ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 463 แต่งงานกันไหม(2)
ตอนที่ 463 แต่งงานกันไหม(2)
“ยิ่งกว่าไม่วางใจอีก เหมือนอยากจะอยู่ข้างปิงชิงตลออดเวลาเลยแหละ ฉันเคยไปหาปิงชิงมาครั้งหนึ่ง พอเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นก้างขวางคอ ก็เลยขอตัวกลับก่อน”
หลังจากพูดถึงตอนท้าย เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดบ่นไม่ได้ “ฉันอยู่คนเดียวมาตั้งนาน ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร แต่พอเป็นปิงชิงอยู่คนเดียวกลับไม่สบายใจ เหอะ…ลำเอียงชะมัด”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานพูดพลางหัวเราะ “ถ้าเธออยากให้มีคนใส่ใจบ้างก็ลองหาแฟนสักคนสิ”
“ลืมไปได้เลย ฉันอยู่คนเดียวสบายดีอยู่แล้ว”
จริง ๆ แล้วพวกหล่อนก็ไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีป้าแม่ครัวที่คอยทำอาหารด้วย แล้วก็ลุงยามเฝ้าหน้าประตูอีก เซี่ยปิงชิงก็มีเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้น เจี่ยงสือเหิงก็ยังไม่วางใจ
“จริงสิ ปิงชิงล่ะ ตอนนี้หล่อนทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มาพร้อมเธอ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เซี่ยปิงหรุ่ยก็กล่าวตามตรง “หล่อนกับพ่อบุญธรรมของเธอไปด้วยกัน ทั้งสองไปรับพวกคุณปู่ของฉัน”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเขาไปรับแล้วจะพามาที่นี่เหรอ?”
“อาจจะไม่ พวกคุณปู่น่าจะตรงกลับไปที่บ้านของปิงชิง เพราะฉะนั้นเดี๋ยวฉันจะไปที่บ้านปิงชิงก่อน แล้วบอกพวกเขาเรื่องรับประทานมื้อเย็น”
เซี่ยปิงหรุ่ยจึงนั่งอยู่อีกสักพักแล้วจึงกลับไป และฉินมู่หลานก็รีบบอกพวกแม่ของเธอว่าผู้อาวุโสเซี่ยจะมารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน ให้หล่อนเตรียมอาหารเพิ่มอีกหน่อย
ซูหว่านอี๋ทราบแล้วก็รีบพยักหน้าพลางกล่าว “ได้ แม่จะให้คนไปเตรียมเดี๋ยวนี้”
ขณะเดียวกันก็นึกถึงอาจารย์จินที่อยู่บ้านตระกูลเจี่ยง นับตั้งแต่ได้กินอาหารที่อาจารย์จินทำ หล่อนก็รู้สึกว่าอาหารที่พวกเขาทำเองไม่อร่อย เพียงแต่เมื่อนึกถึงได้ไม่นาน อาจารย์จินก็มาหาในช่วงบ่าย แถมยังทำอาหารมามากมายด้วย
“คุณหนูน้อยครับ นายน้อยให้ผมเอามาให้ บอกว่าให้รีบช่วยทำมื้อเย็น”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มแล้วบอกกล่าว “รบกวนอาจารย์จินแล้วค่ะ”
ซูหว่านอี๋ที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวตาม “ใช่ค่ะ ลำบากอาจารย์จินแล้ว”
อาจารย์จินหัวเราะแล้วบอกกล่าว “ไม่ลำบากครับ”
มีอาจารย์จินแล้ว ฉินมู่หลานกับซูหว่านอี๋จึงรู้สึกว่าพวกหล่อนไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย สุดท้ายอาจารย์จินก็กล่าวขึ้นว่า “คุณหนูน้อยครับ พวกคุณหนูไปรอรับแขกข้างหน้าก็พอครับ ทางนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง”
