ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 517 ทำไมถึงเป็นแบบนี้(2)
ตอนที่ 517 ทำไมถึงเป็นแบบนี้(2)
เมื่อเห็นสีหน้าของคังอันเหอดูเหลือเชื่อ ฉินมู่หลานจึงกระตุกยิ้มขึ้นมุมปาก แล้วบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ฉันมาที่นี่ก็เพื่อทำการผ่าตัดให้น่ะสิ”
“อะไรนะ…เป็นไปไม่ได้ เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วเธอมีคุณสมบัติอะไรถึงเสนอหน้ามาที่นี่ ที่นี่ไม่ใช่ที่ ๆ จะให้เธอมาลองผิดลองถูกนะ”
คังอันเหอไม่อาจปะติดปะต่อฉินมู่หลานกับคุณสมบัติของคนที่หมอเช่าเจิ้งเฟิงเพิ่งพูดถึงได้เลย
เช่าเจิ้งเฟิงบอกว่า เขาจะไปตามหมอที่มีฝีมือการรักษายอดเยี่ยมคนหนึ่งมา หลังจากนั้นก็จะมาช่วยทำการผ่าตัดที่นี่ เพื่อยกระดับให้อัตราการผ่าตัดสำเร็จมากขึ้น เพราะฉะนั้นไม่มีทางใช่ฉินมู่หลานที่อยู่ตรงหน้าอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้น เช่าเจิ้งเฟิงก็หันไปมองด้วยสายเฉียบคม แล้วกล่าวว่า “หมอคัง นี่คือหมอฉินที่ผมไปเชิญมา คุณช่วยระวังคำพูดหน่อย”
เช่าเจิ้งเฟิงก็สังเกตได้ว่าเหมือนทั้งสองจะรู้จักกัน แต่ความสัมพันธ์อาจไม่ค่อยดีนัก มิฉะนั้นคังอันเหอคงไม่ทำน้ำเสียงแบบนี้
คิดได้ดังนั้น เช่าเจิ้งเฟิงจึงกลัวว่าฉินมู่หลานจะรังเกียจ จึงรีบหันไปมองแล้วบอกกล่าวกับเธอ “หมอฉินครับ นี่คือหมอคังที่เพิ่งถูกย้ายมาโรงพยาบาลของเรา หล่อนยังโง่เขลาอ่อนประสบการณ์ คุณอย่าถือสาหล่อนเลยนะครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คังอันเหอก็หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอับอาย
โง่เขลาอ่อนประสบการณ์นี่คืออะไร เห็นได้ชัดว่าฉินมู่หลานอายุน้อยกว่าหล่อนอีก แต่ตอนนี้เช่าเจิ้งเฟิงกลับพูดเหมือนหล่อนเป็นรุ่นน้อง
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ฉินมู่หลานเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ใช่เหรอ ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่กลับเป็นหมอแล้ว จะสามารถผ่าตัดได้จริงเหรอ เกรงว่าหล่อนจะไม่รู้วิธีการจับมีดผ่าตัดด้วยซ้ำ
แต่ก่อนที่คังอันเหอจะได้พูดอะไรต่อ ผู้ป่วยก็ถูกเข็นเข้ามาแล้ว
เช่าเจิ้งเฟิงเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ในครั้งนี้ จึงรีบออกคำสั่งทันที
ทุกคนรีบเข้าตำแหน่งของตัวเอง แล้วเตรียมพร้อมลงมือผ่าตัด
คังอันเหอรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูด ทำเพียงแค่จ้องมองฉินมู่หลาน แล้วไปยืนอยู่ทางด้านหลัง ถึงแม้ว่าครั้งนี้ตนจะได้เข้าร่วมการผ่าตัด แต่กลับไม่มีโอกาสได้จับแม้แต่เข็มด้วยซ้ำ
ขณะที่คังอันเหอยืนอยู่ข้างหลัง สายตาก็เฝ้ามองดูฉินมู่หลานเดินเข้าไปอยู่ข้างเช่าเจิ้งเฟิงอย่างช่วยไม่ได้ และยืนอยู่ทางด้านหน้าด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า คังอันเหอก็เบิกตากว้าง คิดอยากจะก้าวเข้าไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่กลลับโดนคนที่อยู่รอบ ๆ คว้าเอาไว้เสียก่อน “อันเหอ เธอทำอะไร”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คังอันเหอก็กลับมามีสติอีกครั้ง จากนั้นก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว
เช่าเจิ้งเฟิงเป็นคนคุมการผ่าตัดในครั้งนี้ ตอนนี้หล่อนจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ต่อให้มีข้อกังขาในฝีมือของฉินมู่หลาน แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
“เอาล่ะ พวกเราเริ่มกันเลย”
หลังจากเช่าเจิ้งเฟิงออกคำสั่ง ทุกคนในห้องผ่าตัดก็เคลื่อนไหว แต่ฉินมู่หลานไม่ได้ลงมือในทันที เฝ้ามองอยู่ข้าง ๆ ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเช่าเจิ้งเฟิงเปิดปากพูด เธอจึงเริ่มลงมือแทงเข็มทองลงจุดฝังเข็มอย่างแม่นยำเพื่อปิดผนึกชีพจรของคนไข้
