็กล่าวตาม “ใช่แล้ว ที่ปรับปรุงบ้านก็เพื่อจะย้ายเข้าไปอยู่ ตอนนี้ก็เสร็จแล้ว”
เหยาจิ้งจือกับคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะบ้านเสร็จแล้ว ก็ต้องมีคนไปอยู่อาศัยอยู่แล้ว
ฉินมู่หลานก็ทราบดีว่าเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงไม่ค่อยอยากให้พวกเธอไป เธอจึงรีบเอ่ยสัญญา “พ่อคะ พวกพ่อวางใจ ถ้ามีเวลาว่าง พวกเราจะมาหาค่ะ”
“ใช่แล้ว พวกเรามีเวลาจะมาหา”
หลายคนก็บอกกล่าวตาม
เจี่ยงสือเหิงก็ทราบดีว่าต้องมีวันที่งานเลี้ยงเลิกรา จึงได้แต่ถอนหายใจแล้วเอ่ย “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็แวะมานั่งเล่นกันบ่อย ๆ นะ”
“ค่ะ”
เมื่อตกลงเรื่องการย้ายเรียบร้อยแล้ว ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือช่วยกันหาวันฤกษ์งามยามดี และได้กำหนดการเป็นวันที่ยี่สิบเอ็ดกันยายน
…………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ก็ต้องปล่อยให้คู่หมั้นต่างวัยเขาได้อยู่กันเงียบๆ อะนะ
ไหหม่า(海馬)