ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 489 ตกลงร่วมงาน(2)
ตอนที่ 489 ตกลงร่วมงาน(2)
ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็ยิ้มแล้วกล่าวทักทายเช่นกัน จากนั้นก็กล่าวทักทายผู้อาวุโสเซี่ยและเซี่ยฉางเจี๋ยอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปหาเซี่ยปิงชิงแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ปิงชิง เธอท้องเป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้อยากกินอะไรไหม”
“น้าซูน้าเหยาวางใจค่ะ หนูแค่ชอบนอนมาก นอกนั้นก็ไม่มีอาการอื่นเลยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ”
เซิงลี่เห็นทั้งสองเป็นห่วงลูกสาวคนเล็ก ก็พูดจาหยอกล้อ “ช่วงนี้หล่อนชอบกินขนมหอมหมื่นลี้น่ะค่ะ” นอกจากนี้ยังเล่าเรื่องที่เจี่ยงสือเหิงไปเรียนทำขนมหอมหมื่นลี้มาจากเถ้าแก่
ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือเปิดปากหัวเราะขึ้น
แต่ในใจกลับรู้สึกอิจฉานิดหน่อย เมื่อนึกไปถึงตอนที่พวกตนแต่งงานกันใหม่ ๆ ฉินเจี้ยนเซ่อกับเซี่ยเหวินปิงไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ดังนั้นทั้งสองจึงกุมมือเซี่ยปิงชิงแล้วพูดขึ้น “ปิงชิงเอ๊ย ถึงแม้บางทีสือเหิงจะไม่ค่อยพูดมากนัก แต่เขาก็ใส่ใจเธอมากจริง ๆ นะ ต่อไปหนุ่มสาวอย่างพวกเธอจะต้องมีความสุขมากแน่นอน”
“อื้ม”
สีหน้าและสายตาเซี่ยปิงชิงพลันยิ้มแย้มจนเห็นความสุขได้อย่างฉายชัด
ถึงแม้ว่าเจี่ยงสือเหิงกำลังพูดคุยกับเซี่ยเหวินปิงและฉินเจี้ยนเซ่อ แต่เขาก็ยังให้ความสนใจทางด้านเซี่ยปิงชิงด้วย เมื่อเห็นหล่อนยิ้มแย้มตลอดการพูดคุยจึงยกยิ้มตาม
ฉินเจี้ยนเซ่อและเซี่ยเหวินปิงเห็นสายตาของเจี่ยงสือเหิงอยู่แล้ว เมื่อเห็นแบบนี้ ทั้งสองก็รู้สึกไม่ค่อยอยากมอง
เซี่ยฉางเจี๋ยมีความสุขมากเมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเล็กกับลูกเขยเป็นแบบนี้ ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจที่ลูกสาวคนเล็กเลือกเจี่ยงสือเหิง แล้วปฏิเสธการแต่งงานที่ครอบครัวจัดหาให้
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร เซิงลี่ก็ได้พูดคุยกับฉินมู่หลานเกี่ยวกับมู่เสวี่ย
“มู่หลาน น้าได้ยินมาว่าครั้งนี้หว่านอี๋กับจิ้งจือไปฮ่องกงเป็นเพราะกำลังจะวางขายเครื่องสำอางในฮ่องกง ก็เลยไม่รู้ว่าจะนำสินค้าของมู่เสวี่ยไปวางขายที่ซีอานด้วยได้ไหม?”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็หันไปมองเซิงลี่ด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเอ่ยถาม “น้าเซิง น้าเองก็อยากร่วมงานกับทางมู่เสวี่ย แล้วเอาเครื่องสำอางไปวางขายที่ซีอานด้วยเหรอคะ ”
เซิงลี่พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ น้าเคยลองใช้เครื่องสำอางของพวกเธอมาแล้ว ผลลัพธ์ดีมาก เพราะฉะนั้นน้าก็เลยอยากเอาเครื่องสำอางไปวางขายที่ซีอานด้วย ถึงตอนนั้นคงมีคนซื้อเยอะแน่นอน”
“เรื่องนี้ต้องคุยกับ ผอ.หลิวก่อนค่ะ มีขั้นตอนโดยเฉพาะ จึงต้องถามเขาก่อนค่ะ”
ฉินมู่หลานไม่คัดค้านอยู่แล้ว
หลังจากผู้อาวุโสเซี่ยรอลูกสะใภ้พูดจบแล้ว ก็พูดุยกับฉินมู่หลานอีกเรื่องหนึ่งด้วย “มู่หลาน จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้คำตอบจาก ผอ.หลิวเลย หรือว่าอาหารเสริมของเราจะส่งออกไม่ได้กันนะ”
“พรุ่งนี้รอให้ ผอ.หลิวมา แล้วค่อยถาเขเพิ่มมนะคะ”
“ได้ ยังไงก็ต้องถามเขา”
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็มาที่บ้านตระกูลเจี่ยงอีกครั้ง และหลิวเสวียข่ายก็มาถึงแล้วเช่นกัน เขาเห็นฉินมู่หลาน ก็ทักทายพร้อมรอยยิ้ม
ฉินมุ่หลานก็พยักหน้ายกยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง หลังจากนั้นก็พูดถึงแผนธุรกิจของเซิงลี่
เซิงลี่มองไปที่หลิวเสวียข่ายอย่างมีความหวัง รอฟังคำตอบจากเขา
หลิวเสวียข่ายก็ไม่ทันคาดคิดว่าเขาได้รับเชิญมากินข้าว จริง ๆ แล้วเป็นเพราะเรื่องนี้ แต่เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นแบบนี้ จึงรีบพูดกับเซิงลี่ทันที หลังจากนั้นทั้งสองก็บรรลุข้อตกลงกันอย่างมีความสุข
