ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 481 เหตุผลเหมาะสม(2)
ตอนที่ 481 เหตุผลเหมาะสม(2)
“ผู้หญิงควรมีอาชีพเป็นของตัวเอง จะอยู่บ้านดูแลสามีและเลี้ยงลูกตลอดเวลาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ได้เห็นโลกภายนอก ต้องอุดอู้อยู่ในบ้านไปตลอดชีวิต เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก”
ฉินมู่หลานเห็นด้วยกับเรื่องนี้ จึงพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ค่ะ ฉันเลยสนับสนุนแม่และแม่สามีให้ไปฮ่องกงด้วยกัน แต่การไปครั้งนี้ต้องขอรบกวนพวกคุณน้าช่วยดูแลด้วยนะคะ”
“วางใจเถอะ พวกเราจะดูแลพวกหล่อนเป็นอย่างดี”
หลังจากทั้งสองพูดคุยกันสักพัก ข่งไฉ่อิงก็เอ่ยถามเพิ่มด้วยความสงสัย
“มู่หลาน ดูเหมือนว่าฉันจะไม่เคยเจอสามีของเธอเลยนะ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มกล่าว “เขากำลังยุ่งค่ะ ช่วงนี้จึงไม่ค่อยได้กลับมา”
“ดูเหมือนว่าครั้งหน้าต้องแนะนำให้รู้จักแล้ว” ข่งไฉ่อิงอยากทราบเหลือเกิน ว่าคนเก่งอย่างฉินมู่หลานจะมีสามีเป็นคนอย่างไร
และในตอนนั้นเอง เซี่ยเจ๋อหลี่สามีของฉินมู่หลานได้จัดของเสร็จเรียบร้อย เตรียมตัวกลับบ้าน แต่หลังจากก้าวออกจากประตูฐานทัพ ก็พบว่ามีใครบางคนคอยเดินตาม
“เฉาเจิ้งหนาน นายตามฉันมาทำไม”
เฉาเจิ้งหนานหยุดก้าวเดินทันทีเมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ ก่อนจะยกยิ้มแล้ววิ่งเข้าไปหา แล้วกล่าวว่า “ผู้กองเซี่ย พวกเราใกล้จะออกไปทำภารกิจด้วยกันแล้ว ผมก็เลยจะกลับบ้านเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นทางเดียวกับคุณ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ไม่ว่าอะไรอีก
แต่ระหว่างทาง เฉาเจิ้งหนานก็ยังเดินตามเซี่ยเจ๋อหลี่ต่อไป ไม่ได้ทิ้งห่างเลยสักนิด ยังคงเดินเคียงข้างเขาแล้วพูดคุย
เซี่ยเจ๋อหลี่รู้สึกทนเฉาเจิ้งหนานไม่ไหว จึงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น “อีกเดี๋ยวจะถึงบ้านฉันแล้ว นายจะตามฉันไปด้วยเหรอ”
ขณะที่เฉาเจิ้งหนานกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงของบุคคลหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างหลัง
“อาหลี่…คุณกลับมาแล้วเหรอคะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินก็หันไปมอง จากนั้นก็พบว่าฉินมู่หลานกำลังเดินมาหา
เมื่อเห็นฉินมู่หลานเดินมาพร้อมท้องใหญ่โต เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เป็นกังวลมาก จึงรีบก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้าตัวเธอเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยถาม “มู่หลาน คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทีหลังเดินช้าลงกว่านี้หน่อยนะ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ฉันกำลังจะกลับบ้าน ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณก่อน” หลังจากพูดจบก็อดหันมองเฉาเจิ้งหนานไม่ได้ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “อาหลี่ นี่ใครเหรอคะ?”
