ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 516 ทำไมถึงเป็นแบบนี้(1)
ตอนที่ 516 ทำไมถึงเป็นแบบนี้(1)
เมื่อฉินมู่หลานเห็นเช่าเจิ้งเฟิง สีหน้าก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ “หมอเช่า ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ?”
สีหน้าของเช่าเจิ้งเฟิงเต็มไปด้วยความกังวล
“หมอฉินครับ ดีจังเลยที่ได้พบคุณที่นี่ ตอนนี้อย่ามัวพูดอะไรกันเยอะเลยครับ คุณไปโรงพยาบาลทหารกับผมได้ไหม มีคนไข้ที่ต้องให้คุณช่วยผ่าตัดครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของฉินมู่หลานก็ค่อย ๆ จริงจังมากขึ้น “ด่วนมากเลยเหรอคะ ต้องไปตอนนี้เลยเหรอ?”
“ครับ”
เช่าเจิ้งเฟิงรีบอธิบายเพิ่มทันที ขณะเดียวกันก็ได้สังเกตเห็นชิงชิงกับเฉินเฉินด้วย “หมอฉินครับ ถ้าคุณกลัวว่าจะไม่มีใครดูแลพวกเด็ก ๆ พาไปที่โรงพยาบาลด้วยก็ได้นะครับ มีพยาบาลคอยช่วยดูแล”
ฉินมู่หลานครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันลองไปถามพี่สะใภ้บ้านข้าง ๆ ก่อน ว่าช่วยดูแลเด็ก ๆ ทั้งสองคนได้ไหม”
เธอกังวลใจที่จะพาเด็ก ๆ ทั้งสองคนไปโรงพยาบาลด้วย ที่นั่นมีคนเยอะขนาดนั้น ตัวเธอเองก็ดูแลไม่ทั่วถึง ให้อยู่ที่นี่แล้วฝากคนไปบอกเซี่ยเจ๋อหลี่ให้เขารีบมาดีกว่า
“ครับ”
เช่าเจิ้งเฟิงได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าอย่างไม่ขัด
หลังจากเป่ยไห่หงเปิดประตูออก ฉินมู่หลานก็พบว่าโจวหมิ่นอยู่ที่นั่นด้วย จึงรีบอธิบายสถานการณ์ให้พวกหล่อนฟังทันที หลังจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้ทั้งสอง พอดีฉันมีธุระต้องรีบไปทำ ขอฝากดูแลเด็ก ๆ ทั้งสองคนได้ไหมคะ วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ตอนแรกฉันจะพาพวกแกมาหาพ่อเขา ไม่คิดว่าจะมีเรื่องฉุกเฉิน”
เช่าเจิ้งเฟิงก็รีบเดินเข้ามาหาเช่นกัน ก่อนจะมองเป่ยไห่หงและโจวหมิ่นแล้วเอ่ยขึ้นว่า “รบกวนด้วยครับ”
เช่าเจิ้งเฟิงเป็นหัวหน้าแพทย์ของโรงพยาบาลทหาร ทำให้หลายคนรู้จักเขา เป่ยไห่หงและโจวหมินก็รู้จักเหมือนกัน สีหน้าของทั้งสองจึงเต็มไปด้วยความแปลกใจ “ผอ.เช่า ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้คะ”
ไม่นานนักทั้งสองก็ตระหนักได้ว่าเรื่องที่ฉินมู่หลานบอกว่าเร่งด่วนนั้นย่อมเกี่ยวข้องกับหมอเช่า ทั้งสองจึงรีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ได้อยู่แล้วค่ะ”
ชิงชิงและเฉินเฉินไม่รู้จักเป่ยไห่หงและโจวหมิ่น แต่ทั้งสองก็รู้ความมาก จึงไม่พูดอะไร แล้ววิ่งไปสวมกอดฉินมู่หลานก่อนจะโบกมือให้แล้วกล่าวว่า “บ๊ายบายหม่าม้า”
