ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 525 หุ้นส่วน(1)
ตอนที่ 525 หุ้นส่วน(1)
เช่าเจิ้งเฟิงได้ยินสิ่งที่ฉินมู่หลานพูดแล้ว สีหน้าก็เต็มไปด้วยความเสียดาย “หมอฉิน คุณตัดสินใจเรียบร้อยแล้วเหรอครับ?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ค่ะ ตัดสินใจเรียบร้อยแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เช่าเจิ้งเฟิงจึงทราบว่าฉินมู่หลานตัดสินใจแล้วจริง ๆ แต่เมื่อนึกถึงยาพิเศษที่เธอพัฒนาให้ทางฐานทัพโดยเฉพาะแล้ว เขาจึงทราบดีว่าทางเลือกนี้ก็เป็นทางที่เหมาะสมเช่นกัน หากฉินมู่หลานพัฒนายาได้มากมาย ก็จะเป็นการช่วยเหลือคนไข้บางรายได้มากขึ้น
“หมอฉิน ในเมื่อคุณตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขอให้คุณประสบความสำเร็จนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
หลังฉินมู่หลานตรวจคนไข้และพูดคุยกับเช่าเจิ้งเฟิงเสร็จแล้ว เธอจึงวางแผนจะกลับไป “หมอเช่าคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ครับ เดี๋ยวผมไปส่งคุณครับ”
เช่าเจิ้งเฟิงไปส่งฉินมู่หลานที่หน้าประตูโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังจะให้คนไปส่งถึงที่บ้านอีกด้วย
ฉินมู่หลานเห็นแบบนี้จึงรีบโบกมือทันที ก่อนจะกล่าว “ไม่ต้องหรอกค่ะหมอเช่า ฉันกลับเองได้ค่ะ”
พูดจบก็รีบกลับไปทันที
เมื่อเห็นแผ่นหลังของฉินมู่หลานเดินจากไป เช่าเจิ้งเฟิงก็อดส่ายหัวไม่ได้ หมอฉินสุภาพมาก ไม่อยากรบกวนอะไรจากพวกเขาเลย
แต่ที่ฉินมู่หลานอยากกลับเองจริง ๆ เพราะเธอวางแผนจะแวะไปหาเซี่ยปิงหรุ่ยด้วย
เมื่อนึกถึงว่าเซี่ยปิงหรุ่ยอยู่ที่บ้านตระกูลเจี่ยง เธอจึงแวะซื้อผลไม้บางส่วนไปฝากที่นั่นด้วย
สองพี่น้องเซี่ยปิงหรุ่ยและเซี่ยปิงชิงกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อเห็นฉินมู่หลานมาหา ทั้งสองก็พากันดีใจ “มู่หลาน ทำไมวันนี้ถึงว่างมาที่นี่ล่ะ”
พูดจบก็รีบบอกให้เธอนั่งลง
เซี่ยปิงชิงมองท้องใหญ่ของฉินมู่หลาน จึงรีบเอ่ย “มู่หลาน เธอท้องใหญ่ขนาดนี้แล้วยังเดินเล่นไปทั่วอยู่อีกเหรอ มีอะไรก็แค่ฝากข้อความมาให้ฉันก็ได้”
ฉินมู่หลานได้ยินอแบบนี้ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไมเป็นไร ฉันรู้ตัวเองดี แล้วช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ก็ควรจะออกกำลังกายอย่างเหมาะสมสักหน่อย” พูดจบก็ยังหันมองเซี่ยปิงชิง ก่อนจะกล่าว “เธอก็เหมือนกัน มีเวลาก็อย่าลืมลุกเดินเล่นบ้าง อย่าเอาแต่นอนนิ่งตลอดเวลา มันไม่ดีเลย”
เซี่ยปิงชิงเชื่อฟังฉินมู่หลานอยู่แล้ว จึงรีบพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเอ่ย “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”
ฉินมู่หลานเห็นว่าสองพี่น้องต่างอยู่ที่นี่ จึงอดถามไม่ได้ “ทำไมไม่เห็นพ่อบุญธรรมกับพวกลุงเจี่ยงเลยล่ะ วันนี้พวกเขาไม่อยู่บ้านเหรอ”
เมื่อพูดถึงเจี่ยงสือเหิง เซี่ยปิงชิงก็อดหัวเราะไม่ได้
