ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 467 ความตื่นเต้นของนายท่านเหยา(2)
- Home
- ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก
- ตอนที่ 467 ความตื่นเต้นของนายท่านเหยา(2)
ตอนที่ 467 ความตื่นเต้นของนายท่านเหยา(2)
ชิงชิงกับเฉินเฉินไปรับซองอั่งเปา แล้วยังกล่าวอวยพรปีใหม่ต่อ
แม้แต่ว่านจี้อวิ๋นก็มองด้วยสายตาคาดหวัง หล่อนในฐานะคุณย่าก็อยากจะให้อั่งเปาเหมือนกัน จึงกวักมือเรียกเด็กทั้งสองอย่างรวดเร็ว แล้วมอบอั่งเปาซองใหญ่ไม่แพ้ผู้อาวุโสทั้งสองไปให้
“ขอบคุณค่ะ/ครับคุณย่า”
“อา….พวกหลานยังรู้ว่าฉันเป็นคุณย่าด้วย”
“หม่าม้า…บอกพวกเราค่ะ/ครับ”
หลังจากนั้นเด็กทั้งสองก็ทำตัวเป็นเด็กดีน่ารักและพูดคุยด้วยนิดหน่อย
เริ่นม่านนีจ้องมองเด็กทั้งสองด้วยแววตาร้อนฉ่า สามีกินยามานานแล้ว ไม่รู้ว่าหล่อนจะได้ตั้งครรภ์ตอนไหน
หลังจากเด็กทั้งสองพูดคุยอยู่สักพักก็นำซองอั่งเปาที่ได้รับทั้งหมดไปให้ฉินมู่หลาน
“เดี๋ยวหม่าม้าจะเก็บไว้ให้พวกลูกก่อนนะจ๊ะ”
“ค่ะ/ครับ”
ทั้งครอบครัวกินข้าวเสร็จก็พร้อมจะออกเดินทาง เซี่ยฉางชิงเรียกพวกเขาเอาไว้ จากนั้นก็มอบของมากมายให้กับเซี่ยเจ๋อหลี่
“มู่หลานท้องอีกรอบแล้ว ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ พวกนี้เป็นของดีต่อหญิงตั้งครรภ์ มู่หลานต้องกินเยอะหน่อย”
“ขอบคุณค่ะพ่อ”
ฉินมู่หลานยิ้มพร้อมเอ่ยขอบคุณ
และเซี่ยฉางชิงก็ได้เห็นว่าชิงชิงกับเฉินเฉินอยู่ข้าง ๆ จึงอดถามไม่ได้ “มู่หลาน ลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลมาหรือยัง ครั้งนี้จะเป็นลูกคนเดียวหรือลูกแฝด?”
ลูกสาวคลอดครั้งแรกได้แฝดมังกรหงส์ ครั้งนี้จึงยากที่จะพูด
ฉินมู่หลานส่ายหน้าแล้วกล่าว “ยังไม่ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเลยค่ะ ตั้งใจว่าจะไปหลังช่วงปีใหม่”
แต่ถึงแม้จะยังไม่ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาล ฉินมู่หลานก็คลำชีพจรของตัวเองได้ว่าครั้งนี้น่าจะเป็นฝาแฝด เธอได้แต่รู้สึกว่าเชื้อฝาแฝดของตระกูลเซี่ยนั้นช่างมีพลังเหลือเกิน จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดตระกูลเซี่ยจึงไม่มีฝาแฝดมาเป็นเวลานานแล้ว แต่กลับมาลงที่เธอ
“ถ้าไปตรวจแล้วบอกพ่อหน่อยนะ พ่อจะได้เตรียมของให้ดีขึ้นกว่านี้หน่อย” ตอนนี้เตรียมของเอาไว้สำหรับเด็กคนเดียว หากมีสองคนก็จะต้องเตรียมเพิ่มอีก
“ค่ะ”
ฉินมู่หลานยิ้มพลางพยักหน้าตอบตกลง จากนั้นก็กล่าวลาเซี่ยฉางชิง
