ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 537 เข้าร่วมงานแต่ง(1)
ตอนที่ 537 เข้าร่วมงานแต่ง(1)
ฉินมู่หลานเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเจี่ยงสือเหิง จึงอดพูดไม่ได้ “พ่อบุญธรรมไม่ต้องห่วงนะคะ ปิงชิงจะไม่เป็นไร”
“อื้ม หล่อนจะต้องไม่เป็นไร”
เจี่ยงสือเหิงกล่าวตาม แต่ในใจยังคงเป็นกังวล แล้วยังเดินวนเวียนต่อไป
เซิงลี่เห็นลูกเขยคนเล็กเป็นแบบนี้แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ทราบชัดว่าลูกสาวคนเล็กเลือกคู่ครองไม่ผิด เจี่ยงสือเหิงเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กของหล่อนอยู่เสมอจริง ๆ
เซี่ยฉางเจี๋ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็มองเจี่ยงสือเหิง เขาเองก็กังวลมากเหมือนกัน จึงเริ่มเดินวนไปมาเพื่อคลายความกังวล
ตอนแรกเซี่ยปิงหรุ่ยยังมีท่าทางปกติดี ไม่ค่อยกังวลใจเท่าใด แต่เมื่อเห็นพ่อและเจี่ยงสือเหิงเป็นแบบนี้ จึงเริ่มกังวลขึ้นมานิดหน่อยเหมือนกัน กระนั้นฉินมู่หลานก็ยังพูดปลอบใจอยู่ข้าง ๆ “ไม่เป็นไรหรอก ก่อนหน้านี้ฉันก็คลอดที่นี่ คุณหมอที่ทำคลอดฉันเก่งมาก ปิงชิงก็ได้หมอคนเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลายคนก็เริ่มได้สติ
เซิงลี่อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วหันไปพูด “ใช่แล้ว เราเกือบลืมเรื่องนี้ไปสนิท ปิงชิงต้องไม่เป็นไรแน่ ก็แค่ไม่รู้ว่าหล่อนจะออกมาเมื่อไหร่เท่านั้น”
หลายคนยืนรออยู่ตรงหน้าประตูห้องคลอด ฉินมู่หลานเห็นว่าเจี่ยงสือเหิงเดินอยู่นานแล้ว จึงบอกให้เขานั่งพัก และประตูห้องคลอดก็เปิดออกพอดี
“ญาติคุณเซี่ยปิงชิง เข้ามารับเด็กไปเลยค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงก็เป็นคนแรกที่เดินไปข้างหน้า เซี่ยฉางเจี๋ยและเซิงลี่ก็รีบเดินเข้ามาเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยถาม “พยาบาล แม่และเด็กทั้งสองไม่เป้นไรใช่ไหมครับ”
“วางใจค่ะ ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก แต่แม่จะต้องคอยดูอาการอยู่ข้างในสักสองชั่วโมง พวกคุณพาเด็กทั้งสองกลับไปที่ห้องพักฟื้นก่อนได้เลยค่ะ” พยาบาลอุ้มเด็กแต่ละคนออกมา ขณะเดียวกันก็ยกยิ้มพลางส่งเด็กต่อให้พวกเจี่ยงสือเหง “เป็นเด็กผู้ชายทั้งสองคนเลยค่ะ”
เจี่ยงสือเหิงรับมาด้วยความระมัดระวัง ส่วนเซิงลี่ก็รับอีกคนเอาไว้
มองดูเจ้าก้อนกลมตัวน้อยในอ้อมแขน แววตาของเจี่ยงสือเหิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ตอนนี้เขารู้สึกว่าหัวใจแทบละลายไปหมด นี่เป็นลูกของเขา เป็นลูกของเขากับปิงชิงสองคน หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่เด็กอีกคน ก่อนจะพบว่าทั้งสองเหมือนกันทุกอย่าง