เมื่อเห็นว่าเด็ก ๆ ทั้งสองเป็นเด็กดีแบบนี้ เป่ยไห่หงและโจวหมิ่นก็รู้สึกเหมือนใจจะละลาย ลูกของพวกหล่อนทั้งสองคนโตกันหมดแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ก็ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า เมื่อเห็นว่าชิงชิงและเฉินเฉินเป็นเด็กดี จึงรีบพยักหน้าแล้วกล่าว “ได้ พวกเราจะช่วยดูแลเด็ก ๆ ทั้งสองคนให้อย่างดีเลย”
ฉินมู่หลานมองทั้งสองคนพลางเอ่ย “พี่สะใภ้ รบกวนหาคนไปบอกอาหลี่หน่อยนะคะ ให้เขารู้ว่าเด็ก ๆ มากันแล้ว”
“ได้ ไม่มีปัญหา”
ฉินมู่หลานทราบว่าเช่าเจิ้งเฟิงกำลังรีบ เธอจึงหันไปกำชับเด็ก ๆ ทั้งสองคนอีกครั้ง แล้วคิดจะออกไปข้างนอกทันที นึกไม่ถึงว่าเซี่ยเจ๋อหลี่จะเพิ่งมาถึง
เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่มา ฉินมู่หลานก็ได้แต่รู้สึกโล่งใจ
“อาหลี่ คุณมาทันเวลาพอดีเลยค่ะ”
ฉินมู่หลานอธิบายเรื่องให้กระชับที่สุด หลังจากนั้นจึงกล่าวต่อ “เดี๋ยวฉันไปก่อน ฝากคุณช่วยดูเด็ก ๆ ทั้งสองหน่อยนะคะ”
“มู่หลาน…”
เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ทราบว่าฉินมู่หลานจะไปช่วยงานที่โรงพยาบาล สีหน้าของเขาก็ดูกังวลใจ แต่เขาก็ทราบว่าชีวิตคนกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง จึงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก พูดแค่เพียงว่า “พวกเราจะรอคุณกลับมานะ”
“โอเค”
หลังจากฉินมู่หลานตามเช่าเจิ้งเฟิงไปแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบหันไปมองทางเป่ยไห่หงและโจวหมิ่นก่อนจะกล่าวว่า “ขอบคุณพี่สะใภ้ทั้งสองมากครับ”
เป่ยไห่หงและโจวหมิ่นรีบโบกมือพลางกล่าว “ผู้กองเซี่ย เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ พวกเรายังไม่ได้ช่วยอะไรเลย ว่าแต่…”
พวกหล่อนสองคนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “เสี่ยวฉินรู้จัก ผอ.เช่าด้วยเหรอคะ พวกเขารีบร้อนไปไหนกัน ดูเหมือนจะเป็นกังวลมากเลยนะคะนั่น”
เซี่ยเจ๋อหลี่ส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมเพิ่งย้ายมา ก็เลยไม่รู้อะไร”
และเมื่อชิงชิงกับเฉินเฉินเห็นว่าพ่อมา ก็รีวิ่งไปข้างหน้าด้วยขาสั้น ๆ “ปะป๊า”
“ปะป๊าอยู่นี่”
เซี่ยเจ๋อหลี่อุ้มขึ้นมาพร้อมกันทีเดียว ก่อนจะหอมแก้มเด็ก ๆ ทั้งสองคนละหนึ่งครั้ง
เมื่อเห็นเด็กใบหน้าของเด็ก ๆ ทั้งสองขาวนวลเหมือนหยกแกะสลัก เป่ยไห่หงและโจวหมิ่นก็ทำตัวอย่างที่พบเจอได้ยาก ทั้งสองรีบเอ่ยถาม “ผู้กองเซี่ย ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ ให้เด็ก ๆ ทั้งสองคนอยู่ที่นี่กับพวกเราก็ได้ค่ะ พวกเราจะช่วยดูแลเอง”
แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ไม่มีอะไรแล้วครับ เดี๋ยวผมดูพวกเขาเองก็ได้”
เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ผู้เป็นพ่อกล่าวแบบนั้น เป่ยไห่หงและโจวหมิ่นจึงไม่พูดอะไรมากมายอยู่แล้ว ทำเพียงแค่สัมผัสมือเล็ก ๆ ของชิงชิงและเฉินเฉินด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนจะกล่าวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า “พวกเธออายุเท่าไหร่กันแล้วจ๊ะ ชื่ออะไรกันเอ่ย”
ทั้งสองตอบคำถามอย่างน่ารัก หลังจากนั้นก็ตามเซี่ยเจ๋อหลี่กลับไปยังประตูฝั่งตรงข้าม
เด็กสองคนถูกเซี่ยเจ๋อหลี่อุ้มเอาไว้ ใบหน้าน้อยของทั้งสองจึงหันไปทางเป่ยไห่หงและโจวหมิ่น และยังโบกมือให้พวกหล่อนอย่างน่ารัก
จนกระทั่งเซี่ยเจ๋อหลี่ปิดประตูลง เป่ยไห่หงและโจวหมิ่นจึงกลับมาได้สติอีกครั้ง ทั้งสองจึงพูดสิ่งที่อยู่ในใจ “สวรรค์ เด็กสองคนนั้นน่ารักมากเลย อย่างกับเด็กที่หลุดออกมาจากภาพวาด ช่างพบเจอได้ยากเหลือเกิน”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเคยเดาเอาไว้นะ ว่าลูกของเสี่ยวฉินกับผู้กองเซี่ยจะต้องหน้าตาดีมากแน่นอน แต่ไม่คิดว่าพอมาเห็นกับตาแล้วจะหน้าตาดีมากขนาดนี้ อยากจะขโมยมาเลี้ยงเองเสียจริง”
ก่อนหน้านี้พวกหล่อนไม่เคยรู้สึกว่าเด็กเล็กนั้นน่ารักเลย ได้แต่รู้สึกรำคาญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เมื่อได้เจอชิงชิงกับเฉินเฉินแล้วก็รู้สึกต่างออกไป ในหัวมีแต่คำว่าน่ารักเหลือเกิน
อีกด้านหนึ่ง ฉินมู่หลานก็ตามเช่าเจิ้งเฟิงไปถึงโรงพยาบาลทหารแล้ว
“คณบดีครับ หมอฉินมาแล้วครับ”
กวนเสียนชวนก็รู้จักฉินมู่หลาน ไม่ใช่แค่เพียงว่าเธอเป็นผู้พัฒนายาพิเศษหลายตัวดท่านั้น แต่เธอยังเคยมอบสูตรยาให้กับทางฐานทัพด้วย และเถาป๋อหลุนผู้อำนวยการโรงพยาบาลปักกิ่งก็รู้จักกับเขา ทั้งสองมักชอบพูดถึงฉินมู่หลานเป็นครั้งคราว ตอนนี้เมื่อได้มาพบเธอ เขาจึงยกยิ้มแล้วรีบก้าวเข้าไปทักทายทันที “หมอฉิน รบกวนคุณด้วยครับ”
แต่แล้วกวนเสียนชวนก็เห็นท้องนูนโตของฉินมู่หลาน สีหน้าจึงเป็นกังวลนิดหน่อย
ฉินมู่หลานบอกกล่าวตามตรง “ไม่มีปัญหาค่ะ”
โชคดีที่เธอมีนิสัยชอบพกเข็มทองและยาที่จำเป็นต่าง ๆ ติดตัวไปด้วยเสมอ ครั้งนี้จึงสามารถตามเช่าเจิ้งเฟิงมาได้ทันที “พวกเราเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างในให้เรียบร้อยเถอะครับ”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นรบกวนหมอฉินด้วยนะครับ”
ขณะทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ก็มีคนวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ หลังจากพบกวนเสียนชวนแล้วก็รีบเอ่ยถามทันที “ผอ.กวน อาการของเหวินฮุยเป็นยังไงบ้าง?”
