ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 518 เข้าเป้า(1)
ตอนที่ 518 เข้าเป้า(1)
เช่าเจิ้งเฟิงหันมองฉินมู่หลานด้วยความดีใจก่อนจะกล่าวว่า “หมอฉิน คุณทำได้จริงๆ ด้วย วันนี้หากไม่ได้คุณก็คงไม่รู้ว่าการผ่าตัดครั้งนี้จะสำเร็จได้หรือเปล่า”
ตอนนี้ฉินมู่หลานรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยแล้ว เป็นเพราะต้องควบคุมชีพจรของคนไข้อีกทั้งยังต้องรับช่วงผ่าตัดต่อ เธอจึงส่ายหัว แล้วบอกกล่าว “ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้เรามาจบงานกันเถอะ”
เช่าเจิ้งเฟิงได้ยินแบบนี้ก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ดำเนินการขั้นตอนสุดท้ายด้วยตัวเอง
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉินมู่หลานจึงถอนเข็มออก
เช่าเจิ้งเฟิงหันไปมองพวกหมอที่อยู่ข้างหลัง แล้วกล่าวว่า “การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างมาก ตอนนี้พาคนไข้กลับไปได้แล้ว”
หลังจากผู้ป่วยถูกพาตัวออกไปแล้ว หมอบางส่วนก็ตามไปด้วย แต่คังอันเหอไม่ได้ไปกับพวกเขา กลับหันไปมองฉินมู่หลานด้วยความเหลือเชื่อแล้วกล่าวขึ้น “เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วกล้าลงมือผ่าตัดได้ยังไง ถ้าเมื่อกี้เกิดล้มเหลวขึ้นมาจะทำยังไง”
ฉินมู่หลานพบเจอปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า สีหน้าจึงดูไม่ค่อยดีนัก
“คังอันเหอ แล้วเธอคิดว่าหมอเช่าเชิญฉันมาที่นี่เพื่ออะไร ถ้าฉันไม่มั่นใจจริงๆ เธอคิดว่าฉันจะกล้าลงมือทำเหรอ”
คังอันเหอก็ทราบความจริงข้อนี้เช่นกัน แต่ในใจกลับไม่อาจยอมรับได้ เรื่องนี้ยากที่จะยอมรับที่ยิ่งกว่าการรู้ว่าฉินมู่หลานเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยปักกิ่งเสียอีก
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ ฉินมู่หลานยังเรียนอยู่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอ หรือว่าก่อนหน้านี้หล่อนเคยเป็นหมอ แต่พอมหาวิทยาลัยเปิดสอบ จึงไปสอบเพื่อเข้าเรียน
แต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ใช่เรื่องที่ใครจะสามารถทำได้ตามใจต้องการ หล่อนยอมรับว่าต่อให้ตนจะมีโอกาสได้ไปสอบก็คงสอบไม่ติดแน่นอน
ระหว่างที่คังอันเหอกำลังตะลึงงัน เช่าเจิ้งเฟิงก็กล่าวด้วยความฉุนเฉียว “ฉันเชิญหมอฉินมาเป็นพิเศษ เธอก็เห็นแล้ว ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะหล่อน คงผ่าตัดคนไข้ได้ไม่สำเร็จเท่านี้หรอก เธอกลับยังสงสัยนู่นนี่นั่นอยู่อีก หมอด้อยประสบการณ์อย่างเธอมีอะไรดีถึงได้มาพูดกับหมอฉินแบบนั้น”
หมอด้อยประสบการณ์…
เมื่อได้ยินแบบนี้ คังอันเหอก็พลันมีสีหน้ามืดมน
ต่อหน้าฉินมู่หลาน หล่อนเป็นได้แค่เพียงหมอด้อยประสบการณ์จริง ๆ
เมื่อเห็นสีหน้าของคังอันเหอดูไม่ค่อยสู้ดี เช่าเจิ้งเฟิงจึงเหลือบมองหล่อน แล้วกล่าวขึ้น “เธอคงยังไม่รู้สินะว่ายาลดไข้และยาแก้อักเสบชนิดพิเศษที่โรงพยาบาลใหญ่ใช้ในปัจจุบันนี้เป็นฝีมือการพัฒนาของหมอฉินทั้งหมด นอกเหนือจากยาพวกนี้แล้วหล่อนก็ยังพัฒนายาอีกหลายชนิดด้วย”
“อะไรนะ…ไม่มีทาง…”
คังอันเหอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “เป็นไปได้ยังไงกัน ยาพิเศษสองตัวนั้นมีฤทธิ์ดีมาก ทำไมถึง…”
หลังจากพูดจบถึงท้ายประโยค หล่อนก็ไม่พูดต่อ เป็นเพราะทราบดีว่าเช่าเจิ้งเฟิงไม่มีทางโกหกเรื่องแบบนี้แน่นอน ดูเหมือนว่าความสมบูรณ์แบบของฉินมู่หลานจะเข้าตาเขา
เมื่อคิดได้แบบนี้ คังอันเหอก็ได้แต่รู้สึกว่าสายตามืดมน เหมือนโดนความจริงตีกลางแสกหน้า
ฉินมู่หลานไม่อยากจะเสียเวลาอยู่ตตรงนี้ เธออยากกลับไปดูลูก ๆ ทั้งสองคน อีกทั้งไม่รู้ว่าเซี่ยเจ๋อหลี่มีธุระหรือเปล่า ลูกทั้งสองเขาพาไปด้วยหรือไม่ หรือว่าฝากลูกทั้งสองไว้ให้พวกพี่สะใภ้ช่วยดูแล
“หมอเช่าคะ หากที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวนะคะ”
เช่าเจิ้งเฟิงได้ยินแบบนี้ก็รีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ครับ ผมจะให้คนไปส่งคุณ”
ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธ เธออยากกลับไปให้ไวที่สุด
เพียงแต่หลังจากทั้งสองออกไป ก็พบถูไคหัวยืนอยู่ข้างนอก
เช่าเจิ้งเฟิงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยเมื่อเห็นถูไคหัว ก่อนจะรีบพูดขึ้น “การผ่าตัดประสบผลสำเร็จมากครับ จากนี้ไปเหลือแค่ต้องคอยดูแลพักฟื้นให้ดี”