เซี่ยเจ๋อหลี่ยังไม่ทันได้แนะนำ เฉาเจิ้งหนานก็แนะนำตัวเองพร้อมรอยยิ้มเสียแล้ว “สวัสดีครับพี่สะใภ้ ผมชื่อเฉาเจิ้งหนาน เป็นทหารในกองร้อยที่ผู้กองเซี่ยรับผิดชอบอยู่ครับ”
ฉินมู่หลานเพิ่งรู้ในตอนนี้เอง เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่พาเพื่อนมาที่บ้าน จึงเชิญชวนพร้อมรอยยิ้ม “คุณมากับอาหลี่เหรอ ถ้าอย่างนั้นเข้าไปนั่งในบ้านก่อนไหม”
เฉาเจิ้งหนานได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าตอบตกลง
เซี่ยเจ๋อหลี่เหลือบมองเฉาเจิ้งหนาน เพียงแต่มู่หลานเชิญเขาแล้ว เขาจึงไม่ว่าอะไร
หลังจากทั้งสามมาถึงบ้าน มู่หลานก็เชิญเฉาเจิ้งหนานให้ดื่มชา
หลังจากซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือทราบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาแล้ว พวกหล่อนก็รู้สึกดีใจมาก และเมื่อทราบว่ายังมีสหายของเซี่ยเจ๋อหลี่มาด้วยอีกคน พวกหล่อนจึงรีบเตรียมอาหาร เพื่อให้เฉาเจิ้งหนานได้กินข้าวก่อนกลับ
เฉาเจิ้งหนานรู้สึกเกรงใจนิดหน่อย อันที่จริงเขากับเซี่ยเจ๋อหลี่กลับทางเดียวกันจริง ๆ เพียงแต่เซี่ยเจ๋อหลี่เพิ่งมาได้ไม่นานก็ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญแล้ว และเขาก็บังเอิญต้องติดตามเซี่ยเจ๋อหลี่ไปทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ เขาจึงอยากใช้เวลากับเซี่ยเจ๋อหลี่มากยิ่งขึ้น ไม่คิดว่าตอนนี้จะมาถึงบ้านเซี่ยเจ๋อหลี่ อีกทั้งยังอยู่กินข้าวที่บ้านด้วย
เมื่อถึงเวลากินข้าว ฉินมู่หลานก็บอกเซี่ยเจ๋อหลี่เรื่องที่ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือจะเดินทางไปฮ่องกง
“อะไรนะ…”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ “ทำไมอยู่ ๆ ถึงจะไปฮ่องกงกันล่ะ?”
ฉินมู่หลานเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็พูดต่อ “พวกแม่ไปด้วยกันก็ดี จะได้ศึกษาดูงานให้มากขึ้น”
เฉาเจิ้งหนานที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน
“จริง ๆ ผมก็ต้องไปฮ่องกงเหมือนกัน” แต่ไม่นาน เขาก็ตระหนักบางอย่างได้อีกครั้ง “นี่…พวกคุณน้าเป็นผู้บริหารโรงงานเครื่องสำอางมู่เสวี่ยหรือเปล่าครับ?”
“ใช่ ตอนนี้คุณย่ากับคุณยายของพวกเด็ก ๆ มีหน้าที่ดูแลโรงงานน่ะค่ะ”
ฉินมู่หลานกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ไม่นานนัก เธอก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของเฉาเจิ้งหนานดูแปลกไปนิดหน่อย นอกจากนี้ยังแอบปรายตามองไปทางเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วย
เซี่ยเจ๋อหลี่เมินต่อสายตาของเฉาเจิ้งหนาน ตอนนี้เขากำลังขมวดคิ้ว อยากจะถามให้ละเอียด แต่เมื่อเปิดปากก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็สบโอกาสได้พูดคุยเรื่องนี้กับฉินมู่หลาน
“มู่หลาน พวกแม่จำเป็นต้องไปฮ่องกงด้วยเหรอ?”
