ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 528 คิดการใหญ่(2)
ตอนที่ 528 คิดการใหญ่(2)
หลังจากข่งไฉ่อิงกลับไปถึงบ้าน หล่อนก็ยังรู้สึกโกรธเคืองนิดหน่อย เมื่อเห็นว่าสามีอยู่บ้าน จึงพูดเรื่องนี้กับเขา
“เจิ้งผู่ ฉันลงทุนมาถึงที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้มู่หลานกลับไม่เห็นด้วย ต่อให้หล่อนขายสูตรให้ก็ไม่ส่งผลกระทบกับทางหล่อนเลย แต่หล่อนกลับไล่ฉันออกมา ไม่ร็เลยว่าหล่อนกำลังคิดอะไรอยู่”
เผยจิงฝู่ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าภรรยาคิดเช่นนี้ หลังจากได้ฟังคำพูดของหล่อน สีหน้าก็ดูย่ำแย่มาก
“ไฉ่อิง คุณกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ จะให้เขาขายสูตรให้คุณในราคาสองล้าน คุณฝันอยู่เหรอ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าสูตรเครื่องสำอางนั้นทำมูลค่าได้ตั้งเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กลับจะซื้อมันในราคาแค่สองล้าน คุณคิดว่ามู่หลานโง่เหรอ วันนี้คุณไปพูดเรื่องนี้ ต่อไปอาจจะร่วมงานกับมู่หลานไม่ได้ด้วยซ้ำ”
ข่งไฉ่อิงยังคงรู้สึกว่าตัวเองจริงใจอยู่
“สองล้านนั่นไม่น้อยนะ แล้วฉันยังตกลงกับพวกหล่อนว่าพวกหล่อนยังขายเครื่องสำอางสูตรนี้ต่อไปได้ รวมถึงคำสั่งซื้อจากต่างประเทศพวกนั้นด้วย แบบนี้แล้วยังไม่ตกลงอีกเหรอ”
เผยเจิ้งผู่ไม่สามารถพูดกับภรรยาได้อีกแล้ว
“คุณก็ลองคิดดูแล้วกัน ว่าถ้าไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างคุณแค่คนเดียว จะยังมีคนซื้อเครื่องสำอางของมู่เสวี่ยอยู่ไหม”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของข่งไฉ่อิงก็มืดมนลงทันที “ไม่มีทาง ไม่มีฉันแล้วหล่อนจะไปร่วมธุรกิจกับใครได้”
เผยเจิ้งผู่เหลือมองภรรยาตัวเอง ก่อนจะเอ่ย “คุณให้ค่าตัวเองมากเกินไป และที่นี่ก็ไม่ใช่ฮ่องกง วิธีการที่คุณใช้มันไม่ได้ผลที่นี่หรอก ถ้าคุณยังอยากร่วมงานกับพวกมู่หลานต่อไป ก็อย่าพูดเรื่องพวกนี้อีก”
“เผยเจิ้งผู่ คุณอยู่ข้างใครกันแน่”
“ผมอยู่ข้างที่มีเหตุผล”
“คุณ…”
ข่งไฉ่อิงโกรธมาก แต่ทางด้านฉินมู่หลานไม่ได้โต้ตอบอะไรเลย เธอมาคิดดูแล้วว่าหากร่วมงานกับข่งไฉ่อิงไม่ได้ อย่างนั้นก็ต้องหาคนอื่นมาร่วมงานต่อ ที่ฮ่องกงจะมีแค่เซิงซื่อกรุ๊ปเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นหรือ? นอกจากนี้ เซิงซื่อกรุ๊ปก็ไม่ได้บริหารโดยข่งไฉ่อิงด้วย
ในตอนนี้เซี่ยเจ๋อหลี่กำลังไปช่วยเหลือคน เขาจ้องมองถูเฉิงเสียงด้วยความโกรธ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ถ้านายอยากตาย ก็อย่าลากคนอื่นไปด้วย”
ถูเฉิงเสียงกำลังอ้าปากจะปฏิเสธ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ก้มหัวลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
เฉาเจิ้งหนานเห็นว่าถูเฉิงเสียงไม่กล้าต่อปากต่อคำแบบนี้ก็รู้สึกมีความสุขนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาพูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาต้องรีบกลับไป มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายได้
“รอเดี๋ยว…”
เซี่ยเจ๋อหลี่หยุดลงกะทันหัน มองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง หลังจากนั้นก็ชี้ไปทางด้านซ้ายแล้วเอ่ยขึ้นว่า “พวกเราไปตรงนั้นกันเถอะ”
ถูเฉิงเสียงได้ยินแบบนี้ก็สีหน้าสับสน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาข้ามพรมแดนมาแล้ว หากไปทางด้านซ้ายอย่างที่กล่าวก็จะต้องอ้อมอีกไกล แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก้าวไปแล้ว เขาจึงไม่พูดอะไร แล้วรีบเดินตามไปด้วยกัน
หลังจากหลายคนเดินไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังแล้ว ก็มีทหารสองคนวิ่งถืออาวุธเข้ามาทางด้านนี้ เพียงแต่ทั้งสองเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จึงเดินสำรวจต่อไปเรื่อย ๆ