งานทางด้านของเธอจบแล้ว แต่ทางฝั่งเช่าเจิ้งเฟิงกลับเพิ่งเริ่ม
เศษกระสุนที่ยังฝังอยู่ในร่างของคนไข้ ทำให้การลงมือก่อนหน้านี้ที่ค่อนข้างยากอยู่แล้วยิ่งยากเข้าไปอีก กระทั่งเช่าเจิ้งเฟิงก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเอากระสุนออกได้สำเร็จหรือไม่ ขณะที่การผ่าตัดยังดำเนินการต่อไป เหงื่อบนหน้าผากของเช่าเจิ้งเฟิงก็เริ่มไหลออกมาทีละนิด
“ซับเหงื่อ”
สิ้นเสียงของเช่าเจิ้งเฟิง พยาบาลคนหนึ่งรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเช็ดเหงื่อให้เขา ในขณะที่เช่าเจิ้งเฟิงยังลงมือผ่าตัดต่อไป
ฉินมู่หลานทราบอาการของคนไข้รายนี้หมดแล้วตั้งแต่เริ่มแรก และทราบด้วยว่าการผ่าตัดในครั้งนี้ยากมาก เธอเห็นว่าเช่าเจิ้งเฟิงลงมือมานานแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเอาเศษกระสุนออกมาได้ จึงเปิดปากเอ่ยขึ้น “หมอเช่าคะ ถ้ายังฝืนเอาออกต่อไป จะเป็นอันตรายกับคนไข้มากขึ้นนะคะ”
เช่าเจิ้งเฟิงก็ทราบอยู่แล้ว แต่ยังลังเลที่จะยอมหยุดมือนิดหน่อย เขาไม่แน่ใจว่าควรจะหยุดมือ หรือจะพยายามรักษาคนไข้ต่อไป
บุคลากรการแพทย์คนอื่นต่างหันมองเช่าเจิ้งเฟิง รอคำสั่งต่อไปจากเขา
เช่าเจิ้งเฟิงเห็นแล้วว่าคงต้องหยุดการผ่าตัดในวันนี้ไว้เพียงเท่านี้ มิฉะนั้นคนไข้อาจทนไม่ไหว เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป วางแผนที่จะหยุดมือ
“เดี๋ยวก่อนค่ะ…”
ฉินมู่หลานเห็นการเคลื่อนไหวของเช่าเจิ้งเฟิงแล้วก็ทนไม่ไหว เอ่ยห้ามเขาทันที
เช่าเจิ้งเฟิงตกใจกับคำพูดของฉินมู่หลาน ก่อนจะหยุดชะงักลงทันที
คังอันเหอที่อดกลั้นความรู้สึกมาตั้งแต่แรกเห็นฉินมู่หลานเป็นแบบนี้แล้วก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป กล่าวเสียงแข็ง “ฉินมู่หลาน เธอคิดจะทำอะไรกัน สิ่งที่เธอทำมันกระทบกับการผ่าตัดของ ผอ.เช่านะ”
ฉินมู่หลานไม่ได้มองคังอันเหอด้วยซ้ำ แต่กลับหันไปมองเช่าเจิ้งเฟิงแล้วบอกกล่าวแทน “ผอ. เช่า เชื่อใจฉันไหมคะ?”
“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วครับ”
เช่าเจิ้งเฟิงไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ เปิดปากตอบกลับทันที
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้ม แล้วบอกกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ ปล่อยเป็นหน้าที่ฉันเถอะ”
เช่าเจิ้งเฟิงเห็นว่าฉินมู่หลานคิดจะลงมือต่อจริง ๆ จึงสละตำแหน่งให้โดยไม่พูดอะไรสักคำ
คังอันเหอคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางแบบนี้ คนไข้รายนี้เป็นสหายร่วมรบของอารอง หากมีอะไรเกิดขึ้น หล่อนนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าอารองจะเสียใจขนาดไหน ดังนั้นไม่อาจปล่อยให้ฉินมู่หลานลงมือต่อได้
แต่คังอันเหอไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะสั่งให้หยุดได้ ก่อนที่หล่อนจะทันได้พูดอะไร ก็โดนเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้าง ๆ คว้าเอาไว้ก่อน
และฉินมู่หลานก็ลงมือผ่าตัดทันที
โดยไม่ทราบว่าเธอทำมันได้อย่างไร เศษกระสุนก็ถูกนำออกจากปอดของคนไข้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเธอก็ยังไม่หยุดมือและดำเนินการต่อไป จนกระทั่งเศษกระสุนชิ้นที่สองถูกดึงออกมา ฉินมู่หลานจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันไปมองเช่าเจิ้งเฟิงแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ผอ.เช่า เรียบร้อยแล้วค่ะ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ในเมื่อเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมู่หลาน อยู่เงียบๆ ก็ไม่มีใครว่านะหมอคัง
ไหหม่า(海馬)