กวนเสียนชวนเห็นถูไคหัวมา จึงรีบอธิบายอาการทันที
“เนื่องจากตำแหน่งกระสุนขยับ ตอนนี้จึงต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนครับ พวกเราเชิญหมอฉินมาช่วยด้วย จะพยายามทำการผ่าตัดครั้งนี้อย่างสุดความสามารถครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ถูไคหัวก็หันไปมอง จนกระทั่งเห็นฉินมู่หลาน แววตาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “นี่คือหมอที่เชิญมาช่วยเหรอครับ?”
“ครับ”
แต่ถึงอย่างนั้น ถูไคหัวเห็นว่าอีกฝ่ายท้องโตมาก อีกทั้งอายุยังดูอ่อนเยาว์ อยู่ ๆ จึงรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมานิดหน่อย เพียงแต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไร เช่าเจิ้งเฟิงก็เอ่ยขึ้นก่อน “ผบ.ถู เดี๋ยวผมพาหมอฉินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ พวกเราต้องรีบทำการผ่าตัด”
ฉินมู่หลานได้ยินเช่าเจิ้งเฟิงเอ่ยเรียกถูไคหัว จึงตระหนักขึ้นมาได้ ว่าคนตรงหน้าคือ ถูไคหัว ผู้บัญชาการคนใหม่ของเซี่ยเจ๋อหลี่
เพียงแต่อีกฝ่ายไม่รู้จักเธอ เธอจึงไม่พูดอะไร แล้วตามเช่าเจิ้งเฟิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
หลังจากทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตรงเข้าไปในห้องผ่าตัด
ข้างในมีคนรออยู่เยอะมาก และหนึ่งในนั้นก็มีคังอันเหอด้วย หล่อนเพิ่งย้ายมาที่นี่ แต่ทุกคนต่างทราบว่าหล่อนเป็นหลานสะใภ้ของถูไคหัว และฝีมือทางการแพทย์ก็ดีเช่นกัน ดังนั้นครั้งนี้เมื่อสหายของอารองต้องเข้ารับการผ่าตัด หล่อนจึงได้มีโอกาสเข้าร่วมด้วย
ตอนแรกการผ่าตัดในครั้งนี้จะเริ่มนานแล้ว เพียงแต่ตำแหน่งของเศษกระสุนไม่ค่อยดีนัก และกลัวว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นระหว่างผ่าตัด ผอ.เช่าจึงพูดถึงหมอคนหนึ่งขึ้นมา และบอกว่าสามารถช่วยได้ จึงรีบไปตามตัวมา
เมื่อคิดได้แบบนี้ คังอันเหอจึงมองคนที่อยู่ข้าง ๆ เช่าเจิ้งเฟิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ยิ่งมองมากเท่าใดก็ยิ่งหวาดกลัวมากเท่านั้น เมื่อเห็นรูปทรงคิ้วที่คุ้นเคย อีกทั้งพุงใหญ่ ๆ ที่แม้แต่ชุดคลุมผ่าตัดยังปกปิดได้ไม่มิด หล่อนจึงนึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ในทันที
“ฉินมู่หลาน เธอมาทำอะรที่นี่?”
ตอนแรกฉินมู่หลานไม่ทันสังเกตเห็นคังอันเหอ แต่เมื่อเสียงของหล่อนเล็ดลอดออกมา เธอจึงหันไปมองทันที ก่อนจะพบว่าเป็นหล่อน
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ไหวเปล่าเนี่ยมู่หลาน ผ่าตัดคนทั้งที่ตัวเองท้องโตเนี่ยนะ
เธออย่าได้มีเรื่องในห้องผ่าตัดกับมู่หลานเชียวยัยอันเหอ หัดแยกแยะสถานการณ์มั่ง
ไหหม่า(海馬)