ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 491 น่าทึ่งมาก(2)
ตอนที่ 491 น่าทึ่งมาก(2)
ทันทีที่วิลเลียมเห็นฉินมู่หลาน เขาก็เอ่ยอุทานเสียงดัง “อ้า…มิสซิสฉินที่รักของผม คุณช่างน่าทึ่งมากจริง ๆ ยาเม็ดพวกนั้นของคุณดีมากเลย ที่แท้ศาสตร์ยาจีนที่คุณร่ำเรียนมาก็น่าทึ่งขนาดนี้เลยทีเดียว”
พูดจบเขาก็ก้าวเดินมาหาฉินมู่หลาน หากไม่ใช่เพราะเธอกำลังท้องโต เขาคงอยากจะกระโดดกอดเธอไปนานแล้ว
ฉินมู่หลานเห็นวิลเลียมดูกระตือรือร้นมาก จึงทราบได้ทันทีว่าเขานำขวดยานั้นไปใช้แล้ว
“คุณวิลเลียม ฉันสังเกตว่าผิวของคุณดูดีขึ้นมากเลย ดูเหมือนว่าคุณจะกินยาขวดนั้นไปสินะคะ”
วิลเลียมได้ยินแบบนี้ก็รีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าวทันที “ใช่ครับ ผมกินแล้ว วันนั้นตอนเย็นผมกินยาที่โรงพยาบาลจ่ายให้ แต่แล้วก็เกิดอาการเวียนหัว ผมอยากจะเรียกหาใครก็ส่งเสียงไม่ได้เลย ตอนนั้นผมกลัวมาก สุดท้ายก็เหลือบไปเห็นขวดยาที่คุณให้มา ก็เลยกินไปสองเม็ดทั้งที่อาการย่ำแย่ ไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านไปสักพัก ผมรู้สึกว่าตัวเองมีอาการดีขึ้นมาก”
เดิมทีเขาคิดจะมาหาฉินมู่หลานในวันถัดไป แต่ก็กลัวว่ายาทางฝั่งตะวันตกอาจเพิ่งออกฤทธิ์ จึงทำให้เขาอาการดีขึ้น ดังนั้นเขาจึงลองหยุดยาแผนตะวันตก แล้วมากินยาของฉินมู่หลานเพียงอย่างเดียว
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นที่ชัดเจนว่ายาของฉินมู่หลานใช้ได้ผลจริง ในช่วงสองวันมานี้เขารู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย อาการเวียนศีรษะและคลื่นไส้หายเป็นปลิดทิ้ง อาการองค์รวมนับว่าดีขึ้น ดังนั้นเขาจึงรีบมาพบหลิวเสวียข่าย เพื่อนัดพบกับฉินมู่หลานอีกครั้ง
หลังจากได้ยินสิ่งที่วิลเลียมพูด ฉินมู่หลานก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “คุณวิลเลียม ฉันก็เคยบอกไปแล้ว ว่ายาขวดนั้นจะทำให้คุณอาการดีขึ้น ขอเพียงแค่คุณใช้ไปครึ่งเดือน อาการก็จะหายขาด”
“ครับ ผมจะกินต่อเนื่องให้ถึงครึ่งเดือนแน่นอน”
ก่อนหน้านี้ไม่ยอมเชื่อ พอถึงตอนนี้กลับเชื่อมั่นสุดใจ รู้สึกว่าศาสตร์แพทย์แผนจีนมหัศจรรย์มาก
ฉินมู่หลานเห็นวิลเลียมเชื่อในทักษะทางการแพทย์ของเธอ เชื่อมั่นในยาของเธอ จึงนำเรื่องเก่าขึ้นมาพูดอีกครั้ง “คุณวิลเลียมคะ ในเมื่อคุณเชื่อทักษะทางการแพทย์ของฉันแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณก็วางใจในอาหารเสริมความงามของพวกเราได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นพวกเรามานั่งเจรจาร่วมงานกันในครั้งนี้ให้เรียบร้อยได้ไหมคะ”
หลิวเสวียข่ายที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยตาม “ใช่ครับคุณวิลเลียม หมอฉินของเราเป็นหมอที่เก่งกาจมากคนนึงเลย อาหารเสริมความงามพวกนั้นหล่อนล้วนเป็นคนผลิต เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาแน่นอนครับ”
“ใช่ค่ะ ไม่มีปัญหาแน่นอน หากคุณไม่เชื่อก็สามารถหาอาสาสมัครมาทดสอบได้นะคะ” ฉินมู่หลานยังทำหน้าที่ต่อไป เริ่มหว่านล้อม
ในครั้งนี้ วิลเลียมไม่ปฏิเสธในทันที แต่เปิดปากเอ่ยถามแทน “ให้ผมดูอาหารเสริมความงามของพวกคุณหน่อยได้ไหม?”