เมื่อเห็นอาจารย์จินบอกแบบนั้น ฉินมู่หลานก็พยักหน้า แล้วพาซูหว่านอี๋ไปข้างหน้าทันที
สองแม่ลูกเพิ่งมาถึงห้องรับแขก เจี่ยงสือเหิง เซี่ยปิงชิงและเซี่ยปิงหรุ่ย ทั้งสามคนก็มาหาพร้อมกับพวกตระกูลเซี่ย
ผู้อาวุโสเซี่ยเห็นฉินมู่หลานก็ตื่นเต้นมาก “มู่หลาน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“ไม่เจอกันนานเลยค่ะ”
ฉินมู่หลานก็ยิ้มพลางกล่าวทักทายเช่นกัน หลังจากนั้นก็เชิญให้ผู้อาวุโสเซี่ยกับคนอื่น ๆ นั่งลง
ครั้งนี้ผู้อาวุโสเซี่ยมาพร้อมกับพ่อแม่ของเซี่ยปิงหรุ่ยและเซี่ยปิงชิง และมีพวกลูกพี่ลูกน้องของเซี่ยฉางเจี๋ยอีกสองสามคน หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว ฉินมู่หลานก็รีบเชิญพวกเขาดื่มชาทันที
ผู้อาวุโสเซี่ยดื่มไปหนึ่งอึกใหญ่ จากนั้นก็ยิ้มพลางหันมองฉินมู่หลานแล้วกล่าวขึ้น “มู่หลาน ที่แท้พวกหลานก็เพิ่งย้ายบ้านใหม่ไปนี่เอง ถ้าทราบเร็วกว่านี้พวกเราคงมาเร็วกว่านี้”
“ผู้อาวุโส ทุกคนมาตอนนี้ก็ดีแล้วค่ะ หากทุกคนไม่รังเกียจ กลางคืนก็พักที่นี่ได้นะคะ”
“ฮ่าๆ เรื่องนั้นไม่ต้องหรอก ถึงเวลาเดี๋ยวพวกเราไปพักที่บ้านปิงชิงเอง”
เมื่อเห็นผู้อาวุโสพูดแบบนั้น ฉินมู่หลานก็ไม่พูดอะไรมากมาย
ตอนแรกผู้อาวุโสเซี่ยยังอยากจะพูดอะไรสักหน่อย เพียงแต่เซิงลี่ตื่นเต้นมากจึงหันมองฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน ยาเม็ดพวกนั้นที่เธอทำได้ผลมากเลย เธอดูหน้าฉันสิ เป็นเพราะฉันกินยาพวกนั้น ตอนนี้จึงดูอ่อนวัยกว่าเดิมมาก”
เห็นภรรยาดูตื่นเต้น เซี่ยฉางเจี๋ยจึงอดยิ้มแล้วส่ายหัวไม่ได้ ครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกับมู่หลาน แต่สุดท้ายคนที่มีความสุขมากที่สุดกลับเป็นภรรยา แน่นอนว่า พวกผู้หญิงในกลุ่มคนอื่นก็ดีใจมาก หลังรับประทานยาพวกนี้ต่างบอกว่าได้ผลดี
ฉินมู่หลานก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของเซิงลี่เหมือนกัน จึงบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ได้ผลก็ดีแล้วค่ะ หลายคนจะต้องชอบยาพวกนี้มากแน่นอน”
“เรื่องนั้นต้องชอบมากอยู่แล้ว หากฉันรู้ผลของยาเม็ดพวกนั้นตั้งแต่แรก ฉันจะยอมจ่ายเงินแน่นอน ถึงราคาจะแพงหน่อยก็ไม่สน”
จากนั้น เซิงลี่ก็เล่าความรู้สึกของหล่อนตอนที่ใช้ยาพวกนี้ ขณะเดียวกันก็โปรโมทยาพวกนี้ในซีอานด้วย เมื่อพวกผู้หญิงที่เห็นหน้าตาของหล่อนดูสดใสทราบว่าหล่อนกินยาพวกนี้ ก็มีหลายคนนำไปลอง ผลลัพธ์ที่ได้คือหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยหลายปี ตอนนี้จึงมีคนเข้ามาสอบถามกันเยอะมาก
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เซิงลี่ก็แทบจะเปล่งประกาย
เซี่ยปิงหรุ่ยกับเซี่ยปิงชิงเห็นแม่เป็นแบบนี้แล้วก็มองหน้ากันอย่างอดไม่ได้ พวกหล่อนไม่เคยทราบมาก่อนว่าแม่ใส่ใจเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเองขนาดนี้