เซิงลี่และเซี่ยฉางเจี๋ยก็จ้องมองเด็กทั้งสองเช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองคนรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ปิงชิงไม่ใช่แค่ได้ลูกแฝดเท่านั้น แต่ยังเป็นเด็กผู้ชายทั้งคู่ รอให้ผู้อาวุโสทราบข่าว ไม่รู้ว่าจะดีใจขนาดไหน
ฉินมู่หลานก็รู้สึกดีใจกับพวกพ่อบุญธรรมเหมือนกัน สุดท้ายพ่อบุญธรรมก็มีลูกเป็นของตัวเอง
“พวกเราพาเด็กไปที่ห้องพักฟื้นกันก่อนเถอะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงก็กลับมาได้สติอีกครั้ง เขาส่งเด็กให้มู่หลานก่อนจะพูดขึ้นว่า “มู่หลาน ลูกพาพวกเด็ก ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ไปที่ห้องพักฟื้นก่อน เดี๋ยวพ่อจะอยุ่รอปิงชิงออกมา”
“ค่ะ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้า แล้วตรงไปที่ห้องพักฟื้นพร้อมกับเซิงลี่โดยมีเด็กทั้งสองอยู่ในอ้อมแขน
เมื่อมาถึงห้องพักฟื้น ฉินมู่หลานก็ช่วยดูแลเด็ก ๆ ตัวเธอเองมีลูกสี่คนแล้ว จึงมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กพอสมควร
เซิงลี่เห็นแบบนี้ก็อดกล่าวไม่ได้ “มู่หลาน โชคดีที่เธอมาด้วย ปิงหรุ่ยกับปิงชิงโตขนาดนี้แล้ว ฉันเองก็ลืมไปแล้วว่าเคยเลี้ยงพวกหล่อนให้โตขึ้นมายังไง”
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินดังนี้ ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มอยู่ข้าง ๆ “แม่ แม่ลืมไปได้ยังไง ถ้าอย่างนั้นแม่ต้องลองนึกดูดี ๆ แล้วล่ะ ปิงชิงคลอดลูกทีเดียวได้ตั้งสองคน ต้องให้แม่ช่วยดูแลเด็กแน่นอน”
“วางใจเถอะ เดี๋ยวผ่านไปก็ค่อย ๆ คุ้นขึ้นเองแหละ”
เซิงลี่เหลือบมองลูกสาวคนโต ก่อนจะบอกให้หล่อนออกไปทำธุระให้หน่อย “รอมาตั้งนานแล้ว ลูกรีบไปซื้อข้าวมาเร็วเข้า มู่หลานคงจะหิวแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็มีปฏิกิริยาขึ้นทันที เวลาตอนนี้ไม่เช้าแล้ว
“ค่ะ เดี๋ยวหนูจะไปเลย”
ฉินมู่หลานคิดว่าเซี่ยปิงชิงยังไม่ออกมาจากห้องคลอด เธอจึงจะอยู่รอต่ออีกสักพัก เพราะฉะนั้นจึงต้องทานอะไรบ้าง
เมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยนำอาหารมา เธอก็บอกให้มู่หลานและพ่อแม่กินข้าว
“พ่อคะแม่คะ มู่หลาน ทุกคนกินอะไรสักหน่อยเถอะ ส่วนทางปิงชิงกับน้องเขย เดี๋ยวหนูไปซื้อเพิ่มให้พวกเขาเอง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซิงลี่ก็หันไปมองฉินมู่หลานแล้วบอกกล่าว “มู่หลาน ตอนนี้เด็ก ๆ สองคนกำลังนอนหลับอยู่ พวกเรากินข้าวกันก่อนเถอะ”
“ค่ะ”
ฉินมู่หลานก็ไม่เกรงใจ หลังจากกินไปเกือบหนึ่งชามก็แทบอิ่ม
เซี่ยปิงหรุ่ยทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว แต่ยังทำเรื่องพวกนี้ได้ เธอจึงรอให้ทุกคนทานเสร็จแล้วเก็บจานให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินขยับเข้าไปใกล้เปล แล้วมองดูหลานตัวน้อยทั้งสองของเธอ
