ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 456 ความสุขเปี่ยมล้น
ตอนที่ 456 ความสุขเปี่ยมล้น
เมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เสียงดัง ฉินมู่หลานก็โล่งใจ จากนั้นก็รีบก้าวไปข้างหน้า เมื่อทำความสะอาดแล้วห่อตัวเด็กเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปอุ้มอย่างระมัดระวัง หลังตรวจจับชีพจรของเด็กแล้วยืนยันว่าไม่มีปัญหาใด เธอก็โล่งใจได้อย่างแท้จริง
“มู่หลาน…”
ตอนนี้เสิ่นหรูฮวนอ่อนแรงไปหมด แต่เมื่อมองเห็นฉินมู่หลานกำลังอุ้มลูกตัวเอง จึงอดเรียกไม่ได้
ฉินมู่หลานได้ยินแล้วก็รีบเข้าไปหาพร้อมเด็กในอ้อมแขน
“หรูฮวน เป็นเด็กผู้ชายที่สุขภาพแข็งแรงมาก เธอทำงานหนักมากเลยนะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เสิ่นหรูฮวนก็โล่งใจ “จริงเหรอ ดีจังเลย”
เมื่อเห็นสีหน้าของเสิ่นหรูฮวนเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ฉินมู่หลานก็รีบพูด “หรูฮวน ถ้าเธอเหนื่อยก็รีบพักเถอะ ฉันอุ้มเด็กเอง เดี๋ยวเราออกไปข้างนอกกัน”
“อื้ม ได้”
เสิ่นหรูฮวนรู้สึกหมดแรงจริง ๆ ตอนนี้ยังลุกไม่ได้ จึงโดนเข็นออกมาจากห้องคลอด และฉินมู่หลานก็ออกไปพร้อมกับเด็กในอ้อมแขน
ถงทิงผิงเห็นลูกสาวถูกเข็นออกมาทั้งที่หลับตาอยู่ก็รู้สึกหวาดกลัวไปหมด รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างร้อนใจ สีหน้าของเสิ่นเจิ้นอวี่กับเสิ่นหรูฮุ่ยก็ดูเศร้าหมองเหมือนกัน
ตอนแรกฉินมู่หลานยังไม่ได้ตอบสนอง แต่ไม่นานก็ตระหนักถึงความกังวลของตระกูลเสิ่นได้ จึงรีบกล่าวทันที “ทุกคนไม่ต้องกังวลนะคะ หรูฮวนแค่เหนื่อยมากก็เลยหลับไป หล่อนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เด็กก็สุขภาพแข็งแรงมาก ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมแขนฉันค่ะ ทุกคนเข้ามาดูได้นะคะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ถงทิงผิงก็รู้สึกเหลือเชื่อนิดหน่อย รีบมองฉินมู่หลานแล้วเอ่ยถาม “มู่หลาน หรูฮวนกับลูกไม่เป็นไรจริงเหรอ?”