“พ่อบุญธรรมของเธอกับลุงเจี่ยงออกไปข้างนอกด้วยกัน พวกเขาออกไปหาซื้อของให้ลูก ๆ กันน่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะพูดว่า “พ่อเตรียมตัวเร็วขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายเดือน แต่เขาจะซื้อถูกหรือเปล่า เดี๋ยวถึงเวลาแล้วจะซื้อผิดเอานะ”
“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ ลุงเจี่ยงจดของที่ต้องใช้ทุกอย่างเอาไว้แล้ว พ่อบุญธรรมของเธอก็เพิ่มบางอย่างเข้าไปด้วย พวกเขาออกไปได้สักพักแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะกลับมาแล้วล่ะ”
เพิ่งพูดจบ เจี่ยงสือเหิงและลุงเจี่ยงก็กลับมาพอดี
เจี่ยงสือเหิงเห็นฉินมู่หลานมาหา สีหน้าก็พลันปีติยินดี “มู่หลาน ทำไมวันนี้ลูกถึงว่างมาที่นี่ล่ะ วันนี้พ่อกับลุงเจี่ยงออกไปซื้อของให้เด็ก ๆ ได้เห็นของดี ๆ เยอะมากเลย ซื้อมาฝากลูกด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวลูกเอากลับไปด้วยนะ”
ฉินมู่หลานคิดไม่ถึงว่าเจี่ยงสือเหิงจะซื้อมาให้เธอด้วย จึงรีบกล่าวทั้งรอยยิ้ม “ขอบคุณค่ะพ่อบุญธรรม”
“มีอะไรให้ต้องขอบคุณกัน ลูกทั้งสองคนของลูกก็คลอดไม่ได้ห่างจากลูกของพวกเรามากนัก เกิดปีเดียวกัน ต่อไปทุกคนก็จะได้เล่นด้วยกัน”
“ใช่ค่ะ ต่อไปฉันจะพาลูก ๆ มาเล่นที่นี่บ่อย ๆ”
“ได้เลย”
เจี่ยงสือเหิงสามารถจินตนาการได้เลยว่าต่อไปครอบครัวของเขาจะมีชีวิตชีวามากแค่ไหน จากนั้นเขาก็หยิบของที่ซื้อมาออกมาอย่างมีความสุข อีกทั้งยังอธิบายวิธีการใช้ขณะที่ยื่นมาให้
ฉินมู่หลานเคยเห็นของที่อยู่ตรงหน้าแล้ว เพราะชิงชิงและเฉินเฉินก็เคยใช้ของพวกนี้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยปิงชิงได้เห็นของพวกนี้ สีหน้าจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “นี่…คุณซื้อขวดนมกับนมผงมาด้วยเหรอ ตอนนี้ยังไม่ได้เลย แล้วจะเก็บเอาไว้นานขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อย่าห่วงเลย ผมถามมาหมดแล้ว เขาบอกว่าเก็บไว้ข้ามปีก็ไม่มีปัญหา ถึงตอนนั้นลูกของเราก็เกิดแล้วล่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยกล่าวด้วยความสงสัยนิดหน่อย “ถึงตอนนั้นปิงชิงก็ให้นมลูกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องซื้อนมผงด้วย” เท่าที่หล่อนทราบ ดูเหมือนเด็กทารกทุกคนจะต้องดื่มนมจากเต้าของแม่
ฉินมู่หลานที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มพร้อมทั้งเอ่ยอธิบาย “ตอนเพิ่งคลอดใหม่ ๆ มีโอกาสที่น้ำนมจะไม่พอ เพราะฉะนั้นก็สามารถใช้นมผงได้เหมือนกัน แต่ปิงชิงก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก ถึงตอนนั้นก็ดื่มพวกน้ำนมข้าวให้เยอะ ถึงเวลาก็จะผลิตน้ำนมได้เร็วเอง”
เซี่ยปิงชิงรู้สึกอายเมื่อพูดถึงเรื่องแบบนี้ จึงอดจ้องมองฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยเสียไม่ได้
