ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 487 นำความสำเร็จกลับมา(2)
ตอนที่ 487 นำความสำเร็จกลับมา(2)
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณทำเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันจะลองชิมเอง”
“ครับ”
เจี่ยงสือเหิงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แต่พวกผู้อาวุโสเซี่ยต่างอยู่ที่นี่ มื้อเย็นจึงต้องหรูหราหน่อย เขาจึงหันไปกำชับลุงเจี่ยงให้ไปจัดการอีกครั้ง
“นายน้อยวางใจครับ ผมเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
เมื่อได้ยินลุงเจี่ยงพูดแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงก็โล่งใจ จากนั้นจึงหันไปมองผู้อาวุโสเซี่ยด้วยความประหม่านิดหน่อยแล้วกล่าว “คุณปู่ครับ ทุกคนนั่งรอกันก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปทำขนมหอมหมื่นลี้ให้ปิงชิงก่อน”
เมื่อเห็นเจี่ยงสือเหิงเดินไปห้องครัวเพื่อจะทำขนมหอมหมื่นลี้ เซิงลี่ก็อดไม่ได้ที่จะหันมองลูกสาวคนเล็ก “ก่อนหน้านี้แม่เข้าใจผิดว่าสือเหิงไม่ยอมอยู่บ้านดูแลลูก แต่กลับเป็นเพราะไปเรียนทำขนมหอมหมื่นลี้ที่ลูกชอบโดยเฉพาะ บางครั้งลูกก็ควรเกรงใจสือเหิงบ้างนะ แค่เวลาปกติเขากยุ่งมากพออยู่แล้ว”
เซี่ยฉางเจี๋ยก็กล่าวตาม “ใช่แล้วปิงชิง ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะ สือเหิงดูไม่ใช่คนที่จะถนัดทำเรื่องแบบนี้เลย แบบนี้ลูกไม่ทำเขาลำบากแย่เหรอ”
ส่วนใบหน้าของผู้อาวุโสเซี่ยเผยความปีติยินดี
“พอแล้ว พวกแกจะว่าปิงชิงไปทำไมกัน เวลาตั้งท้องก็อยากกินทุกอย่างไม่ใช่เหรอ สือเหิงไปเรียนเพื่อจะทำด้วยตัวเองก็ถือเป็นเรื่องดี พวกแกควรจะดีใจนะ” แต่สุดท้ายเขาก็พูดบางอย่างขึ้น “แต่ว่าปิงชิง ต่อไปแกอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาแล้วกล่าวตอบ “ค่ะ ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้แล้ว”
เมื่อเห็นลูกสาวคนเล็กท่าทางดูมีความสุขมาก เซิงลี่ก็อดมองด้วยรอยยิ้มไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจไปกับลูกสาวคนเล็กด้วยเหมือนกัน แม้ว่าเจี่ยงสือเหิงจะอายุเยอะกว่ามาก แต่ก็เข้าไปอยู่ในใจของปิงชิงได้ ซึ่งผู้ชายทั่วไปยากที่จะทำแบบนี้
เจี่ยงสือเหิงลงมือเร็วมาก เมื่อนำขนมหอมหมื่นลี้ที่มีกลิ่นหอมหวานออกมาแล้วมันก็ยังอุ่นอยู่ หลังจากเซี่ยปิงชิงลองชิมเข้าไปหนึ่งคำก็ชมขึ้นทันที “อร่อยมากเลย อร่อยมากจริง ๆ”
เมื่อเห็นเซี่ยปิงชิงมีความสุข เจี่ยงสือเหิงก็มีความสุขเช่นกัน
ฉินมู่หลานก็ลองชิมไปหนึ่งคำเช่นกัน พบว่ารสชาติไม่ได้อร่อยเหมือนซื้อจากร้านข้างนอก แต่เมื่อเห็นว่าพ่อบุญธรรมกับเซี่ยปิงชิงดูมีความสุขมาก เธอจึงคลี่ยิ้มที่เห็นคู่รักหนุ่มสาวกำลังมีความสุข
เซิงลี่รู้สึกเหมือนจะตาบอด แต่ในสายตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนกัน
เมื่อใกล้ถึงเวลารับประทานมื้อเย็น ฉินเจี้ยนเซ่อกับเซี่ยเหวินปิงก็มากันแล้ว ฉินเคอวั่งก็มาพร้อมกับพวกเขาเช่นกัน ในตอนนั้นเอง เซิงลี่ก็สังเกตเห็นว่าซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองฉฺนมู่หลานแล้วเอ่ยถาม “มู่หลาน แม่กับแม่สามีของเธอยุ่งอยู่เหรอ?”
“น้าเซิงคะ พวกท่านไปฮ่องกงกันค่ะ”
“อะไรนะ…”
สีหน้าของเซิงลี่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ แม้แต่ผู้อาวุโสเซี่ยก็ยังต้องถามเพิ่ม “ทำไมอยู่ ๆ ถึงไปฮ่องกงกันล่ะ”
ฉินมู่หลานเล่าเรื่องการร่วมงานให้ฟัง หลังจากนั้นก็เอ่ยต่อ “บังเอิญว่าคนจากบริษัทเซิงซื่อกรุ๊ปกำลังจะกลับไปฮ่องกงพอดี พวกแม่ของฉันก็เลยจะลองไปเยี่ยมชมเมืองสักหน่อย ลองสำรวจว่ายังมีโอกาสขยายงานไปต่อในฮ่องกงได้อีกไหม”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ผู้อาวุโสเซี่ยก็ให้ความสนใจขึ้นมาเช่นกัน
“หากในฮ่องกงยังขยายตลาดต่อได้ ถ้าอย่างนั้นก็ลองนำยาเสริมความงามไปขายที่นั่นสิ”
ฉินมู่หลานก็คิดสิ่งเดียวกัน
“ใช่ค่ะ หนูก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ครั้งนี้ ผอ.หลิวเสวียข่ายก็ไปด้วย คิดว่าเขาคงจะลองพิจารณาดูค่ะ”
“อย่างนั้นก็ดีเลย”
หลิวเสวียข่ายในตอนนี้กำลังหันมองไปทางเซี่ยเจ๋อหลี่อย่างอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ “อะไรนะ…ตอนกลับให้พวกเรากลับกันเองเหรอ ทำไมล่ะ?”
