ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 541 ปีใหม่(1)
ตอนที่ 541 ปีใหม่(1)
เหยาจิ้งจือเห็นท่าทางของคุณนายเหยาดูแปลกใจ ก็ไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่ยกยิ้ม แล้วกล่าว “เดี๋ยวฉันไปห้องครัวก่อนนะคะ ดูว่าเย็นนี้จะทำอะไรกินบ้าง”
คุณนายเหยาเฝ้ามองแผ่นหลังของเหยาจิ้งจือจากไป ก่อนหันไปมองนายท่านเหยาด้วยสีหน้าตื่นเต้นก่อนจะเอ่ยว่า “ตาเฒ่า ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม”
“วางใจเถอะ ฟังไม่ผิดหรอก”
ถึงก่อนหน้านี้หญิงชราจะทำให้คนผิดหวัง แต่เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นครอบครัวกลับมารักใคร่กัน ตอนนี้เมื่อเห็นว่าท่าทางของลูกสาวที่มีต่อหญิงชราเปลี่ยนไป เขาก็ต้องมีความสุขอยู่แล้ว
“ต่อไปก็อย่าทำให้จิ้งจือผิดหวังอีก หล่อนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกเรา ถ้าไม่ดีกับหล่อนแล้วจะไปดีกับใคร”
คุณนายเหยาพยักหน้า แล้วก็ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองทำมานั้นเป็นเพราะมีอคติตลอด
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว” ตอนนี้เจ้าสามเป็นหลานชายของพวกเขา นับได้ว่าต่อไปตระกูลเหยามีทายาท นางจึงไม่ได้คิดกังวลมากมายแล้ว
ขณะที่ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่นอนพักผ่อนกันไปสักพัก ฝั่งนายท่านเหยาและคุณนายเหยาก็อุ้มเจ้าสามและเจ้าสี่มา ทั้งสองตื่นทุก ๆ สองชั่วโมงเพื่อดื่มนม ฉินมู่หลานก็ค่อนข้างคุ้นชินแล้ว
หลังจากเด็กทั้งสองดื่มนมเสร็จแล้ว ก็อยู่กับพวกฉินมู่หลานต่อ
เด็กทั้งสองต้องตื่นขึ้นมาดื่มนมตลอดกลางดึก หากมีความเคลื่อนไหวเพียงนิดเดียว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็จะตื่น ดังนั้นเขาจึงรับผิดชอบในการอุ้มลูก ส่วนฉินมู่หลานมีหน้าที่ให้นม เพียงแต่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น เซี่ยเจ๋อหลี่จะต้องกลับไปที่ฐานทัพอีกแล้ว “มู่หลาน ถ้ามีวันหยุดช่วงปีใหม่ ผมจะกลับมาที่บ้านนะ”
ฉินมู่หลานนึกไปถึงว่าอีกไม่นานก็จะถึงช่วงปีใหม่แล้ว จึงพยักหน้าแล้วกล่าว “ค่ะ หวังว่าคุณจะมีวันหยุดนะ ถ้าเป็นแบบนั้น ที่บ้านจะต้องคึกครื้นมากแน่นอน”
“ครับ”
หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่กลับไปฐานทัพ ก็พบว่าฟู่ซวี่ตงอยู่ที่นั่นแล้ว
“ซวี่ตง นายมารายงานตัวตั้งแต่เมื่อไหร่” เมื่อเห็นฟู่ซวี่ตง สีหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ
ฟู่ซวี่ตงได้ยินแบบนี้ ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “อาหลี่ ฉันเพิ่งมาไม่นานน่ะ”
ตอนแรกเฉาเจิ้งหนานรับหน้าที่พาฟู่ซวี่ตงมาทำความคุ้นเคยกับสถานที่ หลังจากพบว่ารู้จักกับเซี่ยเจ๋อหลี่ จึงอดถามไม่ได้ “ผู้กองเซี่ย พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเราอยู่ทีมเดียวกัน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เฉาเจิ้งหนานก็อดพูดไม่ได้ “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ถูกลิขิตมาให้อยู่ด้วยกัน ตอนนี้จึงได้กลับมาเป็นสหายร่วมรบกันอีกครั้ง”
“ใช่แล้ว ช่างดีมากจริง ๆ”
ขณะฟู่ซวี่ตงและเซี่ยเจ๋อหลี่มาเจอกันที่นี่ อีกด้านหนึ่ง เสิ่นหรูฮวนก็พาลูกมาเพื่อพูดคุยกับฉินมู่หลานเช่นกัน
“มู่หลาน ฉันคิดว่าวันนี้เธอคงหยุดพักผ่อน ก็เลยมาหาเธอ”
“หรูฮวน รีบเข้ามานั่งก่อนสิ”
ฉินมู่หลานดีใจมากที่ได้เจอเสิ่นหรูฮวน ขณะเดียวกันก็มองลูกชายของหล่อนแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเหลียงของเราโตแล้วนะเนี่ย”
เสี่ยวเหลียงอายุน้อยกว่าชิงชิงกับเฉินเฉินนิดหน่อย แต่ตอนนี้อุ้มแทบไม่ไหวแล้ว เขาพยายามดิ้นลงไปบนพื้น ก่อนจะนึกถึงสิ่งที่แม่บอกตัวเองได้ แล้วเอ่ยว่า ‘น้า…’ หลังจากนั้นก็รีบเข้าไปหาชิงชิงและเฉินเฉิน
เด็กทั้งสามเริ่มวิ่งเล่นด้วยกันอย่างรวดเร็ว
เสิ่นหรูฮวนก็รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย จากนั้นก็เอ่ยถามอีกครั้ง “จริงสิ แล้วเด็ก ๆ อีกสองคนล่ะ?”