ทั้งสองเห็นแบบนี้ก็รีบบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เอาล่ะ ๆ ไม่พูดแล้ว”
และเจี่ยงสือเหิงก็รีบเปลี่ยนหัวข้อทันที ให้ฉินมู่หลานดูว่าซื้อของอะไรมาให้เธอบ้าง “มู่หลาน นี่เป้นเสื้อผ้าของพวกเด็ก ๆ สีนี้ใส่ได้ทั้งชายและหญิงเลย”
ฉินมู่หลานเห็นว่าเป็นชุดสีเหลืองตัวเล็กที่น่ารักมาก จึงยอมรับเอาไว้ทั้งหมด “ขอบคุณค่ะพ่อ เดี๋ยวฉันจะเอาไว้ใส่ให้เด็ก ๆ ทั้งสองคนค่ะ”
เจี่ยงสือเหิงก็ได้ซื้อให้กับลูกทั้งสองของตัวเองด้วยอยู่แล้ว เป็นสีเหลืองเหมือนกัน “เด็ก ๆ ใส่เสื้อผ้าคล้าย ๆ กัน วันหลังออกมาวิ่งเล่นด้วยกัน คนอื่นจะได้เห็นว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน”
เมื่อนึกภาพเด็กทั้งสี่คนสิ่งเล่นด้วยกันอยู่ตรงหน้า ฉินมู่หลานก็อดที่จะยิ้มเสียไม่ได้
“ใช่ค่ะ ทุกคนต้องคิดแบบนั้นแน่นอน”
หลังแบ่งของเสร็จเรียบร้อย อาหารก็เตรียมเสร็จแล้วเช่นกัน หลังจากทุกคนกินข้าวเสร็จ ในที่สุดฉินมู่หลานก็ได้คุยกับเซี่ยปิงหรุ่ยถึงจุดประสงค์ที่เธอมาหา
“ปิงหรุ่ย หลังจากเรียนจบเธอวางแผนที่จะกลับบ้านหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็เหลือบมองฉินมู่หลานด้วยท่าทางแปลกใจนิดหน่อย ก่อนจะตอบว่า “ใช่แล้ว หลังจากเรียนจบฉันจะกลับไปที่ซีอาน ทำไมเหรอ ทำไมอยู่ ๆ เธอถึงถามแบบนี้ล่ะ?”
“ฉันกำลังมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าเธอจะสนใจหรือเปล่า”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนี้ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย “ความคิดอะไร?”
“หลังจากเรียนจบ ฉันอยากจัดตั้งหน่วยแพทย์ เป็นหน่วยศึกษาวิจัยเรื่องยา”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที “อะไรนะ…แบบนี้คงไม่ได้หรอก เธอจะจัดตั้งหน่วยแพทย์แบบนี้ในนามของตัวเองได้ยังไงกัน หรือว่าเธอคิดออกแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ ฉันคิดออกเรียบร้อยแล้ว”
ด้วยการปฏิรูปเปิดประเทศ ทุกสาขาอาชีพจะผุดขึ้นมาเหมือนเห็ดขึ้นหลังฝนตก อุตสาหกรรมยาก็จะเติบโตเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงอยากก่อตั้งบริษัทยา เพื่อพัฒนายาเอาไว้รักษาโรคเฉพาะทาง ได้แต่หวังว่าจะเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้น
“ปิงหรุ่ย ฉันรู้ว่าทักษะการแพทย์ของเธอดีมาก แล้วเธอก็ยังมีความรู้ทางด้านเภสัชศาสตร์ด้วย พวกเราสามารถร่วมงานกัน จัดตั้งหน่วยวิจัยยาด้วยกันได้ เธอลองคิดดูสิ พวกคนไข้ที่กำลังเจ็บไข้ได้ป่วย ยังต้องการให้คนอย่างพวกเราช่วยพัฒนายาเฉพาะทางอยู่นะ หากมียาที่มุ่งเน้นการรักษาโรคเฉพาะทาง ก็จะสามารถใช้ยารักษาโรคนั้น ๆ ได้ใช่ไหมล่ะ พวกเราเรียนหมอมาก็เพื่อช่วยชีวิตผู้คนไม่ใช่เหรอ”
“นี่…”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
พ่อบุญธรรมมู๋หลานช่างเอาใจใส่จริงๆ ค่ะ ปิงชิงโชคดีที่ได้แต่งงานกับพ่อบุญธรรมมู่หลานนะคะ
ปิงหรุ่ยจะตอบตกลงเป็นหุ้นส่วนไหมหนอ
ไหหม่า(海馬)