“คุณน้าวางใจค่ะ พวกเขาสองแม่ลูกปลอดภัยดี ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
ในตอนนั้นเอง หมอที่เดินตามหลังฉินมู่หลานก็กล่าวเช่นกัน “วางใจค่ะ ทั้งแม่และลูกปลอดภัยดี พวกคุณรีบพาพวกเขาไปที่ห้องพักฟื้นเถอะค่ะ”
“ได้ ๆพวกเราจะรีบกลับไปห้องพักฟื้น”
ตอนนี้ตระกูลเสิ่นต่างโล่งใจหมดแล้ว
เซี่ยปิงหรุ่ยกับเซี่ยปิงชิงเห็นว่าเสิ่นหรูฮวนไม่เป็นไรก็ต่างพากันโล่งใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทของมู่หลานเสียอีก
หลังจากคนกลุ่มหนึ่งมาถึงห้องพักฟื้นผู้ป่วยแล้ว ตระกูลเสิ่นก็มีโอกาสได้มองดูเด็กน้อย
“มู่หลาน เธอเพิ่งบอกว่าแม่ลูกปลอดภัย แล้วหรูฮวนของเราได้ลูกชายใช่ไหม”
เมื่อได้ยินถงทิงผิงถามแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ยิ้มแล้วพยักหน้าก่อนจะเอ่ย “ใช่ค่ะ หรูฮวนได้ลูกชาย ถึงแม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนดสิบวัน แต่เด็กแข็งแรงมากเลยค่ะ”
พูดจบก็รีบส่งเด็กไปให้
ถงทิงผิงรีบรับเอาไว้อย่างระมัดระวัง เมื่อมองเด็กน้อยในอ้อมแขนแล้ว แววตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ดีจังเลย เด็กไม่เป็นไร หรูฮวนก็ไม่เป็นไร”
หลังจากพูดจบ ถงทิงผิงก็อดแววตาแดงก่ำไม่ได้ “เรื่องครั้งนี้อันตรายมาก แต่ก็โชคดีที่มู่หลานมา ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ว่าจะคลอดได้ราบรื่นไหม”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ฉินมู่หลานก็ถือโอกาสถาม “น้าถงคะ ฉันเพิ่งตรวจชีพจรให้หรูฮวนไป แล้วพบว่าได้รับแรงกระทบกระเทือนจากภายนอก นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”
สีหน้าของถงทิงผิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
จากนั้น ถงทิงผิงก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอีกครั้ง
ปรากฎว่าเพื่อจะให้คลอดง่าย ถงทิงผิงจึงพาเสิ่นหรูฮวนออกไปเดินเล่นข้างนอกทุกวัน แต่วันนี้กลับไปเจอคุณนายฟู่ และดูเหมือนว่าคุณนายฟู่จะไม่ยอมปล่อยวางความคิดที่จะให้หรูฮวนกลับไปคลอดที่บ้านตระกูลฟู่ วันนี้จึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง
นอกจากเป็นเพราะคุณนายฟู่แล้ว หล่อนยังมาพร้อมกับหลานสาวซึ่งเป็นญาติทางฝั่งแม่ ผู้หญิงคนนั้นมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี คอยสุมไฟอยู่ข้าง ๆ ตลอด ทำให้คุณนายฟู่เริ่มไม่พอใจเสิ่นหรูฮวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งฝ่ายถงทิงผิงก็ต้องโกรธเป็นธรรมดาอยู่แล้ว จึงมีปากเสียงกับคุณนายฟู่ โดยไม่คิดว่าทั้งสองจะเริ่มลงไม้ลงมือกัน สุดท้ายคุณนายฟู่จึงผลักเสิ่นหรูฮวนล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้หล่อนต้องคลอดก่อนกำหนด
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของฉินมู่หลานก็ไม่ค่อยดีนัก
เซี่ยปิงชิงกล่าวขึ้นด้วยย้ำเสียงเย็นชา “ตระกูลฟู่นี่เป็นอะไรกัน ลูกสะใภ้กำลังท้องกำลังไส้จะมีอะไรสำคัญกว่านี้อีก ถึงได้กล้าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ พวกเขาดูไม่ออกหรือไง”
เมื่อพูดถึงขึ้นมา ถงทิงผิงก็ได้แต่รู้สึกโมโห
“พอทั้งสองคนเห็นว่าหรูฮวนล้มแล้วเลือดออก ก็รีบวิ่งหนีไปเลย”