หลังจากหน่วยลาดตระเวนไปแล้ว เฉาเจิ้งหนานก็ถอนหายใจก่อนจะกล่าวว่า “ยังดีที่พวกเราเลี่ยงมาทางอ้อม”
ถูเฉิงเสียงยังคงนิ่งเงียบ แต่ก็เห็นด้วยกับคำพูดของเฉาเจิ้งหนาน ขณะเดียวกันก็หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่อีกครั้ง การกระทำในครั้งนี้ทำให้เขามองเห็นความสามารถของเซี่ยเจ๋อหลี่ได้อย่างชัดเจน ในบางสถานการณ์ เขาก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าเซี่ยเจ๋อหลี่เลย
เอาล่ะ พวกเรารีบหน่อย”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป จึงรีบพาตรงไปข้างหน้าทันที หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงในที่สุดก็มาถึงจุดหมาย และเมื่อมาถึงแล้ว เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
และคนอื่นก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน “ดีจังเลย ในที่สุดก็กลับมาแล้ว”
“เอาเถอะ พวกเรากลับเข้าค่ายกันเถอะ”
“ครับ”
หลังจากเหล่ยหยวนเห็นหลายคนกลับมา สีหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธขึ้ง “พวกนายทุกคน ตามฉันมา”
เซี่ยเจ๋อหลี่และถูเฉิงเสียงรวมอีกหลายคนเดินตามไปโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ แต่สิ่งที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่ก็คือการลงโทษอย่างหนักหน่วง
“พวกนายยอมรับไหมว่าทำผิด”
เหล่ยหยวนเฝ้าดูพวกเซี่ยเจ๋อหลี่โดนทุบตี ไร้ซึ่งการแสดงออกทางสีหน้า
“ยอมรับครับ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่แก้ต่าง แล้วยอมรับความผิด
และเมื่อถูเฉิงเสียงเห็นว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ยอมรับผิด ก็หันมองเขาด้วยสีหน้าซับซ้อนอธิบายยาก หลังจากนั้นจึงหันมองเหล่ยหยวนแล้วพูดขึ้น “ผบ.เหล่ยครับ ครั้งนี้ผมเป็นคนทำผิด ผมเองที่ลงมือโดยพลการ พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปตามผมเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมจะรับผิดชอบต่อความผิดครั้งนี้เองครับ”
เหล่ยหยวนได้ยินแบบนี้ก็เหลือบมองถูเฉิงเสียง ก่อนจะเอ่ย “ไม่ต้องห่วง นายก็ไม่รอดหรอก”
ถึงแม้ถูเฉิงเสียงจะยอมรับความผิดทั้งหมดด้วยตัวเองแล้ว แต่พวกเซี่ยเจ๋อหลี่และคนอื่น ๆ ก็ไม่อาจรอดพ้นจากความผิดได้ ทุกคนจึงถูกลงโทษกันหมด และถูเฉิงเสียงเป็นคนที่ถูกลงโทษมากที่สุด
เมื่อเห็นหลายคนนอนกองบาดเจ็บทั่วร่างกาย ถูเฉิงเสียงจึงเงียบสลดลง สุดท้ายจึงหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วกล่าวว่า “ขอโทษนะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินถูเฉิงเสียงกล่าวขอโทษ ก็อดหันมองเขาไม่ได้ จากนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า “รู้ว่าผิดก็ดีแล้ว ต่อไปก็อย่าทำแบบนี้อีก”
จริง ๆ แล้วพวกเขาก็ทนคนอันหนานไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้หุนหันพลันแล่นเท่าถูเฉิงเสียง และพวกเขาก็ไม่เสียใจที่ได้ไปร่วมช่วยถูเฉิงเสียงเหมือนกัน
ถูเฉิงเสียงทราบว่าครั้งนี้เขาหุนหันพลันแล่น จึงไม่มีการโต้แย้งใด ๆ ได้แต่เงียบแล้วยอมรับฟังเซี่ยเจ๋อหลี่
เฉาเจิ้งหนานอดไม่ได้ที่จะหันมองถูเฉิงเสียงอีกครั้ง ในใจคิดว่าในที่สุดเด็กคนนี้ก็อยู่ภายใต้การปกครองของเซี่ยเจ๋อหลี่เสียที
และสิ่งที่เซี่ยเจ๋อหลี่คิดมากที่สุดในตอนนี้ก็คืออยากจะกลับไป
“ตอนแรกภารกิจนี้ควรจะเสร็จไปนานแล้ว แต่พวกเราล่าช้ากันไปหลายวัน ฉันว่าจะกลับพรุ่งนี้”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ป้าก็ทะนงตัวเองไป อย่างมู่หลานจะไม่มีตัวแทนคนอื่นเลยเหรอ เธอออกไปเขาก็หาตัวแทนคนใหม่มาแทน
พี่หลี่เจ็บอีกแล้ว ดีที่ไม่เป็นเชลยฝั่งตรงข้าม
ไหหม่า(海馬)