“ผอ.หลิว ในเมื่อยังไม่รู้ว่าคนจากเซิงซื่อกรุ๊ปจะกลับเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นพวกเรากลับกันเองก็ได้ครับ”
เซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาที่โรงแรมก่อนซูหว่านอี๋ เหยาจิ้งจือ ข่งไฉ่อิงและพวกคนอื่น ๆ จะกลับมา ซึ่งการออกไปสำรวจข้างนอกครั้งนี้นับว่าคุ้มค่ามาก
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลิวเสวียข่ายก็ครุ่นคิดแล้วเอ่ย “เรื่องนั้นก็จริง แต่นี่รวมถึงแม่กับแม่ยายของคุณด้วยใช่ไหม?”
เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ย “ใช่ครับ ต่อให้ครั้งนี้พวกท่านอยากมาเปิดหูเปิดตาที่ฮ่องกง แต่สุดท้ายก็ยังคิดถึงครอบครัว ดังนั้นพอเสร็จเรื่องทางฝั่งนี้แล้วก็จะกลับกันเลยครับ”
“ก็ได้ พวกเรากลับกันก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันจะวางแผนการเดินทางให้ละเอียด”
ไม่กี่วันต่อมา สิ่งต่าง ๆ ดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น ตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์แบรนด์มู่เสวี่ยในฮ่องกงถูกส่งมอบให้เฉินเหวินเหวิน เยว่เจินจูยังได้พบดาราฮ่องกงอีกมากมาย และได้เรียนรู้เกี่ยวกับสไตล์การแต่งหน้ายอดนิยมในฮ่องกงในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพิ่มด้วย อีกทั้งยังได้ดูนิตยสารอีกหลายฉบับ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแรงบันดาลใจให้หล่อนอย่างมาก
การเดินทางของซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์ ทั้งสองได้รู้จักอะไรเยอะมาก ได้เปิดโลกมากมาย ทำให้ตระหนักได้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้
ส่วนทางด้านเซี่ยเจ๋อหลี่นั้นไม่ต้องพูดถึง การเดินทางมาในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จแล้ว เพียงแค่รอเวลากลับไป พาคนออกจากฮ่องกงไปถึงปักกิ่งได้ก็ถือว่าสำเร็จ
เมื่อเผยเจิ้งผู่ทราบว่าซูหว่านอี๋กับคนอื่น ๆ จะขอตัวกลับก่อน ก็อดพูดไม่ได้ “ถึงผมจะต้องอยู่ต่ออีกสักพัก แต่อีกไม่นานไฉ่อิงก็จะกลับไปเหมือนกัน พวกคุณรอกลับพร้อมกับหล่อนก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรากลับก่อนดีแล้ว พวกคุณสองสามีภรรยายุ่งมาก ทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้ค่ะ”
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจืออยากกลับไปโดยเร็วที่สุด พวกหล่อนสองคนกังวลในใจตลอดเวลา ตอนนี้ธุระในฮ่องกงเสร็จหมดแล้ว จึงอดใจรอไม่ไหวแทบอยากจะออกเดินทางคืนนี้เสียเลย
ข่งไฉ่อิงก็ไม่คิดว่าพวกหล่อนจะรีบร้อนขนาดนี้
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ซูหว่านอี๋ก็พูดถึงหลิวเสวียข่ายขึ้นมา “ทางฝั่ง ผอ.หลิวก็จะรีบกลับเหมือนกันค่ะ เขาวางแผนการเดินทางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีธุระเร่งด่วนอะไรสักอย่าง”
เมื่อเห็นซูหว่านอี๋พูดแบบนี้ เผยเจิ้งผู่และข่งไฉ่อิงก็ไม่คัดค้านอีกต่อไป แต่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้นที่หลิวเสวียข่ายกับเซี่ยเจ๋อหลี่พร้อมกับคนอีกกลุ่มหนึ่งกลับไปแล้ว เผยเจิ้งผู่ก็เฝ้ามองดูเรือที่กำลังแล่นออกไปด้วยคิ้วที่ขมวดขึ้นนิดหน่อย
“ดูเหมือนจะมีอีกคนอยู่บนเรือด้วยนะ”
ข่งไฉ่อิงจ้องมอง ก่อนจะนับอีกครั้งแล้วกล่าว “คุณมองผิดแล้ว ก็มีแค่พวกหว่านอี๋ไม่ใช่เหรอ นับจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว”
ขณะนี้เรือแล่นไปไกลแล้ว เผยเจิ้งผู่จึงถอนสายตาออกจากเรือแล้วไม่พูดอะไรอีก
หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่กับคนอีกกลุ่มหนึ่งก้าวเท้าเข้าสู่ท่าเรือหลัวหู สุดท้ายก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินใหญ่แล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
คู่นายน้อยเจี่ยงกับปิงชิงก็น่ารักเหลือเกิน หวานจนขนมจืดหมดแล้ว
พี่หลี่มีภารกิจอะไรหนอ อยากรู้จัง
ไหหม่า(海馬)