ฉินมู่หลานฟังคำพูดของเซิงลี่แล้วก็เอ่ยชื่นชม “น้าเซิง ไม่คิดเลยนะคะว่าน้าจะมีความสามารถขนาดนี้ ยาพวกนี้ยังไม่ได้วางขายอย่างเป็นทางการเลย แต่น้าก็โปรโมทเองได้แล้ว”
เมื่อได้ยินคำเยินยอจากมู่หลาน เซิงลี่ก็อดยิ้มไม่ได้
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเองก็คิดไม่ถึง ฉันบอกได้แค่ว่าที่บ้านของเรายังไม่มียาวางขาย หากว่ามี ฉันจะช่วยแนะนำให้”
ผู้อาวุโสเห็นว่าลูกสะใภ้กระตือรือร้นที่จะเล่าเรื่องพวกนี้ให้มู่หลานฟัง ก็ยิ้มพลางส่ายหัว ที่เขามาครั้งนี้ก็เพื่อหารือกับมู่หลาน นอกจากนี้ก็ได้แวะมาในเรื่องของหลานสาวด้วย
“มู่หลาน ตอนนี้ครอบครัวเราผลิตยาพวกนี้ออกมาเป็นชุดได้แล้ว ต่อไปจะให้เริ่มวางขายในร้านขายยาของตระกูลเซี่ยเลยไหม แล้วก็…” สิ่งที่เขาอยากถามมากที่สุดก็คือ จะหาวิธีขายยาพวกนี้ออกไปข้างนอกอย่างไร เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราต่างประเทศ
“ผู้อาวุโสคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะพาไปรู้จักคนหนึ่ง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ แววตาของผู้อาวุโสเซี่ยก็เป็นประกาย จากนั้นก็รีบพยักหน้าแล้วกล่าวอย่างรวดเร็ว “ได้สิ”
พูดเรื่องนี้จบผู้อาวุโสเซี่ยก็พูดเรื่องเซี่ยปิงชิงขึ้นมาอีกครั้ง “จริง ๆ ที่พวกเรามาครั้งนี้ ยังมีธุระอีกเรื่องหนึ่งด้วย ก็คือเรื่องแต่งงานของปิงชิง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ อยู่ ๆ เจี่ยงสือเหิงก็รีบหันไปมองผู้อาวุโสเซี่ยทันที สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนแปลงกะทันหัน “ผู้อาวุโสครับ ท่านหมายความว่ายังไง?”
ผู้อาวุโสเซี่ยหันมองเจี่ยงสือเหิงครู่หนึ่ง แล้วบอกกล่าว “ฉันหมายความว่ายังไงยังไม่เข้าใจอีกเหรอ บอกแล้วว่าเป็นเรื่องงานแต่งของปิงชิง นั่นก็หมายความว่าเป็นงานแต่งของเธอกับปิงชิงไงล่ะ พวกเราคิดกันว่าจะให้พวกเธอแต่งงานกันในปีหน้า”
“ครับ”
เจี่ยงสือเหิงรีบตอบตกลงทันทีโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้ ด้วยความกลัวว่าผู้อาวุโสเซี่ยจะเปลี่ยนใจกะทันหัน
ถึงแม้ว่าเซี่ยปิงชิงจะทราบอยู่แล้วว่าทางครอบครัวเร่งเร้าให้ตนรีบแต่งงาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ เพียงแต่หล่อนยังไม่ได้พูดอะไร เจี่ยงสือเหิงก็ตอบตกลงแทบจะทันที เมื่อเห็นสีหน้าของเจี่ยงสือเหิงดูกระตือรือร้นแบบนี้ เซี่ยปิงชิงก็อดจ้องมองเขาไม่ได้ แต่สายตากลับหวานเชื่อมหยดย้อย
ฉินมู่หลานก็อดยิ้มไม่ได้ นี่หมายความว่าจะแต่งงานกันในปีหน้าสินะ
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ยาอะไรอะมู่หลาน ขอสูตรบ้างสิ กินแล้วหน้าเด้งหน้าเด็กเหมือนทำหัตถกรรมว่าซั่น
ท่าจะได้เห็นคู่แต่งงานใหม่แล้วสินะ
ไหหม่า(海馬)