เสิ่นเจิ้นอวี่เห็นสีหน้าของภรรยาดูโกรธจัด ก็รีบตบบ่าหล่อนแล้วพูดว่า “เอาเถอะ เรื่องนี้พวกเราค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้อย่าเพิ่งโกรธเลย หลานกำลังมองคุณอยู่นะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ถงทิงผิงก็รีบก้มมองในอ้อมแขน หลังจากเห็นว่าเด็กกำลังหลับตาอยู่ ก็อดจ้องมองเสิ่นเจิ้นอวี่เสียไม่ได้ แต่ก็เข้าใจว่าตอนนี้กำลังอุ้มเด็กอยู่ จึงไม่ควรใช้อารมณ์มากเกินไป หากทำให้หลานชายกลัวขึ้นมาจะทำอย่างไร
“ได้ ฉันจะพยายามไม่โกรธแล้วกัน แต่ฉันจะไม่ยอมปล่อยตระกูลฟู่ในเรื่องนี้ไปหรอกนะ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”
เสิ่นเจิ้นอวี่ไม่คิดจะปล่อยตระกูลฟู่ไปอยู่แล้ว ลูกสาวตัวเองได้รับอันตรายจนถึงขั้นต้องคลอดก่อนกำหนด หากพวกเขายังจัดการแบบใช้ไม้อ่อน ต่อไปคงโดนตระกูลฟู่รังแกจนตายแน่นอน “เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง ผมจะหาทวงความยุติธรรมให้หรูฮวนแน่นอน”
เมื่อเห็นสามีพูดแบบนี้ ถงทิงผิงก็วางใจ
ฉินมู่หลานเห็นว่าที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรแล้วจึงขอตัวกลับ “น้าถงคะ ในเมื่อหรูฮวนกับลูกไม่เป็นอะไร ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ถงทิงผิงได้ยินแบบนี้ก้รีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ได้สิมู่หลาน วันนี้รบกวนเธอมากพอแล้ว เธอรีบกลับเถอะ”
หลังจากพูดจบก็หันไปมองเซี่ยปิงหรุ่ยกับเซี่ยปิงชิงด้วย ก่อนจะพูดขึ้น “แล้วก็รบกวนพวกเธอด้วยเหมือนกัน”
เซี่ยปิงหรุ่ยรีบยิ้มแล้วโบกมือ ก่อนจะกล่าว “ไม่รบกวนเลยค่ะ พวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นมู่หลานที่ทำ”
เซี่ยปิงชิงก็พยักหน้าเหมือนกัน หลังจากนั้นทั้งสามก็กลับไปที่บ้านตระกูลเจี่ยง
เจี่ยงสือเหิงเห็นพวกเธอกลับมาแล้ว จึงรีบเอ่ยถาม “หรูฮวนไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“วางใจค่ะพ่อ ไม่เป็นไร หรูฮวนคลอดลูกชายตัวใหญ่เลย ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงก็วางใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย”
แต่เขาก็ยังสงสัยว่าทำไมเสิ่นหรูฮวนถึงคลอดก่อนกำหนดได้ เพราะวันครบกำหนดคลอดคือช่วงสิ้นเดือน
ฉินมู่หลานเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นก็ถอนหายใจ แล้วกล่าว “พ่อแม่ของซวี่ตงนี่ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ก่อนนห้านี้ก็ไม่ค่อยชอบซวี่ตง ตอนนี้ก็ไม่ค่อยชอบหรูฮวนอีก”
เจี่ยงสือเหิงก็เคยได้ยินเรื่องของตระกูลฟู่มาบ้างเหมือนกัน จึงอดส่ายหัวไม่ได้ “ใครใช้ให้นายท่านฟู่กับคุณนายฟู่ชอบลูกชายคนเล็กกันล่ะ”
ฉินมู่หลานส่ายหัวแล้วกล่าวขึ้น “ไม่รู้ว่าพอซวี่ตงกลับมาแล้วรู้เรื่องที่เกิดขึ้น เขาจะคิดยังไงนะคะ”
“จะยังคิดอะไรอีก ก็คงจะโกรธมากน่ะสิ”
เมื่อได้ยินเซี่ยปิงหรุ่ยพูด ฉินมู่หลานก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่แล้ว คงโกรธมากแน่เลย”
แต่เมื่อนึกถึงว่าวันนี้มาทำอะไร เธอก็รีบหันมองเซี่ยปิงชิงแล้วพูดขึ้น “ปิงชิง เธอจะย้ายบ้านไม่ใช่เหรอ มาดูกันเถอะว่าจะย้ายอะไรอีกบ้าง”
เซี่ยปิงชิงเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล จึงไม่ทราบว่าตอนนี้จัดการไปถึงไหนแล้ว ทำได้เพียงหันมองเจี่ยงสือเหิง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
บ้านตระกูลฟู่นี่มันยังไงนะ สรุปมีบ้านตระกูลไหนในปักกิ่งปกติมั่งดีกว่านอกจากตระกูลเจี่ยงกับตระกูลเสิ่น
ไหหม่า(海馬)