“อยู่กับคุณตาคุณยายน่ะ”
ก่อนหน้านี้ช่วงงานเลี้ยงครอบรอบหนึ่งร้อยวัน หล่อนทราบแล้วว่าเจ้าสามใช้แซ่เหยา และทราบด้วยว่าตอนนี้นายท่านเหยาและคุณนายเหยามาอยู่ที่นี่กับมู่หลาน จึงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะกล่าวว่า “นายท่านเหยาและคุณนายเหยาดูจะรักเด็ก ๆ มากเลยนะ”
“ใช่แล้ว ผู้อาวุโสทั้งสองรักเจ้าสามกับเจ้าสี่มาก”
จากนั้นทั้งสองก็คุยกัน เสิ่นหรูฮวนก็บอกเรื่องที่ฟู่ซวี่ตงไปรายงานตัวที่ฐานทัพวันนี้ขึ้นมา
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็อดกล่าวทั้งรอยยิ้มเสียไม่ได้ “นี่เป็นเรื่องดีนะ”
เสิ่นหรูฮวนก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ใช่แล้ว ต่อไปซวี่ตงจะได้กลับบ้านสะดวกมากขึ้น และเขากับอาหลี่ของเธอก็จะได้ร่วมงานกันอีกครั้งด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาดีใจมากเลย”
ฉินมู่หลานก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน “อาหลี่ก็คงดีใจเหมือนกัน”
เสิ่นหรูฮวนและลูกรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านของมู่หลานก่อนจะเดินทางกลับไป และหลังจากที่ฉินมู่หลานให้นมเจ้าสามเจ้าสี่แล้ว นายท่านเหยาและคุณนายเหยาก็พาพวกเขานอนกลางวัน ส่วนชิงชิงและเฉินเฉินมีเหยาจิ้งจือและเซี่ยเหวินปิงพาพวกเขาไปเล่นด้วย เธอจึงไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
ในตอนนั้นเอง ฉินเจี้ยนเซ่อก็เข้ามาคุยกับมู่หลานเรื่องวันปีใหม่
“มู่หลาน ช่วงปีใหม่นี้ คุณปู่กับคุณย่าอยากจะกลับบ้านเกิด พ่อตกลงกับลุงของลูกแล้ว ถึงเวลาพ่อกับเคอวั่งรวมถึงลุงของลูกจะกลับไปบ้านเกิดพร้อมพวกท่าน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ตกตะลึง
“พ่อคะ แล้วพวกหนูไม่ต้องกลับเหรอ?”
ฉินเจี้ยนเซ่อส่ายหัวแล้วกล่าว “มู่หลาน เจ้าสามกับเจ้าสี่ยังแยกจากลูกไม่ได้ และพวกเขาก็ยังเล็กมาก พวกลูกไม่ต้องกลับหรอก ส่วนแม่ของลูกเองก็ยุ่งมากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเดี๋ยวพ่อกับเคอวั่งกลับเอง”
“พ่อคะ แล้วพวกพ่อจะไปกันกี่วัน?”