ถูไคหัวได้ยินแบบนี้ก็เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ผมได้ยินพวกหมอบอกกันแล้วครับ แล้วก็ไปดูเหวินฮุ่ยแล้ว เขาได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยดี ขอบคุณมากเลยครับ”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองฉินมู่หลานด้วยความสงสัย
เช่าเจิ้งเฟิงไม่ถือดีเข้าตัวอยู่แล้ว เขาจึงอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “ครั้งนี้ต้องขอบคุณหมอฉินครับ หล่อนเป็นคนที่ทำให้การผ่าตัดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ”
“หมอฉิน ขอบคุณมากนะครับ”
ถูไคหัวหันมองฉินมู่หลานพร้อมทั้งรอยยิ้ม แล้วขอบคุณเธอ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ นี่เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”
หลังจากนั้นเช่าเจิ้งเฟิงก็เอ่ยแนะนำอีกครั้ง “ผบ.ถูครับ จริง ๆ แล้วหมอฉินยังเป็นสมาชิกในครอบครัวทหารเหมือนพวกคุณด้วยนะครับ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของถูไคหัวก็ดูประหลาดใจ
เช่าเจิ้งเฟิงจึงเอ่ยอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “สามีของหมอฉินชื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ครับ ตอนนี้ถูกย้ายมาประจำการที่ฐานทัพปักกิ่งแล้ว ต่อไปผมจะได้ติดต่อหล่อนได้สะดวกขึ้น”
“อะไรนะ…คุณคือภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่อย่างนั้นเหรอ?”
ถูไคหัวมองด้วยความเหลือเชื่อ ที่แท้หมอฉินที่อยู่ตรงหน้านี้ก็คือภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่ที่หลานชายและหลานสะใภ้เคยเล่าถึงมาก่อนนี่เอง
เมื่อคิดได้แบบนี้ ถูไคหัวจึงรู้สึกละอายใจในการเสนอหน้าอยู่ที่นี่ต่อ
ฉินมู่หลานไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหันกลับไปมองเช่าเจิ้งเฟิงก่อนจะพูดขึ้นว่า “หมอเช่าคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ถูไคหัวก็รีบเอ่ย “หมอฉินจะกลับแล้วเหรอครับ เดี๋ยวผมให้คนไปส่งคุณเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะท่าน ผบ.ถู หมอเช่าเตรียมให้คนไปส่งฉันเรียบร้อยแล้วค่ะ”
เมื่อเห็นฉินมู่หลานกล่าวแบบนั้น ถูไคหัวจึงไม่พูดอะไรมากมายอยู่แล้ว
หลังจากฉินมู่หลานกลับไป เช่าเจิ้งเฟิงก็บอกกล่าวกับถูไคหัว “ผบ.ถูครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ”
“ครับ”
เช่าเจิ้งเฟิงจากไปแล้วเช่นกัน แต่ถูไคหัวยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะจ้องมองตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “มัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น ยังไม่รีบออกมาอีก”
คังอันเหอค่อย ๆ เดินออกมา ไม่กล้าหันมองถูไคหัวแมม้แต่น้อย
ถูไคหัวเห็นภรรยาของหลานชายคนนี้แล้วก็ชี้หน้าหล่อนด้วยความโกรธ ก่อนจะพูดขึ้น “ดูซิว่าเธอทำงามหน้าขนาดไหน โชคดีที่หมอฉินเขาไม่ติดใจเอาความ ไม่อย่างนั้นวันนี้อาเฉียนของเธอคงเป็นอันตรายไปแล้ว”
เขามองออกอยู่แล้วว่าเซี่ยเจ๋อหลี่คงเจออะไรบางอย่าง เพียงแต่ทางฝั่งเขาลงมือรวดเร็ว ไม่เพียงแค่ถูเฉิงเสียงเท่านั้นที่ถูกลงโทษ แต่ยังเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อชี้แจงและขอโทษฉินมู่หลานด้วย เซี่ยเจ๋อหลี่จึงไม่ติดใจเอาเรื่องสองสามีภรรยา
แต่ไม่คิดเลยว่าภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่จะเป็นหมอที่เก่งกาจขนาดนี้ วันนี้ถึงกับช่วยชีวิตเฉียนเหวินฮุ่ยเพื่อนสนิทของเขาเอาไว้ได้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าการลงโทษถูเฉิงเซียงก่อนหน้านี้ยังไม่เพียงพอ แต่หลานสะใภ้ตรงหน้าคนนี้ต้องถูกลงโทษด้วย มิฉะนั้นฉินมู่หลานคงผูกใจเจ็บอย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้แบบนี้ ถูไคหัวก็จ้องมองคังอันเหอ
หัวใจของคังอันเหอเต้นรัวเมื่อเห็นแบบนั้น รู้สึกได้ว่าสายตาของอารองที่จ้องมองมานั้นมีบางอย่างผิดปกติ เพียงแต่ยังไม่ทันได้คิดมากนาดนั้น ถูไคหัวก็หันหลังและเดินจากไปแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มู่หลานไปเติมไอเทมอะไรมาหนอถึงได้เก่งเทพเกินมนุษย์ขนาดนี้
สะใภ้ทำเรื่องงามหน้าแบบนี้ต้องถูกลงโทษอย่างไรดี
ไหหม่า(海馬)