นี่ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมาก ก่อนหน้านี้วิลเลียมไม่เคยขอดูเลยด้วยซ้ำ บอกกล่าวตามตรงว่าจะไม่ร่วมงานด้วย แต่ครั้งนี้กลับอยากขอดู เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มเชื่อมั่นในยาเม็ดพวกนั้นแล้ว
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วบอกกล่าว หลังจากนั้นก็หยิบยาพวกนั้นออกมาทันที พวกนี่คือยาที่ตระกูลเซี่ยสกัดขึ้นภายหลัง เป็นยาที่ทำให้เธอโดยเฉพาะ
“คุณวิลเลียม ยาพวกนี้ไม่เพียงแค่ทำให้รูปร่างหน้าตาดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังบำรุงสุขภาพด้วย คุณสามารถหาอาสาสมัครมาลองได้จริง ๆ นะคะ หลังจากเห็นผล ก็ยังไม่สายที่จะให้คำตอบพวกเรา”
เมื่อได้ยินแบบนี้ วิลเลียมก็เอ่ยถามตามตรง “ที่คุณบอกว่าดูดี ต้องกินไปนานแค่ไหนถึงจะเห็นผล”
“ประมาณครึ่งเดือนก็เห็นผลแล้วค่ะ”
วิลเลียมได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าตามตรงแล้วเอ่ย “ได้ ผมเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมจะลองให้คนทดลอง ถ้าอย่างนั้นผมขอนำยาพวกนี้ติดกลับไปด้วยได้ไหมครับ?”
“ได้แน่นอนค่ะ”
ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากคุยเรื่องนี้จบ ในที่สุดวิลเลียมก็พูดถึงจุดประสงค์ของการมาที่นี่ในครั้งนี้
“มิสซิสฉิน คุณยังมียาที่เคยให้ผมไปก่อนหน้านี้อยู่ไหมครับ ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก ผมจะได้กินยาได้ทันที”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดยิ้มไม่ได้ “คุณวิลเลียมคะ ยาที่ฉันให้คุณไปวันนั้นเป็นตัวยาจริง ๆ ที่ตรงตามอาการของคุณในวันนั้นค่ะ หลังจากนี้ถ้าคุณรู้สึกไม่สบาย ต้องพิจารณาก่อนว่าอาการเป็นยังไง แล้วดูว่ากินได้หรือไม่ได้ จะกินแบบพร่ำเพรื่อไม่ได้นะคะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ วิลเลียมก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อย “เหรอครับ ผมคิดว่าถ้ามีอาการคล้ายกันแต่ไม่รุนแรงมากก็สามารถกินได้เสียอีก”
หลังจากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันต่ออีกสักพัก แล้ววิลเลียมก็กลับไปพร้อมกับหลิวเสวียข่าย
และฉินมู่หลานก็ตรงไปที่บ้านของผู้อาวุโสเซี่ย
“คุณปู่คะ มีหวังแล้วค่ะ” หลังจากนั้นเธอก็เล่าเรื่องที่วิลเลียมมาหาเธอให้ฟัง หลังจากนั้นจึงพูดต่อ “ขอเพียงแค่วิลเลียมยอมหาคนมาทดลองยาจริง ถ้าอย่างนั้นพวกเขาจะต้องสนใจร่วมงานกับเราแน่นอนค่ะ”
“เขาน่าจะหาคนมาลองนั่นแหละ เพราะหลานเคยให้ยาเขาไป ทำให้อาการของเขาทุเลาลง”
ฉินมู่หลานก้รู้สึกว่าวิลเลียมจะหาคนมาทดลองยาจริง สิ่งที่พวกเขาต้องทำต่อไปก็เพียงแค่รอเท่านั้น
หลังจากครบครึ่งเดือน วิลเลียมก็มาหาที่หน้าประตูอีกครั้ง ครั้งนี้สีหน้าของเขาแดงเรื่อเหมือนสีดอกกุหลาบ ทั้งคนดูผ่องใสไปหมด
“มิสซิสฉิน ผมกินยาที่คุณให้ไปหมดแล้ว ผมหายดีเป็นปลิดทิ้ง ส่วนยาเสริมความงามที่คุณให้ผมมา ผมก็หาคนมาทดลองแล้ว ผลลัพธ์ที่ถือได้ดีมาก ไม่เพียงแค่ผิวขาวละสวยขึ้นเท่านั้น แต่สุขภาพก็ดีขึ้นด้วย มันน่าทึ่งมากเลย”
เขาไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าการกินยาจะทำให้คนสวยขึ้นได้ นอกจากนี้ยังทำให้สุขภาพดีขึ้นอีก มันน่าทึ่งมากจริง ๆ