เซิงลี่เห็นลูกสาวคนโตเป็นแบบนี้ ก็อดบอกกล่าวพร้อมทั้งรอยยิ้มเสียไม่ได้ “ปิงหรุ่ย ลูกดูสิว่าน้องสาวมีลูกแล้วนะ ลูกเองก็ควรจะหาแฟนได้แล้วไม่ใช่เหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ เซี่ยปิงหรุ่ยก็รีบโบกมือแล้วกล่าวว่า “แม่คะ หนูก็บอกแล้วว่ายังไม่อยากหา ยิ่งไปกว่านั้นหนูกับมู่หลานวางแผนงานกันเอาไว้แล้ว ต่อไปพวกเราก็จะต้องยุ่งมากขึ้น”
เซิงลี่ได้ยินแบบนี้ก็มองลูกสาวคนโตครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “มู่หลานเขาก็มีลูกตั้งสี่คนแล้ว ลูกลองพิจารณาตัวเองดูแล้วกัน”
“หนู…”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่สามารถหาเหตุผลอะไรมาหักล้างคำพูดข้างต้นได้ เซี่ยฉางเจี่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังเอ่ยขึ้นว่า “เอาเถอะ ปิงหรุ่ยยังไม่อยากหา ก็ช่างเถอะ รอให้ถึงเวลา เดี๋ยวหล่อนก็แต่งงนเอง”
เมื่อเห้นสามีกล่าวแบบนั้น เซิงลี่จึงไม่ว่าอะไรอีก
หลายคนค่อย ๆ พูดคุยกัน และเซี่ยปิงชิงก็ออกมาจากห้องคลอดแล้ว เมื่อกลับถึงห้องพักฟื้น ทันทีที่มาถึง เธอก็อยากจะเห็นลูกของตัวเอง
เซิงลี่ยิ้มแล้วอุ้มเด็กไปข้าง ๆ ลูกสาวคนเล็ก “เด็ก ๆ ทั้งสองคนอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว ลูกเพิ่งคลอด ให้ตัวเองพักผ่อนให้พอเถอะ” หลังจากพูดจบก็บอกให้เจี่ยงสือเหิงมาทานข้าว “สือเหิง เธอรอตั้งนานคงจะหิวแล้วสินะ กินอะไรสักหน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะไม่มีแรงดูแลปิงชิงกับลูก ๆ เอา”
ตอนแรกเจี่ยงสือเหิงไม่อยากกิน แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวของแม่ยาย เขาก็ทราบว่าตัวเองยังต้องกิน มิฉะนั้นจะไม่มีแรง จึงพยักหน้าแล้วกล่าวขึ้นว่า “ได้ครับ ผมจะกินเดี๋ยวนี้”
ฉินมู่หลานเห็นว่าพ่อบุญธรรมและปิงชิงมาแล้ว เธอจึงวางแผนจะกลับ “พ่อคะ ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ได้ ลูกรีบกลับไปเถอะ ที่บ้านยังมีเด็กอีกสองคนที่ลูกต้องดูแล”
เซิงลี่ก็รีบกล่าว “ใช่แล้วมู่หลาน เธอรีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวทางนี้น้าจัดการเอง”
ฉินมู่หลานกล่าวลาทุกคนแล้วก็กลับบ้าน
เหยาจิ้งจือเห็นฉินมู่หลานกลับมา จึงรีบเอ่ยถาม “มู่หลาน ปิงชิงคลอดหรือยัง?”
“คลอดแล้วค่ะ ได้ลูกชายแฝดสองคน แม่และเด็กปลอดภัยดีค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เหยาจิ้งจือก็อดกล่าวทั้งรอยยิ้มไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากจริง ๆ สือเหิงคงมีความสุขมากแน่เลย”
“พ่อบุญธรรมมีความสุขมากค่ะ ขอเพียงแค่ปิงชิงและเด็ก ๆ ปลลอดภัยเขาก็โล่งใจ”
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่หลังจากปิงชิงคลอดแล้ว แม่ของหล่อนจะมาดูแลไหม ไม่อย่างนั้นหากไม่มีคนคอยช่วย จะเหนื่อยมาก”
“หนูได้ยินน้าเซิงบอกว่าจะอยู่ช่วยดูแลที่นี่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สายเลือดตระกูลเซี่ยมันแรงจริงๆ ปิงชิงก็ได้ลูกชายแฝด
ไหหม่า(海馬)