ฉินมู่หลานรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตั้งแต่เมื่อสักครู่นี้แล้ว ตอนนี้เมื่อได้ยินเซี่ยเจ๋อหลี่พูดแบบนี้ เธอก็ถามตามตรง “หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นคะ พวกคุณก็จะไปฮ่องกงเหมือนกันเหรอ?”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่คาดคิดว่าฉินมู่หลานจะหลักแหลมขนาดนี้ เฉาเจิ้งหนานเพิ่งโพล่งประโยคนี้ออกมา เธอก็สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้ว พลางพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ ผมกับเฉาเจิ้งหนานจะไปที่ฮ่องกงพร้อมกับคนในกระทรวงพาณิชย์”
“ที่แท้ที่หลิวเสวียข่ายบอกว่าจะพาคนไปด้วย คนพวกนั้นก็คือพวกคุณนี่เอง”
เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ คือพวกผมนี่แหละ”
แต่ฉินมู่หลานรู้สึกสับสนนิดหน่อย
“พวกคุณมีหน้าที่คุ้มกันพวกหลิวเสวียข่ายไม่ใช่เหรอ แต่หลิวเสวียข่ายบอกว่ามีคนเจ็ดแปดคน แบบนี้จำนวนคนไม่น้อยไปเหรอ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ส่ายหัวแล้วกล่าว “ไม่ใช่ พวกเราแค่ไปที่นั่นพร้อมกับคนในกระทรวงพาณิชย์”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็คาดเดาได้ทันที
พวกเซี่ยเจ๋อหลี่คงไม่ได้ไปฮ่องกงเพื่อตามคุ้มกันหลิวเสวียข่าย พวกเขามีภารกิจอื่น จึงไปพร้อมกับพวกหลิวเสวียข่าย
ฉินมู่หลานอยากจะถามเสียเหลือเกิน ว่าพวกเซี่ยเจ๋อหลี่ไปฮ่องกงทำไม เพียงแต่ถามมากเท่าไร เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ไม่ยอมบอก เพราะสุดท้ายแล้วภารกิจของพวกเขาก็ต้องเป็นความลับ
แต่ฉินมู่หลานกำลังคิดถึงภารกิจอื่นของเขา
“ไม่ถูกสิ ถ้าพวกคุณตามพวกหลิวเสวียข่ายไปด้วยแล้วบอกว่าตามคำสั่งของกระทรวงพาณิชย์ มันจะทำให้คนสงสัยแน่นอน ฉันได้ยินข่งไฉ่อิงบอกว่าครั้งนี้เผยเจิ้งผู่จะกลับไปฮ่องกงด้วย เผยเจิ้งผู่กับลูกชายน่าจะรู้จักคุณนะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน เขาจึงขมวดคิ้วนิดหน่อย
ที่ทราบมาตอนนี้ ครอบครัวของเผยเจิ้งผู่ต่างเป็นคนดี แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เปิดเผยตัวตนของเซี่ยเจ๋อหลี่โดยไม่ได้ตั้งใจ หากเป็นอย่างนั้น คนอื่นอาจสงสัยเขาได้
ฉินมู่หลานอดพูดไม่ได้ “อาหลี่ พวกแม่ก็ไปฮ่องกงด้วย คุณไม่ต้องสวมบทไปพร้อมกับหลิวเสวียข่ายหรอก เอาเป็นว่าคุณเป็นห่วงแม่กับแม่ยาย เลยเป็นเหตุผลให้ไปพร้อมพวกเขา ถ้าเป็นแบบนี้ คนอื่นก็จะพูดอะไรไม่ได้”
เพราะหญิงวัยกลางคนทั้งสองต้องเดินทางไกล คนในบ้านจึงไม่วางใจ จึงให้เซี่ยเจ๋อหลี่ไปด้วยกัน แบบนี้น่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พี่หลี่ไปทำภารกิจอะไรที่ฮ่องกงหว่า ไม่ใช่ว่าเป็นสายลับใช่ไหม
ไหหม่า(海馬)