แต่พวกเธอยังไม่กลับบ้าน และตรงไปบ้านตระกูลเหยาต่อ
เหยาจิ้งจือรออยู่ตรงหน้าประตูมานานแล้ว เมื่อเห็นครอบครัวของลูกชายคนเล็กมา ก็รีบเดินมาหาแล้วเอ่ยขึ้น “มู่หลาน อาหลี่ มากันแล้วเหรอ”
พูดจบก็รีบหันมองเด็กทั้งสองอีกครั้ง
“ชิงชิง เฉินเฉิน พวกหลานคิดถึงย่าหรือเปล่า”
“คิดถึง~”
เด็กทั้งสองตอบด้วยน้ำเสียงไพเราะ: “คิดถึงมาก คิดถึงมากค่ะ/ครับ”
“ย่าก็คิดถึงพวกหลานเหมือนกัน”
เหยาจิ้งจือพาพวกเขาเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าอิ่มเอมใจ
นายท่านเหยาเห็นเด็กทั้งสองมาจึงรู้สึกดีใจมาก แม้แต่คุณนายเหยาก็พูดคุยเล่นกับพวกเขาด้วย อีกทั้งยังมอบอั่งเปาซองใหญ่ให้อีก
ฉินมู่หลานสังเกตแล้วว่าชิงชิงกับเฉินเฉินจะได้รับความนิยมมากไม่ว่าไปที่ใดก็ตาม
หลี่เสวี่ยเยี่ยนกำลังยุ่งอยู่ในครัว เมื่อเห็นพวกฉินมู่หลานมา ก็เดินออกมาทักทายพร้อมรอยยิ้ม หลังจากนั้นก็รีบกลับไปทำงาน
เหยาจิ้งจือก็รีบเข้าไปช่วยเหมือนกัน “มู่หลาน พวกเธอนั่งก่อนนะ วันนี้เสวี่ยเยี่ยนกับฉันจะทำอาหารบ้านเกิดให้พวกเธอกิน”
ทั้งสองดำเนินการเร็วมาก ในไม่ช้าอาหารซานตงจานใหญ่ก็มาเสิร์ฟแล้ว
ตอนแรกฉินมู่หลานไม่มีความอยากอาหาร แต่ตอนนี้เมื่อเห็นอาหารบ้านเกิดก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที
หลังจากนายท่านเหยาหยิบตะเกียบแล้วเริ่มกินอาหาร ฉินมู่หลานก็เริ่มทานเช่นกัน เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานอยากกิน จึงตักอาหารให้เธอไม่น้อย
หลังจากกินเสร็จ นายท่านเหยาก็เชิญฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ กินผลไม้ จากนั้นจึงกล่าวว่า “มู่หลาน คืนนี้ครอบครัวของหลานอยู่พักที่นี่สักคือเถอะ”
ฉินมู่หลานไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ได้ค่ะ” ถึงอย่างไรพ่อแม่และน้องชายก็กลับไปบ้านเกิดแล้ว จึงไม่สำคัญว่าครอบครัวของพวกเขาจะอยู่ค้างที่บ้านตระกูลเหยาหรือเปล่า
เมื่อเห็นฉินมู่หลานตกลง นายท่านเหยาก็ดีใจมาก ซ้ำยังพูดคุยกับเซี่ยเจ๋อหลี่มากมาย หลังจากนั้นก็หันมองมู่หลานแล้วเอ่ยถาม “มู่หลาน ได้ยินว่าหลานท้องอีกแล้ว ยินดีด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณตา”
ในตอนนี้ คุณนายเหยาก็หันมองฉินมู่หลานเหมือนกัน ได้แต่รู้สึกว่าหลานสะใภ้คนเล็กนี้น่าทึ่งมาก หลังจากคลอดฝาแฝดมังกรหงส์ ตอนนี้ก็ท้องอีกแล้ว ไม่รู้ว่าท้องครั้งนี้จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