ฉินมู่หลานเห็นสีหน้าตื่นเต้นของวิลเลียมก็หัวเราะขึ้นทันที
“คุณวิลเลียมคะ ถ้าอย่างนั้นเราจะร่วมงานกันได้ไหมคะ’
“ได้แน่นอนครับ”
ในครั้งนี้ หลิวเสวียข่ายก็มาด้วยตามปกติ เมื่อเห็นทั้งสองกำลังจะร่วมงานกันอีกครั้งก็รู้สึกดีใจ
และฉินมู่หลานก็ให้คนไปตามเซี่ยฉางเจี๋ย เพื่อให้เขามาร่วมเซ็นข้อตกลงด้วย เพราะตระกูลเซี่ยเป็นกำลังหลักในการผลิตยาเม็ดพวกนี้ เธอเพียงแค่ให้สูตรยาไปแล้วร่วมงานกับตระกูลเซี่ย
หลังจากเซี่ยฉางเจี๋ยมาถึง ทั้งสามคนก็นั่งคุยเรื่องข้อตกลงร่วมงานกัน
แม้ว่าวิลเลียมจะเชื่อมั่นในยาจีนเม็ดเล็ก ๆ พวกนี้ก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังกลัวว่าจะไม่มีคนซื้อ ดังนั้นการสั่งซื้อในครั้งแรกจึงยังไม่มากนัก ถึงอย่างนั้น เซี่ยฉางเจี๋ยกับฉินมู่หลานก็ยังดีใจ หลังเริ่มต้นมาอย่างยากลำบาก ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเดินหน้าแล้ว ต่อไปจะต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน
เมื่อตกลงร่วมงานกันได้ ทั้งสองฝ่ายต่างมีความสุข
หลังจากวิลเลียมและหลิวเสวียข่ายจากไป เซี่ยฉางเจี๋ยก็หันมองฉินมู่หลานด้วยรอยยิ้มพลางกล่าวขึ้น “มู่หลาน ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเธอ แต่ตอนนี้เราเซ็นสัญญากันแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราต้องรีบเร่งผลิตเดี๋ยวอาจะกลับซีอานในอีกสองวัน”
“คุณอาเซี่ย ถ้าอย่างนั้นเรื่องทำยาเม็ดต้องฝากคุณอาแล้วค่ะ”
เซี่ยฉางเจี๋ยได้ยินแบบนี้ก็โบกมือ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของตน ฝากเรื่องนี้ก็นับว่าถูกต้องแล้ว
ผ่านไปสองวัน ผู้อาวุโสเซี่ย สองสามีภรรยาเซี่ยฉางเจี๋ยกับเซิงลี่ ก็เดินทางออกจากเมืองหลวง ทำให้เซี่ยปิงชิงกับเซี่ยปิงหรุ่ยรู้สึกปรับตัวไม่ค่อยได้ โชคดีที่นอกจากเซี่ยปิงชิงแล้วยังมีเซี่ยปิงหรุ่ยอยู่ด้วย ดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงไม่น่าเบื่อเกินไป
หลังจากฉินมู่หลานเสร็จธุระเรื่องนี้แล้ว เธอก็รู้สึกผ่อนคลายไปหมด ตอนแรกเธอวางแผนจะไปเดินช้อปปิ้งในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ โดยไม่ทันคาดคิดว่า แผนจะกลับตาลปัตร ทำให้เธอไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งเลย
ฉินมู่หลานมองไปที่ฉินเคอวั่งด้วยความลำบากใจ ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “เคอวั่งเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้”
ฉินเคอวั่งก็คาดไม่ถึงเช่นกัน เขาเพิ่งกลับมาถึงบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ต้องมาเผชิญหน้ากับพี่สาว เขาได้ยินว่าพี่สาวจะออกไปช้อปปิ้งซื้อของ จึงคิดว่าพี่สาวออกไปแล้ว “ผม…ผมไม่ทันระวังเลยล้ม”
และเมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานกลับไม่เชื่อคำพูดนั้นเลย
“นายโกหกพี่ใช่ไหม แผลนายดูไม่เหมือนหกล้มเลยสักนิด”
บ
“ผม…”
ฉินเคอวั่งเปิดปากออก แต่ทันใดนั้นกลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
กินยาขนานอื่นอยู่แล้วหยุดยาไปเฉยๆ แล้วกินยาขนานนี้มันจะไม่ดื้อยาเอาเหรอ
เคอวั่งไปมีเรื่องกับใครมาหรือเปล่าเนี่ย
ไหหม่า(海馬)