“ไม่ต้องห่วง ไม่นานพวกเราก็กลับแล้ว น่าจะไปประมาณหนึ่งสัปดาห์”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก้พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ถึงตอนนั้นพวกเราจะรอพวกพ่อกลับมา”
หลังจากเซี่ยเหวินปิงทราบว่าฉินเจี้ยนเซ่อจะกลับบ้านเกิด เขาก็อยากจะกลับไปด้วย “เจี้ยนเซ่อ ถึงตอนนั้นเดี๋ยวฉันไปกับพวกนายด้วย ถึงจะไม่มีใครอยู่ที่บ้านเกิดแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากกลับไปขึ้นเขาไหว้สุสานพ่อแม่ช่วงปีใหม่สักหน่อย”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินเจี้ยนเซ่อก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้าเห็นด้วยอยู่แล้ว “ได้สิ”
“ไม่ต้องห่วง พวกเจี้ยนเซ่อกลับไปแค่สัปดาห์เดียว ถึงเวลาผมจะกลับมาพร้อมพวกเขา”
หลังตกลงเรื่องนี้กันเรียบร้อย อากาศก็เริ่มเย็นลง ปีใหม่ใกล้เข้ามาทุกที และพวกฉินมู่หลานก็จะได้พักผ่อนกันในไม่ช้า
ก่อนหน้านี้เหมาชุนเถาอยากคุยกับฉินมู่หลานเรื่องส่งต้นฉบับบทความ แต่ก่อนหน้านี้มู่หลานไม่ได้เข้าไปที่หอพักเลย หล่อนจึงหาโอกาสไม่ได้สักที สุดท้ายวันนี้ก็ได้มีโอกาสได้คุยกับเธอแล้ว
“มู่หลาน บทความก่อนหน้านี้ของเธอดีมากเลย สำนักพิมพ์ที่ฉันส่งต้นฉบับไปตอนนี้ก็รู้จักคุณมู่เหมือนกัน หลังจากพวกเขารู้ว่าฉันรู้จักเธอ ก็เลยอยากให้ฉันมาถามเธอว่ายังอยากส่งบทความไปให้พวกเขาอีกไหม แต่เธอไม่ต้องห่วงนะ ค่าลิขสิทธิ์จะต้องไม่น้อยแน่”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ปฏิเสธพร้อมรอยยิ้ม
“ชุนเถา ฉันไม่คิดจะเขียนบทความอีกแล้วล่ะ ฉันวางแผนงานในอนาคตกับปิงหรุ่ยเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราจึงงานล้นมือกันไปหมด ไม่มีเวลาเขียนต่อแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเหมาชุนเถาก็ดูเสียดายมาก
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีทางแล้วล่ะ จริง ๆ แล้วงานเขียนของเธอดีมากเลย และค่าลิขสิทธืในปัจจุบันก็…”
หลังจากพูดถึงท้ายประโยค เหมาชุนเถาก็ไม่ได้พูดต่อ เงินค่าลิขสิทธิ์มีมูลค่ามากในสายตาของหล่อน แต่ในสายตาของมู่หลานคงไม่คุ้มหากจะพูดถึงมัน ถึงกระนั้นหล่อนก็ยังแบ่งปันเรื่องดี ๆ ให้กับฉินมู่หลานด้วย
“มู่หลาน ตอนนี้มีนิตยสารแบบใหม่ออกมาแล้ว มีเรื่องเล่าทุกประเภทอยู่ในนั้น ฉันลองเขียนบทความลงแล้ว ไม่คิดเลยว่าผลตอบลัพธ์จะดีมาก ตอนนี้ฉันกับจี๋เซียงพึ่งพาเงินค่าลิขสิทธ์เป็นค่ายังชีพได้แล้วจริง ๆ ใช้ชีวิตอยู่ในปักกิ่งได้ดีแล้ว ต่อไปถ้าฉันได้รับค่าลิขสิทธิ์มากขึ้น ก็จะซื้อบ้านที่เราอยู่ตอนนี้”
ขณะพูดถึงแผนการในอนาคต แววตาของเหมาชุนเถาก็เปล่งประกาย
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “นี่มันดีมากเลย ต่อไปเธอต้องตั้งใจนะ”
เหมาชุนเถาจะยังทำงานเขียนต้นฉบับนี้ต่อไป ตราบใดที่หาเวลาได้ ก็จะทำต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้นขอเพียงแค่หล่อนไม่ย่อท้อ ก็จะได้รับค่าลิขสิทธิ์ตลอด และเธอก็ดีใจกับเหมาชุนเถาเช่นกัน
เมื่อนึกถึงว่าใกล้จะถึงวันหยุด ฉินมู่หลานจึงถามสองแม่ลูกเรื่องแผนการของพวกเขา
“ชุนเถา ช่วงปีใหม่นี้เธอกับจี๋เซียงจะกลับบ้านเกิดไหม?”
เหมาชุนเถาส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ไม่กลับไปแล้ว มีแต่จะกังวลใจเปล่า ๆ”
ต่อให้กลับไป หล่อนก็ต้องไปเผชิญหน้ากับการบ่นจู้จี้จุกจิกของพ่อแม่และขี้ปากของชาวบ้านอยู่ดี หล่อนจึงจะอยู่ที่เมืองหลวงแล้วฉลองปีใหม่กับจี๋เซียงกันสองคน เป็นแบบนี้คงดีกว่า และเธอจะได้เขียนต้นฉบับบทความเพิ่มได้ด้วย
“ชุนเถา พ่อกับน้องชายฉันจะกลับไปบ้านเกิด เพราะฉะนั้นเธอกับจี๋เซียงน้อยก็มาฉลองปีใหม่ที่บ้านของฉันได้นะ”
เหมาชุนเถาได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มแล้วพยักหน้าก่อนจะกล่าว “ตกลง ถึงเวลานั้นฉันจะพาจี่เซียงไปสวัสดีปีใหม่นะ”
หลังจากคุยกับเหมาชุนเถาแล้ว ทั้งสองก็โบกมือลาแยกย้ายกัน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จากบ้านเกิดมานานมันก็ต้องคิดถึงช่วงเวลาดีๆ อะนะ
ไหหม่า(海馬)