เมื่อนายท่านเหยาเริ่มเปิดปาก ก็เกิความลังเลขึ้นจึงต้องหยุดลงอีกครั้ง หลังจากคิดแล้วคิดอีกในที่สุดก็เอ่ยถามขึ้น “มู่หลาน ท้องนี้…ให้ใช้แซ่เหยาได้ไหม หลานวางใจ เด็ก ๆ จะให้พวกหลานเป็นคนเลี้ยงดูอยู่แล้ว เปลี่ยนแค่แซ่เท่านั้น ปู่…ปู่ก็แค่อยากจะสืบทอดสายเลือดของตระกูลเหยาต่อไป”
หลังจากพูดจบ นายท่านเหยาก็หันมองฉินมู่หลานด้วยความประหม่า ด้วยความกลัวว่าจะโดนปฏิเสธ เพราะสุดท้ายแล้วแซ่ของเด็กก็ถือเป็นเรื่องใหญ่
ฉินมู่หลานครุ่นคิด แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร หากลูกจะใช้แซ่อื่น
แต่เซี่ยเจ๋อหลี่คิ้วขมวด ไม่ค่อยเต็มใจนัก
เหยาจิ้งจือเห็นลูกชายคนเล็กกับลูกสะใภ้คนเล็กไม่พูดอะไร จึงรีบบอกกล่าวทันที “ไม่เป็นไรหรอก คุณตาของพวกลูกก็แค่ลองถาม ถ้าพวกลูกไม่อยากก็ไม่เป็นไร”
ถึงแม้ว่าเหยาจิ้งจือจะหวังให้เด็กใช้แซ่เหยา เพราะหล่อนเป็นลูกสาวคนรเดียวของท่านทั้งสอง ต่อไปจะไม่มีเด็กคนอื่นใช้แซ่เหยาแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้คนเล็กด้วยเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา มู่หลานจะคัดค้านพวกเขาหรือเปล่า
ฉินมู่หลานเห็นทุกคนเป็นกังวล จึงเปิดปากบอก “ฉันไม่มีความเห็นอะไรค่ะ หากอาหลี่ตกลง ถ้าอย่างนั้นก็ย่อมได้ค่ะ”
ครั้งนี้เป็นฝาแฝดอีกแล้ว ต่อให้แซ่จะเปลี่ยนเป็นแซ่เหยา แต่ตอนที่เพิ่งมาปักกิ่ง นายท่านเหยาก็ดีกับพวกเขามาก และท่านยังเข้าใจและยินดียอมรับพวกเขามาตั้งแต่แรก
“จริงเหรอ? มู่หลาน หลานตกลงจริงเหรอ?”
สีหน้าของนายท่านเหยาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยสายตาลุกวาว แม้แต่คุณหญิงเซี่ยก็ยังจ้องมองเซี่ยเจ๋อหลี่ เพื่อรอคำตอบจากเขา
เซี่ยเจ๋อหลี่คาดไม่ถึงว่าฉินมู่หลานจะยอมตกลงจริง ๆ เขาเห็นสายตาคาดหวังของคุณปู่และแม่ตัวเอง จึงอดเอ่ยถามไม่ได้ “ถึงลูกจะใช้แซ่เหยา แต่ยังไงก็ยังเป็นลูกของพวกเรา พวกเราไม่ยอมทิ้งลูกของพวกเราหรอก”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
นายท่านเหยาไม่มัวพูดพล่าม นอกจากนี้ยังร่างหนังสือสัญญาด้วย
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจ จากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ก็ได้ครับ”
“ดีจังเลย…ดีจริง ๆ”
นายท่านเหยาน้ำตาคลอ เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มีหลานใช้แซ่เหยาสืบสกุลต่อแล้วนะ สายสกุลไม่สิ้นสุดแล้ว
ไหหม่า(海馬)