ผู้อาวุโสเซี่ยเห้นว่าทั้งสองกำลังเจรจากันเสร็จแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะเปิดปากถาม “ผอ.หลิว ไม่ทราบว่าเรื่องอาหารเสริมที่เราเคยคุยกันครั้งก่อน ตอนนี้ไปถึงไหนแล้วครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิวเสวียข่ายก็ค้างไป สุดท้ายก็บอกอย่างช่วยไม่ได้ “ตอนนี้เรื่องยังไม่ถึงไหนเลยครับ เพราะเป็นยาที่ใช้ภายใน ดังนั้นพวกชาวตะวันตกจึงไม่ลองใช้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นจนถึงตอนนี้ยังไม่มีบริษัทไหนตกลงร่วมงานเลยครับ”
ฉินมู่หลานก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
แต่หลิวเสวียข่ายก็ยังนำข่าวอื่นมาบอกกล่าวอีก “มู่หลาน อีกสองวันคุณวิลเลียมคนนั้นจะมาปักกิ่ง ก่อนหน้านี้เขายินดีร่วมงานพวกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำไมครั้งนี้เราไม่ลองเสนอเรื่องอาหารเสริมดูล่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันจะไปคุยกับคุณวิลเลียม”
หลิวเสวียข่ายเห็นว่าฉินมู่หลานกำลังตั้งท้อง ตัวเองยังรบกวนให้เธอไปคุยกับคุณวิลเลียมอีก อยู่ ๆ ก็รู้สึกเกรงใจนิดหน่อย “มู่หลาน ครั้งนี้ลำบากเธอแล้ว”
ผู้อาวุโสเซี่ยและเซี่ยฉางเจี๋ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวเช่นกัน “ใช่แล้วมู่หลาน ลำบากเธอแล้ว”
และเซี่ยฉางเจี๋ยก็อดพูดไม่ได้ “หรือว่าครั้งนี้ให้อาไปกับเธอด้วยดีไหม”
ฉินมู่หลานไม่ปฏิเสธ ก่อนจะพยักหน้าแล้วบอกกล่าวตามตรง “ได้ค่ะคุณอาเซี่ย อาหารเสริมพวกนี้คุณอารู้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นถึงเวลาคุณอาก็ไปกับฉันได้ค่ะ”
เมื่อผ่านไปสองวัน หลิวเสวียข่ายก็มาแจ้งข่าวให้ฉินมู่หลานทราบว่าวิลเลียมมาถึงเมืองหลวงแล้ว “มู่หลาน ผมนัดหมายกับคุณวิลเลียมแล้ว เป็นช่วงบ่ายวันนี้”
“ค่ะ ลำบาก ผอ.หลิวแล้ว”
ฉินมู่หลานได้รับข่าวแล้วก็ตรงไปหาเซี่ยฉางเจี๋ยทันที หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกเดินทาง แล้วตรงไปที่ดรงโณงแรมปักกิ่ง
เมื่อวิลเลียมได้พบฉินมู่หลาน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจสุดขีด “อ้า…ฉิน คุณกำลังตั้งท้องเหรอเนี่ย ยินดีด้วยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ฉินมู่หลานเอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็แนะนำเซี่ยฉางเจี๋ยให้รู้จักกับวิลเลียม
วิลเลียมได้พบกับเซี่ยฉางเจี๋ยแล้วก็เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง
หลังจากทั้งสามนั่งลง วิลเลียมก็ไม่อ้อมค้อม แล้วเอ่ยตามตรง “มิสซิสฉิน ผมทราบแล้วว่าทำไมพวกคุณถึงอยากพบผม แต่การร่วมงานครั้งนี้พวกเราไม่มีทางเลือกจริง ๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีคนกินอาหารเสริมเพื่อให้สวยมาก่อน เพราะของพวกนั้นคือยา จะกินโดยประมาทไม่ได้”
เซี่ยฉางเจี่ยไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษ เมื่อได้ฟังจึงเกิดความสงสัย
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพูดกับวิลเลียม “คุณวิลเลียมคะ คุณไม่เชื่อใจฉันเหรอ เครื่องสำอางพวกนั้นฉันเป็นคนพัฒนาคิดค้นสูตรเองทั้งหมด อาหารเสริมในครั้งนี้ฉันก็เป็นคนคิดค้นสูตรเองทั้งหมดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นรับรองได้ว่าไม่มีปัญหาค่ะ”
“มิสซิสฉิน อาหารเสริมพวกนั้นคุณก็เป็นคนคิดค้นด้วยเหรอ คุณวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอางไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้ผลิตยาด้วย” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่วิลเลียมก็ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นนัก เห็นได้ชัดว่าฉินมู่หลานที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนพัฒนาเครื่องสำอาง แต่แล้วก็ยังพัฒนายาด้วย สองสาขาวิชานี้มันไม่เกี่ยวข้องกันเลย
ฉินมู่หลานก็มองออกว่าวิลเลียมดูไม่ค่อยเชื่อใจนัก
“คุณวิลเลียมคะ สองวันมานี้คุณรู้สึกไม่ค่อยดีใช่ไหม อีกทั้งยังรู้สึกเวียนหัวเป็นครั้งคราว”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หาทางจดทะเบียนยาก่อนแล้วกันค่ะมู่หลาน ทำแบบนี้มันเหมือนยาผีบอกยังไงไม่รู้นะ
ไหหม่า(海馬)